สิ้นเสียงนั้น ภายในห้องพลันเงียบกริบราวกับป่าช้ามีเพียงเปลวเทียนที่ไหววูบอย่างน่าหวั่นใจ ส่งเสียงปะทุ “เปรี๊ยะ” เบา ๆ ราวกับเสียงกลองที่รัวนับถอยหลัง กระแทกกระทั้นลงกลางใจของทุกคนบรรยากาศรอบด้านคล้ายจับตัวเป็นก้อน แผ่กลิ่นอายกดดันหนักอึ้งจนแทบหายใจไม่ออกอิ๋งชีมิได้เอ่ยสิ่งใด ทั้งยังมิได้ละสายตาไปทางอื่น เขาเพียงจ้องมองเฉียวเนี่ยนผ่านหน้ากากโลหะอันเย็นเยียบอยู่อย่างนั้น ปล่อยให้เวลาไหลผ่านไปอย่างเชื่องช้าท่ามกลางความเงียบงันผ่านไปครู่ใหญ่ เป็นหนิงซวงที่ทนต่อบรรยากาศอันน่าอึดอัดนี้มิไหว นางเอ่ยปากขึ้นด้วยน้ำเสียงร้อนรนเจือแววแก้ต่างให้อีกฝ่าย “แต่ว่าคุณหนูเจ้าคะ อิ๋งชีอุตส่าห์เสี่ยงชีวิตเพื่อชิงศิลาจันทรามาให้ท่านจนถูกพิษร้ายแทบเอาชีวิตไม่รอด เขาไม่น่าจะ...”วาจายังมิทันจบประโยค ก็จำต้องกลืนลงคอเมื่อปะทะเข้ากับสายตาคมกริบดุดันของเฉียวเนี่ยนหนิงซวงตระหนกจนรีบหุบปาก ใบหน้าเล็กมุ่ยลงด้วยความน้อยเนื้อต่ำใจทว่าอิ๋งชีกลับชะงักงันเพราะการออกหน้าปกป้องอย่างกะทันหันของหนิงซวง เขาเผลอหันไปมองนางโดยมิรู้ตัว สายตาภายใต้หน้ากากจับจ้องไปที่ใบหน้าเล็กจิ้มลิ้ม ซึ่งฉายแววห่วงใยและร้อนใจแทนเข
Read more