All Chapters of เพื่อนรักอย่ามาร้าย FWB: Chapter 51 - Chapter 60

หญิงสาวห่อปากเพื่อที่จะดูดดุ้นใหญ่ได้ถนัดขึ้น ดูดกลืนจนน้ำเมือกใสหลั่งออกมาจากส่วนปลายดุ้น มาผสมผสานเข้ากันเป็นเนื้อเดียวกับน้ำลายของเธอ เอ่อล้นไหลย้อยออกมาตามมุมปาก เปรอะเปื้อนไปทั่วแก้มนุ่มทั้งสองข้าง แต่หญิงสาวก็ยังไม่หยุด เธอยังคงตั้งอกตั้งใจอมดุ้นเสียวให้เขาด้วยความหลงใหลและปรารถนาจะให้เขามีความสุขอย่างเต็มล้นอกเอวาใช้ปลายนิ้วเรียวเกลี่ยกลิ้งบนลูกบอลจิ๋วทั้งสองลูก ก่อนจะสไลด์ไปยังท่อเชื่อมต่อระหว่างดุ้นเสียวกับลูกเนื้อกลมทั้งสองลูกของเขา เธอทำแบบนี้มันทำเอาเขาแทบคลั่งตาย ไม่คิดว่าเธอจะปลุกเร้าอารมณ์เขาได้ถึงใจขนาดนี้“อ่า....ดูดแรง ๆ สิ เอาแรงกว่านี้” เขาบงการพร้อมกระแทกเอวใส่หน้าเอวา ทำเอาส่วนปลายชนเข้ากับลำคอด้านในของเธอ เขารู้สึกถึงความนุ่มละมุนของผนังลำคอของหญิงสาวมันรู้สึกดีเป็นบ้า!“อื้ออออ~” เธอหลุดเสียงครางออกมาไม่แพ้กัน เพราะเขาเล่นบี้ขยำหน้าอกทั้งสองเต้าของเธออย่างเร่าร้อนจนเธอเสียวซ่าน แถมยังบีบยอดอกที่มันแข็งเป็นตุ่มไตเพราะการถูกกระตุ้น เขาละเลงมือสากกร้านนวดหน้าอกเธอจนหญิงสาวเสียวซ่านหลุดเสียอาการ แต่ก็ยังคงดูดดึงดุ้นสวาทเอาไว้ในปาก“ซี้ดดดดด~...ฉันจะไม่ไหวแล้ว” เข

หมู่นี้เอวาแทบไม่ได้กลับบ้านเลย เรียนเสร็จก็ไปทำงาน แล้วกลับไปนอนที่คอนโดของฟินท์ ตั้งแต่สถานะเลื่อนขยับมาเป็นแฟนความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็ดีขึ้นเรื่อย ๆฟินท์มีน้ำใจต่อเธอมาก นอกจากมารับมาส่งแล้ว บางวันยังอยู่ช่วยงานเธอจนเพื่อนร่วมงานคุ้นชิ้นกับเขาเป็นอย่างดี“เป็นไงเหนื่อยไหม” เขาเอ่ยถามหลังจากยื่นมือมารับกระเป๋าจากไหล่ของเธอ“เหนื่อยสิ”“งั้นกลับไปห้อง เดี๋ยวนวดให้”“นวดเป็นเหรอ” เธอถามยิ้ม ๆ“เป็นสิ มากกว่านวดก็เคยทำมาแล้ว เอวาชอบนี่” ฟินท์เอ่ยขณะที่เปิดประตูรถให้เอวาจนเธอหันมาด่าเบา ๆ“บ้า!”“อ้าวแล้วกัน” เหมือนเป็นเพียงการกล่าวเล่นมากกว่าจะจริงจัง ฟินท์เลี้ยวรถออกจากซองขับเข้าสู่ถนนใหญ่ได้ครู่หนึ่ง มือถือของเอวาก็ดังขึ้น เธอกดรับสาย“ว่าไงปริม”“ฮือ ฮือ มันหลอกกูอ่ะเอวา!”“อะไรนะ! แกเป็นอะไรปริม”“ฮือ ๆ” ปลายสายเอาแต่ร้องห่มร้องไห้ จนไม่รู้ว่าพูดอะไร ฟินท์หันมามองแฟนก่อนถามด้วยความอยากรู้“เกิดอะไรขึ้น”“ไอ้ปริมน่ะ ร้องไห้ คุยไม่รู้เรื่องเลย” เธอบอก“เดาว่าอกหัก” ฟินท์ว่า“ทำไมรู้” เป็นเอวาเสียอีกที่สงสัย แค่โทรมาไม่กี่คำ ฟินท์ก็รู้แล้วว่าเพื่อนของเธออยู่ในโหมดอาการผิดปกติ“มันจะ

