Semua Bab นับเวลาสามสิบวัน ฉันจะเป็นอิสระ: Bab 301 - Bab 310

398 Bab

บทที่ 301

“เฮ้อ! คิดไม่ถึงว่าเพื่อนคนนี้ของผมจะแอบทุ่มเทเงียบ ๆ! แม้ภายนอกจะเป็นเพียงน้ำหอมเรียบ ๆ ขวดหนึ่ง แต่ภายในกลับซ่อนความรู้สึกของเขาเอาไว้...”ซูมั่ว “...”เธอเลิกคิ้วเล็กน้อย และขัดขึ้นมาโดยตรงอย่างอดไม่ได้อีกครั้ง“เขาไม่ได้บอกว่าเป็นเพราะเขาเลยไม่ได้ไปซื้อด้วยตัวเอง ไม่อย่างนั้นคุณโทรศัพท์ไปแล้วพวกเรามาเผชิญหน้ากันสามฝ่ายดูไหม?”เจิ้งเซวียน “...”สาวน้อยคนนี้นี่ จะจริงจังไปทำไม แค่ซาบซึ้งก็พอแล้ว“นี่ต้องเผชิญหน้ากันด้วยเหรอ ผมเป็นเพื่อนสนิทเขานะ แน่นอนว่าผมรู้อยู่แล้ว...” เจิ้งเซวียนพูดขำ ๆ“ฉันไม่ใช่เพื่อนสนิทเขา เพราะงั้นเพื่อความยุติธรรม คุณโทรไปถามเขาตอนนี้เลยเถอะค่ะ” ซูมั่วพูดอย่างตรงไปตรงมาด้วยท่าทีเรียบเฉยเจิ้งเซวียน “...”เมื่อได้ยินคนในสายเงียบไป ซูมั่วก็พูดอีกครั้ง“ทนายเจิ้ง ตอนที่คุณบอกว่าประธานหลีตั้งใจไปเอาของขวัญที่เคาน์เตอร์ด้วยตัวเองก็มีช่องโหว่เต็มไปหมดแล้วคุณก็บอกเองว่าเขางานรัดตัว ถ้ามีเวลาขนาดนั้นก็คงไปเซ็นออเดอร์มูลค่าหลายร้อยล้านสักฉบับได้แล้ว”เจิ้งเซวียน ‘ความจริงฉันก็แค่อยากจะใช้เรื่องนี้เน้นให้อีกเรื่องเด่น...’แต่ใครจะรู้ว่าซูมั่วจะจริงจังแล
Baca selengkapnya

บทที่ 302

“ไปทำให้เธอเคืองได้ยังไง? เล่าให้ฉันฟังสิ เดี๋ยวฉันช่วยวิเคราะห์แก้ปัญหาให้นายนะ”หลีเชินก็ยังคงไม่พูดอะไร สั่งอาหารเสร็จแล้ว ก็เรียกพนักงานเสิร์ฟมา“นี่ ทำไมต้องแกล้งเป็นใบ้ด้วย มีอะไรที่พูดกับฉันไม่ได้เหรอ” เจิ้งเซวียนยังคงไม่เลิกรา“อ๋อ เว้นแต่นายจะรู้สึกผิด จนไม่กล้าพูด”หลีเชิน “...”ไม่งั้นมื้อนี้ก็อย่างกินมันเลยเถอะ ไม่อย่างนั้นความลับคงถูกแฉจนหมดเปลือก“นายไม่หิวเหรอ?” หลีเชินเงยหน้ามาถาม“หิวสิ ทั้งเช้าฉันเอาแต่เถียงกับคนอื่น” เจิ้งเซวียนตอบเขา“งั้นก็ใช้ปากกินข้าวซะ เลิกพูดได้แล้ว” หลีเชินกล่าวเจิ้งเซวียน “...”มีพิรุธ มีพิรุธมากเรื่องที่ทำให้คนขุ่นเคืองมีอะไรที่บอกไม่ได้กัน ทำไมต้องปิดบังด้วย?“โอเค งั้นฉันไปถามเสี่ยวโย่วจื่อก็ได้” เจิ้งเซวียนพูดหลีเชินไม่กลัว เพราะเจิ้งเซวียนยังนัดน้องสาวเขาไม่ได้ด้วยซ้ำ“ช่างเถอะ เสี่ยวโย่วจื่อไม่มาเจอฉัน ฉันก็ยังถามคุณซูตรง ๆ ได้” เจิ้งเซวียนพูดด้วยยิ้ม หยิบโทรศัพท์ออกมาวางบนโต๊ะเขายังไม่ทันปลดล็อกหน้าจอ วินาทีต่อมา มือใหญ่ข้างหนึ่งจากฝั่งตรงข้ามก็ยื่นมาชิงโทรศัพท์ของเขาไปตรง ๆ“นายยังจะกินข้าวไหม? ไม่กินก็ไสหัวไป” หลี
Baca selengkapnya

