Lahat ng Kabanata ng พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี: Kabanata 1091 - Kabanata 1100

1110 Kabanata

บทที่ 1091

ดังนั้น นางคิดว่าหากวันหนึ่งข่าวการสิ้นชีพของฮูหยินหลินมาถึง นางก็ย่อมจะเสียใจมากเช่นกันความทรงจำตั้งแต่จำความได้ที่ฮูหยินหลินเปรียบนางเป็นเหมือนแก้วตา ก็จะพากันพุ่งเข้ามาอย่างล้นหลาม ครอบงำนางจนหายใจแทบไม่ออกในเมื่อจะเป็นเช่นนั้น ใยไม่พยายามเสียตั้งแต่ตอนนี้เล่านางจะไปรักษาฮูหยินหลินแทนท่านอาจารย์ทั้งเพื่อความปลอดภัยของท่านอาจารย์ และเพื่อให้ตัวเองมีเหตุผลที่จะไม่ละอายใจนางได้พยายามรักษามาแล้ว ดังนั้น ถึงแม้ฮูหยินหลินจะจากไป นางก็น่าจะไม่รู้สึกผิดมากนักหมอประจำจวนเห็นเฉียวเนี่ยนเช่นนี้ ก็รู้สึกพอใจเล็กน้อย “แท้จริงแล้ว หมอควรเป็นเช่นนี้แล”เขาพูดพร้อมสูดหายใจเข้าลึก และเงยหน้ามองไปไกล “เมื่อก่อนตอนข้าพักอยู่สำนักราชาโอสถ ข้าไม่เข้าใจกฎเกณฑ์มากมายของเจ้าสำนักในการรักษาผู้ป่วย ข้าเห็นว่า สำหรับหมอแล้ว ไม่ว่าผู้มาหาจะมีสถานะใด ขอให้มา ก็ถือว่าเป็นผู้ป่วย เป็นผู้ป่วยก็ต้องรักษา แน่นอน ต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขที่ตัวเองปลอดภัย”ดังนั้น ตอนนี้ การที่เฉียวเนี่ยนยอมวางความแค้นในอดีต และกลับไปจวนโหวเพื่อรักษาฮูหยินหลิน ก็ทำให้หมอประจำจวนพอใจสุดๆแต่เขาไม่รู้เลยว่า เฉียวเนี่ยนไม่ได้
Magbasa pa

บทที่ 1092

ได้ฟังดังนั้น เฉียวเนี่ยนพลันดีใจยิ่งนัก “จริงหรือ?! สำนักราชาโอสถคิดค้นยาถอนพิษของพิษเยือกมรณะได้แล้วหรือ ดีเหลือเกิน! ข้าจะไปเก็บสัมภาระเดี๋ยวนี้เลย!”พูดจบ เฉียวเนี่ยนก็จะออกไปแต่ไม่คิดว่า ฉู่จืออี้พลันลุกขึ้นยืน มองมาที่นางแล้วพูดว่า “ข้าจะไปคนเดียว”ความดีใจและก้าวเดินของเฉียวเนี่ยนหยุดชะงักทันทีนางหันกลับมามองฉู่จืออี้ด้วยความประหลาดใจ ใบหน้าแฝงความสงสัย “ไปคนเดียวหรือ?”“อืม” ฉู่จืออี้สีหน้าเรียบเฉย “สำนักราชาโอสถมีพื้นที่ซับซ้อน ข้าไปคนเดียวจะสะดวกกว่า”เฉียวเนี่ยนมองฉู่จืออี้ กะพริบตา“อันตรายมากหรือ?”ฉู่จืออี้อึ้งเล็กน้อยเขาไม่คิดว่าประโยคธรรมดาเพียงนี้จะทำให้เฉียวเนี่ยนนึกถึงอันตรายแต่จริงๆ แล้ว ก็ไม่ยากเลยที่จะเดาได้ฉู่จืออี้ไม่เคยคิดว่านางเป็นภาระหรือเรื่องลำบาก แต่ถ้าพูดตามความหมายแฝงของคำพูดนี้คือ หากพานางไปด้วยจะเป็นภาระนั่นก็น่าจะหมายความว่า อันตรายมากสินะ?มองเห็นสีหน้าเป็นห่วงของเฉียวเนี่ยน ฉู่จืออี้ยกมุมปากขึ้นเล็กน้อย “ข้าเคยไปมาแล้ว จำไม่ได้หรือ?”ไม่เพียงเคยไปมาแล้ว แต่ยังกลับมาอย่างปลอดภัย ดังนั้นเฉียวเนี่ยนก็น่าจะเชื่อเขามองตาฉู่จืออี้ สุ
Magbasa pa

