All Chapters of ศึกยอดมังกรครองบัลลังก์ แผ่นดินนี้ข้าไม่เอา: Chapter 221 - Chapter 230

248 Chapters

บทที่ 221  

“ไปพาตัวเจ้าพวกนั้นเข้ามา!” เฝิงมู่หลานออกคำสั่งให้คนใต้บังคับบัญชาไปลากตัวคนสวมหน้ากากที่จับได้มาเบื้องหน้าฉู่หนิง “หากเจ้าเอ่ยปากไม่ทันกาล ข้าคงเชือดพวกมันทีละคนด้วยกระบี่เล่มนี้ไปแล้ว!” สำหรับเรื่องการไว้ชีวิต เฝิงมู่หลานไม่เคยคิดจะทำอยู่แล้ว ฉู่หนิงส่ายศีรษะ “ข้าอยากรู้ให้ได้ว่าใครเป็นคนบงการพวกมันให้เข้าปล้นเสบียงกันแน่!” สิ้นเสียง ฉู่หนิงหรี่ตา แววตาสะท้อนประกายอำมหิต “ดึงผ้าคลุมหน้าพวกมันออก!” จ้าวอวี่สืบเท้าขึ้นไปจากนั้นก็กระชากผ้าคลุมใบหน้าของคนสวมหน้ากากสามคนตรงหน้าทิ้งไป สามคนตรงหน้าล้วนมีรูปร่างสูงใหญ่ แววตาเหี้ยมเกรียมดุร้าย ต่อให้ถูกจับ ทว่าสามคนก็ยังคงมีสีหน้าเหมือนยอมให้ฆ่าได้ตามใจ ฉู่หนิงจ้องมองพวกมันสามคนนิ่ง ๆ ก่อนจะเอ่ยด้วยเสียงเรียบเฉยขึ้นมา “ข้าให้พวกเจ้าสองทางเลือก หากไม่บอกว่าใครอยู่เบื้องหลัง ก็ตายซะ!” สามคนเหยียดยิ้มเยาะไม่เอ่ยวาจา มือขวาของฉู่หนิงชี้ไปที่พวกมันคนหนึ่ง “ฆ่ามัน!” เฝิงมู่หลานกำลังจะลงมือ ทว่าหร่านหมิงกลับเร็วกว่าหนึ่งก้าว ต่อยไปหนึ่งหมัด สมองกระจุยทันที! เสี้ยวพริบตาของเหลวสีแดงระคนขาวพลันกระจายเปื้อนบนร่างอีกสองคนที่เหลื
Read more

บทที่ 222

“ส่วนจ้าวอวี่ เจ้าจงนำคนกลับไปในเมืองและนำข่าวนี้กลับไปแจ้งที่นั่นด้วย บอกว่าข้ากำลังเตรียมล้อมปราบหมู่บ้านแห่งนั้น หากมีใครถามรายละเอียดของเรื่องพวกนี้และอยากพบข้า เจ้าจงพามาหาข้าทันที”“จริงสิ เรื่องนี้ต้องส่งคนไปทูลแจ้งต่อเสด็จพ่อด้วย ส่งร่างไร้ศีรษะของจ้าวเฟยเยี่ยนกลับไป และเก็บศีรษะให้ดี ข้ายังมีความจำเป็นต้องใช้ประโยชน์จากมันอีกมาก” “ตอนนี้ข้าจะนั่งรอฟังข่าวดีอยู่ที่นี่ แต่ละท่านไปทำหน้าที่ของตนเองเถิด!” ภายใต้การจัดการของฉู่หนิงทุกคนแยกย้ายลงมือตามหน้าที่ทันที แม้ว่าจะสังหารจ้าวเฟยเยี่ยนตายไปแล้ว ทว่าตัวตนของคนสวมหน้ากากกลุ่มนี้จำเป็นต้องสืบให้รู้ชัดเจน เป็นใครกันแน่ที่สมคบกับจ้าวเฟยเยี่ยนครั้งนี้ เขาไม่ปล่อยไปแน่ หางจิ้งจอกโผล่มาเมื่อใด ต้องฟาดให้เต็มแรง! ไม่นานนัก จ้าวอวี่ห้ออาชานำทัพทหารกลุ่มหนึ่งคุ้มกันศพไร้ศีรษะของจ้าวเฟยเยี่ยนย้อนกลับไปที่เมืองหลวง ภายในระยะเวลาเพียงครึ่งชั่วยามสั้น ๆ ข่าวก็แพร่ไปทั่วเมืองหลวงแล้ว ฮ่องเต้ทรงรีบมีพระบัญชาเรียกรวมตัวขุนนางเพื่อร่วมหารือถึงแผนรับมือทันทีจ้าวเฟยเยี่ยนในฐานะองค์หญิงแห่งต้าจ้าว บัดนี้สิ้นชีพในแคว้นต้าฉู่ เรื่องน
Read more

