All Chapters of ศึกยอดมังกรครองบัลลังก์ แผ่นดินนี้ข้าไม่เอา: Chapter 81 - Chapter 90

100 Chapters

บทที่ 81

“อะไรนะ เสด็จพ่อให้ฉู่หนิงต้อนรับทูตต่างแคว้นหรือ?”ตำหนักบูรพาเสียงตะคอกขององค์รัชทายาทดังออกมา “เจ้าสารเลวสมควรตายนี่ถึงกับแย่งงานของข้า!” “เพล้ง!” แจกันงดงามถูกปาลงมาอย่างรุนแรง เศษซากหล่นกระจายเต็มพื้นเสนาบดีกรมโยธาธิการเหอเผิงที่เป็นคนสนิทที่หน้าเคร่งเครียด เอ่ยเสียงเข้มว่า “องค์รัชทายาทโปรดทรงระงับโทสะด้วย ระวังกำแพงมีหูประตูมีช่อง” ดวงตาขององค์รัชทายาทฉายแววเคลือบแคลงใจ “คำพูดนี้ของใต้เท้าเหอหมายความว่าอย่างไร?” “องค์รัชทายาทท่านคิดดูสิ เดิมทีเรื่องนี้เป็นหน้าที่ของท่าน เหตุใดจู่ ๆ ครั้งนี้ฝ่าบาทถึงอยากมอบให้เผิงไหลจวิ้นอ๋องเล่า?” เหอเผิงอธิบายอย่างระมัดระวังโดยไม่สนใจผู้อื่น “กระหม่อมคิดว่า ประการหนึ่งเป็นเพราะฝ่าบาทอยากชดเชยความรู้สึกผิดในใจ ถึงอย่างไรฉู่หนิงก็ต้องไปแนวหน้าอีกประการหนึ่ง ครั้งนี้เป็นงานเลี้ยงหมั้นหมายของฉู่หนิง ให้เขามาต้อนรับก็สมเหตุสมผลแล้วจริง ๆสุดท้าย องค์รัชทายาทท่านโดนฝ่าบาทกักบริเวณให้คัดลอกพระคัมภีร์อยู่ในนี้ เวลานี้ปล่อยตัวท่านออกไปไม่ค่อยเหมาะสมนัก” เมื่อได้ยินเหตุผลทั้งสามข้อ องค์รัชทายาทที่โกรธเกรี้ยวก็ใจเย็นลงไม่น้อยในพริบตาโท
Read more

บทที่ 82

ฉากนี้ทำให้เหอชิงอวิ๋นที่เฝ้าหน้าประตูเมืองหัวเราะหยันไม่หยุดฉู่หนิงก็มีวันนี้เหมือนกัน!เจ้านี่ทำให้เขาต้องมาเฝ้าประตูเมืองทุกวัน ในที่สุดคราวนี้ก็ให้เจ้านี่ได้ลิ้มรสชาติของการเฝ้าประตูเมืองแล้ว!ฉู่หนิงร้อนจนทนไม่ไหวแล้วเช่นกัน เขาเช็ดเหงื่อบนใบหน้าพลางขมวดคิ้วเอ่ยว่า “ใต้เท้าหวัง ข่าวของท่านแม่นยำนักหรือ เหตุใดจนถึงตอนนี้พวกเขายังไม่มาอีก?” หวังเหวินกวงหัวเราะเจื่อน ๆ “องค์ชาย กระหม่อมได้รับข่าวว่าอีกฝ่ายจะมาถึงที่นี่ในช่วงเช้าจริง ๆ ไม่รู้ว่าเหตุใดใกล้จะเที่ยงแล้วก็ยังมาไม่ถึง” ฉู่หนิงหรี่ตา ฉายแววเย็นชาขึ้นมาแวบหนึ่ง “คนของต้าจ้าวไร้มารยาทเสียจริง ในเมื่อพวกเขามาสาย พวกเราก็ไม่เล่นตามเกมพวกเขาแล้ว!ถ่ายทอดคำสั่งลงไป ให้ทุกคนหาที่ร่มเย็นพักผ่อน!”เมื่อคำพูดนี้ออกมา หวังเหวินกวงก็หน้าเปลี่ยนสียกใหญ่ รีบตะโกนว่า “องค์ชาย ไม่ได้เด็ดขาดนะพ่ะย่ะค่ะ หากจู่ ๆ พวกเขาปรากฏตัวขึ้นขณะที่เราพักผ่อน พอถึงเวลานั้นก็จะกลายเป็นฝ่ายเราที่ต้อนรับไม่เหมาะสม” ฉู่หนิงมองเสนาบดีกรมพิธีการที่สุขุมรอบคอบ ก่อนจะเอ่ยอย่างเฉยชาว่า “ใต้เท้าหวัง ท่านก็อายุมากแล้ว หากตากแดดเช่นนี้ต่อไปจะตายได้!” “
Read more

