บททั้งหมดของ อ่านใจทรราช สนมปลาเค็มถล่มวังหลัง: บทที่ 321 - บทที่ 330

388

บทที่ 321

ประตูตำหนักปิดกั้นเสียงประชดจากโลกภายนอกไป ภายในห้องทรงพระอักษรอวลอายไปด้วยกลิ่นกำยานจางๆ จากอำพันทะเลฮั่วหลินกำลังตรวจฎีกา หัวคิ้วของเขาขมวดเล็กน้อย รอบกายแผ่รัศมีเคร่งขรึมเย็นชาที่ไม่อนุญาตคนนอกเข้าใกล้ออกมาเมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าที่คุ้นเคย เขาจึงเงยหน้าขึ้นมองก็เห็นเจียงหวนเดินเข้ามาช้าๆ ดวงตาของนางดูไร้ชีวิตชีวาต่างจากเคย สีหน้าก็สงบอย่างผิดปกติ[นี่…เกิดสิ่งใดขึ้นกัน?]ปลายพู่กันของฮั่วหลินลอยอยู่เหนือฎีกา เมื่อเห็นใบหน้าที่สงบเกินไปของเจียงหวน หัวใจของเขาก็พลันกระตุกขึ้นมา[แค่บาดเจ็บเท่านั้น เหตุใดจึงทำให้คนดูหมดอาลัยตายอยากไปได้เล่า?][ราวกับนางพร้อมจะสวดอามิตาพุธ แสดงธรรมโปรดเราทุกเมื่ออย่างนั้น][คงไม่ใช่โกรธจัดจนตัดสินใจออกบวช ไม่ต้องการเราแล้วดอกนะ?]เจียงหวนได้ยินความคิดของเขาแล้ว ก็กลั้นความรู้สึกที่อยากประสานมือเข้าหากันขึ้นมาชั่ววูบ แล้วยิ้มออกมาอย่างสงบ“ฝ่าบาท วันนี้ทรงจัดการงานราชกิจได้ราบรื่นหรือไม่เพคะ?”ฮั่วหลินถูกรอยยิ้มของนางทำให้ขนลุกซู่ “แค่ก ถึงอย่างไรก็มีแต่เรื่องแย่ๆ อยู่แล้ว”[ความห่วงใยที่มาอย่างกะทันหันมักทำให้คนถึงตายได้ทั้งนั้น][เราควรจ
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 322

เจียงหวนถูกการใกล้ชิดอย่างกะทันหันของเขาทำให้ใบหูร้อนผ่าวขึ้นมา แต่นางก็ยังคงถลึงตาใส่เขาอย่างไม่ยอมแพ้“ฝ่าบาท ทรงใช้พระราชอำนาจข่มเหงผู้อื่นนี่เพคะ!”“เราก็แค่กังวลเกินไปจนพลาดพลั้งไปเท่านั้น” ฮั่วหลินหัวเราะเบาๆ ฉวยโอกาสตักโจ๊กช้อนหนึ่งส่งไปที่ปากนาง “เจ้าก็ให้เราได้สมปรารถนาสักครั้งเถิด”เมื่อเห็นเขาแสดงท่าทียอมถอยอย่างหาได้ยาก เจียงหวนจึงใจอ่อน ในที่สุดก็อ้าปากดื่มโจ๊กช้อนนั้นอย่างไม่เต็มใจนัก“อร่อยหรือไม่?” เขาถาม น้ำเสียงทุ้มต่ำและอ่อนโยนเจียงหวนพยักหน้า แก้มแดงร้อนผ่าวเล็กน้อย “อื้ม อร่อยเพคะ”ล้อเล่นน่า! มีเชฟคนไหนบ้างจะทำลายชื่อเสียงตัวเองกันฮั่วหลินตักโจ๊กขึ้นมาอีกช้อน แล้วทำภารกิจป้อนอาหารอันยิ่งใหญ่ของเขาต่อแต่ป้อนไปป้อนมา สายตาของเขาก็เริ่มเปลี่ยนไปเสียแล้วเขามองริมฝีปากที่กำลังเผยอน้อยๆ ซึ่งแดงระเรื่อและอวบอิ่มเป็นพิเศษของเจียงหวน เพราะเปื้อนโจ๊กเล็กน้อยขนตายาวของนางทอดเงาจางๆ อยู่ใต้ดวงตา พวงแก้มแดงก็ระเรื่อราวลูกท้อที่สุกงอม[เหตุใดท่ากินอาหารของนางถึงได้น่ามองเพียงนี้นะ? ช่างชวนให้คนอยากกระทำผิดนัก][เมื่อปากเล็กๆ นั่นเปิดออกและปิดลง ก็ดูน่าอร่อยยิ่ง
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 323

