All Chapters of ศึกยอดมังกรครองบัลลังก์ แผ่นดินนี้ข้าไม่เอา: Chapter 551 - Chapter 560

568 Chapters

บทที่ 551

“ทำอันใด?”ฉู่หนิงเข้าประชิดพร้อมกับแสยะยิ้มชั่วร้าย “แน่นอนว่าช่วยพี่สะใภ้ให้ระลึกถึงความยอดเยี่ยมของมือข้าอย่างไรเล่า”“บังอาจ!”หลิงเฟยเยียนหน้าถอดสี แววตาฉายแววโกรธเกรี้ยว ใบหน้าแดงก่ำ จ้องฉู่หนิงไม่วางตาพลางตวาดลั่น“ข้าเป็นพระชายาองค์รัชทายาท เจ้ากล้าหยาบคายกับข้าเช่นนี้ ไม่กลัวว่าเสด็จพ่อจะทรงลงโทษรึ?”ฉู่หนิงยิ้มกว้าง เดินมาหยุดเบื้องหน้าหลิงเฟยเยียนและกล่าวด้วยเสียงขบขันเบา ๆ “ท่านคิดว่า ข้าจะกลัวรึ?”กลิ่นอายของบุรุษพุ่งตรงเข้าสู่จมูก ความรู้สึกซึ่งยากจะอธิบายแผ่ซ่านในใจหลิงเฟยเยียนอดกลั้นต่ออารมณ์ตื่นตระหนกในใจ แสร้งทำเป็นสั่งสอนอย่างสงบนิ่ง “ที่นี่คือโถงรับรองของจวนอ๋อง ข้าพูดเพียงคำเดียว คนด้านนอกก็จะเข้ามาทันที!”“งั้นหรือ?”ฉู่หนิงยิ้มกว้าง จู่ ๆ ก็ยื่นแขนไปโอบเอวอรชรของนาง สูดดมกลิ่นหอมจากร่างงามก่อนจะหัวเราะอย่างเจ้าเล่ห์“ถ้าแน่จริงก็ร้องเลยสิ ผู้อื่นจะได้เข้ามาเห็นภาพที่ข้ากับท่านใกล้ชิดกันขนาดนี้”หลิงเฟยเยียนรู้สึกได้ทันทีว่าร่างกายสั่นเทิ้ม มือที่วางบนเอวลูบไล้ไปมาไม่หยุด ความรู้สึกประหลาดทำให้ร่างกายอ่อนยวบเจ้าคนสารเลวนี้ ไม่นึกเลยว่าจะกล้าทำเรื่องอ
Read more

บทที่ 552

อีกอย่าง มันก็ใช่ว่าเขาไม่เคยทำแบบนี้มาก่อนสักหน่อยช่างเถอะ ๆ ผู้ใดให้ข้าเป็นคนใจอ่อนกันเล่าฉู่หนิงปล่อยตัวหลิงเฟยเยียน มองเรือนร่างโค้งเว้าได้รูปของนางอย่างอาลัยอาวรณ์ แววตาเผยความเสียดายเล็กน้อยในภายนอกแล้ว ฉู่หนิงนั่งตัวตรงอย่างเรียบร้อย กล่าวอย่างจริงจังว่า “พี่สะใภ้ร้องไห้ทำอันใด ข้าไม่ได้ทำอะไรสักหน่อย”หลิงเฟยเยียนมองค้อนใส่ฉู่หนิง เดินออกจากโถงรับรองโดยไม่พูดไม่จาฉู่หนิงกลอกตาไปมาหากปล่อยให้นางกลับไปทั้งอย่างนี้ เกรงว่าจะตอบองค์รัชทายาทไม่ถูก มิสู้สื่อสารไปยังรัชทายาทผ่านทางนางดีกว่าฉู่หนิงตาลุกวาว โพล่งออกไปว่า “พี่สะใภ้มาสืบข่าวมิใช่หรือ ข้าบอกให้ได้นะ”หลิงเฟยเยียนที่เดินไปถึงประตูโถงรับรองแล้วต้องหยุดฝีเท้าทันทีแม้จะอยากผลักประตูออกไปมาก แต่อย่างไรนี่ก็เป็นเรื่องที่องค์รัชทายาทสั่ง หากทำไม่สำเร็จ องค์รัชทายาทอาจจะพาลไปลงที่ท่านพ่อของนางได้หลิงเฟยเยียนสูดหายใจเข้าลึก ๆ พยายามบังคับให้ตัวเองสงบสติอารมณ์ลงถึงอย่างไรก็ถูกฉู่หนิงลวนลามไปแล้ว ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องหาข่าวกลับไปให้ได้!“ว่ามาเถอะ!” หลิงเฟยเยียนเอ่ยออกมาอย่างเย็นชาแต่ผู้ใดจะไปคิด เพิ่งจะสิ้นเสียง
Read more

