All Chapters of ศึกยอดมังกรครองบัลลังก์ แผ่นดินนี้ข้าไม่เอา: Chapter 91 - Chapter 100

100 Chapters

บทที่ 91

“เสด็จพ่อ ลูกไม่มีคำพูดอะไรจะกล่าวแล้วพ่ะย่ะค่ะ!”ฉู่หนิงแสยะยิ้มที่มุมปาก “กษัตริย์ต้องการให้ขุนนางตา ขุนนางก็จำต้องตาย!” ฮ่องเต้หน้าเปลี่ยนสีเล็กน้อย ขมวดคิ้วมุ่นหากฉู่หนิงโต้แย้งสักสองสามประโยค เขากลับจัดการได้ง่ายกว่าแต่การเชื่อฟังเช่นนี้ ในใจของเขากลับรู้สึกผิดอยู่บ้าง แต่ในตอนนี้เอง จ้าวเฟยเยี่ยนกลับหัวเราะเบา ๆ “แค่ให้เจ้าคุกเข่าขอโทษเท่านั้น ข้าไม่ได้จะเอาชีวิตเจ้าเสียหน่อย เหตุใดต้องเอาเรื่องนี้มาพูดให้รุนแรงถึงเพียงนี้ด้วย?” นัยน์ตาขององค์รัชทายาทหรี่ลง ฉายแววประหลาดใจขึ้นมาแวบหนึ่ง ก่อนจะเอ่ยด้วยเสียงเคร่งขรึมว่า “ฉู่หนิง เจ้าอย่าพูดเหลวไหล ตอนนี้แค่ต้องการให้เจ้าคุกเข่าก็คลี่คลายเรื่องนี้ได้แล้ว เหตุใดต้องโยงไปถึงความเป็นความตายด้วย?” ในที่สุดครั้งนี้ฉู่หนิงก็หนีเงื้อมมือของเราไม่พ้นแล้ว!ครั้งก่อนได้เสด็จพ่อช่วยไว้ ครั้งนี้เราจะล้างความอัปยศต่อหน้าเสด็จพ่อฉู่หนิง วันนี้เราจะต้องทำให้เจ้าอับอายขายหน้าถึงที่สุดให้ได้!อย่างไรก็ตาม เมื่อฉู่หนิงเผชิญหน้ากับการรุมโจมตีของทั้งสองคนก็แค่มองพวกเขาอย่างเฉยเมยแวบหนึ่ง ก่อนจะเอ่ยทีละคำว่า “ข้ายังพูดไม่จบเลย ทั้งสองท
Read more

บทที่ 92

ถึงแม้จะรู้อยู่แก่ใจว่าฉู่หนิงกำลังแสร้งทำ แต่เขาก็จัดการฉู่หนิงไม่ได้เลยทำได้เพียงอดทนกล้ำกลืนโทสะเพื่อที่จะไม่ไปแนวหน้า! “จริงหรือ?”ฉู่หนิงมององค์รัชทายาทอย่างเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง “นี่คือความในใจของเสด็จพี่รัชทายาทจริง ๆ หรือว่าเสด็จพี่รัชทายาทไม่อยากไปแนวหน้า?”คำพูดนี้ทำให้องค์รัชทายาทหน้าเปลี่ยนสีไปเล็กน้อยถึงแม้ในใจไม่อยากไปแนวหน้า แต่ว่าอยู่ต่อหน้าฮ่องเต้ จะกล้ายอมรับที่ไหนกัน!องค์รัชทายาทมุมปากกระตุก “น้องสิบแปดกล่าวหนักไปแล้ว ในฐานะที่ข้าเป็นรัชทายาท จะไม่อยากไปแนวหน้าได้อย่างไร?เพียงแต่ภาระหน้าที่ในแคว้นช่างยุ่งนัก ข้าปลีกตัวไม่ได้จริง ๆ เรื่องนี้ให้น้องสิบแปดออกหน้าจึงจะเหมาะสมที่สุด” ฉู่หนิงเลิกคิ้วขึ้น “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ยังจะให้น้องไปแนวหน้าอีกหรือ?” “นี่เป็นเรื่องแน่นอนอยู่แล้ว!”“แล้วเรื่องคุกเข่าขอโทษเล่า?”“เกี่ยวพันถึงขวัญกำลังใจของทหารขุนพลในแนวหน้า น้องสิบแปดจะคุกเข่าได้อย่างไร!”องค์รัชทายาททำหน้าเคร่งขรึม ดูแตกต่างจากท่าทางบีบบังคับเมื่อครู่นี้โดยสิ้นเชิงฉู่หนิงลอบหัวเราะในใจเจ้าขี้ขลาดเช่นนี้ยังอยากให้ข้าคุกเข่าอีกหรือ?“ในเมื่อเสด็จ
Read more