เจียงหวนกัดลิ้นด้วยความตกตะลึงอยู่ในใจ การรับรู้ตัวเองของฮั่วหลินย่ำแย่ขนาดไหนกัน ถึงตั้งคำถามแบบนี้ออกมาได้เขาจำเป็นต้องได้รับการปรับทัศนคติที่เข้มข้นสักรอบจริงๆ“เช่นนั้นฝ่าบาทยังจำเมื่อเดือนก่อน ที่รองเจ้ากรมคลังคำนวณตัวเลขผิดไปตัวหนึ่ง แล้วทรงปาฎีกาใส่หน้าเขาตรงนั้นเลยได้ไหมเพคะ?”ฮั่วหลินย้อนนึกอยู่ครู่หนึ่ง แล้วพูดอย่างมั่นอกมั่นใจในเหตุผลของตนว่า “นั่นเป็นสิ่งที่เขาสมควรได้รับแล้ว”[เจ้าโง่นั่นเกือบทำให้ท้องพระคลังเสียเงินหนึ่งแสนตำลึง เราไม่สั่งให้ริบทรัพย์เขาเข้าส่วนกลาง ก็ถือว่าเมตตามากแล้ว][อีกอย่าง ท่าที่เราเขวี้ยงฎีกาสง่างามจะตาย เรียกได้ว่ากะมุมได้สมบูรณ์แบบที่สุด]“ยังมีวันก่อน” เจียงหวนยกตัวอย่างต่อ “เจ้ากรมกลาโหมเพียงเสนอให้เพิ่มเสบียงอาวุธของกองทัพที่ชายแดน ก็ทรงลงโทษให้เขาคุกเข่านานถึงสองชั่วยาม”ฮั่วหลินแค่นเสียงเย็นทีหนึ่ง “เสบียงยุทโธปกรณ์ของทหารชายแดนเพิ่งเพิ่มไปเมื่อปีที่แล้ว เขากำลังพยายามหากำไรจากเรื่องนี้ชัดๆ”[เราสืบจนกระจ่างนานแล้ว น้องเขยของเขาทำกิจการเกี่ยวกับของใช้ทางทหาร เขาคิดจะลากคนทั้งตระกูลมาเกาะราชสำนักของเรา แล้วยังไม่ยอมให้เราอารมณ์เสีย
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 324

