“ทำอันใด?”ฉู่หนิงเข้าประชิดพร้อมกับแสยะยิ้มชั่วร้าย “แน่นอนว่าช่วยพี่สะใภ้ให้ระลึกถึงความยอดเยี่ยมของมือข้าอย่างไรเล่า”“บังอาจ!”หลิงเฟยเยียนหน้าถอดสี แววตาฉายแววโกรธเกรี้ยว ใบหน้าแดงก่ำ จ้องฉู่หนิงไม่วางตาพลางตวาดลั่น“ข้าเป็นพระชายาองค์รัชทายาท เจ้ากล้าหยาบคายกับข้าเช่นนี้ ไม่กลัวว่าเสด็จพ่อจะทรงลงโทษรึ?”ฉู่หนิงยิ้มกว้าง เดินมาหยุดเบื้องหน้าหลิงเฟยเยียนและกล่าวด้วยเสียงขบขันเบา ๆ “ท่านคิดว่า ข้าจะกลัวรึ?”กลิ่นอายของบุรุษพุ่งตรงเข้าสู่จมูก ความรู้สึกซึ่งยากจะอธิบายแผ่ซ่านในใจหลิงเฟยเยียนอดกลั้นต่ออารมณ์ตื่นตระหนกในใจ แสร้งทำเป็นสั่งสอนอย่างสงบนิ่ง “ที่นี่คือโถงรับรองของจวนอ๋อง ข้าพูดเพียงคำเดียว คนด้านนอกก็จะเข้ามาทันที!”“งั้นหรือ?”ฉู่หนิงยิ้มกว้าง จู่ ๆ ก็ยื่นแขนไปโอบเอวอรชรของนาง สูดดมกลิ่นหอมจากร่างงามก่อนจะหัวเราะอย่างเจ้าเล่ห์“ถ้าแน่จริงก็ร้องเลยสิ ผู้อื่นจะได้เข้ามาเห็นภาพที่ข้ากับท่านใกล้ชิดกันขนาดนี้”หลิงเฟยเยียนรู้สึกได้ทันทีว่าร่างกายสั่นเทิ้ม มือที่วางบนเอวลูบไล้ไปมาไม่หยุด ความรู้สึกประหลาดทำให้ร่างกายอ่อนยวบเจ้าคนสารเลวนี้ ไม่นึกเลยว่าจะกล้าทำเรื่องอ
Read more