All Chapters of หย่าเสร็จ ท่านประธานฉวยโอกาสเป็นสามีใหม่: Chapter 11 - Chapter 20

44 Chapters

บทที่ 11

บทที่ 11สวีเหยียนซียังคงอึ้งเหมือนกับสมองค้างไปไม่แปลกที่เธอจะเผลอคิดเข้าข้างตัวเอง เพราะไม่ว่าจะเป็นทางเล็ก ๆ นี้หรือประตูบานนี้ โดยเฉพาะที่จ้าวจวิ้นโจวยังให้เธออาศัยอยู่ที่ว่านจิ่นฟุ เรสซิเด้นซ์ จากสิ่งต่าง ๆ มากมายเหล่านี้ หลายครั้งทำให้เธอเผลอคิดไปว่าจ้าวจวิ้นโจวตั้งใจเตรียมทั้งหมดนี้ไว้ให้เธอล่วงหน้าเหมือนกับในตอนแรก เขาพูดอย่างมั่นใจไว้ว่าเธอจะไม่มีทางคบกับฉินเซียวได้นานสามปีต่อมา ก็เป็นจริงตามที่เขาพูดไว้เหลวไหลสิ้นดี แต่ถ้าเป็นเรื่องของจ้าวจวิ้นโจวกลับดูสมเหตุสมผลอย่างยิ่ง เพราะว่าเขามีอำนาจบารมี ไม่มีใครเทียบเขาได้ และทำอะไรก็ได้ตามใจตัวเองในเมืองจิงสวีเหยียนซีไม่เข้าใจเลย ทั้งที่เขาเหนือกว่าใคร ๆ และร่ำรวยขนาดนี้ คงจะชอบเธอตั้งแต่แรกเห็น แล้วทำไมถึงต้องมาเสียเวลาเดิมพันกับเธอถึงสามปีเต็มความคิดของพวกคุณชายบ้านรวยทำไมถึงได้แตกต่างจากคนปกติขนาดนี้ว่างจนไม่มีอะไรทำงั้นเหรอ?ตอนที่กำลังคิดอะไรเพลิน ๆ ใครบางคนก็จับข้อมือขวาเธอไว้ แล้วจับหัวแม่มือขึ้นมากดสแกนลายนิ้วมือสวีเหยียนซีสะดุ้งโหยง พอรู้ตัวก็อยากจะดึงมือกลับมา แต่กลับโดนจับไว้แน่นจ้าวจวิ้นโจวยังคงกดสแกน
Read more

บทที่ 12

บทที่ 12“เข้าใจผิดอะไรกัน ฉันจะเข้าใจอะไรผิดได้ ฉินเซียวนอกใจเธอตอนยังไม่หย่า แล้วทำไมเธอจะทำบ้างไม่ได้”“…” เอาเถอะ สกิลปากของเพื่อนสนิทเหมือนจะเทียบกับสกิลปากของจ้าวจวิ้นโจวได้เลย“เธอรู้ดีนี่ ว่าฉันไม่ได้หมายความอย่างนั้น”“ฉันเข้าใจ”“กลับเข้าเรื่องดีกว่า เธอจะหย่ากับเขาอยู่แล้ว แถมเธอยังทำงานกับจ้าวจวิ้นโจว เธออนุญาตให้เขาไปหาชู้รักได้ แต่ทำไมจะไม่ให้เธอไปหาเจ้านายบ้างล่ะ?”ประโยคนี้… ฟังดูแปลก ๆ“เคยคุยกันแล้วไม่ใช่เหรอ ว่าอย่าพาตัวเองไปอยู่ภายใต้คุณธรรมให้มากเทานไป ดูสิหลายปีที่ผ่านมา ความผูกมัดจากคุณธรรมเหล่านี้ ทำร้ายเธอขนาดไหน”โหยวฉีเริ่มชี้นำเธอ “ไม่ว่าเธอจะใช้ความชอบของจ้าวจวิ้นโจวหรือการเดิมพันในตอนนั้นที่เป็นเหตุผลเลือกเข้าหาเขา แต่แผนนี้ ฉันคิดว่าครั้งนี้เธอเลือกถูกที่สุดแล้วนะ”“จ้าวจวิ้นโจวเป็นใคร ทีมของเขามีอิทธิพลและความสามารถสูงขนาดไหน เธอเอาเขามาเป็นที่พึ่ง ตระกูลสวีหรือแม้แต่ฉินเซียวก็ไม่กล้าแสดงอำนาจต่อหน้าเขาเลย”…ประโยคนี้ยิ่งแปลกขึ้นอีกโหยวฉีพูดอย่างจริงจังว่า “บริหารเสน่ห์ของเธอ แสดงศักยภาพความเป็นมืออาชีพของเธอออกมา ไม่ว่าสุดท้ายแล้วจ้าวจวิ้นโจวจ
Read more