“อย่างนั้นตอนนี้” นางชี้ไปที่โจ๊กบนโต๊ะ “ฝ่าบาทควรเสวยพระกระยาหารได้แล้วเพคะ โจ๊กใกล้จะเย็นหมดแล้ว”แต่ฮั่วหลินกลับไม่ยอมปล่อยมือ “ขอเรากอดอีกหน่อยเถิด”[นุ่มนวล หอมกรุ่น สบายกว่าการตรวจฎีกาเยอะเลย!][เฮ้อ นี่ต่างหากจึงจะเรียกว่าชีวิต]ทั้งคู่แลกเปลี่ยนไออุ่นซึ่งกันและกันอยู่ครู่หนึ่ง เจียงหวนถึงได้เกลี้ยกล่อมให้ฮั่วหลินกินข้าวจนหมดได้เมื่อเห็นเขากลืนโจ๊กคำสุดท้ายลงคอ นางก็ถึงกับถอนใจอย่างโล่งอก ก่อนจะลุกขึ้นยืนแล้วเก็บกล่องอาหาร“ฝ่าบาท ต้องทรงจำสิ่งที่สัญญากับหม่อมฉันไว้นะเพคะ” นางเตือนเขาก่อนจากไป “ต้องพักผ่อนให้ตรงเวลา และอย่า...”ฮั่วหลินยิ้มน้อยๆ แล้วตอบว่า “อย่าโมโหบ่อย เรารู้แล้ว”[ถึงจะรู้สึกแปลกอยู่บ้าง ว่าเหตุใดนางจึงทำเหมือนอยากส่งเราออกบวชนัก][แต่ช่างเถิด วันนี้นางคุยกับเรามากเหลือเกิน][ไชโย สวัสดิการของเราได้เลื่อนขั้นแล้ว!]หลังจากประตูตำหนักปิดลง รอยยิ้มบนใบหน้าของฮั่วหลินก็ค่อยๆ จางหายไปเขาคลึงขมับแล้วหยิบพู่กันแต้มชาดขึ้นมาอีกครั้ง จากนั้นก็พิจารณาฎีกาที่กองเป็นภูเขานั่นต่อไปเวลาผ่านไปทีละน้อย ท้องฟ้านอกหน้าต่างค่อยๆ มืดลงแล้วหวังเต๋อกุ้ยย่องเข้ามา
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 325

เช้าวันรุ่งขึ้น บรรยากาศในราชสำนักน่าขนลุกเป็นพิเศษเหล่าขุนนางต่างหลุบสายตาลงต่ำ จ้องอยู่แต่ปลายจมูกของตนโดยไม่กล้าแม้แต่จะหายใจแรง บางครั้งก็แอบมองฮ่องเต้ที่อยู่บนบัลลังก์มังกร แล้วรู้สึกว่ามีความหนาวเย็นแล่นผ่านกระดูกสันหลังไปวันนี้ฮ่องเต้ทรงเป็นอันใดไป?ไม่ทรงเขวี้ยงฎีกาแล้ว และไม่ทรงเกรี้ยวกราดอีกด้วย ในดวงพระเนตรปราศจากกิเลสทั้งมวล ราวกับทรงกลายเป็นพระพุทธรูปในแดนโลกีย์ไปแล้วแปลก! แปลกเกินไปแล้ว!รองเจ้ากรมคลังก้าวออกมาด้วยอาการสั่นเทา ฎีกาที่ถืออยู่ในมือหนักอึ้งดั่งพันชั่ง เสียงของเขาสั่นจนดูไม่ได้“ทูล ทูลฝ่าบาท... รายได้จากภาษีของมณฑลเจียงหนานปีที่แล้วคำนวณผิดพลาด เกือบครึ่งหนึ่งต่ำกว่าความเป็นจริงพ่ะย่ะค่ะ...”เขายิ่งพูดเสียงก็ยิ่งแผ่วลง เหงื่อเย็นไหลรินลงมาตามจอนผมหรือนี่จะเป็นทักษะใหม่ที่ฝ่าบาททรงคิดขึ้นมาเพื่อควบคุมเหล่าขุนนาง? ช่างลึกล้ำยากหยั่งถึงยิ่งนักภายในท้องพระโรงเงียบสงัดจนสามารถได้ยินเสียงเข็มตกฮั่วหลินเลิกเปลือกตาขึ้นเล็กน้อย สายตากวาดมองไปยังรองเจ้ากรมคลังที่กำลังสั่นเทาเหมือนตะแกรงร่อนอยู่เบื้องล่างจากที่ประทับด้านบน เขาเงียบงันไปครู่หนึ่ง[จากห
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 326