บทที่ 83

“ที่แท้ก็เป็นองค์หญิงสิบแห่งต้าจ้าว!”เสนาบดีกรมพิธีการหวังเหวินกวงเห็นสตรีผู้นี้ก็ขมขื่นใจ รีบเข้ามาคำนับฉู่หนิงหรี่ตา แววตาเผยความประหลาดใจแวบหนึ่งแคว้นอื่นที่มาร่วมงานในครั้งนี้ล้วนเป็นทูต ต้าจ้าวที่เป็นแคว้นศัตรูกลับส่งองค์หญิงมาร่วมพิธีหมั้นหมายของเขาเนี่ยนะ? นี่มันไม่สมเหตุสมผลเลยชัด ๆ!เขาหันหน้ามองไปทางหวังเหวินกวงแล้วเอ่ยถามเสียงเบาว่า “องค์หญิงสิบของต้าจ้าวผู้นี้มีความเป็นมาอย่างไร?” หวังเหวินกวงรู้ดีว่าฉู่หนิงมาจากสามัญชน ไม่รู้ความเป็นมาขององค์หญิงสิบแห่งต้าจ้าวก็เป็นเรื่องปกติมากหวังเหวินกวงหัวเราะฝืดเฝื่อนแล้วบอกความเป็นมาของสตรีผู้นี้เบา ๆ ข้างกายฉู่หนิงทันทีสตรีผู้นี้ชื่อว่าจ้าวเฟยเยี่ยน เป็นอัจฉริยะที่มีชื่อเสียงโด่งดังในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาของราชวงศ์ต้าจ้าว ไม่ว่าวรยุทธ์หรือสติปัญญาล้วนยอดเยี่ยมที่สุด เป็นที่โปรดปรานของฮ่องเต้ต้าจ้าวอย่างมากหลังจากที่ใช้กลยุทธ์ของสตรีผู้นี้ติดต่อกัน หลายปีมานี้ต้าจ้าวขยายอาณาเขตได้อย่างรวดเร็ว และปีนี้เอาชนะกองทัพใหญ่ของต้าฉู่ได้ที่แนวหน้าจนทำให้เกิดสถานการณ์ในปัจจุบัน ไม่เพียงเท่านั้ สตรีผู้นี้ถึงขนาดยังติดตามอยู่ใ
Read more