บทที่ 1093

หลังตื่นนอน เฉียวเนี่ยนก็ได้ยินหนิงซวงเล่าถึงเรื่องฉู่จืออี้ออกจากเมืองตั้งแต่เช้า ใจนางอดรู้สึกหดหู่ไม่ได้ แต่เมื่อคืนทั้งสองก็ได้พูดคุยเปิดใจซึ่งกันและกันไปแล้ว ตอนนี้นางก็ยังพอมีความสบายใจอยู่บ้างหลังทานอาหารเช้าแล้ว เฉียวเนี่ยนก็ไปยังจวนโหวพร้อมกับหนิงซวงท่านโหวหลินไปเข้าเฝ้าแล้วหลินเย่ว์ตอนนี้ได้เป็นหัวหน้าหน่วยพันทหารแล้ว มีทหารพันกว่านายอยู่ใต้บังคับบัญชา จึงต้องอยู่ในสนามฝึกอย่างเรียบร้อยดังนั้น จวนโหวนี้จึงเหลือเพียงฮูหยินหลิน เจ้าของจวนผู้ที่สติเลอะเลือนเท่านั้นอาจก็เพราะสภาพของจวนโหวตอนนี้ไม่ค่อยดีนักดังนั้นเมื่อพ่อบ้านเฒ่าประจำจวนโหวเห็นเฉียวเนี่ยน ก็ถึงกับขอบตาแดงเพราะอยากร้องไห้ทันที “คุณหนู คุณหนูกลับมาแล้ว!”เฉียวเนี่ยนเห็นน้ำตาของพ่อบ้านเฒ่า จึงอดไม่ได้ รีบพูดว่า “ข้ามาตรวจชีพจรฮูหยินหลิน”ได้ฟังคำเรียกที่ยังฟังดูเหินห่างจากเฉียวเนี่ยน พ่อบ้านเฒ่าปาดน้ำตา ยกมุมปากยิ้ม “ฮูหยินไปเรือนฟางเหอตั้งแต่เช้าแล้ว บ่าวจะพาคุณหนูไปเอง”ได้ฟังดังนั้น หนิงซวงกลับรู้สึกประหลาดใจ “เรือนฟางเหอหรือเจ้าคะ? หลังฮูหยินบ้า... เอ่อ ป่วยแล้ว ไม่ได้ไปเรือนลั่วเหมยเป็นประจำหรือเจ
Magbasa pa