บทที่ 553

“คุยจบแล้วหรือ?”ฉู่หนิงเพิ่งจะกลับเข้ามายังเรือนชั้นใน เสิ่นหว่านอิ๋งก็วางพู่กันลงก่อนจะถามเสียงเบาฉู่หนิงที่ร้อนตัวรีบแสร้งเป็นไม่มีอะไรเกิดขึ้น “พระชายารัชทายาทมาสืบข่าวให้องค์รัชทายาท ข้าไม่ได้แสดงท่าทีเป็นมิตรต่อนางมากนัก พูดคุยเพียงไม่กี่คำก็ไล่ไปแล้ว”เสิ่นหว่านอิ๋งที่รู้จักนิสัยของฉู่หนิงย่อมไม่เชื่อ ใบหน้าอ่อนโยนเผยความหยอกล้ออันพบเห็นได้ยากออกมา“งั้นหรือ? ท่านไม่ได้พูดคุยกับนางแต่โดยดีหรือ? เพราะอย่างไรเสีย ก่อนหน้านี้พวกท่านก็คุยกันถูกคอ รู้จักกันมานานแล้ว”คำพูดนี้แสดงความหึงหวงออกมาชัดเจนเดิมที่ฉู่หนิงก็ร่างกายร้อนรุ่มอยู่แล้ว เขาฟังแล้วตาเป็นประกายทันที กระโจมเข้าใส่โดยไม่พูดพล่ำทำเพลงในเวลาแบบนี้ อธิบายไปก็เปล่าประโยชน์การกระทำต่างหากที่เป็นข้อพิสูจน์ที่ดีที่สุดหากหญิงสาวแสดงความหึงหวงก็แสดงว่ามีใจตอนนี้มัวแต่อธิบายก็โง่เง่าเปล่า ๆ มีเพียงการกระทำเท่านั้นที่จะเอาชนะนางได้โดยสมบูรณ์!เสิ่นหว่านอิ๋งยังไม่ทันจะได้ตั้งตัวก็รู้สึกว่าเบื้องหน้ามืดลง ครั้นได้สติ ร่างกายก็ถูกฉู่หนิงวางลงบนเตียงแล้วนางสัมผัสได้ถึงความร้อนระอุจากตัวฉู่หนิง กำลังจะอ้าปากพูด แต่ป
Read more