บทที่ 303

หลีเชินเงยหน้า แล้วก็ก้มลงไปอีกครั้ง ใช้ส้อมจิ้มสเต๊กชิ้นสุดท้ายมากิน“ไม่ได้อยากรู้ ไม่เกี่ยวกับฉันนี่” หลีเชินใช้ผ้าเช็ดปากเช็ดปากอย่างสง่างาม และพูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยเจิ้งเซวียนเลิกคิ้ว “จิ๊ ฉันเห็นท่าทางครุ่นคิดเมื่อกี้ของนาย ยังนึกว่านายอยากรู้มากซะอีก”“ก็แค่เป็นครั้งแรกที่ได้ยินว่าพวกเขาแต่งงานกันตามข้อตกลงสองปี ก็เลยรู้สึกแปลก ๆ” หลีเชินตอบเขาเจิ้งเซวียนหัวเราะ ไม่ได้พูดเรื่องนี้ต่อ ทั้งคู่กินข้าวเสร็จ หลีเชินก็เป็นฝ่ายจ่ายเงิน“ขอบใจเพื่อน คราวหน้าฉันเลี้ยงนายเอง” เจิ้งเซวียนพูด“ไม่ต้อง” หลีเชินกล่าว“โหย จะไม่มาเหรอ? ซูมั่วบอกว่าจะเลี้ยงข้าวขอบคุณฉันเรื่องคดี ฉันพานายไปด้วยได้นะ” เจิ้งเซวียนพูดด้วยรอยยิ้มหลีเชินนิ่งไปครึ่งวินาที“ก็ไม่ได้เชิญฉันนี่ ไม่ไปหรอก” เขาพูดด้วยสีหน้าไร้ความรู้สึกพอก้าวออกจากร้าน เจิ้งเซวียนมองแผ่นหลังของเขา ทำไมรู้สึกว่าในคำพูดนั้นเหมือนกำลังงอนอยู่?“นายก็ช่วยเธอหาหลักฐานนะ เธอควรขอบคุณนายเหมือนกันนี่” เจิ้งเซวียนเดินตามไปพูด“ไม่ต้องลำบากนายหรอก” หลีเชินพูดเพราะน้องสาวเขาจะช่วยบอกให้เขา ถึงตอนนั้นซูมั่วจะต้องขอบคุณเขาแน่นอน“ท
Baca selengkapnya