บทที่ 1094

“เนี่ยนเนี่ยน!”ฮูหยินหลินเรียกพลางรีบก้าวเข้ามาหาเฉียวเนี่ยนปรากฏว่าจำนางได้จริงๆเฉียวเนี่ยนนิ่งไปชั่วครู่ เพราะฮูหยินหลินจำหน้าใครไม่ได้มานานแล้ว คราวนี้กลับจำนางได้ขณะกำลังคิดอยู่ ฮูหยินหลินก็เดินมาถึงข้างหน้า คว้ามือเฉียวเนี่ยนไว้ “เนี่ยนเนี่ยน เจ้ากลับมาแล้ว! ช่วงที่เจ้าหายไป แม่คิดถึงเจ้ามากจริงๆ!”เฉียวเนี่ยนอยากทดสอบอาการฮูหยินหลิน จึงถาม “ทำไมข้าถึงไม่ได้อยู่ในจวนล่ะ?”ฮูหยินหลินชะงักไป เหมือนลืมเหตุผล ดวงตาเต็มไปด้วยความว่างเปล่าอืม นางจำไม่ได้ดังนั้นเฉียวเนี่ยนจึงถามต่อ “เรือนของข้าไม่ใช่เรือนลั่วเหมยหรือ? ทำไมตอนนี้ให้ข้าอยู่เรือนฟางเหอล่ะ?”ฮูหยินหลินเงยหน้ามองอย่างไม่รู้ตัว เหมือนจะไม่รู้ว่าที่นี่คือเรือนฟางเหอหรือเรือนลั่วเหมย“หลินยวนล่ะ?”ฮูหยินหลินขมวดคิ้ว หน้าเต็มไปด้วยความงง “หลิน หลินยวน?”“ข้าเป็นใคร?”น้ำเสียงเฉียวเนี่ยน ตั้งแต่ต้นจนจบยังคงสงบแต่คราวนี้ ฮูหยินหลินมองเฉียวเนี่ยน ก็ยังคงงุนงงอืม จำไม่ได้อีกแล้วดูเหมือนความกังวลของท่านอาจารย์มีเหตุผลอาการของฮูหยินหลิน ดูเหมือนจะรุนแรงกว่าครั้งก่อนดังนั้น นางสั่งให้คนช่วยพาฮูหยินหลินกลับที
Magbasa pa

บทที่ 1095

ร่างที่ค้อมงออยู่ก็ชะงักทันที ราวกับลมหายใจหยุดชั่วขณะ จากนั้นจึงตอบเบาๆ “อืม”และตอนนี้ เฉียวเนี่ยนก็ก้าวเท้าออกไปประโยคนั้น ดูเหมือนเป็นเพียงบทสนทนาอย่างสุภาพต่อผู้ใหญ่ที่ไม่รู้จักเท่านั้นแต่กลับทำให้ท่านโหวหลินน้ำตาไหลพรากหลังออกจากจวนโหว เฉียวเนี่ยนก็กลับไปยังจวนอ๋องผิงหยางนางเคยสัญญากับฉู่จืออี้ ว่าช่วงที่เขาออกจากเมือง นางจะอยู่ที่จวนอ๋องอย่างดี ไม่ไปไหนทั้งนั้นดังนั้น เกอซูอวิ๋นจึงมาเที่ยวหาวันนี้นางสวมชุดของแคว้นจิ้งชุดกระโปรงปักสีขาวดุจจันทรา สวมทับด้วยเสื้อคลุมผ้าไหมสีเหลืองอ่อน ยิ่งทำให้ผิวขาวดุจหิมะของนางดูอ่อนละมุนยิ่งขึ้นมองจากไกลๆ นางราวกับนางฟ้าทำให้เฉียวเนี่ยนอดคิดไม่ได้ ผู้หญิงจากกลุ่มชนเตอร์กิกคนนี้ สวยจริงๆ !"เนี่ยนเนี่ยน!"เกอซูอวิ๋นดีใจวิ่งเข้ามาหาเฉียวเนี่ยน “ข้าเอาขนมตังเมที่เจ้าชอบที่สุดมาด้วย!” นางพูดพลางยื่นขนมตังเมมาให้เฉียวเนี่ยน ดวงตาเปล่งประกายเหมือนขอรางวัล “ท่านพี่เซียวบอกว่าเจ้าชอบขนมนี้”ได้ยินดังนั้น เฉียวเนี่ยนชะงักเล็กน้อย แต่ก็ยิ้มแล้วรับขนมตังเมมา“รีบชิมสิ!”เกอซูอวิ๋นเร่งเร้าด้วยความสุดวิสัยนี้ เฉียวเนี่ยนจึงต้องกินหน
Magbasa pa

