All Chapters of ร่านสวาทเมียไซด์ไลน์: Chapter 31 - Chapter 40

หลังจากทานมื้อเย็นกันจนอิ่มหนำสำราญแล้ว เราทั้งสามคนก็มานั่งรับลมชมจันทร์ริมสระว่ายน้ำส่วนตัว ในขณะเดียวกันก็ได้ยินเสียงคลื่นทะเลดังคลอเคล้าไปด้วยเบา ๆ ฟังแล้วรู้สึกผ่อนคลายลืมความเครียดที่อยู่ในหัวได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว มันคงจะดีถ้ามีแค่เราสามคนบนโลกใบนี้ ฉันจะได้ตะโกนร้องให้ก้องโลกว่าพวกเขาคือแฟนฉันแกร๊ง!เสียงแก้วไวน์กระทบกันดังขึ้น หลังจากเราทั้งสามคนยกมาชนกัน เพื่อฉลองให้กับความสุขที่กำลังเกิดขึ้นบนโซฟาริมสระว่ายน้ำ“แด่มิตรภาพของเราค่ะ”“แด่มิตรภาพของเราครับที่รัก” พี่อเล็กซ์เอ่ย“แด่มิตรภาพของเราครับฮันนี” ตบท้ายด้วยพี่คิมเราทั้งสามดื่มไวน์จนหมดแก้วก่อนจะวางมันลงไว้บนโต๊ะกระจกตรงกลาง ช่วงเวลานี้เหมาะแก่การสนทนาพูดคุยกันเป็นอย่างยิ่ง ถึงเวลาที่ฉันจะต้องรู้จักพวกเขาให้มากกว่านี้เสียแล้ว หลังจากพลีกายให้ทั้งสองหนุ่มมานานแรมเดือน แถมยังยกทั้งสี่ห้องหัวใจให้เขาครอบครองไปหมดแล้ว“จะว่าอะไรไหมถ้าหนูอยากจะรู้จักกับพี่ทั้งสองคนให้มากขึ้น”เขาหันไปมองหน้ากันด้วยความประหลาดใจก่อนจะหันมายิ้มให้ฉันอีกที“ตอนนี้เรายังไม่รู้จักกันดีพองั้นเหรอครับที่รัก” พี่อเล็กซ์ตอบกลับด้วยรอยยิ้มละมุน“

“แกล้งกันทำไมเนี่ย!! ถ้าหนูตกใจช็อกตายจะทำยังไง” ฉันตะโกนจากกลางสระน้ำหลังจากโผล่หน้าขึ้นมาแล้ว“พวกพี่ไม่ปล่อยให้ฮันนีเป็นอะไรไปหรอกน่า รออยู่ตรงนั้นเดี๋ยวพวกพี่ตามลงไป” พี่คิมเอ่ยก่อนจะหันไปพยักหน้าให้เพื่อน จากนั้นทั้งสองหนุ่มหล่อก็กระโดดตามลงมาในน้ำตู้มมมม!!เมื่อพวกเขากระโดดลงมาทำให้น้ำกระเซ็นไปทั่ว จนฉันต้องยกมือขึ้นมาปิดหน้าเอาไว้เพื่อไม่ให้น้ำมันเข้าตา จากนั้นก็ว่ายน้ำหนีออกไปให้ห่างจากเขาทั้งสองคน ฉันจะไม่ยอมโดนแกล้งฝ่ายเดียวแน่นอน ให้พวกเขาว่ายน้ำตามจับตัวฉันซะให้เหนื่อยเลยคอยดู“จะหนีไปไหนนนน” พี่คิมตะโกนถามมาเมื่อเห็นว่าฉันว่ายน้ำหนีออกมาจนถึงขอบสระแล้ว“แกล้งกันดีนักจับให้ได้สิ ถ้าจับไม่ได้ก็อด” ฉันแลบลิ้นปลิ้นตาใส่พวกเขา ไม่รู้ว่าทำอย่างนี้แล้วจะเป็นภัยกับตัวเองหรือเปล่า ถ้าโดนจับได้มีหวังโดนจัดหนักแน่ ๆ แต่ฉันไม่กลัวหรอกเพราะมีอาวุธพร้อมสู้อยู่แล้ว“เจ้าเล่ห์เหลือเกินนะแม่สาวน้อย ถ้าจับได้จะจัดให้หนักเลยคอยดู” พี่คิมตะโกนขู่ฉัน ก่อนจะหันหน้าไปเอ่ยกับเพื่อนที่อยู่ข้างกัน “มึงอ้อมไปฝั่งโน้น เดี๋ยวกูไปฝั่งนี้” วางแผนกันดีซะเหลือเกินนะ ชิส์!!“จัดไปเพื่อน” ทั้งสองไฮไฟฟ์กัน