บทที่ 84

จ้าวเฟยเยี่ยนหัวเราะเบา ๆ ก่อนจะเป็นฝ่ายเอ่ยปากขึ้นก่อนฉู่หนิงทำหน้าเรียบนิ่ง “องค์หญิงสิบแห่งต้าฉู่ ถ้อยคำยุยงที่ชัดเจนจนมองออกง่ายถึงเพียงนี้ เจ้าคิดว่าพี่ชายของข้าจะตกหลุมพรางหรือ? เมื่อเทียบกับพี่ชายทั้งหลายแล้ว ข้ายังด้อยกว่ามากนัก องค์หญิงสิบไม่จำเป็นต้องสิ้นเปลืองความคิดยุแยงหรอกกลับกันองค์หญิงสิบบอกไว้ดิบดีว่าจะมาถึงในตอนเช้า เหตุใดกลับต้องให้ข้ารอจนถึงยามบ่ายด้วย?” จ้าวเฟยเยี่ยนคุกคามกันขนาดนี้ ย่อมไม่มีทางปล่อยให้สตรีผู้นี้พลิกสถานะจากแขกมาเป็นเจ้าบ้านอย่างเด็ดขาด จะต้องเป็นฝ่ายประณามก่อนนัยน์ตาของจ้าวเฟยเยี่ยนฉายแววประหลาดใจ คิดไม่ถึงว่าฉู่หนิงจะมองเจตนาของนางออกอย่างทะลุปรุโปร่ง อีกทั้งยังเป็นฝ่ายโต้กลับก่อนด้วยนี่เป็นลูกนอกสมรสจริง ๆ หรือ?เวลานี้ จ้าวเฟยเยี่ยนพลันเริ่มสงสัยขึ้นมาว่า ฉู่หนิงผู้นี้คงไม่ได้เป็นองค์ชายที่ฮ่องเต้ต้าฉู่แอบเลี้ยงไว้อย่างลับ ๆ หรอกใช่หรือไม่? ไม่อย่างนั้นลูกนอกสมรสจากสามัญชนจะมีสติปัญญาและความสงบนิ่งระดับนี้ได้อย่างไร? เมื่อคิดได้ดังนี้ จ้าวเฟยเยี่ยนก็หรี่ตา หัวเราะเบา ๆ แล้วเอ่ยว่า “ข้าแค่ล่าช้าระหว่างทางไปชั่วครู่เท่านั้น แต่
Read more

บทที่ 85

“นี่ก็คือวิธีต้อนรับแขกของต้าฉู่หรือ?”จ้าวเฟยเยี่ยนมองทหารต้าฉู่ที่คำรามอย่างโกรธเกรี้ยวสะเทือนลั่นฟ้า ก่อนจะทำหน้าเย็นชา ทอดสายตาเย็นเยียบไปที่ตัวฉู่หนิงแค่ลูกนอกสมรสคนหนึ่งกลับรู้จักใช้ความน่าเกรงขามมากดดันนาง!คนผู้นี้จะปล่อยไว้ไม่ได้เด็ดขาดดูท่าการที่นางมาในครั้งนี้เป็นเรื่องที่ถูกต้องแล้วหากคนระดับนี้ไปที่แนวหน้าจะต้องส่งผลกระทบต่อแผนการใหญ่ที่จะกวาดล้างกองทัพต้าฉู่ของนางอย่างแน่นอนหากสามารถสังหารคนผู้นี้ในที่แห่งนี้ได้ ก็คงไม่มีอะไรดีไปกว่านี้แล้ว เมื่อคิดได้ดังนั้น จ้าวเฟยเยี่ยนพลันหัวเราะเบา ๆ “ครั้งนี้ข้าได้รับเชิญจากองค์รัชทายาทแห่งต้าฉู่ของพวกเจ้าให้มาเข้าร่วมพิธีหมั้นหมายของเผิงไหลจวิ้นอ๋อง เวลานี้ให้ข้าจากไป เจ้าจะอธิบายกับองค์รัชทายาทของต้าฉู่อย่างไร?” เมื่อคำพูดนี้ออกมา ทหารต้าฉู่ที่เดิมทียังทรงพลังห้าวหาญพลันเงียบปากสนิทถึงแม้ฉู่หนิงจะมอบความมั่นใจให้พวกเขา ทำให้พวกเขากล้าต่อว่าเสียงดังด้วยความเกรี้ยวกราดต่อหน้าคณะทูตแคว้นจ้าวแต่เมื่อพัวพันไปถึงองค์รัชทายาท ใครยังกล้าเอ่ยปากพูดอีกแม้แต่เสนาบดีกรมพิธีการหวังเหวินกวงเวลานี้ก็หน้าเปลี่ยนสีไปเล็กน้อย กร
Read more