บทที่ 13

บทที่ 13จอขนาดใหญ่ปรากฏหน้าเว็บไซต์ท่ามกลางความคาดหวังบนใบหน้าของทุกคน สวีเหยียนซีกรอกชื่อบัญชีผู้ใช้และรหัสผ่านอย่างคล่องแคล่วชั่วพริบตา บัญชีส่วนตัวของอาซีย่าก็เด้งขึ้นมาบนหน้าจอความเคลื่อนไหวล่าสุดยังคงเป็นเมื่อครึ่งปีก่อนห้องประชุมพลันฮือฮาขึ้นมาอีกครั้ง“เป็นอาซีย่าจริง ๆ!”“โอ้โห! บอสสุดยอดจริง ๆ นี่ผมจะได้ทำงานกับไอดอลของผมจริง ๆ หรือนี่?!”“บอส พอจะบอกได้ไหมครับว่าใช้เงินเท่าไหร่ถึงดึงตัวอาซีย่ามาได้?”จ้าวจวิ้นโจวนั่งพิงหลังอย่างสบาย ๆ ก่อนเผยรอยยิ้มที่ได้เห็นความตื่นเต้นของพวกเขาที่พูดซ้ายทีขวาที ไม่มีท่าทีจะรำคาญเลยแม้แต่น้อยในสายตาของสวีเหยียนซี เป็นเรื่องที่คาดไม่ถึงจริง ๆบรรยากาศภายในทีมดีมาก แล้วดูเหมือนว่าลูกน้องพวกนี้จะไม่หวาดกลัวจ้าวจวิ้นโจวเลยแม้แต่น้อยถ้าเธอจำไม่ผิดล่ะก็ ทีมนี้จ้าวจวิ้นโจวเป็นคนนำทีมด้วยตัวเอง ดังนั้นความสัมพันธ์จึงไม่เหมือนทีมอื่นมั้งจ้าวจวิ้นโจวเอ่ยปากเตือนว่า “เรื่องที่สวีเหยียนซีคืออาซีย่า เมื่อเปิดประตูนี้ พวกคุณต้องเก็บไว้เป็นความลับ เข้าใจไหม?”ทุกคนพยักหน้า รับรองว่าจะไม่แพร่งพรายเรื่องนี้ออกไปเด็ดขาดเมื่อคุยกันจบ จ้าว
Read more