บทที่ 223  

รัชทายาทโมโหยิ่งนัก! แผนการที่เคยคิดว่ารัดกุมไร้ช่องโหว่ คิดไม่ถึงเลยว่าจะถูกฉู่หนิงทำพังลงง่าย ๆ ถึงแม้จ้าวอวี่จะมิได้เล่าเรื่องการสู้รบตอบโต้อย่างละเอียด แต่คิดว่าคงเพราะจ้าวเฟยเยี่ยนประมาทเกินไป ทำให้คนกว่าสองร้อยชีวิตต้องถูกฆ่าตายโดยคนเพียงห้าสิบคนช่างโง่เขลาสิ้นดี! รัชทายาทสีหน้ามืดครึ้มยิ่งนัก ควบม้าพร้อมพวกพ้องฝ่าไปหลายชั่วยาม ในที่สุดก็มาถึงด้านในป่าลึก และในขณะเดียวกัน ฉู่หนิงกำลังสั่งการให้ทหารตั้งหม้อทำอาหาร เพื่อเตรียมกินมื้อเที่ยงกัน “ราชโองการจากฝ่าบาทมาถึงแล้ว!” ท่ามกลางเสียงแหลมเล็กของจ้าวหมิง ฉู่หนิงที่กำลังกินข้าวพลันวางมือลงทันทีก่อนจะสืบเท้าขึ้นมาประสานมือน้อมคารวะ “เราทราบว่าเมื่อคืนเสบียงทหารและหญ้าม้าถูกซุ่มโจมตี จะต้องเป็นฝีมือของแคว้นจ้าวไม่ผิดแน่ บัดนี้จ้าวเฟยเยี่ยนถูกสังหาร แคว้นจ้าวจะต้องส่งกองทัพทหารไปที่แนวหน้า บัดนี้เผิงไหลจวิ้นอ๋องจงเร่งรีบยกทัพไปที่แนวหน้าโดยด่วน จบราชโองการ!” “ลูกน้อมรับราชโองการ!” ฉู่หนิงยื่นสองมือออกไปรับม้วนราชโองการ “หัวหน้าจ้าวเดินทางมาเหน็ดเหนื่อย มิสู้พักกินข้าวด้วยกันก่อนเป็นอย่างไร?” ฉู่หนิงยิ้มพลางเอ่ยเชื้
Read more