บทที่ 86

จากนั้น ดวงตางดงามของจ้าวเฟยเยี่ยนก็เคร่งขรึมขึ้นมา ก่อนจะหัวเราะหยันเอ่ยว่า “ว่าอย่างไรนะ เจ้าคิดจะขัดขวางไม่ให้ข้าเข้าเมืองจริง ๆ หรือ?” ฉู่หนิงหรี่ตา ทำสีหน้าใคร่ครวญออกมา “หากข้าจำไม่ผิด ข้าไม่ได้เชิญพวกเจ้ามาร่วมงานหมั้นของข้าเลย! เจ้าพูดเองเออเองว่าเสด็จพี่รัชทายาทเชิญมา แต่เหตุใดข้าถึงไม่ได้รับข่าวเลยเล่า?” จ้าวเฟยเยี่ยนทำหน้าดูแคลน “ข้ายังนึกว่าเจ้าจะพูดเหตุผลยกใหญ่อะไร ที่แท้ก็เรื่องนี้เอง ฮึ เจ้าคิดว่าข้าจะเอาเรื่องเช่นนี้มาหลอกเจ้าหรือไร?” เมื่อพูดจบ สตรีผู้นี้ก็โบกมือขวาหนึ่งที ทหารสวมชุดเกราะคนหนึ่งที่อยู่ด้านหลังก็ล้วงเทียบเชิญใบหนึ่งออกมาแล้วปาใส่ฉู่หนิงทันใดนั้น เสียงแหวกอากาศดังขึ้นมา เทียบเชิญพุ่งมาที่หน้าของฉู่หนิงพร้อมกับเงาตกค้างจ้าวอวี่ขมวดคิ้ว พุ่งกายทีหนึ่ง มือขวารับเทียบเชิญนี้ไว้“องค์ชาย...” จ้าวอวี่กำลังคิดจะเอ่ยปากพูด ฉู่หนิงกลับยื่นมือไปรับเทียบเชิญ ก่อนจะฉีกทิ้งต่อหน้าทุกคนทันทีโดยไม่แม้แต่จะมองทุกคนมองฉากนี้อย่างไม่อยากจะเชื่อ เผยสีหน้างุนงงออกมาแม้แต่จ้าวเฟยเยี่ยนก็อึ้งไปเล็กน้อยเช่นกัน คิดไม่ถึงว่าฉู่หนิงจะไม่มองเทียบเชิญเลยด้วยซ้ำ
Read more

บทที่ 87

“ท่านผู้บังคับการ ตอนนี้เราควรทำอย่างไรดีขอรับ?” หน้าประตูเมือง ทหารลาดตระเวนมองหน้ากัน ไม่มีใครกล้าตัดสินใจเอง ทำได้เพียงทอดสายตามองไปทางเหอชิงอวิ๋นในฐานะที่เป็นบุตรชายของเสนาบดีกรมโยธาธิการ และฮ่องเต้ทรงแต่งตั้งให้มาคุ้มกันประตูเมืองด้วยตนเอง และยังเป็นผู้ที่มีตำแหน่งสูงสุดในที่แห่งนี้ การตัดสินใจนี้จึงขึ้นอยู่กับเหอชิงอวิ๋นเท่านั้นตอนนี้ใบหน้าของเหอชิงอวิ๋นเขียวไปหมดแล้วไม่ว่าจะเลือกแบบไหน เขาก็ต้องล่วงเกินคนอื่นอยู่ดีหากเชื่อฟังฉู่หนิงก็ต้องล่วงเกินองค์รัชทายาทกับองค์หญิงสิบของต้าจ้าวหากไม่เชื่อฟังฉู่หนิง ไม่เพียงล่วงเกินฉู่หนิง ถึงขนาดยังล่วงเกินฮ่องเต้กับองค์ชายอีกสิบหกคนถึงอย่างไรองค์ชายสิบหกพระองค์ต่างก็อยากให้ฉู่หนิงไปแนวหน้า ไม่อยากให้ฉู่หนิงเกิดเรื่องในตอนนี้ หากปล่อยให้จ้าวเฟยเยี่ยนเข้าเมืองจะต้องทำให้ฉู่หนิงไม่พอใจ หากฉู่หนิงไม่อยากไปแนวหน้าขึ้นมา องค์ชายสิบหกพระองค์นั้นคงจะถลกหนังของเขาแน่! เมื่อคิดได้ดังนี้ เหอชิงอวิ๋นก็ทำหน้าทะมึน กัดฟันออกคำสั่งว่า “ทหาร ปิดประตูเมือง!”ทหารค่ายพิทักษ์เมืองตกตะลึง จากนั้นก็พากันถอยเข้าไปในเมือง เวลานี้เองประตูเมืองก็ปิ
Read more