บทที่ 93

จ้าวเฟยเยี่ยนไม่ได้เลือกซักไซ้เอาความต่อ หลังจากที่ฮ่องเต้ตกลงให้ฉู่หนิงเจรจาสงบศึกและเข้าร่วมงานหมั้นแล้ว นางก็เป็นฝ่ายขอตัวก่อนองค์รัชทายาทเองก็รู้สึกเกรงใจที่จะอยู่ต่อเช่นกัน จึงอ้างว่าจะไปจัดการดูแลจ้าวเฟ่ยเยี่ยน แล้วถือโอกาสจากไปชั่วขณะหนึ่ง ภายในตำหนักเหลือเพียงฮ่องเต้กับฉู่หนิงสองคนเท่านั้นฮ่องเต้มองฉู่หนิงแวบหนึ่ง แล้วกล่าวเรียบ ๆ ว่า “เจ้าช่างกล้ามากจริง ๆ แต่เคยคิดหรือไม่ว่าหากอีกฝ่ายสร้างความลำบากที่แนวหน้า แคว้นของเราควรจะรับมืออย่างไรดี?” เมื่อครู่มีผู้คนอยู่ที่นี่ มีคำพูดบางคำไม่เหมาะที่เอ่ยต่อหน้าจ้าวเฟยเยี่ยน บัดนี้เหลือเพียงสองคน เราย่อมต้องซักไซ้เอาความ!แต่ฉู่หนิงได้ยินคำกล่าวกลับหัวเราะเบา ๆ “เสด็จพ่อ บัดนี้อีกฝ่ายยึดครองความได้เปรียบที่แนวหน้า หากอยากลงมือ พวกเขาคงลงมือไปนานแล้วพ่ะย่ะค่ะ”ฮ่องเต้ตาวาวขึ้นมา “เหตุใดเจ้าจึงคิดเช่นนั้น?”ฉู่หนิงเอ่ยอย่างเรียบนิ่งว่า “ยึดครองความได้เปรียบแต่ไม่ลงมือ นี่ไม่ใช่นิสัยของชาวแคว้นจ้าว กอปรกับครั้งนี้จ้าวเฟยเยี่ยนผู้นั้นเป็นฝ่ายเสนอเจรจาสงบศึกก่อน จะต้องทำเพื่อประวิงเวลาอย่างแน่นอนหากลูกคาดเดาไม่ผิด พวกเขาไม่สา
Read more