แต่ถึงแม้จะทำใจไว้แล้วกับความสัมพันธ์ที่เลื่อนลอยไร้จุดหมาย แต่ทว่าพอเอาเข้าจริง เอวากลับรู้สึกหวาดกลัวจนตัดสินใจถามฟินท์ด้วยความอยากรู้ในคืนหนึ่งหลังจากที่เขาหายหน้าไปนานเกือบเดือน“ฟินท์”“อือ”“ตกลงเรายังเป็นแฟนกันอยู่ไหม”พอได้ยินคำถาม คนที่นั่งกดเกมในมือถืออย่างเมามันก็เงยหน้าขึ้นมาจากหน้าจอ“ทำไมถามแบบนี้”“ก็ไม่รู้สิ” เธอตอบ เพราะจริง ๆ ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมถึงรู้สึกแบบนั้น และเธอก็เกลียดอารมณ์เหงาและโดดเดี่ยวแบบนี้ที่สุด“พูดได้ แสดงว่าต้องมีเรื่องอะไรบางอย่าง ไม่งั้น จะพูดทำไม เชี่ย!!! แพ้แล้วเนี่ย!” ฟินท์สบถขึ้นเพราะเรื่องที่เอวาพูดทำให้เขาไม่มีสมาธิ เกมที่เล่นอยู่โดนคนยิงไปเรียบร้อย ไม่ชอบเลยจริง ๆ เวลาที่ใครมาขัดช่วงที่เขาเล่นเกม บอกเอวาไปกี่ครั้งก็เหมือนเดิม แล้วจะไม่ให้เบื่อได้ยังไง“แพ้ก็ดีแล้ว” เอวาเติมไฟให้โหมลุกโชนอีกรอบ“เอวา!!” คนเล่นเกมแพ้สายตาลุกวาว“ฟินท์เอาแต่เล่นเกม วัน ๆ สนใจเอวาบ้างไหม ถ้ารู้ว่าคบกันแล้วจะเป็นแบบนี้ คงไม่คบตั้งแต่แรก” เอวาก็แรงพอกัน หลายๆ อย่างที่เจอในช่วงนี้ทำให้เธอกลัว กลัวว่าท้ายที่สุดแล้ว ความสัมพันธ์แบบแฟนมันจะพังลงเพราะความใกล้ชิด