จบแล้ว จบกัน เกรงว่าวันนี้คงตกอยู่ในสถานการณ์เสี่ยงตายแล้วในเวลาเดียวกัน ภายในตำหนักเว่ยยางเจียงหวนกำลังฝันหวานอยู่ จู่ๆ ก็มีเสียงเอะอะดังรบกวนจนตื่นขึ้นมา“เสียงดังอะไรกัน...” เจียงหวนพึมพำ ยังนอนไม่พอเลยพลิกตัวพันผ้าห่มไปรอบหนึ่ง แล้วซุกหน้าลงกับหมอนลึกกว่าเดิมเสี่ยวเจาเลิกผ้าม่านขึ้นเล็กน้อยอย่างเร่งร้อน แล้วมองเจียงหวนด้วยสีหน้าที่หัวเราะไม่ได้ร้องไห้ไม่ออก“พระสนม ท่านหญิงหมิงจูส่งคนมาเพคะ”“หมิงจู?”เจียงหวนพยายามดึงตัวเองออกจากความฝัน ผมยุ่งเหยิงของนางชี้ฟูรีบร้อนแต่เช้าตรู่แบบนี้ คงไม่ใช่ว่า ไทเฮาจับนางแต่งงาน แล้วนางกำลังโวยวายหนีงานแต่งหรอกนะ?“ท่านหญิงให้คนส่งของขวัญมาจำนวนมาก บอกว่าเป็นการขอโทษเพคะ”เจียงหวนเอียงหัว ขยี้ตาตัวเอง ก่อนจะถูกเสี่ยวเจาพยุงขึ้นมาล้างหน้าหวีผมอย่างง่ายๆก่อนที่นางจะเดินออกจากประตูตำหนัก ก็ถูกสิ่งของมากมายมหาศาลที่อยู่ตรงหน้า ทำให้ตกตะลึงจนปากอ้าตาค้างพระเจ้า เรียกได้ว่าแน่นจนแทบไม่มีที่เดินถ้าเป็นยุคนี้ ตำหนักเว่ยยางคงกลายเป็นพิพิธภัณฑ์ไปแล้วท่านหญิงคงไม่ได้ขนหม้อรามชามไหจากบ้านตัวเองมาให้นางหมดหรอกนะก็เห็นลานว่างที่เคยกว้
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 327

ณ ตำหนักข้างของตำหนักฉู่ซิ่วในตอนที่ถูกนางกำนัลดึงออกมาจากผ้าห่ม เหอหลิงก็รู้สึกเหมือนว่า วิญญาณของเธอยังอยู่ในนั้นอยู่เลย“นายหญิงน้อยรีบตื่นเถิดเพคะ ถึงเวลาไปแสดงความเคารพต่อพระสนมลี่เฟยแล้ว หากช้ากว่านี้ก็จะสายจริงๆ แล้วนะเพคะ”นางกำนัลพูดอย่างรวดเร็ว มือของนางก็ขยับอย่างว่องไวเช่นกัน บิดผ้าเช็ดหน้าจนชื้นแล้วโปะลงบนใบหน้าของเหอหลิงทันทีเหอหลิงหลับอย่างสะลึมสะลือ ความปวดร้าวบริเวณหัวเข่ายังคงร่ำร้องถึงความทรมานที่เกิดขึ้นเมื่อวาน สมองของเธอสับสนไปหมด เลยปล่อยให้นางกำนัลจัดการสวมชุดชาววังให้ตามใจเหอหลิงหาว พลางโหยหวนอยู่ในใจ[ขาของฉันยังเจ็บอยู่เลย เมื่อวานคุกเข่าจนเดินกะเผลกแล้ว วันนี้ยังต้องไปคารวะเช้าให้ตัวต้นเหตุอีก โลกนี้มันอะไรกันเนี่ย!][คะแนนจากการทำภารกิจไม่ได้ตกลงมาจากฟ้าหรอกนะครับ]เสียงอิเล็กทรอนิกส์ดังขึ้นข้างหูเธออย่างไม่ทันตั้งตัว [ลี่เฟยเป็นพระสนมชั้นสูง ตามกฎของวัง การไปทักทายทุกเช้าคือเรื่องที่ต้องทำ นี่ถือเป็นก้าวแรกสู่ศูนย์กลางอำนาจของคุณ ของในห้างสรรพสินค้าชั้นสูงกำลังกวักมือเรียกคุณอยู่ รีบดึงความกล้าออกมาเร็วครับ]เหอหลิงถอนใจ กัดฟันฮึดแล้วพานางกำน
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 328