บทที่ 1096

เกอซูอวิ๋นจูงมือเฉียวเนี่ยนและคุยกันอยู่นานประมาณสิบกว่าปีที่ผ่านมา นางอยู่ในกลุ่มชนเตอร์กิก ไม่ค่อยมีคนให้พูดด้วย ดังนั้นพอได้อยู่กับเฉียวเนี่ยน นางก็เลยมีเรื่องมากมายที่จะพูดนางทั้งพูดถึงวัวและแพะในกลุ่มชนเตอร์กิก ไปจนถึงเรื่องดวงดาวบนท้องฟ้าทั้งยังพูดตั้งแต่เรื่องเสด็จพี่ที่บังคับให้นางออกไปแต่งงานเชื่อมสัมพันธไมตรี ไปจนถึงฮ่องเต้แห่งแคว้นจิ้งถ้อยคำย่อมมีความไม่เคารพบ้าง แต่ดีที่ที่นี่คือจวนอ๋องของฉู่จืออี้ ตลอดเวลาที่เขากลับมา ได้กวาดล้างคนไม่เกี่ยวข้องในจวนไปหมดแล้วไม่เพียงแต่ไม่มีใครได้ยิน ‘ความลับของสหาย’ ของพวกนาง แต่ต่อให้ได้ยินก็ไม่เป็นไรทั้งสองคุยกันเรื่อยเปื่อย สารพัดเรื่อง จนสองชั่วยามเต็ม เกอซูอวิ๋นก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะกลับเฉียวเนี่ยนถึงกับมีความคิดอยากรั้งเกอซูอวิ๋นไว้ เช่นนั้นคืนนี้พวกนางก็จะได้นอนร่วมเตียงกันพร้อมกับหนิงซวง แล้วคุยกันต่อแต่ยังไม่ทันที่เฉียวเนี่ยนจะเอ่ยปาก ก็มีคนจากในวังมาถึงเมื่อได้ยินบ่าวรายงาน เฉียวเนี่ยนถึงกับตกใจ คิดเพียงว่าฉู่จืออี้เพิ่งจากไปหยกๆ เหตุใดต่อมาก็มีเรื่องแล้ว?เดิมทีนางไม่อยากสนใจ แต่พออีกฝ่ายบอกว่าเต๋อกุ้ยเฟยส่งมา เ
Magbasa pa

บทที่ 1097

เกอซูอวิ๋นยืนอยู่ด้านข้าง มองเฉียวเนี่ยนที่สีหน้าเต็มไปด้วยความร้อนใจรีบเร่งจากไป คิ้วเรียวก็ขมวดแน่นโดยไม่รู้ตัวครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง นางก็ยังไม่วางใจ จึงหันไปบอกกับหนิงซวงอย่างรีบร้อนว่า “ข้าก็ไปก่อนนะ!”นางต้องไปบอกเซียวเหอตอนที่เฉียวเนี่ยนเข้าวัง ก็ล่วงเข้าสู่ยามโพล้เพล้แล้วแสงอาทิตย์ยามอัสดงที่หลงเหลืออยู่ดังสีโลหิต สาดส่องลงบนทางพื้นหินที่ทอดยาว เผยให้เห็นรอยแตกเล็กๆ ประดุจใยแมงมุมสีแดงฉานเฉียวเนี่ยนย่ำไปตามรอยนั้น หัวใจยิ่งรู้สึกหวาดหวั่นกระวนกระวายเมื่อเข้าสู่เรือนนอนของเต๋อกุ้ยเฟย ก็เห็นหมอหลวงเซวียคุกเข่าอยู่ด้านนอก แผ่นหลังชราสั่นไหวเล็กน้อย ไม่รู้ว่าคุกเข่าอยู่นานเพียงใดแล้วเฉียวเนี่ยนขมวดคิ้วแน่นบ่าวคนหนึ่งได้เข้าไปกราบทูลด้านใน ไม่นานก็ได้ยินเสียงของเต๋อกุ้ยเฟยดังขึ้น “เร็ว รีบเชิญคุณหนูเฉียวเข้ามา!”หมอหลวงเซวียดูเหมือนเพิ่งรู้ว่าเฉียวเนี่ยนมา จึงหันศีรษะมองเฉียวเนี่ยนเฉียวเนี่ยนก็เหลือบมองเขาหนึ่งครั้ง แล้วจึงก้าวเข้าไปด้านในองค์หญิงน้อยกำลังถูกเต๋อกุ้ยเฟยอุ้มไว้ในอ้อมแขนใบหน้าอวบอิ่มแดงเรื่อเพราะพิษไข้ ดวงตาปิดแน่น ไม่รู้ว่าเป็นการหลับไปหรือหมดสติ
Magbasa pa