พรวดดดด!!“อ๊ะ...แน่นเหลือเกินค่ะที่รัก”“โอยยยย...ตอดเหี้ย ๆ ซี้ดส์!!”ได้ยินอย่างนั้นฉันก็ไม่รอช้ารีบโยกตัวขย่มท่อนเอ็นยาวใหญ่นั้นทันที ในช่วงเวลานั้นพี่คิมก็เอาแต่ยืนสาวท่อนเอ็นมองดูฉันอย่างหื่นกระหาย ฉันไม่สนใจเขาเอาแต่บดสะโบกเล่นงานความเป็นชายพี่อเล็กซ์อย่างเมามันส์ มือทั้งสองข้างฉันยกมันขึ้นมาบีบเคล้นเนินเนื้อกลมโตของตัวเองไปด้วย“อ๊ะ! ...อ๊ะ! ....อ๊ะ! ....อ๊ะ!”ฉันร้องครวญครางส่งเสียงเสียวดังระงมเมื่อเริ่มโยกตัวแรงและเร็วขึ้น พร้อมทั้งหรี่ตามองพี่คิมที่ยังคงยืนสาวดุ้นยิ้มร้ายอยู่ตรงหน้า ฉันรู้สึกประหลาดใจที่เขายังคงไม่ยอมมีส่วนร่วมเสียที“พร้อมรึยังครับฮันนี” พี่คิมเอ่ยเขากระตุกยิ้มร้ายก่อนจะเดินตรงเข้ามาจับตัวฉันไว้ นั่นทำให้ฉันจิ๊ปากอย่างไม่พอใจเมื่อโดนขัดจังหวะ“มาขัดจังหวะทำไมเนี่ย” ฉันทำหน้างองุ้มใส่เขา“ใช่ซะที่ไหนล่ะครับหึ ๆ” เขากระตุกยิ้มก่อนจะเดินมาข้างเตียงอาบแดด ผลักตัวฉันลงจนแผ่นหลังสัมผัสกับแผงอกพี่อเล็กซ์ จากนั้นก็ขึ้นนั่งคร่อมบนตัวฉันส่งท่อนเอ็นมหึมาถูไถที่ร่องสวาท ทั้งที่ในนั้นยังมีความเป็นชายของพี่อเล็กซ์สอดใส่อยู่“อย่าบอกนะว่า” ฉันหน้าถอดสีเล็กน้อยเมื่อรู้ว่