เหอหลิงราวกับได้รับการอภัยโทษ เธออยากลุกขึ้นยืนทันที แต่พบว่าขาไร้ความรู้สึกไปนานแล้ว มันแข็งทื่อจนไม่เชื่อฟังคำสั่งอีกนางกำนัลต้องรีบเข้ามาประคอง ถึงช่วยพยุงเธอให้ยืนขึ้นมาอย่างทุลักทุเลได้“ขอบพระทัยพระสนมที่ทรงสั่งสอนเพคะ”ใบหน้าของเธอซีดเผือดเหมือนกระดาษ ริมฝีปากแห้งแตก เธอยอบร่างคำนับลี่เฟยอย่างต่ำ ในใจเบิกบานเหมือนได้เข้าสู่ทิวทัศน์อันงดงามจากนั้นก็ลากขาที่แทบพิการทั้งสองข้าง เดินโซซัดโซเซออกจากตำหนักของลี่เฟยไปทันทีที่ออกมาจากตำหนัก แล้วถูกแสงแดดอุ่นๆ ของต้นฤดูร้อนสาดใส่ เหอหลิงก็รู้สึกหน้ามืดจนเกือบล้มลง“โฮสต์ อดทนหน่อยครับ”เสียงของระบบดังขึ้นอย่างร้อนใจเล็กน้อย“ตอนนี้ไม่ใช่เวลามาพักผ่อน ตามแผนการเดินทางล่าสุด ขณะนี้ฮ่องเต้ได้เลิกประชุมราชสำนักแล้ว นี่เป็นเวลาที่เหมาะจะพบฮ่องเต้ที่สุด”เหอหลิงหอบหายใจ น้ำตาเอ่อคลอเบ้าช่างไร้มนุษยธรรมสิ้นดี![ขาฉันแม้แต่ยืนตรงยังทำไม่ได้เลย แล้วจะไปเจอเขาได้ยังไง][แผนทรมานสังขารไงครับ โฮสต์! นี่เป็นโอกาสที่ฟ้าประทานชัดๆ!]เสียงของระบบดังขึ้นสูง แฝงไปด้วยการหลอกล่อ[ท่าทางน่าสงสารในตอนนี้ของคุณ คืออุปกรณ์ประกอบฉากที่ดีที่สุด
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 329