บทที่ 94

“จ้าวหมิง เจ้าว่าจ้าวเฟยเยี่ยนผู้นั้นมาที่นี่มีจุดประสงค์อะไรกันแน่?” ฮ่องเต้หันหน้าไปมองคนสนิทของตนจ้าวหมิงทำหน้าจริงจัง “ฝ่าบาท เกรงว่าเรื่องนี้คงไม่ได้ธรรมดาเหมือนในฉากหน้า ยังต้องให้สายลับสืบดูสถานการณ์ของแคว้นจ้าวกับแนวหน้าก่อนถึงจะตัดสินได้พ่ะย่ะค่ะ”ฮ่องเต้พยักหน้าเล็กน้อย จากนั้นก็ตะโกนออกไปยังนอกตำหนักว่า “องครักษ์เงา!”“กระหม่อมอยู่นี่พ่ะย่ะค่ะ!” องครักษ์เงาที่สวมชุดสีดำสำหรับเคลื่อนไหวตอนกลางคืนมาถึงในตำหนักอย่างไร้สุ้มไร้เสียง“เจ้าจงจัดเตรียมคนไปสืบดูทันทีว่าจ้าวเฟยเยี่ยนมาเมืองหลวงในครั้งนี้มีเป้าหมายอะไร อีกอย่างความสัมพันธ์ระหว่างนางกับรัชทายาทก็ต้องสืบให้ชัดเจนด้วย!” องครักษ์เงาตกตะลึงก่อนจะประสานมือคารวะทันที “กระหม่อมรับพระบัญชาพ่ะย่ะค่ะ!” เวลานี้เองจ้าวหมิงที่อยู่ทางด้านข้างก็หน้าเปลี่ยนสีเล็กน้อย “ฝ่าบาททรงสงสัยว่าองค์รัชทายาทกับองค์หญิงสิบแห่งต้าจ้าว...”ฮ่องเต้หัวเราะอย่างเย็นชา “เขาเชิญสตรีผู้นี้มาเองโดยไม่บอกเรา ใครจะรู้ว่าพวกเขาได้ทำข้อตกลงกันหรือไม่” จ้าวหมิงตกตะลึง ทำหน้าประหลาดใจ จากนั้นก็ปิดปากเงียบไม่พูดอะไรหากเกี่ยวพันถึงองค์รัชทายาท เขาก็ไ
Read more

บทที่ 95

“อะไรนะ ฉู่หนิงเอาเรื่องที่เรากับฮองเฮาจะไปร่วมงานหมั้นของเขาไปเผยแพร่หรือ?”คืนนั้น ภายในตำหนักอิงอู่ของวังหลวงเสียงประหลาดใจของฮ่องเต้ดังขึ้นมาองครักษ์เงาภายในตำหนักเอ่ยด้วยความเคารพว่า “เรื่องนี้แพร่กระจายในเมืองแล้วพ่ะย่ะค่ะ องค์ชายทั้งหมดกับขุนนางใหญ่ได้ยินข่าวนี้ก็กำลังเปลี่ยนของขวัญที่เตรียมไว้แต่เดิมกันแล้วพ่ะย่ะค่ะ” ฮ่องเต้ตาเป็นประกายขึ้นมา ทำหน้าเข้าใจทันทีที่แท้ฉู่หนิงทำเพื่อของขวัญแสดงความยินดีที่คนเหล่านี้มอบให้ถึงแม้ว่าเดิมทีอยากเก็บเรื่องเข้าร่วมงานนี้ไว้อย่างเงียบ ๆ ข่มขวัญพวกคนที่อยากจะก่อความวุ่นวายในงานหมั้นเพื่อหนุนหลังฉู่หนิง แต่ในเมื่อฉู่หนิงอยากให้เอิกเกริก เช่นนั้นก็เอาให้เอิกเกริกไปเลยถึงอย่างไรของขวัญแสดงความยินดีที่ฉู่หนิงได้รับพวกนั้นก็ไม่อาจเก็บไว้ได้อยู่ดี ถูกนำไปใช้ในแนวหน้ามากกว่าครึ่งว่าไปแล้วนี่ก็เป็นเรื่องดีสำหรับต้าฉู่เหมือนกัน“ในเมื่อเรื่องแพร่ไปแล้ว เช่นนั้นก็ไม่จำเป็นต้องปิดบังแล้ว จ้าวหมิง เจ้าให้กรมวังไปเตรียมราชรถสำหรับอีกสองวันข้างหน้า” “กระหม่อมน้อมรับคำสั่งพ่ะย่ะค่ะ!” จ้าวหมิงรับคำแล้วไปเตรียมการทันทีต่อมา ฮ่องเต้ก็เผยส
Read more