บทที่ 304

เจิ้งเซวียนพูด “ที่แท้ก็แบบนี้นี่เอง ตอนนั้นนายทำเหมือนเป็นเรื่องที่ให้ใครรู้ไม่ได้เลย”“ก็แค่รู้สึกว่าไม่จำเป็นต้องพูด ขอโทษให้ของขวัญไปแล้วด้วย” หลีเชินตอบอย่างเฉยชา“ก็ได้” เจิ้งเซวียนพูดหลีเชินขับรถไปแล้ว เจิ้งเซวียนเลี้ยวไปอีกทางออก จากนั้นก็กดโทรออกผ่านระบบโทรในรถทันทีชื่อผู้ติดต่อบนหน้าจอคือ...ซูมั่วเหอะ ความสัมพันธ์ที่มีปากเสียงกันนิดหน่อยเหรอ? คิดว่าเขาหลอกง่ายหรือไง?ก่อนหน้านี้โดนถามจนเสียอาการ แถมยังแย่งโทรศัพท์เขาที่ร้านอาหาร แล้วยังอุตส่าห์จอดรถอธิบายก่อนไปอีกนี่มันโคตรมีพิรุธเลย ยิ่งร้อนตัวยิ่งดูน่าสงสัยจริง ๆเพราะงั้นเรื่องนี้เขาต้องเผือกให้รู้ทุกอณูให้ได้ ฮ่า ๆ ๆ~เสียงสัญญาณรอสายดังมาสิบวินาที ซูมั่วที่อยู่ปลายสายก็รับสาย เจิ้งเซวียนตรงเข้าประเด็นทันที“คุณซู เมื่อกี้ผมกินข้าวกับหลีเชิน เขาบอกว่าระหว่างพวกคุณมีเรื่องขัดแย้งกัน เลยวานให้ผมที่เป็นคนกลางช่วยไกล่เกลี่ยสักหน่อย”บนโต๊ะอาหาร ซูมั่วที่กำลังกินโจ๊กมองโทรศัพท์ หลังจากได้ยินก็ขมวดคิ้วเล็กน้อยหลีเชินตั้งใจให้เจิ้งเซวียนมาไกล่เกลี่ยเหรอ?แต่ปัญหาความขัดแย้งระหว่างพวกเขาไม่ใช่ว่าเคลียร์กันไปแล้ว
Baca selengkapnya

บทที่ 305

“หือ?” เจิ้งเซวียนสับสนไม่เข้าใจคำพูดเขามีพิรุธเหรอ? ตรงไหนกัน? เขารู้สึกว่าเป็นธรรมชาติลื่นไหลมากเลยนะ“คุณบอกว่าประธานหลีให้คุณมาเป็นคนกลาง ซึ่งโดยพื้นฐานแล้วมันเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ เพราะฉันเคลียร์กับเขาแล้ว เขาไม่มีทางให้คุณมาหาฉันเพื่อไกล่เกลี่ยอีก” ซูมั่วพูดเจิ้งเซวียน “...”ที่แท้เขาก็พูดผิดตั้งแต่ประโยคแรกแล้วโอเค ดูเหมือนนี่จะเป็นความหมายที่หลีเชินต้องการจะสื่อก่อนขับรถออกไป เป็นเขาเองที่ไม่เชื่ออีกฝ่าย“แล้วที่คุณโทรหาฉันนี่เพราะอะไรเหรอคะ?” ซูมั่วถามต่อ“แค่ก ๆ” เจิ้งเซวียนส่งเสียงไอเบา ๆ อย่างไม่เป็นธรรมชาติออกมาสองครั้ง เมื่อเผชิญหน้ากับสาวสวยไอคิวสูงก็รู้สึกรับมือยาก“ก็แค่อยากถามว่าระหว่างคุณกับหลีเชินเกิดเรื่องอะไรขึ้น คุณสองคนมีเรื่องบาดหมางอะไรกัน”“งั้นคุณก็ถามตรง ๆ ก็ได้นี่คะ” ซูมั่วพูดเจิ้งเซวียน ‘เดิมทีคิดจะถามแบบอ้อม ๆ ใครจะรู้ว่ามันจะกลายเป็นเรื่องน่าหัวเราะไปได้...’“ได้ ครั้งหน้าที่คุยกับคนฉลาดแบบคุณผมจะพูดตรง ๆ เลย จะไม่อ้อมค้อมแล้ว” เจิ้งเซวียนกล่าวไม่มีทางล้วงข้อมูลจากปากของซูมั่วได้เลย เพราะเธอรู้ตัวได้ทันทีเพราะงั้นเขาเลยวางหลุมพรางเ
Baca selengkapnya