ฮั่วหลินถูกเสียงเรียก “ฝ่าบาท” นี้ทำให้ชะงักฝีเท้าลง เขาเหลือบมองเหอหลิงที่ยังคงคลานอยู่บนพื้นอย่างเย็นชาเป็ดของใครมาตกอยู่ที่นี่ ร้องเสียงแหลมเชียว? ใครไม่รู้คงคิดว่าเขาทำอะไรนางสมัยนี้ พวกนักต้มตุ๋นมั่นใจขนาดนี้แล้วหรือ?เขาดูเหมือนเหยื่อโง่ๆ นักหรือไร?เมื่อถูกสายตาเย็นชานั้นตวัดมองมา เหอหลิงก็หดคอทันทีราวกับนกกระทาที่หวาดกลัว หยาดน้ำตากลิ้งไปมาอยู่ในเบ้าตา“ฝ่า ฝ่าบาท...” เสียงของเธอแผ่วลงทันที มันระคนด้วยเสียงสะอื้น “หม่อม หม่อมฉันไม่ได้ตั้งใจเพคะ...”ฮั่วหลินมองนางอย่างไร้ความรู้สึก เสียงของเขาเย็นชาดุจน้ำแข็ง“ถ้าขาไม่ดีก็จงอยู่ในห้อง อย่าได้มาวนเวียนต่อหน้าเราอีก ไม่เช่นนั้น วันหลังเราจะทำให้เจ้าได้แต่คลานเท่านั้น”กล่าวจบ ก็สาวเท้าจากไปทันทีโดยไม่หันหลังกลับมองเหอหลิงยืนตะลึงงัน น้ำตาหยดแหมะลงมาอย่างขลาดกลัว[ฮือ... ฮือฮือ... เขาน่ากลัวเป็นบ้าเลย...][เขายังจะหักขาฉันด้วย เขาต้องเกลียดฉันแน่เลย! ฮือฮือ... ฮือ...]ร่างกายของเหอหลิงยังคงสั่นสะท้าน หยดน้ำตาร่วงหล่นลงมาราวกับลูกปัดที่สายร้อยขาด[โฮสต์ ตั้งสติหน่อยครับ!]เสียงอิเล็กทรอนิกส์ของระบบเจือไปด้วยความร้อน
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 330

[ถ้าอย่างนั้น ฉันส่งยาไปคงถูกใจเธอแน่][ขอฉันดูหน่อยซิว่า 3 คะแนน จะแลกอะไรได้บ้าง]เหอหลิงกัดฟันแล้วเปิดหน้าจอของระบบขึ้นมาในใจ โดยไม่สนใจเสียงเตือนของระบบ เปิดห้างสรรพสินค้าระดับต่ำสุดที่ล้ำค่าหาใดเปรียบสำหรับเธอทันทีของข้างในมีไม่มากนัก ส่วนใหญ่จะเป็นสีเทา มีที่ ‘สว่าง’ อยู่ไม่กี่อย่างเท่านั้นแค่เหลือบมองไป เธอก็เห็นยาหลอดเล็กที่มุมห้อง ซึ่งระบุไว้ว่าเป็น ‘ยารักษาบาดแผลไฟไหม้น้ำร้อนลวกสูตรพิเศษ’ ทันที คะแนนที่ใช้แลกคือ 3 แต้มนี่เป็นโบนัสจากแพ็กเกจของขวัญสำหรับมือใหม่ และเป็นสมบัติทั้งหมดที่เธอมีด้วย[แลก!]เหอหลิงกดโดยไม่ลังเล[คำเตือน คำเตือน โฮสต์ คุณแน่ใจหรือว่าต้องการแลกคะแนนอันล้ำค่าเป็นสินค้าไร้ประโยชน์?][ใครบอกว่าไร้ประโยชน์? นายอย่ามาห้ามฉันจากการเกาะคนหนุนหลังชั้นยอด แลก!] เหอหลิงทุ่มสุดตัวแล้ว[การแลกสำเร็จ! คะแนน 3 แต้ม คะแนนปัจจุบัน 0 แต้ม] ระบบขบเขี้ยวเคี้ยวฟันแสงจางๆ วาบขึ้น เหอหลิงรู้สึกว่ากระเป๋าแขนเสื้อหนักขึ้นเล็กน้อย มีวัตถุเย็นเฉียบขนาดเล็กเพิ่มขึ้นมาเธอได้ของมาแล้วจริงๆ!เธอรีบดึงมันออกมาดูด้วยความดีใจ หลอดบีบโลหะสีเงินยวงปรากฏขึ้นในมือของเธอ
อ่านเพิ่มเติม
ก่อนหน้า
1
...
3132333435
...
39
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status