บทที่ 14

บทที่ 14เมื่อเห็นว่าเธอไม่แยแส ฉินเซียวก็ใจหายวาบ “ที่รัก?”สวีเหยียนซีจ้องมองเขาแล้วพูดว่า “ฉินเซียว เราหย่ากันเถอะ”“หย่า?” ฉินเซียวถึงกับเสียงหลง“ที่รัก มันต้องถึงขนาดนี้เลยเหรอ? เรื่องเมื่อคืน พ่อแม่กับพี่ใหญ่ก็เข้าใจผิดกันหมด ทำไมคุณถึงโกรธแค่ผมหนักขนาดนี้ แม้แต่เรื่องหย่าก็พูดออกมาได้”“ผมรู้ว่าคุณโกรธมาก แต่เรื่องหย่าไม่ควรพูดนะ เราอยู่ในช่วงแต่งงานใหม่นะ”“ช่วงแต่งงานใหม่?” สวีเหยียนซีเค้นเสียงหัวเราะออกมาก่อนพูดว่า “คืนวันจดทะเบียนสมรส เมื่อวานตอนเที่ยง รวมทั้งเมื่อคืนในห้องของสวีหว่านหนิง ต้องให้ฉันอธิบายรายละเอียดให้ชัดเจนไหม?”ทันทีที่พูดประโยคนี้ออกมา ฉินเซียวถึงกับหน้าถอดสีเธอรู้ได้ยังไง?!สวีเหยียนซีแสดงสีหน้าเยาะเย้ยก่อนพูดว่า “ยังคิดว่าไม่ถึงขึ้นที่ต้องหย่าอีกเหรอ?”ฉินเซียวรู้ทันทีว่าปัญหานี้ร้ายแรง เขาไม่พูดอะไรสักคำ คุกเข่าลงตรงหน้าเธอทันที “คุณฟังผมอธิบายก่อน”“อย่าเอามือสกปรกของคุณมาแตะต้องตัวฉัน!” สวีเหยียนซีสะบัดมือเขาออก พร้อมแสดงท่าทางโกรธจัดและรังเกียจ“ที่รัก คุณใจเย็นก่อน ฟังผมอธิบายก่อน”“อธิบาย?” สวีเหยียนซีมองเขาที่คุกเข่าด้วยสายตาเย็นชาก
Read more

บทที่ 15

บทที่ 15สวีเหยียนเช่อมีแววตาอำมหิต มือค่อย ๆ บีบแรงขึ้น “ไอ้เด็กเวร มึงคิดว่าตระกูลสวีของฉันจะไม่มีใครหนุนหลังซีซีแล้วเหรอ?”เห็นได้ชัดด้วยตาเปล่าว่าหน้าของฉินเซียวแดงเหมือนสีตับหมู สวีเหยียนเช่อจับแขนเขาไว้ พูดไม่ออกแม้แต่คำเดียวสวีเหยียนซีที่ยืนอึ้งอยู่ที่เดิมมองประตูที่เปิดอยู่ แล้วหันไปมองพวกเขา เมื่อเห็นใบหน้าฉินเซียวดูผิดปกติ เธอจึงส่งเสียงออกไปว่า “พี่ใหญ่ พี่จะบีบคอเขาให้ตายเลยเหรอคะ?”สวีเหยียนเช่อถึงใจเย็นลงและปล่อยมือออก ก่อนจะหันหน้ามาหาสวีเหยียนซีด้วยใบหน้าที่อ่อนโยน “ซีซี เธอได้รับบาดเจ็บตรงไหนไหม?”เธอถอยไปข้างหลัง ไม่ให้เขามีโอกาสได้แตะตัวฉินเซียวที่ยืนชิดกำแพงด้านหลังโกรธอย่างสุดขีด พูดว่า “พี่ใหญ่ นี่มันเรื่องของผัวเมีย พี่ไม่ควรมายุ่งนะ?”“เรื่องของผัวเมีย?” คำพูดไม่กี่คำในชั่วพริบตาเดียวทำให้สวีเหยียนเช่อไม่สบายใจ “มึงมาปั่นหัวน้องสาวกูทั้งสองคน ในฐานะพี่ชายคนโต กูไม่ยุ่งไม่ได้?”ฉินเซียวขบฟันแน่น“ซีซีจะหย่ากับมึง ถ้ามึงกล้าปฏิเสธล่ะก็ กูจะทำให้มึงเสียของที่มึงรักที่สุดไป มึงเชื่อไหม?” สวีเหยียนเช่อข่มขู่เขาฉินเซียวกำมือแน่นก่อนพูดว่า “หยุดเอาคำพูดแบบ
Read more