บทที่ 554

ใบหน้าซึ่งเดิมทีก็เย็นชาอยู่แล้วเผยความเย้ยหยันออกมา “กระไร ท่านคิดว่าข้ายังจะคุยอะไรกับฉู่อ๋องอีกหรือ?”ใบหน้าขององค์รัชทายาทกระตุก จ้องมองนางตาเขม็ง ถามเสียงเย็นว่า “หากคุยกันเพียงเล็กน้อยคงไม่นานขนาดนี้หรอก!”หลิงเฟยเยียนยกยิ้ม มีสีหน้าเย้ยหยันชัดกว่าเดิม “ข้าจะคุยเรื่องอื่นกับฉู่อ๋องไม่ได้หรือเพคะ?”คุยเรื่องอื่น?ชายหญิงอยู่กันตามลำพัง จะมีอะไรให้ต้องคุยกัน?ความหึงหวงในใจองค์รัชทายาทพุ่งทะยานถึงขีดสูงสุด กัดฟันกล่าวอย่างดุดัน “พวกเจ้ายังคุยอะไรกันอีก?”แต่แล้วจู่ ๆ แววตาของหลิงเฟยเยียนกลับเย็นยะเยียบ “ข้าเหนื่อยแล้ว หากไม่มีธุระอะไรอีก ข้าจะไปพักผ่อนแล้ว”หลิงเฟยเยียนพูดจบก็จะเดินจากไปสีหน้าขององค์รัชทายาทเปลี่ยนไปอย่างมาก สืบเท้าเร็ว ๆ ไปอยู่ตรงหน้านางและกางแขนขวางทาง เอ่ยเสียงเย็นว่า “พวกเจ้าคุยอะไรกันแน่?”“องค์รัชทายาทอยากทราบหรือ?”หลิงเฟยเยียนยกยิ้มเย็นชา “ท่านไปถามฉู่อ๋องเองจะดีกว่า”ว่าจบก็เดินอ้อมองค์รัชทายาทจากไปองค์รัชทายาทมองเงาหลังของหลิงเฟยเยียน สีหน้าเปลี่ยนเป็นสีเขียวสลับขาวแม้จะอยากรู้มากว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่างทั้งสองคนและคุยอะไรกัน แต่เขาเป็นคนให้
Read more

บทที่ 555

คำขอถอดถอนยศตัวเองของฉู่หนิงถูกฮ่องเต้ปฏิเสธเรื่องนี้แพร่สะพัดไปทั่วเมืองหลวงในช่วงไม่กี่วันต่อมาองค์รัชทายาทหัวเราะเยาะกับเรื่องนี้ ไม่รู้สึกประหลาดใจแต่อย่างใดองค์ชายคนอื่น ๆ ก็ทำเหมือนเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับตนเช่นกัน รอดูความเคลื่อนไหวจากราชวงศ์อื่น ๆไม่ว่าผู้ใดก็รู้ทั้งนั้น ฮ่องเต้เตรียมจะให้ฉู่หนิงเป็นตัวตายตัวแทนอีกแล้วฮ่องเต้ทรงเอ่ยพระราชดำรัสต่อหน้าธารกำนัลที่นอกตำหนักอิงอู่ ขุนนางและนางกำนัลหลายคนต่างได้ยิน ข่าวนี้จึงแพร่สะพัดไปทั่วเมืองหลวงภายในเวลาไม่กี่วันและก็เพราะเรื่องนี้เอง องค์รัชทายาทกับบรรดาองค์ชายจึงไม่มีความเคลื่อนไหวใด ๆหากสามารถยืมมือราชวงศ์อื่นในการกำจัดฉู่หนิง พวกเขาก็จะประหยัดแรงไปได้มากแต่ที่พวกเขาไม่รู้ก็คือ ในช่วงเวลาไม่กี่วันต่อมา ฮ่องเต้ของราชวงศ์ต่าง ๆ ก็ทยอยกันทราบข่าวในวันนี้ ลมหนาวพัดโชย สายฝนในฤดูใบไม้ผลิโปรยปราย ฝนที่ตกลงมาทำให้อุณหภูมิของเมืองหลวงต้าโจวลดลงไม่น้อยพระราชวังอันโอ่อ่าของต้าโจว กำแพงวังสูงใหญ่ สูงปลูกสร้างต่าง ๆ จัดวางอย่างเป็นระเบียบ ยิ่งใหญ่ตระการตาภายในพระราชวัง กำลังมีการประชุมที่จะตัดสินอนาคตของต้าโจวเสามังกร
Read more