บทที่ 306

“เขาให้ของขวัญฉันแล้ว ทั้งยังมีความเกี่ยวข้องกับหลีโย่วอยู่ด้วย ฉันไม่คิดจะไปเอาคืนเขาหรอกค่ะ”ยิ่งไปกว่านั้นเธอฟังจากน้ำเสียงของเจิ้งเซวียน ก็รู้ว่าหวังจะดูเรื่องสนุก ช่วยเธอเป็นแค่เรื่องรอง เรื่องหลักคืออยากแกล้งหลีเชินเพราะงั้นก็ช่างเถอะ เธอไม่อยากเป็นแพะรับบาป และถูกอีกฝ่ายแกล้งในภายหลัง“แหม คุณนี่ใจกว้างเกินไปแล้วนะ เอาใจง่ายอย่างนี้เลย แค่น้ำหอมขวดเดียวก็ยอมจบเรื่องแล้ว” เจิ้งเซวียนพูดอย่างเสียดายเล็กน้อยไม่ได้เห็นเพื่อนสนิทหน้าแตก ช่างเป็นเรื่องน่าเสียดายของชีวิต“น้ำหอมแพงมาก ไม่ใช่ว่าเห็นแก่หน้าแต่เห็นแก่เงินน่ะค่ะ” ซูมั่วพูดตามตรง“พรืด” เจิ้งเซวียนถูกคำพูดของเธอทำให้หัวเราะ รู้สึกว่าซูมั่วเป็นหญิงสาวที่น่าสนใจจริง ๆเขาโลดแล่นในวงการนักรักมาหลายปี ไม่เคยเจอผู้หญิงแบบไหนบ้าง? ยังจะมองดูพวกตอแหลไม่ออกเหรอ?แต่เขากลับไม่เคยเจอแบบเธอมาก่อน ทั้งมีเหตุผลเยือกเย็น ซื่อสัตย์และจริงใจ เป็นตัวเลือกอันดับแรกของคนที่ชอบคนมีสติแน่นอน ผู้หญิงแบบนี้ไม่มีทางไปโผล่ตามสถานบันเทิง โดยทั่วไปจะเป็นพนักงานระดับหัวกะทิ หรือเป็นบุคคลชั้นแนวหน้าของวงการต่าง ๆ“งั้นก็ได้ ปล่อยให้เจ้าหลี
Baca selengkapnya

บทที่ 307

“เปล่านะ ผมไม่ได้มีหน้าใหญ่ขนาดนั้น เรื่องนี้ยุ่งยากมาก จริงอยู่ที่ผมกับเขาเป็นเพื่อนกัน แต่ก็ไม่ได้เจอไม่ได้ติดต่อกันมาหลายปีแล้ว” เจิ้งเซวียนกล่าว“เพราะงั้น คุณซู ไม่ต้องสงสัยอีกแล้ว เขาตั้งใจทำเพื่อ...”เจิ้งเซวียนตั้งใจจะช่วยเพื่อน โดยบอกว่าอีกฝ่ายตั้งใจทำเพื่อซูมั่วเป็นพิเศษ แต่ยังพูดไม่ทันจบ ก็ถูกอีกฝ่ายขัดขึ้น“งั้นต้องเป็นหลีโย่วแน่ ๆ”“ไม่...” เจิ้งเซวียนกำลังจะปฏิเสธ ถึงแม้หลีเชินจะเคยบอกว่าเสี่ยวโย่วจื่อขอร้องเขาจริง ๆ ก็ตามแต่ในเวลาแบบนี้ เสี่ยวโย่วจื่อสามารถถอยออกมาก่อนได้ แล้วมอบความดีความชอบทั้งหมดให้พี่ชาย แบบนี้ทั้งสองคนถึงจะเกิดจุดเริ่มต้นแห่งรักได้“ไม่สิ”ขณะที่เจิ้งเซวียนเอ่ยคำว่า ‘ไม่’ ทันใดนั้น ซูมั่วก็พูดคำว่า ‘ไม่’ ออกมาคำหนึ่งเช่นกันเพราะเธอเพิ่งนึกขึ้นได้“ฉันเป็นคนไปขอให้หลีโย่วช่วย และวันเสาร์พวกเรายังช่วยกันวิเคราะห์ว่าจะเริ่มลงมือจากกล้องวงจรปิดของหมู่บ้านอยู่เลย ขอโทษด้วย ฉันไม่ควรบอกว่าคุณเป็นคนขอร้อง” ซูมั่วกล่าวตอนนั้นความคิดของเธอไขว้เขวไป หลีเชินติดต่อกับเจิ้งเซวียนโดยตรง เธอยังคิดว่าเจิ้งเซวียนเป็นคนขอให้หลีเชินช่วยแต่ตอนนี้เจิ้งเซว
Baca selengkapnya