บทที่ 96

กลับเป็นเสิ่นหว่านอิ๋งที่มองฉู่หนิงอย่างขอโทษ จากนั้นจึงคล้องแขนมารดาตัวเองเข้าไปพร้อมกันฉู่หนิงลูบจมูกตัวเอง แล้วหัวเราะเจื่อน กลับไม่ได้ซักไซ้อะไรให้มากความ อย่างไรวันนี้เป้าหมายของเขาคือของขวัญของเหล่าองค์ชายและขุนนาง ท่าทีที่เสิ่นฮูหยินมีต่อเขาไม่ใช่เรื่องสำคัญ“ดูแลเสิ่นฮูหยินกับท่านหญิงให้ดี ข้าจะไปต้อนรับทุกคนที่หน้าประตูด้วยตนเอง!”ฉู่หนิงสั่งการเสร็จสรรพ จึงได้พากวนอวิ๋นและจ้าวอวี่สองคนเดินไปต้อนรับหน้าประตูจวนภายในเวลาไม่ถึงหนึ่งก้านธูป แขกที่มาร่วมงานคนแรกปรากฏตัวแล้วคนผู้นั้นอยู่ในชุดทะมัดทะแมงสีน้ำเงิน ผมยาวถักเปียเป็นเส้นเล็กมากมาย ปล่อยสยายอยู่บนบ่าและแผ่นหลังดวงตาสดใสมีชีวิตชีวาคู่นั้น เข้าคู่กับใบหน้าที่มีรอยยิ้มจาง ๆ หากไม่ใช่จ้าวเฟยเยี่ยนองค์หญิงสิบแห่งต้าจ้าวจะเป็นใครได้อีก!ฉู่หนิงอึ้งไปชั่วขณะ นึกไม่ถึงว่าอีกฝ่ายจะมาถึงเป็นคนแรกส่วนกวนอวิ๋นกับจ้าวอวี่สีหน้าเปลี่ยนเล็กน้อย เคลื่อนฝีเท้าไปข้างกายฉู่หนิง หากอีกฝ่ายกล้าก่อเรื่อง พวกเขาไม่ปล่อยไปง่ายๆ แน่!”“ขอแสดงความยินดีกับเผิงไหลจวิ้นอ๋องที่หมั้นหมายในวันนี้ ข้ามาด้วยตัวเอง ไม่ใช่ว่าจวิ้นอ๋องคงไม่อย
Read more

บทที่ 97

ต้นโสมสามร้อยปีหนึ่งต้นทำให้ฉู่หนิงจมสู่ห้วงความคิดทว่าขณะนั้น นอกจวนอ๋องดันมีเสียงฝีเท้าม้าดังขึ้น ขุนนางมากมายต่างทยอยมาถึงแล้วพิธีกรที่เดิมทียืนอยู่หน้าประตูเตรียมเรียกขานสีหน้าเปลี่ยนเล็กน้อย เข้ามากระซิบข้างกายฉู่หนิง “องค์ชาย ใกล้ถึงฤกษ์ดีแล้ว เหล่าขุนนางในราชสำนักมาแล้วขอรับ”ฉู่หนิงขมวดคิ้ว เงยหน้ามองไปที่ถนน พบว่ามีขุนนางมากมายบ้างก็ขี่ม้า บ้างก็นั่งเกี้ยวกำลังมุ่งหน้ามาทางจวนอ๋องหากยังมัวร่ำไรอยู่กับจ้าวเฟยเยี่ยน รอให้ทุกคนมาถึง กลับกลายเป็นที่ขบขันของทุกคนระหว่างครุ่นคิด มุมปากจ้าวเฟยเยี่ยนยกขึ้นเล็กน้อย จนเป็นองศาที่น่าตะลึงกลืนไม่เข้าคายไม่ออกละสิ?เหงื่อคงเต็มแผ่นหลังสินะ!ใครใช้ให้เจ้าเป็นอริกับข้า!วันนี้ ข้าจะทำให้เจ้าอับอายขายหน้าต่อหน้าธารกำนัลฮึ กล้าปฏิเสธองค์หญิงอย่างข้า ข้าจะให้เจ้าได้เห็นดีกัน!“แค่โสมต้นเดียวก็ทำให้จวิ้นอ๋องลำบากใจเพียงนี้เชียวหรือ?”จ้าวเฟยเยี่ยนขยับริมฝีปากแดงแผ่วเบา เหลือบมองร่างกายท่อนล่างของฉู่หนิง หัวเราะกล่าวว่า “หรือองค์ชายมีความลำบากที่ยากจะเอื้อยเอ่ย?”คำพูดประโยคหลัง นางเน้นย้ำเป็นพิเศษ!ฉู่หนิงเลิกคิ้ว “องค์หญิงเฟ
Read more