บาสออกไปแล้ว แต่ชายหนุ่มอีกคนยังอมยิ้มแก้มแดง เวลาถูกเธอแสดงความเป็นเจ้าของนี่มันดีแบบนี้นี่เองทุกอย่างเหมือนจะดี เอวาก็ยิ้มหน้าบาน ส่วนฟินท์นั้นก็ใช่ย่อย คีบอาหารใส่จานของหญิงสาวไม่หยุดมือ แต่แล้วความสุขก็พังลงด้วยความหึงหวงอีกครั้ง เมื่อป้องปราบเดินเข้ามาในร้าน“เอวา!”“อ้าวป้อง มากินข้าวเหมือนกันเหรอ”“ใช่ แต่มาคนเดียว ที่จริงเราโทรหาเอวานะ ไม่ได้ยินเสียงเหรอ” อดีตแฟนเก่าที่ทำท่าจะรื้อความสัมพันธ์ใหม่เอ่ยขึ้นฟินท์หน้าตึง วางตะเกียบลงทันที ยิ่งไปกว่านั้น ไอ้หมอนั่นยังเดินมาทักทายแฟนของเขาแบบถึงเนื้อถึงตัวจนถ้าไม่เห็นแก่หน้าเอวาละก็ ป่านนี้ร้านคงพังราบไปแล้ว“เอ่อ เราเปิดระบบสั่นไว้”“ถึงว่าไม่รับสาย”“จะขัดคออีกนานไหม” ฟินท์ขัดขึ้นสองคนที่เหลือเลยหันมามองเขา“โทษที เราไม่เห็นนายน่ะ” ป้องปราบตอบหน้ากวน ๆ“สงสัยตาบอด นี่ถามจริงมึงจะแทงข้างหลังกูเหรอ” เขาถามน้ำเสียงเครียด“ก็เปล่านะ ตรงไหนที่ว่าแทง” ป้องปราบทวนคำ“วันก่อนกูเห็นเอวาลงจากรถมึง” เขาเฉลย“อ้อ เห็นเหรอ นึกว่าไม่อยู่ซะอีก”“พอเถอะ อย่าทะเลาะเลย อายคนอื่นเขา”การกระทำของชายหนุ่มทั้งคู่ที่เหมือนจะกำลังเปิดศึกกันอยู่ ทำเอาหญ

แต่ครั้นมานั่งในรถสองต่อสอง คนที่ปั้นหน้าดุเมื่อกี้ก็เอ่ยถามอย่างห่วงใย“เมื่อกี้ เอวาโกรธเราไหม” ประโยคง้องอนจากคนตัวสูงที่ทำเอาคนฟังถึงกับยิ้มไม่หุบ“เปล่าหรอก เรารู้ว่าเธอหวง” ตอบไปแล้วก็หลบสายตาคมอยู่ดี โชคยังดีที่วันนี้เธอมีแมสปิดหน้า มิเช่นนั้นหน้าแดง ๆ ของเธอคงมีเรื่องให้ฟินท์ได้ล้อไปอีกหลายเดือน“รู้ตัวก็ดี แล้วอย่าทำให้หึงจนหน้ามืดอีก ไม่งั้นเธอเจ็บตัวแน่เอวา”“เอาแมสออกได้แล้ว”หลายสิ่งหลายอย่างค่อย ๆ ปรับระดับไปในทางที่ดีขึ้นเรื่อย ๆ เอวารู้สึกว่าช่วงนี้เป็นช่วงที่เธอมีความสุขที่สุดในชีวิต จากที่เคยลำบากมาตลอดชีวิต ก็กลับดีขึ้น ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะชายหนุ่มที่นั่งข้างเธอคอยหยิบยื่นน้ำใจมาให้ตลอดแต่ก็นั่นแหละ การยืนด้วยขาตัวเอง มันจะดีกว่ายืนด้วยขาของคนอื่นถ้าเลือกได้ เธอก็จะทำงานต่อไป“ฟินท์” เอวาตัดสินใจเรียกชายหนุ่ม“ว่า” คนถูกเรียกขานรับ หากแต่ไม่ได้เงยหน้าจากมือถือที่คงไม่พ้นเรื่องเกมโปรดที่ฟินท์มักจะชอบเล่นอยู่เป็นประจำพอเอาเข้าจริงหญิงสาวก็ลังเล ใบหน้ายับยู่ คล้ายว่าไม่อาจตัดสินใจได้ว่าสิ่งที่เธอจะเล่าให้ชายหนุ่มฟังนั้นสมควรหรือไม่ เธอทิ้งช่วงอยู่นานจนกระทั่งคนที่ร