บทที่ 556

“ขอฝ่าบาททรงพิจารณาให้ถี่ถ้วน จะทำศึกสองด้านพร้อมกันไม่ได้พ่ะย่ะค่ะ”“บัดนี้ใกล้ถึงช่วงเพาะปลูก เสบียงอาหารของราชสำนักเราไม่ได้เฟื่องฟู ขอทรงโปรดอย่ายกทัพโดยพลการพ่ะย่ะค่ะ”“การใช้กำลังของราชสำนักเดียวไปต่อกรกับสองราชสำนัก ย่อมไม่เป็นผลดีต่อราชสำนักเราอย่างยิ่ง”บรรดาขุนนางพากันทัดทาน รู้สึกว่าไม่สมควรโจมตีต้าฉู่ในเวลานี้อย่างไรองค์หญิงเกาผิงก็ถูกไป่หลีซิงสังหาร ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับต้าฉู่ หากไปโจมตีต้าฉู่ด้วย เกรงว่าจะขาดความชอบธรรมยิ่งไปกว่านั้น เมื่อต้องต่อสู้กับศัตรูสองทาง ต้าโจวจะไม่มีหนทางให้ชนะได้เลยทว่า แม้จะเผชิญกับการทัดทานจากเหล่าขุนนาง ดวงตาหงส์เย็นชาของอู่จ้าวกลับไม่แม้แต่จะกะพริบ จิตสังหารบาง ๆ แพร่กระจายออกมาในขณะที่นางค่อย ๆ ลุกขึ้นยืนบรรดาขุนนางที่ตอนแรกกำลังโน้มน้าวเห็นฮ่องเต้หญิงลุกขึ้นก็สั่นสะท้าน พากันเงียบเสียงลงฮ่องเต้หญิงมองทุกคนอย่างเย็นเรียบ รับสั่งด้วยน้ำเสียงเย็นชา “เกาผิงผู้เป็นธิดาของเราตายอยู่ที่เมืองหลวงต้าฉู่ แต่พวกเจ้ากลับบอกว่าต้าฉู่ไม่มีความผิดอย่างนั้นหรือ?”ทุกคนตื่นตระหนก ต่างคุกเข่าลงพื้น “ขอฝ่าบาทโปรดทรงอภัย!”ฮ่องเต้หญิงแค่นเสียงเย
Read more

บทที่ 557

“ลายมือของท่านยังต้องฝึกฝนอีกมาก”ภายในศาลาที่เรือนชั้นในของจวนอ๋อง เสิ่นหว่านอิ๋งมองลายมือยึกยือของฉู่หนิง ใบหน้าปรากฏสีหน้าหัวเราะร้องไห้ไม่ออกนางไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะมีผู้ใดเขียนอักษรได้น่าเกลียดขนาดนี้ มิหนำซ้ำคนผู้นั้นยังเป็นสามีของตน หากเรื่องนี้แพร่กระจายออกไป ฉายาอัจฉริยะหญิงอันดับหนึ่งแห่งต้าฉู่ของนางคงได้กลายเป็นเรื่องตลกให้ผู้อื่นหัวเราะฉู่หนิงมองลายมือที่ดูไม่ได้บนกระดาษด้วยความรู้สึกละอายใจ หัวเราะแห้ง ๆ ว่า “หลายวันมานี้ข้าตั้งใจคัดลายมืออยู่ตลอด แต่พรสวรรค์มันมีจำกัดจริง ๆ ยากที่จะไปถึงมาตรฐานที่หว่านอิ๋งต้องการ”เสิ่นหว่านอิ๋งส่ายหน้าเบา ๆ “หากท่านยอมแบ่งเวลาที่ใช้ฝึกยุทธ์มาครึ่งหนึ่ง ภาพที่ออกมาก็คงไม่เป็นเช่นนี้หรอก”ฉู่หนิงยิ้มกว้าง “ข้าฝึกยุทธ์ก็เพื่อเสริมสร้างร่างกายให้แข็งแรง แต่การฝึกอักษรนั้นมีไว้ให้ผู้อื่นดู สองอย่างนี้ไม่เหมือนกัน”เสิ่นหว่านอิ๋งได้แต่ส่ายหน้าให้กับตรรกะอันผิดเพี้ยนของฉู่หนิงขณะที่ทั้งสองคนกำลังพูดคุยสบายอารมณ์อยู่ในจวนอ๋อง ฮ่องเต้ซึ่งประทับอยู่ในวังกลับได้รับข่าวร้ายอย่างต่อเนื่องตำหนักอิงอู่ฎีกาบนโต๊ะกองพะเนินสูงเป็นภูเขา ฮ่อง
Read more