บทที่ 1098

“ฮองเฮา... ใช่หรือไม่?”เต๋อกุ้ยเฟยเอ่ยขึ้นกะทันหัน เห็นได้ชัดว่าคนในความคิดของนาง กับที่อยู่ในความคิดของเฉียวเนี่ยนเป็นคนเดียวกันเฉียวเนี่ยนทำได้เพียงตอบตามจริง “ข้ารู้เพียงว่าตระกูลเมิ่งมีพิษจากสำนักราชาโอสถอยู่มาก แต่พิษที่ออกฤทธิ์กับองค์หญิงน้อยครานี้เป็นฝีมือผู้ใด ข้าไม่อาจพูดพล่อยได้”“ต้องเป็นนางแน่!” แววตาของเต๋อกุ้ยเฟยเต็มไปด้วยความชิงชัง “มีแต่นางเท่านั้นที่อยากให้จือเนี่ยนตาย!”เมื่อเห็นว่าเต๋อกุ้ยเฟยดูคล้ายคนเสียสติ เฉียวเนี่ยนจึงกลั้นไม่อยู่ กล่าวเตือน “กุ้ยเฟย การใส่ร้ายว่า ‘ลอบวางยาพิษองค์หญิง’ นั้นโทษไม่เบา หากไร้หลักฐาน เกรงว่าจะถูกย้อนศรเอาได้”เมื่อได้ยินดังนั้น สายตาของเต๋อกุ้ยเฟยพลันคมกริบจ้องมองเฉียวเนี่ยน ความชิงชังเยียบเย็นในแววตานั้นก็ค่อยๆ ถูกเหตุผลเข้ามาแทนที่“เจ้าพูดถูก”นางเอ่ยเสียงแผ่ว แล้วเรียกให้แม่นมอุ้มองค์หญิงน้อยออกไปจนเมื่อคนในห้องถอยไปหมดแล้ว เต๋อกุ้ยเฟยจึงหันมาทางเฉียวเนี่ยน น้ำเสียงอ่อนโยน “วันนี้ล้วนเป็นบุญคุณของท่านหญิงเฉียว เชิญนั่งเถิด”ที่จริงเฉียวเนี่ยนไม่อยากนั่งองค์หญิงน้อยปลอดภัยแล้ว นางอยากรีบกลับจวนอ๋อง เวลาล่วงเลยจนฟ้ามื
Magbasa pa