บทที่ 308

เพราะงั้น เฮ้อ หลีเชินคงหมดหวังแล้ว“อย่าโกรธเลย ๆ ผมไม่ได้มีเจตนาร้าย” เจิ้งเซวียนรีบพูด“ฉันรู้ค่ะ แค่สงสัยว่าทำไมคุณถึงต้องพูดแบบนั้นด้วย” ซูมั่วพูดเธอไม่ได้พูดออกมาตรง ๆ ว่าเจิ้งเซวียนกำลังจะจับคู่ให้ ถ้าพูดออกไปตามตรง คิดว่าต่อไปเวลาเจอหน้าหลีเชินคงจะอึดอัดมากแม้ว่ามีความเป็นไปได้ว่าหลังจากนี้พวกเขาอาจได้เจอกันอีกเพียงครั้งเดียวคือตอนที่เธอมอบกระดุมแขนเสื้อพร้อมกล่าวขอบคุณ“ผม เอ่อ ฮ่า ๆ คิดซะว่าผมสมองเบลอก็แล้วกัน” เจิ้งเซวียนตอบ คำพูดมีความตะกุกตะกัก“หรือคุณจะคิดซะว่าผมหาเรื่องมาคุยกับคุณก็ได้ เรื่องคดีก็จบไปแล้ว ไม่งั้นผมก็ไม่มีข้ออ้างมาคุยกับคุณต่อแล้วนะ~”เขา ‘ใส่ร้าย’ ตัวเองตรง ๆ เพราะการจับคู่ล้มเหลว แทนที่จะปล่อยให้กระอักกระอ่วน ไม่สู้ล้อตัวเองจะดีกว่าอีกด้านหนึ่งได้ยินคำตอบแบบนี้ ซูมั่วย่อมไม่ค่อยเชื่ออยู่แล้ว แต่นี่ก็ไม่ใช่เรื่องสำคัญเธอยิ่งรู้สึกว่าโชคดีที่เธอไม่ได้พูดความคิดออกมาตามตรง เพราะเจิ้งเซวียนก็ไม่ได้คิดจะพูดเรื่องนี้เหมือนกัน“จะมาคุยกับฉันเมื่อไรก็ได้ แต่ฉันเป็นคนน่าเบื่อมาก คงไม่สามารถคุยเล่นกับคุณได้ดีนัก” ซูมั่วพูดเสริมคำพูดของอีกฝ่าย
Baca selengkapnya