บทที่ 558

แต่ความคิดนี้เพิ่งจะผุดขึ้นในหัว ที่นอกตำหนักก็มีเสียงฝีเท้าเร่งรีบดังขึ้นอีกครั้ง “ฝ่าบาท มีรายงานศึกจากชายแดน!”ฮ่องเต้ขมวดคิ้ว “เหตุใดยังมีรายงานศึกอีก? รีบนำเข้ามา!”ทหารสวมชุดเกราะอีกนายเดินเข้ามากราบทูลเสียงทุ้ม “กราบทูลฝ่าบาท แม่ทัพอู่ซือแห่งต้าโจวนำทัพห้าหมื่นนายมุ่งตรงมายังเมืองตุนหวงของพวกเราพ่ะย่ะค่ะ!”ฮ่องเต้ตกพระทัย “กระไรนะ ฮ่องเต้หญิงต้าโจวส่งทหารมาโจมตีพวกเราด้วยอย่างนั้นหรือ?”และแล้วสิ่งที่กลัวก็มาถึงจริง ๆ!ฮ่องเต้หญิงต้าโจวใจกล้ายิ่งนัก ถึงกับลงมือกับสองแคว้นพร้อมกันเมื่อคิดได้ดังนี้ ฮ่องเต้ก็ตัดสินพระทัยทันที “เด็ก ๆ เรียกรวมตัวขุนนางทุกฝ่ายพร้อมด้วยเหล่าองค์ชายเดี๋ยวนี้”สิ้นเสียงคำสั่ง ขันทีและทหารจำนวนมากก็ถูกส่งออกจากวังบรรดาขุนนางระดับสี่ขึ้นไปในเมืองหลวงต่างได้รับแจ้งข่าว พวกเขาวางงานที่ทำอยู่และมุ่งหน้าเข้าสู่วังหลวงทันทีขุนนางที่ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นพากันจับกลุ่มพูดคุยเมื่อมาถึงวัง“ท่านอัครเสนาบดีรู้หรือไม่ว่าฝ่าบาททรงเรียกพบพวกเราด้วยเหตุอันใด?”“จะรู้ได้อย่างไร ข้าเองก็เพิ่งทราบข่าว”“ท่านมหาราชครู ท่านพอจะรู้หรือไม่?”“ข้าเองก็ไม่รู้เช่น
Read more