บทที่ 16

บทที่ 16อีกทั้งสามารถจิตนาการได้เลยว่าตอนนั้นสวีเหยียนเช่อต้องยืนฟังเธอกับฉินเซียวทะเลาะกันอยู่หน้าประตูแน่ ๆและเมื่อนึกขึ้นได้ว่าเมื่อคืนเขาส่งคนมาสะกดรอยตาม ตอนนี้สวีเหยียนซีก็รู้สึกเสียวสันหลังวาบแม้ว่าสวีเหยียนเช่ออยากจะเห็นเธอหย่า เพื่อช่วยให้สวีหว่านหนิงบรรลุเป้าหมาย แต่วิธีการสอดแนมเธอแบบนี้ มันเกินไปหน่อยหรือเปล่า“เพื่อนนักเรียนสวี มีบางประโยคไม่รู้ว่าควรหรือไม่ควรพูด”“เพื่อนนักเรียนโหยว พวกเรายังทานข้าว อย่าสิ้นเปลืองอาหาร จะโดนฟ้าผ่าตายนะ”โหยวฉีเงียบไปสองวินาที ในที่สุดก็ทิ้งตะเกียบ ก่อนพูดว่า “ไม่ได้ ฉันทนไม่ได้! เธอแน่ใจนะว่าสวีเหยียนเช่อแค่จะช่วยน้องสาวแท้ ๆ เร่งรัดให้เธอหย่า? ทำไมฉันรู้สึกว่าเขามีเจตนาแอบแฝง ใช่ พวกเธอเป็นพี่น้อง แต่ไม่ใช่สายเลือดเดียวกัน”มือที่ถือตะเกียบของสวีเหยียนซีสั่น “โหยวฉี ฉันไม่กล้าคิด”โหยวฉีรู้ว่าเธอกำลังกลัว จึงยื่นออกไปกอดเธอ “ถุยถุยถุย คิดมากไปแล้วคิดมากไปแล้ว”“แต่ว่า… ไม่น่าจะคิดมากไป”“ซีเอ๋อร์”“ฉันจะหย่ากับฉินเซียวแน่นอน แต่พี่ใหญ่ฉันคิดไม่ดีกับฉัน ฉันต้องอยู่ห่าง ๆ เขา แต่ถ้าโดนตระกูลสวีหรือคนนอกรู้เข้าล่ะก็ ฉันไม่รู้
Read more

บทที่ 17

บทที่ 17สวีเหยียนซีพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ท่านรองเหมาคุณพูดเล่นแล้ว ดิฉันจะมีโอกาสรู้จักอาจารย์อาซีย่าได้ยังไงล่ะคะ แต่อาจารย์อาซีย่าเป็นไอดอลของฉันค่ะ การออกแบบของเธอดิฉันเคยศึกษาดูแล้ว ดังนั้นดิฉันก็เลยเรียนรู้ตามแนวคิดการออกแบบของเธอค่ะ”“แบบนี้นี่เอง” เหมารุ่ยเฟิงพยักหน้าอย่างเข้าใจสวีเหยียนซีจิบเครื่องดื่มพอเป็นพิธี เหลือบตามองแล้วสังเกตเห็นจ้าวจวิ้นโจวส่งสายตายิ้มล้อเลียนมายังเธอ แต่เธอก็ยังจิบเครื่องดื่มต่อไปเรื่องการเจรจาที่เหลือเธอไม่จำเป็นต้องเอ่ยปากอีก เธอแค่คอยนั่งฟังเมื่อมื้ออาหารนี้จบลง หลังจากส่งเหมารุ่ยเฟิงกลับไป จ้าวจวิ้นโจวหันกลับไปถามเธอว่า “รถของคุณล่ะ?”สวีเหยียนซียกมือขึ้นชี้ จ้าวจวิ้นโจวเหลือบมองไป ก่อนถามเธอว่า “กลับบริษัท หรือกลับไปจัดการเรื่องส่วนตัวคุณต่อล่ะ?”คำถามนี้ทำให้เธอทำตัวไม่ถูกก่อนตอบว่า “กลับบริษัทค่ะ”“อืม ทางผ่านพอดี งั้นผมขอติดรถไปด้วย” พูดจบ จ้าวจวิ้นโจวก็ก้าวเท้าไปยังรถของเธอที่จอดอยู่เมื่อได้ยินดังนั้น สวีเหยียนซีเดิมทีตั้งใจพูดออกไปว่า “คุณมีรถโรลส์-รอยซ์ไม่ใช่เหรอคะ?” แต่เมื่อมองไปรอบ ๆ ก็ไม่เห็นแม้แต่เงาของผู้ช่วยฟาง และรถโรลส์-ร
Read more