บทที่ 224  

เพื่อให้ฉู่หนิงยอมตกลง มีแต่ต้องกัดฟันยื่นผลประโยชน์ให้ มิเช่นนั้นด้วยนิสัยของฉู่หนิงแล้วไม่มีทางยอมรับตกปากรับคำให้ข้ารับผิดชอบเรื่องนี้แน่ ๆ เรื่องนี้เกี่ยวพันกันอย่างใหญ่หลวง จ่ายราคาออกไปบ้างก็เป็นเรื่องสมควร! ยิ่งไปกว่านั้นเสบียงทหารและหญ้าม้าหนึ่งแสนหาบก็มิใช่หนักหนาอะไรสำหรับตนเอง อีกอย่างเสบียงทหารและหญ้าม้าหนึ่งแสนหาบนี้ก็มิได้มอบให้ฉู่หนิงคนเดียว แต่ส่งไปเพื่อสนับสนุนแนวหน้าต่างหาก ต่อให้ข่าวจะแพร่ออกไป ข้าเองก็ได้ชื่อเสียงด้านดีเพิ่มขึ้น ฉู่หนิงรักเงินถึงเพียงนี้ จะต้องตอบรับแน่ จริงดังคาด ฉู่หนิงนัยน์ตาพลันสะท้อนประกายสว่างวาบ ฉายแววยินดีออกมา “ท่านพี่รัชทายาทพูดจริงหรือ?” รัชทายาทเหยียดยิ้มในใจ สมแล้วที่เป็นคนที่ไม่เคยเห็นโลกกว่า แค่เจียดผลประโยชน์เท่าหัวแมลงวันให้ไปนิดหน่อยก็ตื่นเต้นดีใจไม่สิ้นสุดเสียแล้ว “คำพูดของข้ามีหนึ่งไม่มีสองมาตลอด หากน้องสิบแปดไม่วางใจ ข้าจะให้คนไปนำเสบียงทหารและหญ้ามาเดี๋ยวนี้!” รัชทายาทโบกมือหนึ่งที “ทหาร ถ่ายทอดคำสั่งของข้า แจ้งให้พระชายารัชทายาท…” “ช้าก่อน!” ฉู่หนิงไม่รอให้รัชทายาททันพูดจบประโยคก็ชิงตัดบทขึ้นก่อน “ท่านพี่รั
Read more

บทที่ 225  

ฉู่หนิงกำลังข่มขู่ข้า!เจ้าชั่วคนนี้ กล้าดีอย่างไรถึงใช้เรื่องนี้มารีดไถข้า พอเปิดปากก็ขอเสบียงหนึ่งล้านหาบ มิหนำซ้ำยังให้เวลาเพียงแค่สองวัน หากเป็นไปได้ ข้าอยากจะตบปากเจ้าบ้าคนนี้สักฉาดให้หายแค้นจริง ๆ เสบียงหนึ่งล้านหาบ คิดว่าอ้าปากแล้วมันจะมาตรงหน้าหรือ แม้ข้าจะมีเงินและเสบียงเหล่านั้นจริง แต่จะให้รวบรวมเสบียงจำนวนมากขนาดนั้นให้ครบภายในระยะเวลาสั้น ๆ ก็นับเป็นเรื่องยากยิ่ง ช้าก่อน ไม่ใช่สิ เหตุใดฉู่หนิงถึงมั่นใจนักว่าข้าจะยอมตกปากรับคำ? เหตุใดเขาถึงได้มีท่าทางมั่นใจว่าจะควบคุมเขาอยู่หมัด?หรือว่า…ฉู่หนิงแน่ใจแล้วว่าเรื่องนี้เป็นฝีมือของข้า เพราะฉะนั้นถึงได้จงใจเรียกร้องขอเสบียงในมือของข้าไป หากเป็นเช่นนี้จริง เรื่องก็ยุ่งยากแล้วสิ หากฉู่หนิงแพร่งพรายเรื่องนี้ออกไป ข้าต้องถูกเสด็จพ่อตรวจสอบ และองค์ชายคนอื่น ๆ ย่อมไม่พลาดโอกาสได้โยนหินซ้ำเติมใส่ข้าแน่ ต้องหาหนทางอุดปากของฉู่หนิงให้ได้เสียก่อน ถึงอย่างไรฉู่หนิงก็จะต้องเดินทางไปแนวหน้าแล้ว เดิมทีก็ไม่มีโอกาสจะได้รอดชีวิตกลับมาอยู่แล้ว ตราบใดที่ฉู่หนิงไม่แพร่งพรายออกมา เรื่องนี้ก็จะไม่มีผู้ใดล่วงรู้ หลังจากฉู่หน
Read more