บทที่ 1099

“ปกป้องตนเอง?” เฉียวเนี่ยนอดไม่ได้ที่จะหัวเราะเย็นชาออกมา “พิษในกายองค์หญิงน้อยเพิ่งถูกถอนออก เต๋อกุ้ยเฟยกลับยังคิดจะวางยาพิษให้องค์หญิงน้อยอีก ให้นางแสดงท่าทีใกล้ตายเช่นนั้น นี่ก็เรียกว่าปกป้องตนเองหรือเพคะ?”“ก็แค่ใกล้ตายเท่านั้น! ไม่ได้ตายจริงเสียหน่อย! เพียงแค่กำจัดฮองเฮาได้ ต่อไปก็จะไม่มีผู้ใดกล้าทำร้ายจือเนี่ยนของเราอีก!”“ไม่มีผู้ใดหรือเพคะ? ในวังหลังยังมีเหล่าสนมอีกมากมาย เต๋อกุ้ยเฟยกล้าเอ่ยวาจามั่นใจเช่นนี้ได้อย่างไรเพคะ?”เต๋อกุ้ยเฟยรู้สึกขุ่นเคือง เสียงก็พลอยดังขึ้นโดยไม่รู้ตัว “เราบอกว่าไม่มีผู้ใด ก็ย่อมไม่มีผู้ใด!”ริมฝีปากเฉียวเนี่ยนยกขึ้นเป็นรอยยิ้มเย้ยหยัน “หรือว่ากุ้ยเฟยคิดว่าตนได้ขึ้นนั่งตำแหน่งฮองเฮาแล้ว จะไม่มีผู้ใดกล้าทำร้ายองค์หญิงน้อยอีกหรือ?”เมื่อได้ยินดังนั้น สีหน้าเต๋อกุ้ยเฟยก็หม่นหมองลง ไม่ได้เอ่ยวาจาใดออกมารอยยิ้มเย้ยหยันบนริมฝีปากเฉียวเนี่ยนก็ยิ่งชัดเจนขึ้น “ดังนั้น องค์หญิงน้อยก็เป็นเพียงข้ออ้างที่กุ้ยเฟยนำมาใช้ใส่ร้ายฮองเฮาเท่านั้น!”“ใช่แล้วจะทำไม?” เสียงกรีดร้องเกือบทำให้คอแหบแห้งเฉียวเนี่ยนชะงัก นางไม่รู้ว่าทำไมเต๋อกุ้ยเฟยถึงได้เสียอาการเช่น
Magbasa pa

บทที่ 1100

ในที่สุดหัวใจของเฉียวเนี่ยนก็เย็นชืดสิ้นหวังอย่าสิ้นเชิงแม้เสียงร้องไห้อันน่าสงสารขององค์หญิงน้อย ก็มิอาจสั่นคลอนความมุ่งมั่นในการล้างแค้นของเต๋อกุ้ยเฟยได้นางไม่รู้ว่าควรเกลี้ยกล่อมอย่างไรจึงได้แต่สูดหายใจลึก ข่มความรู้สึกประหลาดในใจลง เตรียมทำความเคารพเพื่อขอตัวลาแต่ยังไม่ทันที่นางจะได้ขยับ เต๋อกุ้ยเฟยก็เอ่ยต่อ “เจ้าเป็นศิษย์ของหมอเทวดา ย่อมต้องมีวิธีทำให้จือเนี่ยนหลับใหลไปโดยไม่เป็นอันตรายต่อร่างกายใช่หรือไม่?”เฉียวเนี่ยนหาได้อยากเข้าไปพัวพันกับเรื่องเหล่านี้ไม่ “หม่อมฉันไร้ความสามารถเพคะ”เมื่อได้ฟัง เต๋อกุ้ยเฟยก็พยักหน้าอย่างช้าๆ สายตาจับจ้องไปยังประตูที่ปิดสนิท แต่ราวกับมองทะลุออกไปยังคนด้านนอก “ในเมื่อเจ้าไม่มีวิธี เช่นนั้นก็ให้เราทำเองก็แล้วกัน เพียงทำให้เด็กคนหนึ่งหลับใหลไป จะยากเย็นอะไรนัก?”สิ่งที่ยาก คือการทำให้องค์หญิงน้อยปลอดภัยไร้ทุกข์ภัยแต่ในเมื่อเฉียวเนี่ยนไม่ยอมช่วย นางก็ได้แต่ใช้วิธีที่อาจทำลายร่างกายองค์หญิงน้อยถึงเวลานั้น องค์หญิงน้อยจะเหลือโรคติดตัว พิการ หรือถึงขั้นสิ้นชีพก็หาใช่สิ่งที่นางจะควบคุมได้คิดถึงตรงนี้ เต๋อกุ้ยเฟยถึงกับหลุดยิ้ม “หากจื
Magbasa pa
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status