หากยามนี้พวกเขายังมีชีวิตอยู่ ยังอยู่เคียงข้างเขา เกรงว่าก็คงจะคัดค้านการตัดสินใจของเขาสุดกำลัง เช่นเดียวกับลุงเกิ่งคิดถึงตรงนี้ มุมปากของเซียวเหิงก็เผลอยกยิ้มขึ้นมาโดยไม่รู้ตัวทว่ากลับขมขื่นยิ่งนัก"หากเจ้าตามข้าไป พวกเขาจะยิ่งระแวงข้ามากขึ้น"มีเพียงการที่เขาโดดเดี่ยวไร้ที่พึ่ง ตระกูลมู่ถึงจะยอมลดการระวังลง"แต่ว่า..." ลุงเกิ่งยังอยากจะพูดต่อแต่เซียวเหิงกลับยกมือขึ้นขัดจังหวะเขา"ข้าตัดสินใจแล้ว"เพียงคำสั้นๆ ก็จบเรื่องนี้ลงโดยสิ้นเชิงรุ่งขึ้น เซียวเหิงขึ้นนั่งบนรถม้าของตระกูลมู่ส่วนลุงเกิ่งยืนอยู่ที่หน้าประตูโรงแรม มองส่งรถม้าที่จากไปมู่หงเสวี่ยใช้พัดกางแง้มผ้าม่านรถขึ้น มองไปทางลุงเกิ่งก่อนเอ่ยถามว่า "แม่ทัพเซียวมั่นใจหรือว่าเขาจะไม่ปริปากพูดอะไร?""เป็นคนรับใช้ของครอบครัวข้า ไว้ใจได้" เซียวเหิงตอบเรียบๆ เปลือกตายกขึ้นเล็กน้อย มองไปยังมู่หงเสวี่ยในดวงตาที่หม่นลึก มู่หงเสวี่ยมองเห็นแววคำเตือนซ่อนอยู่ดังนั้นเขาจึงยกยิ้ม ปล่อยม่านรถลง "ไว้ใจได้ก็ดีแล้ว คนของแม่ทัพเซียวก็คือคนของพวกเรา"ความหมายก็คือ จะไม่แตะต้องลุงเกิ่งเซียวเหิงถึงได้ยิ้มตาม "พี่ชายมู่เห็นข้าเ
Read more