บทที่ 226  

และสกุลเสิ่นก็เป็นร้านข้าวสารที่ใหญ่ที่สุดในเมืองหลวง หากรัชทายาทมีความประสงค์จะซื้อเสบียงอาหารธัญพืชก็หนีไม่พ้นต้องซื้อกับสกุลเสิ่น ส่วนคนจากหมู่บ้านบนเขา ต่อให้จับตัวได้แต่พวกมันมาได้ก็ไม่มีทางสารภาพออกมาเด็ดขาดว่าเป็นฝีมือของรัชทายาท เก็บไว้ในมือก็ไร้ประโยชน์ มิสู้เอามาใช้ข่มขู่รัชทายาท พยายามให้ได้มาซึ่งผลประโยชน์ที่มากขึ้นดีกว่า ทุกสิ่งทุกอย่าง ล้วนอยู่ในกำมือทั้งหมด! มุมปากของฉู่หนิงกระตุกขึ้นเล็กน้อย เผยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ออกมา ครั้งนี้รัชทายาทต้องถูกต้มจนเปื่อยแน่! ขณะที่กำลังจมดิ่งในห้วงความคิด ก็มีเสียงฝีเท้ามาพลันแว่วดังขึ้นมา ครั้นเงยหน้ามอง ปรากฏว่ากวนอวิ๋นพาคนกลับมาแล้ว “ท่านอ๋อง บัดนี้ข้าน้อยตามพวกกรรมกรชาวบ้านกลับมาได้ทั้งหมดแล้วขอรับ!” กวนอวิ๋นลงจากอาชา ก่อนจะประสานมือคารวะและกล่าวรายงานทันที ฉู่หนิงพยักหน้าพลางเอ่ยยิ้ม ๆ “ดีมาก จัดหาที่พักบริเวณนี้ให้คนพวกนี้ได้เข้าไปพักก่อนเถิด พวกเขาเองก็ตกใจเสียขวัญ จำเป็นต้องพักผ่อนให้เต็มที่สักสองวัน แล้วพรุ่งนี้ค่ำพวกเราค่อยออกเดินทางกันต่อ!” “ขอรับ!” กวนอวิ๋นขานรับเสียงหนึ่ง จากนั้นก็ไปจัดการเรื่องกรรมกรชาวบ้านตามที่
Read more

บทที่ 227  

“ช้าก่อน!” ขณะที่เสิ่นหว่านอิ๋งกำลังจะออกไปจากห้องโถงใหญ่ รัชทายาทพลันส่งเสียงดังเรียกอย่างกะทันหัน “ต้องใช้เวลานานเท่าใดเจ้าถึงจะรวบรวมเสบียงมาได้ครบตามจำนวน?” จู่ ๆ ก็ยอมประนีประนอมด้วยหรือ? เสิ่นหว่านอิ๋งหมุนตัวกลับมาด้วยความประหลาดใจเล็กน้อย “รัชทายาทคิดดีแล้วหรือเพคะ ราคาเสบียงจำนวนนี้เพิ่มขึ้นสามเท่า หากตกลงกันแล้วจะไม่เสียใจภายหลังหรือเพคะ” รัชทายาทแค่นเสียงเย็นเยียบออกมา “เจ้าแค่ต้องบอกข้า ภายในสองวันสามารถรวบรวมเสบียงธัญพืชได้เท่าใด?” “แปดแสนหาบ!” เสิ่นหว่านอิ๋งเปล่งเสียงบอกจำนวนออกมาอย่างเนิบช้า แม้จะไม่เพียงพอ แต่ตราบใดที่ไปซื้อจากที่อื่นมาเพิ่มอีกหน่อย บวกกับของที่ตนเองมีอยู่อีกจำนวนหนึ่ง ก็น่าจะรวบรวมเสบียงธัญพืชมาได้ครบหนึ่งล้านหาบแล้ว! ดวงตาของรัชทายาทหรี่ลงเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยด้วยเสียงเยียบเย็นออกมา “ส่งของพรุ่งนี้ ข้าจะนำเงินมาให้ครบ!”สิ้นวาจา รัชทายาทก็หมุนตัวสะบัดแขนเสื้อจากไปด้วยความโมโห เรื่องมาถึงจุดนี้ ถึงจะไม่อยากซื้อเสบียงจากสกุลเสิ่นก็ทำไม่ได้ แม้จะต้องเสียเงินไปมหาศาล แต่ตราบใดที่สามารถรักษาตำแหน่งรัชทายาทเอาไว้ได้ ส่วนเรื่องเงินวันข้างหน้ายั
Read more