บทที่ 98

เมื่อมองดูใบหน้าของจ้าวเฟยเยี่ยนที่โกรธจนหน้าถมึงทึง เหล่าขุนนางหัวเราะเสียงดัง ต่างเยาะเย้ย“องค์ชายกล่าวถูกต้อง องค์หญิงเฟยเยี่ยนช่างเป็นคนดีเหลือเกิน”“ต้นโสมช่างให้ได้เหมาะเจาะ องค์หญิงเฟยเยี่ยน หากครั้งหน้ายังมีต้นโสมเช่นนี้โปรดส่งมาสักหลายต้น!”“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า องค์ชายรับต้นโสมเอาไว้ ได้ประโยชน์ถึงสองทาง!”“สมแล้วที่เป็นต้าจ้าว มั่งคั่งร่ำรวย รู้ว่ายามนี้องค์ชายต้องการต้นโสม ถึงกับนำมามอบให้เอง ถือเป็นการช่วยเหลือกันในยามยาก!”คำพูดของเหล่าขุนนางราวกระบี่คมกริบ เชือดเฉือนใจจ้าวเฟยเยี่ยนอย่างแรงนางไม่เคยนึกไม่เคยฝัน เจ้าฉู่หนิงกลับนึกถึงเหตุผลที่ไร้ยางอายขนาดนี้ได้นางปรามาสฉู่หนิงเกินไป!จ้าวเฟยเยี่ยนแววตาเย็นเยียบ ความทรงพลังทั่วร่างล่มสลายในวินาทีนี้ ไม่มีความกำเริบเสิบสานเหมือนตอนที่เพิ่งมาถึงจวนอ๋องทว่าขณะนั้น เจ้าฉู่หนิงกลัวหัวเราะ “ทำไมองค์หญิงเฟยเยี่ยนไม่พูดซะแล้วล่ะ? หรือไม่เห็นด้วยกับคำพูดของข้า?”จ้าวเฟยเยี่ยนจ้องมองฉู่หนิงครู่หนึ่ง “นึกไม่ถึงว่าองค์ชายจะพูดจาฉะฉานเช่นนี้ กลับเป็นเฟยเยี่ยนที่ไม่รอบคอบ ทว่า วันนี้เป็นวันมหามงคลขององค์ชาย เฟยเยี่ยนไม่ขอโดดเด่นเก
Read more