บทที่ 88

“ช่างเถอะ หากนางอยู่ในเมืองหลวงเป็นเด็กดี ให้ข้าหมั้นหมายได้อย่างราบรื่นก็พอ หากกล้าเล่นตุกติก ข้าก็ไม่ถือสาทำให้นาง อยู่ที่นี่ไปตลอดกาล!” เมื่อพูดจบ ฉู่หนิงก็ควบม้ากลับจวน กวนอวิ๋นกับจ้าวอวี่ตามไปทันทีไม่นานนัก ข่าวที่ฉู่หนิงให้จ้าวเฟยเยี่ยนอยู่นอกเมืองก็แพร่ไปทั่วทั้งเมืองหลวงชั่วขณะหนึ่ง บรรดาขุนนางต่างก็แตกตื่น! บางคนเครียดไม่หยุด บางคนมีท่าทีอยากชมละครสนุก ๆ รอดูอย่างเงียบเชียบว่าเรื่องราวจะเป็นเช่นไร ยังมีบางคนเริ่มเขียนฎีกาเตรียมฟ้องร้องฉู่หนิงส่วนภายในตำหนักบูรพา องค์รัชทายาทก็ได้รับข่าวแล้วเช่นกันเหอเผิงเป็นคนนำข่าวนี้มาด้วยตนเอง“ว่าไงนะ เจ้าบอกว่าฉู่หนิงถึงกับกล้ากักจ้าวเฟยเยี่ยนไว้นอกเมืองเชียวหรือ?” ทันทีที่ได้ยินข่าวนี้ องค์รัชทายาทที่กำลังคัดลอกพระคัมภีร์ก็ตื่นตระหนกขึ้นมา พู่กันในมือเอียงจนน้ำหมึกไหลตามพู่กันซึมไปทั่วทั้งพระคัมภีร์ “สมควรตาย!”พระคัมภีร์ที่ลำบากคัดมาครึ่งวันก็ถูกทำลายเช่นนี้เอง องค์รัชทายาทที่โกรธเกรี้ยวฉีกพระคัมภีร์ทันใด ก่อนจะขยำเป็นก้อนแล้วปาลงพื้นอย่างแรงเหอเผิงที่อยู่ในตำหนักก้มหน้าลง ไม่กล้าพูดอะไรจ้าวเฟยเยี่ยนเป็นคนที่องค์รั
Read more