บทที่ 228  

“น้องสิบแปด เสบียงหนึ่งล้านหาบอยู่ด้านนอกแล้ว เจ้าลองไปตรวจสอบดู” ฉู่หนิงโบกมือปฏิเสธ “ข้าเชื่อใจท่านพี่รัชทายาท เรื่องตรวจสอบคงไม่จำเป็น” ถึงอย่างไรนั่นก็เป็นเสบียงที่เสิ่นหว่านอิ๋งส่งมอบให้รัชทายาท จะผิดพลาดได้อย่างไร! รัชทายาทถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก โชคดีที่เจ้าบ้าฉู่หนิงไม่หาเรื่องกลั่นแกล้งอะไรข้าอีก มิเช่นนั้นข้าคงทนไม่ไหวแล้วจริง ๆ “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ หนึ่งมือส่งเสบียงให้เจ้า ส่วนเจ้าก็หนึ่งมือส่งคนมาให้ข้า!” รัชทายาทพุ่งเข้าประเด็นทันที ฉู่หนิงหัวเราะเสียงดัง “ใครก็ได้ ส่งมอบคนที่จับตัวมาได้จากหมู่บ้านบนเขาให้องครักษ์ตำหนักบูรพา!” สิ้นเสียงสั่งการ คนกลุ่มหนึ่งถูกคุมตัวออกมา รัชทายาทปรายสายตามองคนกลุ่มนั้นปราดหนึ่ง ก็หันไปสั่งการองครักษ์ของตนเองในยามนี้เอง “ส่งมอบเสบียง!” การแลกเปลี่ยนของสองฝ่ายเป็นไปอย่างราบรื่น แต่เพราะปริมาณมีจำนวนมหาศาล ต้องใช้เวลากว่าครึ่งชั่วยามเต็มกระบวนการถึงจะเสร็จสิ้นสมบูรณ์ รัชทายาทเห็นว่าทุกคนถูกส่งมอบเรียบร้อย หัวใจที่หนักอึ้งด้วยความกังวลพลันเบาลงอย่างถึงที่สุดในตอนนี้เอง “สมควรแก่เวลาแล้ว ข้ายังต้องนำคนกลุ่มนี้ไปสอบสวนต่อ เช
Read more