บทที่ 18

บทที่ 18ผ่านไปชั่วครู่ เธอจึงพูดอย่างประนีประนอมว่า “ฉันไปคฤหาสน์จวี๋ซานค่ะ”หลังจากนั้นไม่นาก็มาถึงบริษัทย่าซั่วสวีเหยียนซีจอดรถเสร็จ จ้าวจวิ้นโจวก็ลงจากรถ เธอสายตาไวสังเกตเห็นว่าไฟแช็กถูกวางไว้ในช่องเก็บของที่ประตูรถเธอหยิบไฟแช็กขึ้นมาแล้วลงจากรถเดินตามเขาไป “ท่านประธานจ้าวคะ ไฟแช็กคุณหล่นในรถฉันค่ะ”จ้าวจวิ้นโจวยืนอยู่หน้าลิฟต์ เขาเอียงหน้ามองเธอ แล้วรับไฟแช็กมาอย่างมีนัยบางอย่าง “สถาปนิกสวีสายตาดีจังเลยนะครับ”สวีเหยียนซีตอบเสียงเรียบไม่แสดงสีหน้าว่า “อืม สายตาฉันดีมาตลอดค่ะ”“โอ้ งั้นคุณรักษาไว้ให้ดีล่ะ” เสียงเยือกเย็นของชายหนุ่มดังขึ้น แต่คนเดินเข้าไปในลิฟต์แล้ว สวีเหยียนซีไม่พูดอะไรและเดินตามเข้าไป-ฟางห่าวประกาศกับทีมแทนจ้าวจวิ้นโจวเรื่องที่เธอจะเข้ารับโครงการต่อ คนในทีมไม่มีสายตาอิจฉาตาร้อนเลยสักนิด มีเพียงแค่คำอวยพรอย่างจริงใจหลังจากนั้นตลอดช่วงบ่าย สวีเหยียนซีทุ่มเทศึกษาวัฒนธรรมของเมืองไห่และหวามู่กรุ๊ป รวมทั้งประเด็นสำคัญของการออกแบบอาคารแลนมาร์กครั้งนี้แต่ว่าโทรศัพท์ของเธอมีข้อความเด้งไม่หยุดเธอได้ตั้งค่าปฏิเสธสายของฉินเซียวและสวีเหยียนเช่อ มีเพียงแค่ข้อ
Read more

