All Chapters of หย่าเสร็จ ท่านประธานฉวยโอกาสเป็นสามีใหม่: Chapter 21 - Chapter 30

44 Chapters

บทที่ 21

บทที่ 21แม่สวีถึงกับหน้าเครียดพ่อสวีที่เดินตามมาด้วยท่าทีเยือกเย็น กวาดตามองไปที่พวกเขา ก่อนตะคอกเสียงต่ำว่า “วุ่นวายอะไรอยู่หน้าสถานีตำรวจ ให้คนอื่นเขาหัวเราะเยาะรึไง! มีเรื่องอะไรกลับไปคุยกันที่บ้าน!” “แม่ครับ เข้าไปก่อนเถอะ” สวีเหยียนเช่อประคองแขนเธอไว้ พลางพูดเตือนเธอด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำแม่สวีถลึงตาใส่สวีเหยียนซีด้วยความโกรธเคือง แล้วรีบเดินเข้าไปดูลูกสาวสุดที่รักด้วยความเป็นห่วงสวีเหยียนเช่อที่ยืนอยู่ข้าง ๆ สวีเหยียนซี “ซีซี เข้าไปกับพี่”ฉินเซียวใช้โอกาสนี้หมุนตัวไปจับข้อมือของสวีเหยียนซีไว้ ยอมอ่อนข้อให้ พลางพูดเอาใจว่า “ที่รัก”สวีเหยียนซีไม่อยากสนใจพวกเขาทั้งคู่จึงสะบัดมือฉินเซียวออก แล้วเธอก็เดินเขาไปในสถานีตำรวจโดยไม่พูดอะไรทั้งนั้นพอเธอเข้าไปแล้ว สวีเหยียนเช่อก็เบะปากพลางปรายตามองฉินเซียวเหมือนกับมองขยะฉินเซียวเกือบจะกัดฟันกรามแตก เดินเข้าไปอย่างเงียบ ๆทันทีที่สวีหว่านหนิงเห็นพ่อกับแม่ก็รีบโผเข้ากอดด้วยความรู้สึกน้อยใจ และร้องไห้ปล่อยโฮออกมา “แม่คะ นัง...” เมื่อเธอสังเกตเห็นฉินเซียวและพี่ใหญ่ก็อยู่ที่นั้นด้วย เธอจึงรีบเปลี่ยนคำพูดทันที “สวีเหยียนซีโทรหาโรงพ
Read more

บทที่ 22

บทที่ 22ผู้คนที่ดูอยู่รอบ ๆ ถึงกับเดือดกันขึ้นมา แบบนี้ยังเรียกว่าทะเลาะกันเล็กน้อยอยู่อีกเหรอ?!เมื่อฉินเซียวเห็นแบบนั้นก็โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ หันตัวไปอยากจะจับมือของสวีเหยียนซีเพื่อปลอบใจเธอ แต่สวีเหยียนซีกลับทำเป็นเหมือนเห็นของสกปรก รักษาระยะห่างกับเขาเขาพยายามคว้า แต่ทำได้แค่คว้าอากาศเท่านั้น ทำให้รู้สึกเจ็บปวดสวีหว่านหนิงน้ำตาคลอ “ไม่ใช่นะ เธอแกล้งฉันก่อนจริง ๆ ฉันถึงได้ควบคุมอารมณ์ไม่อยู่”“ใช่! ลูกสาวฉันเป็นเด็กดีมาโดยตลอด ถ้าไม่ถูกแกล้งก่อนจะไม่เป็นแบบนั้นแน่ ๆ เธอเป็นลูกสาวฉัน ฉันรับประกันได้” แม่สวีช่วยพูดเข้าข้างลูกสาวตัวเองเสร็จก็หันไปกดดันสามี “กั๋วหมิง คุณพูดอะไรหน่อยสิ”สีหน้าของสวีกั๋วหมิงดูแย่กว่าใคร ๆ การสร้างความวุ่นวายของสวีเหยียนซีครั้งนี้ แทบจะทำให้เขาไม่มีวิธีแก้ปัญหาอะไรได้เลยเขาไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากส่งสายตาไปให้ลูกชายสวีเหยียนเช่อเข้าใจในทันที เขาจับมือของสวีเหยียนซีไว้ “ซีซี พวกเราไปคุยกันข้างนอก”ไม่รอให้สวีเหยียนซีปฏิเสธ ฉินเซียวก็ดึงมืออีกข้างของเธอไว้ “พี่ใหญ่ ถ้าพี่จะคุยพี่ก็คุยพร้อมกันกับพวกเราสามีภรรยา” ใครจะคิดว่าสวีหว่านหนิงจะวิ่งมากอด
Read more