หลังกลับจากเที่ยวแล้วฉันต้องพักฟื้นตัวหนึ่งอาทิตย์อย่างที่บอกจริง ๆ พวกเราไม่ได้มีอะไรกันเลยในช่วงนั้น แต่ทว่าเขาทั้งสองยังคงเทียวมาหาฉันที่ห้องทุกวันไม่เคยขาด บางวันมาเพียงคนเดียวบางวันมาพร้อมกันทั้งสองคน ทำให้รู้สึกว่าพวกเราจริงจังกับฉันมากแค่ไหนตอนนี้ฉันกับยัยจอยนั่งสนทนากันอยู่ที่โต๊ะข้างคณะที่ประจำ เราพูดคุยถึงเรื่องของกันและกันอย่างถึงพริกถึงขิง ตอนนี้ยัยจอยมีเสี่ยใจป้ำเลี้ยงดูไปซะแล้ว ไม่ต้องหาลูกค้าเหมือนที่ผ่าน ๆ มา แม้ว่าจะเป็นแค่เมียเก็บแต่ก็ยังดีกว่าไปมีอะไรกับผู้ชายไม่ซ้ำหน้า“ฉันดีใจด้วยนะแกถึงเป็นน้อยแต่ก็ยังดีกว่าไปมีอะไรกับผู้ชายไม่ซ้ำหน้าเหมือนแต่ก่อน”“ขอบใจย่ะ ฉันก็คิดเหมือนกับแกนั่นล่ะ อย่างน้อยเสี่ยก็รับฉันได้แถมยังดูแลฉันดีอีกต่างหาก” ยัยจอยอมยิ้มเมื่อเอ่ยถึงเสี่ยคนนั้น“เห็นอย่างนี้ฉันก็ดีใจ จะได้ไม่ต้องเป็นห่วงแกมากเหมือนเมื่อก่อน”“ถ้าจะเป็นห่วงเหมือนเดิมฉันก็ไม่ว่าอะไรนะยะ”“จ้าห่วงเหมือนเดิมนั่นล่ะ ยังไงเราก็มีกันแค่นี้ถ้าไม่ให้ห่วงแกจะให้ห่วงใครล่ะ” ฉันยิ้มให้ยัยจอย“ฉันรักแกที่สุดยัยเพื่อนรัก” แม้ว่าจะเป็นเพื่อนกันมานานแต่มันก็ไม่เคยบอกรักฉันมาก่อน รู้สึ

ตอนนี้ฉันนั่งอยู่หน้ากระจกเงาโต๊ะเครื่องแป้ง แต่งแต้มเครื่องสำอางแบรนด์ดังบนใบหน้าเรียวรูปไข่ให้ดูมีชีวิตชีวาขึ้น หากไม่ได้แต่งหน้าฉันก็จะดูเป็นเด็กสาวใส ๆ น่ารัก ๆ แต่ทว่าหากแต่งแล้วความน่ารักใส ๆ นั้นกลับหายไปในพริบตา กลายเป็นสาวเปรี้ยวเฉี่ยวเริด ฉันลงลิปสีแดงสดบนริมฝีปากบาง ดวงตากลมโตถูกแต่งแต้มให้มีสีสันด้วยอายแชโดว์สีน้ำตาลเข้ม คิ้วโก่งถูกขีดเขียนให้มีความคมชัดโดนเด่น เมื่อเสร็จฉันก็มองดูตัวเองในกระจกแล้วยิ้มด้วยความพอใจ คืนนี้ฉันจะต้องเป็นดาวเด่นในผับให้ได้Rrrrr….ขณะกำลังปัดแก้มอยู่นั้นก็มีสายโทรเข้ามา ฉันรู้ทันทีว่าเป็นสายของใคร ไม่พี่อเล็กซ์ก็พี่คิมแน่นอน เพราะช่วงเวลานี้หากเขาไม่ได้มาหาฉันที่คอนโด ก็จะโทรมาเช็กว่าฉันอยู่ที่ห้องหรือไม่ทำราวกับฉันเป็นนักโทษซะอย่างนั้น“ฮัลโหลที่รัก” เป็นสายพี่อเล็กซ์นั่นเองที่โทรมา(ตอนนี้อยู่ไหนครับที่รัก)“อยู่ห้องสิคะดึกดื่นขนาดนี้แล้วจะไปไหนได้ แล้วที่รักอยู่ไหนคะเนี่ย” ฉันถามกลับบ้าง(พี่กำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่ที่บ้านครับ คิดถึงที่รักเลยโทรมาหากลัวว่าเราจะไปเถลไถล)“คิดถึงเหมือนกันค่ะที่รัก หนูไม่ใช่คนแบบนั้นซะหน่อยเดี๋ยวก็จะนอนแล้วเนี่