บทที่ 309

“ความจริงเขาน่าจะอยากกินข้าวกับเธอจริง ๆ นะ” รอจนหลีโย่วด่าจบ ซูมั่วก็เอ่ยขึ้น“แต่เธออย่าเข้าใจผิด ก็แค่เพื่อนที่ไม่ได้เจอกันนาน เลยอยากนัดรวมตัวกันเฉย ๆ”“ใครเป็นเพื่อนเขากัน เขาเป็นเพื่อนของพี่ฉันต่างหาก” หลีโย่วเบ้ปากพูดจะมีการนัดรวมตัวเพื่อนเก่าได้ยังไง ในเมื่อระหว่างพวกเขาสองคนล้วนไม่มีเหตุผลให้ต้องเจอกันดูจากหกปีที่ผ่านมาซึ่งอีกฝ่ายไม่เคยติดต่อหาเธอเลยก็รู้แล้วไม่ใช่เหรอ?แต่หลังจากพี่ชายเธอกลับมา เขาก็ดึงดันอยากเจอเธอดังนั้นเจิ้งเซวียนก็แค่พูดไปเรื่อย เขาจงใจทั้งนั้นก็แค่ใช้เธอเป็นเครื่องมือ ไม่ได้อยากเจอเธอจริง ๆ หรอก“ฉันไม่ได้ตอบรับ” ซูมั่วพูด“ไม่ต้องไปสนใจเขาหรอก งานเลี้ยงขอบคุณเขาจะมากินหรือไม่มากินก็แล้วแต่เขาเถอะ ถ้าไม่มากินเธอก็ประหยัดค่าข้าวไปอีกหนึ่งมื้อ” หลีโย่วพูดอย่างฮึดฮัด“เธอชวนตั้งหลายครั้ง เขากลับไม่เห็นค่า แถมยังใช้ฉันเป็นข้ออ้างเพื่อเลี่ยงเธออีก ไอ้ผู้ชายเฮงซวย”ซูมั่วได้ยินก็หัวเราะเสียงเบาสองครั้ง น้ำเสียงจากคำพูดของหลีโย่ว ต่างจากเมื่อวันเสาร์โดยสิ้นเชิงดูท่าหลีโย่วจะมองเห็นธาตุแท้ของเจิ้งเซวียนโดยสมบูรณ์แล้ว ทั้งยังปล่อยวางอดีตลงได้ แ
Baca selengkapnya

บทที่ 310

ซูมั่วส่งเสียง “อืม” ครั้งหนึ่ง และพูด“ไม่ใช่ว่าเธอบอกว่าเขาพูดมั่วซั่วเหรอ? หรือจะสื่อเป็นนัย ๆ ว่าให้เธอเลี้ยง?”“ใช่ ตอนแรกฉันก็เข้าใจแบบนั้น” หลีโย่วพูด“แต่ว่านะ เมื่อกี้ฉันเพิ่งนึกขึ้นมาได้อย่างหนึ่ง”ซูมั่ว “?”“ไม่ใช่ว่าเจิ้งเซวียนบอกว่ามื้อเที่ยงพี่ชายฉันไปด้วยเหรอ? เพราะงั้น!” หลีโย่วจงใจพูดช้า ๆ แล้วหยุดตรงนี้ซูมั่ว “...”เธอรู้แล้วว่าเพื่อนสนิทอยากจะพูอะไร“หยุดเลย!” ซูมั่วขัดทันที“นั่นก็แค่การนัดกินข้าวระหว่างพวกเขา อย่าดึงฉันเข้าไปเกี่ยวด้วยสิ” ซูมั่วพูดหลีโย่วยกยิ้ม เสียงท้ายประโยคสูงขึ้น “อยากพนันกันไหม? มั่วมั่ว?”ซูมั่ว “ไม่มีอะไรให้พนันหรอก”“พอแล้ว เธออย่ามาเดามั่วซั่วเลย ไม่ใช่ว่าต้องไปทำงานเหรอ? วันนี้คุยแค่นี้ก่อนเถอะ” ซูมั่วพูดอีกครั้ง และตั้งใจจะวางสาย“บริษัทเป็นของบ้านฉัน ฉันอยากไปทำงานตอนไหนก็ไปเข้างานตอนนั้น~” คุณหนูตระกูลใหญ่พูดจาวางอำนาจซูมั่ว “...”“เธอปฏิเสธเร็วขนาดนี้ ไม่ใช่ว่าไม่มั่นใจเหรอ ฮ่า ๆ ๆ~” ที่ปลายสาย หลีโย่วพูดอีกครั้ง“ไม่มีเรื่องแบบนั้นหรอก แค่รู้สึกว่าไม่ควรเอาเรื่องนี้มาล้อเล่น ฉันกับพี่ชายเธอพวกเราไม่ได้สนิทกันสักหน
Baca selengkapnya
Sebelumnya
1
...
2930313233
...
40
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status