บทที่ 99

“ถวายบังคมเสด็จพ่อ ฮองเฮา!”ฉู่หนิงเดินเข้าไปด้วยใบหน้ายิ้มแย้มรถม้าขบวนเสด็จหยุดลง ฮ่องเต้ที่สวมชุดสีเหลืองทองเป็นฝ่ายเดินลงมาก่อนฮ่องเต้เปลี่ยนจากความน่าเกรงขามในยามปกติที่สวมชุดมังกร เป็นรอยยิ้มที่มีเมตตาของบิดาต่อมา หญิงวัยกลางคนผู้หนึ่งที่สวมชุดฝ่ายในสีม่วงเดินลงมาจากรถม้าหลวงอย่างเชื่องช้าแม้รูปโฉมนางจะไม่ได้งดงามมากนัก แต่บนตัวกลับมีพลังของความเป็นแม่แห่งแผ่นดินเผยออกมา!นั่นคือฮองเฮาแห่งต้าฉู่ มารดาแท้ ๆ ของรัชทายาทองค์ปัจจุบัน จูซูเหยา!เมื่อมองฉู่หนิงที่ก้มลงทำความเคารพแวบหนึ่ง ดวงตาฮองเฮามีความแปลกใจแวบผ่านช่วงเวลานี้ นางพอจะได้ยินเรื่องราวการกระทำของฉู่หนิงมาบ้าง แต่รู้ว่าฉู่หนิงกำลังจะไปเป็นตัวตายตัวแทนที่แนวหน้า ดังนั้นนางจึงไม่ได้ให้ความสนใจฉู่หนิงมากนักหากไม่ใช่เพราะฮ่องเต้เรียนเชิญด้วยพระองค์เอง นางคงไม่มีทางปรากฏตัวในงานหมั้นของฉู่หนิงครั้งแรกที่เห็นฉู่หนิง มองดูใบหน้าที่ละม้ายกับฮ่องเต้อยู่บ้าง ไม่รู้เหตุใด ในใจกลับรู้สึกประหม่าว่าฉู่หนิงจะชิงบัลลังก์กับลูกชายของนางต่อมาเมื่อนึกได้ว่าฉู่หนิงกำลังจะไปแนวหน้า ความกังวลนั้นก็หายเข้าไปในกลีบเมฆขณะ
Read more

บทที่ 100

ฉู่หนิงถือจอกเหล้าแล้วยิ้ม “ขอบพระทัยเสด็จพ่อที่ช่วยให้ลูกได้แต่งงานในครั้งนี้”ฮ่องเต้พยักหน้าถือจอกเหล้า “จากนี้ เจ้าต้องดีกับท่านหญิงเสิ่นให้มาก”“เสด็จพ่อวางพระทัย ลูกจะไม่ทำให้หว่านอิ๋งต้องลำบากใจ!”“ดี ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!”เมื่อเห็นฉู่หนิงเปลี่ยนกระทั่งสรรพนาม ส่วนเสิ่นหว่านอิ๋งไม่แสดงสีหน้าไม่สบอารมณ์ ฮ่องเต้หัวเราะเสียงดังยกจอกเหล้าในมือขึ้นดื่มจนหมดทว่า ในขณะที่ฉู่หนิงเตรียมดื่มคารวะฮองเฮา กลิ่นหอมโชยมาพร้อมเสียงฝีเท้าอย่างรวดเร็วต่อมา เสียงใสกังวานดังขึ้นด้านหลังเขา “ยินดีกับเผิงไหลจวิ้นอ๋องที่หมั้นหมายสำเร็จแล้ว เหล้าจอกนี้ข้าขอดื่มคารวะเจ้า!”ฉู่หนิงเลิกคิ้ว แม้จะแปลกใจอยู่บ้างที่จ้าวเฟยเยี่ยนเป็นฝ่ายเสนอหน้า แต่ก็หันหลังพร้อมหัวเราะเสียงค่อย“นานทีองค์หญิงแห่งต้าจ้าวจะเดินทางมาต้าฉู่ เหล้าจอกนี้ ข้าดื่มหมดจอก!”พูดจบ ฉู่หนิงดื่มจนหมดในคราวเดียวจ้าวเฟยเยี่ยนมุมปากยกขึ้นเล็กน้อย ยกจอกเหล้าขึ้นดื่มจนหมดในคราวเดียวเช่นกันแม้จะเป็นสตรี แต่ความองอาจบนตัวนางกลับไม่แพ้ชายใดเมื่อดื่มเสร็จ จ้าวเฟยเยี่ยนหันมองเสิ่นหว่านอิ๋ง หยิบกาเหล้ารินเหล้าให้ตัวเองหนึ่งจอก พลางยิ้มแล้ว
Read more
PREV
1
...
5678910
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status