บทที่ 89

องครักษ์เงาก้มหน้าลง ไม่กล้าเอ่ยปากพูดอะไรฉู่หนิงคือองค์ชายที่กำลังจะไปแนวหน้า เขาจะกล้าพูดเรื่องลงโทษกับฮ่องเต้ในเวลานี้ได้อย่างไร?หากลงโทษหนักไป แล้วฉู่หนิงไม่พอใจจนไม่ไปแนวหน้า เขาแบกความรับผิดชอบนี้ไม่ไหวหรอกนะแต่ถ้าลงโทษเบาไป องค์หญิงสิบแห่งต้าจ้าวจะต้องไม่พอใจแน่นอน ทางฝั่งฮ่องเต้ก็ไม่สามารถมอบคำอธิบายได้ด้วยเรื่องนี้ไม่อาจทำให้พอใจได้ทั้งสองฝ่าย เขาจึงไม่กล้าเสนอแนะเลยฮ่องเต้ก็คล้ายกับรู้ตัวว่าคำถามของตนทำให้องครักษ์เงาลำบากใจอยู่บ้าง จึงอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วแล้วมองไปทางจ้าวหมิง“เจ้าว่าเราจะลงโทษฉู่หนิงอย่างไรดี?”จ้าวหมิงหน้าเปลี่ยนสีเล็กน้อย หัวเราะแห้ง ๆ “ฝ่าบาท เรื่องเช่นนี้กระหม่อมจะกล้าพูดมากได้อย่างไรพ่ะย่ะค่ะ” ฮ่องเต้ถลึงตาใส่เขา “เจ้าแก่นี่ เก่งแต่เรื่องทำลอยตัวเหนือปัญหา ตอนนี้เราให้พวกเจ้าออกความเห็น ไม่ใช่ว่าจะยอมรับความคิดเห็น!”แม้จะพูดเช่นนี้ แต่จ้าวหมิงกับองครักษ์เงาก็ยังปิดปากเงียบไม่กล้าเสนอแนะเรื่องเกี่ยวข้องกับฉู่หนิง ใครจะกล้าเสนอแนะง่าย ๆ เล่าจนถึงตอนนี้พวกเขายังจำได้ดีว่าฮ่องเต้ลงโทษพ่อลูกตระกูลเหอเพื่อฉู่หนิง แถมยังอยากให้คุณหนูตระกูลเ
Read more

บทที่ 90

เจ้าหมอนี่เสแสร้งได้สมจริงนัก!องค์รัชทายาทเดือดดาลใจไม่หยุดเขาอยากจะเปิดโปงฉู่หนิงมาก แต่ก็กังวลว่าหากตนเปิดโปงฉู่หนิงแล้วจะไม่อาจแก้ตัวให้ตนเองได้ถึงอย่างไรเขาเชิญจ้าวเฟยเยี่ยนมาโดยไม่ได้แจ้งฉู่หนิงจริง ๆ หากฉู่หนิงยึดเอาเรื่องนี้มาเล่นงาน เขาก็ยากจะอธิบายเหมือนกันองค์รัชทายาทสูดลมหายใจลึก สงบสติอารมณ์ของตัวเองแล้วเอ่ยเสียงเย็นชาว่า “ในเมื่อเป็นเรื่องเข้าใจผิด เช่นนั้นเจ้าก็ขอโทษองค์หญิงเฟยเยี่ยนเสีย เรื่องนี้ก็จะถือว่าจบ!”เมื่อพูดจบ เขาก็หันไปมองจ้าวเฟยเยี่ยน ก่อนจะเปลี่ยนเป็นเอ่ยถามด้วยสีหน้ายิ้มแย้มว่า “องค์หญิงเฟยเยี่ยน เห็นแก่หน้าของข้า ให้เรื่องนี้จบเพียงแค่นี้จะได้หรือไม่?”จ้าวเฟยเยี่ยนมองฉู่หนิงแวบหนึ่ง ก่อนจะกล่าวอย่างเรียบนิ่งว่า “หากเขาคุกเข่าขอโทษได้ ข้าย่อมให้อภัยได้”คุกเข่าขอโทษ!นัยน์ตาขององค์รัชทายาทหรี่ลง ฉายแววประหลาดใจขึ้นมาดูเหมือนว่าสตรีผู้นี้ตั้งใจจะดูหมิ่นฉู่หนิง!เช่นนี้ก็ดีเหมือนกัน เราไม่พอใจฉู่หนิงมานานมากแล้ว ฉวยโอกาสนี้สั่งสอนบทเรียนเขาก็ดีเหมือนกันจากนั้นองค์รัชทายาทก็หันกายไปมองฮ่องเต้ที่อยู่บนที่ประทับแล้วเอ่ยด้วยเสียงจริงจังว่า “เสด
Read more
PREV
1
...
5678910
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status