บทที่ 229  

“ฝ่าบาท เผิงไหลจวิ้นอ๋องนำกองทัพออกเดินทางแล้วพ่ะย่ะค่ะ!” ยามรุ่งสาง ภายในพระตำหนักอิงอู่ท่ามกลางแสงเปลวเทียนไหววูบ ส่องสะท้อนใบหน้าที่ยังมิได้พักผ่อน เป็นฮ่องเต้แห่งแคว้นต้าฉู่ที่กำลังเฝ้าฟังความคืบหน้าอยู่ตลอดนั่นเอง! แม้จะคาดหวังให้ฉู่หนิงเร่งเคลื่อนทัพให้เร็วที่สุด แต่เมื่อได้รับข่าวว่าฉู่หนิงเคลื่อนทัพออกเดินทางแล้วจริง ๆ ภายในใจบัดนี้กลับปรากฏแววเหี่ยวแห้งหมดอาลัยตายอยากออกมาทอดถอนหายใจเฮือกยาว ฮ่องเต้หยัดกายขึ้นและเงยหน้ามองไปนอกเมืองหลวง ใบหน้าฉายแววอาวรณ์ออกมาซึ่งเห็นได้น้อยครั้งนัก ทันใดนั้นเอง ฮ่องเต้ก็ตรัสถามขึ้นว่า “เจ้าว่า เราส่งพระโอรสของตนเองไปตายที่แนวหน้า ไร้ซึ่งมนุษยธรรมหรือไม่?” องครักษ์เงาสีหน้าขึงขัง เอ่ยด้วยเสียงขรึมออกมาว่า “ในฐานะราษฎรแคว้นต้าฉู่ ก็ควรสละชีวิตเพื่อแคว้นต้าฉู่ โดยเฉพาะองค์ชายยิ่งต้องเป็นเช่นนั้นพ่ะย่ะค่ะ!” ฮ่องเต้เงียบไปไม่ตรัสวาจาใดแม้จะเอ่ยเช่นนี้ แต่ฉู่หนิงเกิดในสามัญชน ไม่เคยได้รับพระเมตตาจากราชสำนัก เพิ่งได้หวนคืนสู่สกุลเดิมก็ต้องไปเสี่ยงตายที่แนวหน้าแล้ว ต่อให้เป็นคนที่หัวใจแข็งกระด้างเหมือนหินก็ต้องมีใจนึกสงสารอยู่บ้าง ก
Read more

บทที่ 230

นี่เป็นเรื่องที่ฮ่องเต้ทรงกังวลมากที่สุด ดังนั้นก่อนออกเดินทาง เขาจึงสั่งให้จ้าวหมิงนำราชโองการหนึ่งฉบับไปให้ฉู่หนิงอย่างลับ ๆ ก็เพียงเพื่อให้ฉู่หนิงได้ยึดครองอำนาจทหารที่แนวหน้าได้อย่างราบรื่น บัดนี้ต้องรอดูว่าฉางหงป๋อคนนั้นจะยอมส่งมอบอำนาจทหารให้แต่โดยดีหรือไม่ หากไม่เป็นเช่นนั้น ฉู่หนิงและบุคคลผู้นี้จะต้องปะทะกันอย่างแน่นอน ในขณะที่ฮ่องเต้กำลังครุ่นคิด ฝ่ายฉู่หนิงซึ่งอยู่ระหว่างการเดินทางก็กำลังฟังข่าวที่เฝิงอันกั๋วให้เฝิงมู่หลานมาแจ้งแก่ตนเองด้วยสีหน้าเคร่งเครียดเช่นกัน “แม่ทัพทหารม้าท่านนี้มีชาติกำเนิดจากตระกูลขุนนางเก่าแก่ เป็นลูกหลานในตระกูลขุนนางมีชื่อเสียง การเลื่อนขั้นย่อมไม่เป็นปัญหา อีกทั้งบุคคลผู้นี้ก็พอมีฝีมืออยู่บ้าง สมัยหนุ่มเคยสร้างคุณูปการยิ่งใหญ่ไว้ที่แนวหน้า!” เฝิงมู่หลานถ่ายทอดคำกล่าวตามบิดาของตนให้ฟังอีกครั้งหนึ่ง “ศึกใหญ่ระหว่างราชสำนักเราและแคว้นต้าจ้าวคราวนี้ เดิมทีก็ควรเป็นแม่ทัพใหญ่นำทัพบุกโจมตี ทว่าในตอนสุดท้ายคนผู้นี้กลับหาเหตุผลมาโต้แย้ง จนทำให้บุคคลผู้นี้ได้กลายเป็นผู้บังคับบัญชาสูงสุดไป” “และไม่เพียงเท่านี้ คนในกองทัพจำนวนมากก็เป็นคนของสกุลฉาง
Read more
PREV
1
...
202122232425
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status