บทที่ 19

บทที่ 19สวีหว่านหนิงเหมาร้านชาสำหรับช่วงบ่ายทั้งร้านไว้ตอนที่สวีเหยียนซีมาถึง ไม่มีพนักงานในร้านแม้แต่คนเดียวท่าทางแบบนี้ เหมือนกำลังจะมีเรื่องกับเธอแล้วก็เป็นแบบนั้นจริง ๆ สวีหว่านหนิงก็คิดแบบนั้นสวีเหยียนซีเพิ่งจะนั่งลงตรงหน้าสวีหว่านหนิง สายตาเฉียบแหลมของเธอสังเกตเห็นว่าสวีหว่านหนิงขบฟันแน่นด้วยความเคียดแค้น รวมทั้งในมือยังถือแก้วกาแฟอยู่ เธอใช้สัญชาตญาณ หันตัวหลบไปด้านข้าง เป็นไปตามที่คิดไว้แก้วกาแฟร้อน ๆ ในมือสวีหว่านหนิงสาดใส่หน้าเธอไม่สำเร็จเมื่อสาดไม่โดน สวีหว่านหนิงก็ขบฟันแน่นด้วยความไม่พอใจสวีเหยียนซีนั่งลงบนเก้าอี้ข้าง ๆ อย่างไม่สะทกสะท้าน ก่อนเย้ยหยันว่า “ที่เรียกฉันมาคือจะมาสาดกาแฟใส่งั้นเหรอ? เหอะ ฉันยังคิดว่าเธอจะสร้างเรื่องฆ่าตัวตายอีกครั้งซะอีก”ประโยคนี้ทำให้สวีหว่านหนิงโกรธจัด “สวีเหยียนซี ต่อให้แกกับพี่ฉินเซียวผูกพันกันมาหลายปี มันก็ไม่สำคัญอะไรเลย เขาหลงใหลในร่างกายฉันมาก่อน! เขาชอบมีอะไรกับฉันมาก ๆ เลยล่ะ!”ไม่รู้ว่าเป็นเพราะสวีหว่านหนิงเป็นผู้ป่วยทางจิตหรือเปล่า ดังนั้นเธอเลยมักจะพูดตรงและเปิดเผยขนาดนี้อยู่เสมอ สวีเหยียนซีก็ชินกับเรื่องแบบนี้นานแล
Read more

บทที่ 20

บทที่ 20ตำรวจสองนายเดินมา หลังจากมองไปรอบ ๆ ตำรวจวัยกลางคนนายหนึ่งถามด้วยน้ำเสียงจริงจังว่า “ใครเป็นคนก่อเรื่องที่นี่?”“เธอ” สวีเหยียนซีชี้ไปยังสวีหว่านหนิง“ไม่ใช่ฉัน ฉันไม่ได้ทำ!” สวีหว่านหนิงส่ายหน้าปฏิเสธไม่หยุด ก่อนถลึงตาใส่สวีเหยียนซีด้วยความอาฆาตสวีเหยียนซีถากถางเสียงเย็นว่า “หรือเธอคิดว่ากล้องวงจรปิดข้างบนมีไว้เพื่อประดับเฉย ๆ งั้นเหรอ?”“…”“ทำลายทรัพย์สินของผู้อื่น เมื่อกี้ผมยังเห็นคุณกำลังจะทำร้ายคุณผู้หญิงคนนี้” ขณะพูด ตำรวจวัยกลางคนหยิบกุญแจมือสีเงินออกมาก่อนเอ่ยว่า “ไปสถานีตำรวจกับพวกผม”“ฉันถูกใส่ร้าย! ฉันเป็นผู้ป่วยทางจิตนะ ถูกกระตุ้นไม่ได้ เป็นเธอที่ตั้งใจยั่วฉัน ฉันก็เลยควบคุมตัวเองไม่ได้” สวีหว่านหนิงแสดงอาการโรคประสาทอยู่ตรงนั้นทันที น้ำเสียงสั่นเครือเต็มไปด้วยความหวาดกลัวสวีเหยียนซีแอบยิ้มสวีหว่านหนิงช่างเป็นคนที่มีความสามารถจริง ๆ เธอสามารถเอาเรื่องที่ป่วยทางจิตมาพูดได้ตลอดเวลา“คุณผู้หญิงครับ คุณก็จำเป็นต้องไปกับพวกเราด้วยครับ”“ไม่มีปัญหาค่ะ นี่เป็นสิ่งที่ฉันควรทำ”สวีเหยียนซีไม่รู้ว่าเป็นความเข้าใจผิดของเธอหรือเปล่า ตำรวจนายนี้ถึงได้มีท่าทีดูเก
Read more
PREV
12345
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status