บทที่ 559

“กระไรนะ พวกเขาต้องการให้ราชสำนักเรารับผิดชอบ มิเช่นนั้นจะสังหารชาวเมืองตุนหวงทั้งหมดอย่างนั้นหรือ?”ฮ่องเต้ลุกพรวดขึ้นยืนเมื่อได้ยินเช่นกัน พระพักตร์เต็มไปด้วยความโกรธ “รังแกเกินไปแล้ว รังแกเกินไปแล้วจริง ๆ !”ทั้งที่องค์หญิงเกาผิงถูกไป่หลีซิงฆ่าตายต่างหาก แต่นี่ฮ่องเต้หญิงต้าโจวกลับจะให้ต้าฉู่รับผิดชอบช่างเป็นการกระทำที่ไร้เหตุผลสิ้นดีต่อให้ต้าฉู่จะอ่อนแอลง แต่ก็ไม่อาจยอมให้ผู้ใดมารังแกถึงที่ได้แต่เพิ่งจะสิ้นเสียงฮ่องเต้ มหาราชครูกลับมีสีหน้าเปลี่ยนไป รีบก้าวออกมาประสานมือคำนับ “ฝ่าบาท หากไม่อดทนต่อเรื่องเล็กน้อย จะทำให้เสียการใหญ่ได้นะพ่ะย่ะค่ะ!”ฮ่องเต้กำหมัดแน่น จ้องมองไปที่มหาราชครู “ฮ่องเต้หญิงต้าโจวข่มขู่ขนาดนี้ จะเรายอมกล้ำกลืนฝืนทนอย่างนั้นรึ?”มหาราชครูเห็นฮ่องเต้ทรงกริ้วก็ไม่กล้าพูดอีกในขณะนั้นเอง อัครเสนาบดีก็ก้าวออกมาพูดเสียงทุ้ม “ฝ่าบาท หากจะทำศึกก็ส่งได้เพียงแม่ทัพใหญ่กับทหารที่เขาฝึก”“ทว่า หากทำเช่นนั้น เรื่องเสบียงและเบี้ยหวัดก็จะเกิดปัญหา เงินที่เหลืออยู่ในท้องพระคลังก็ไม่พอที่จะรับภาระสงคราม”“อีกอย่าง เสบียงที่สำรองไว้ก็มีไม่มาก อีกไม่นานก็จะถึงช่วยเ
Read more

บทที่ 560

แม้ฮ่องเต้จะรู้เจตนาของพวกองค์รัชทายาท แต่ตอนนี้มันดูเหมือนจะไม่มีหนทางอื่นที่ดีกว่านี้อีกแล้วบางที การให้ฉู่หนิงมาอาจจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดฮ่องเต้ทรงครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง แววตาหรี่ลงและทอประกายเด็ดขาด “เด็ก ๆ ไปตามตัวฉู่หนิงมาหารือ!”สิ้นเสียงคำสั่ง หัวหน้าขันทีก็เดินทางไปยังจวนฉู่อ๋องด้วยตัวเองราวครึ่งชั่วยามต่อมา ฉู่หนิงที่ได้รับแจ้งข่าวก็เดินทางมาถึงตำหนักอิงอู่เพิ่งจะก้าวเท้าเข้าสู่ตำหนัก ฉู่หนิงก็รู้สึกได้ว่าสายตาทุกคู่จับจ้องมาที่ตนตัวเขาที่ยังไม่รู้ว่ามีเรื่องอะไรอดเลิกคิ้วขึ้นไม่ได้ แววตาเผยความประหลาดใจเล็กน้อยประหลาดยิ่งนัก เสด็จพ่อไม่เคยเรียกเขามาร่วมประชุม แต่แล้วจู่ ๆ ครั้งนี้กลับเรียกทุกคนมา หรือว่าจะเกิดเรื่องใหญ่?ฉู่หนิงเดินเข้าไปทำความเคารพด้วยความสงสัย “ถวายพระพรเสด็จพ่อ!”ฮ่องเต้พยักหน้าเล็กน้อย ตรัสด้วยเสียงทุ้มว่า “ไม่ต้องมากพิธี องค์รัชทายาท เจ้าบอกฉู่หนิงถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเถอะ”องค์รัชทายาทที่ถูกเรียกชื่อยิ้มเยาะในใจ ก้าวออกไปยืนหน้าฉู่หนิงและบอกข่าวที่ได้รับทราบมาเมื่อครู่ด้วยเสียงราบเรียบฉู่หนิงฟังจบก็ขมวดคิ้วแน่น เผยความรู้สึกประหลาดใจ
Read more
PREV
1
...
525354555657
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status