บทที่ 23

บทที่ 23สวีเหยียนเช่อตกใจเพียงครู่เดียวเท่านั้นแล้วใจเย็นลงได้อย่างรวดเร็วในเมื่อรู้แล้ว เขาก็จะไม่ปิดปังอีกต่อไป เพราะว่าเขาเองก็ไม่ได้อยากใช้สถานะพี่ชายมายืนอยู่ตรงหน้าของสวีเหยียนซีตั้งนานแล้ว สถานะพี่ชายนี้ข้อจำกัดมันเยอะเกินไปวินาทีต่อมา เขาก็ไม่ได้ปิดบังความรู้สึกอันลึกซึ้งของตัวเองอีกต่อไป “ซีซี เธอบอกว่าเธอรู้จักกับฉินเซียวมา 22 ปี ถ้าอย่างนั้นเธอลืมไปแล้วเหรอว่าพวกเรารู้จักกันนานกว่าเขา?”สวีเหยียนซีไม่อยากจะมองเขาตรง ๆ เพราะว่ามันน่าขยะแขยงมากเกินไปเธอกำมือแน่นพลางพูดขึ้นว่า “สวีเหยียนเช่อ พี่ดีกว่าฉินเซียวตรงไหนเหรอ”“ซีซี!”“อย่ามาเรียนฉันแบบนี้อีก” สวีเหยียนซีไม่คิดที่จะปกปิดท่าทีที่รังเกียจและขยะแขยงอีกต่อไป เธอหัวเราะเยาะออกมาพลางพูดขึ้นว่า “พ่อส่งสายตายให้พี่พาฉันออกมา เพื่อที่จะเกลี้ยกล่อมให้ฉันยอมความ แต่ว่าพี่อยู่ที่นี่พูดอะไรกับฉันอยู่? สวีเหยียนเช่อ พี่ไม่ได้มีตรงไหนดีไปกว่าฉินเซียวเลย ฉันพูดจริง ๆ นะ”และนี่เป็นครั้งที่สอง ที่คำพูดแทงลงไปในใจของสวีเหยียนเช่อเขายืนอยู่กับที่แบบนั้นนานสองนานโดยไม่ขยับเลย รู้สึกเหมือนว่าเลือดที่ไหลวนเวียนทั่วร่างกายคงแข
Read more

บทที่ 24

บทที่ 24โดยเฉพาะสวีเหยียนซีในตอนนี้พบว่าอารมณ์ของตัวเองไม่มีอีกแล้ว และก็ไม่ได้มีความรู้สึกเจ็บปวดแม้แต่น้อยในเวลาเดียวกันนั้น ที่สถานีตำรวจสีหน้าของสวีเหยียนเช่อดูไม่ดีเลย นี่เป็นครั้งที่สองที่คนของเขาทำให้สวีเหยียนซีหลุดมือไปได้อีก นี่เป็นเรื่องที่เมื่อก่อนไม่เคยเกิดขึ้นเลยผู้ช่วยพูดด้วยความกดดันว่า “ประธานสวีน้อยครับ ครั้งนี้จู่ ๆ ก็มีรถเข้ามาขวางหน้าเหมือนเดิมครับ ดังนั้นทำให้เสียเวลาในการตามคุณหนูเหยียนซีครับ”“อีกฝ่ายไม่ได้ตั้งใจอีกแล้วเหรอ?”“ใช่ครับ”“ครั้งแรกไม่ได้ตั้งใจ หรือว่าทุกครั้งก็ไม่ตั้งใจงั้นเหรอ? โง่ เมื่อคืนหรือเมื่อกี้ ไปสืบเรื่องของรถสองคันนั้นมาให้ละเอียด ดูซิว่ามันเป็นใคร!”ทันทีที่ผู้ช่วยก้าวเดินออกไป เสียงร้องไห้ของสวีหว่านหนิงก็ดังออกมาจากด้านใน “พี่ฉินเซียว พี่อย่าไปนะ”ฉินเซียวเดินอย่างไม่ลังเล ในตอนที่เดินชนไหล่กับสวีเหยียนเช่อ การเดินชนไหล่ครั้งนี้ก็เพื่อเป็นการส่งสัญญาณเตือนอย่างชัดเจนสวีเหยียนเช่อไม่แสดงสีหน้าอารมณ์ใด ๆ หันหลังเดินจากไป สวีหว่านหนิงรีบคว้าแขนของเขาราวกับคว้าฟางเส้นสุดท้ายที่ช่วยชีวิตแล้วรีบพูดขึ้นมาว่า “พี่ใหญ่ ช่วยพาฉินเ
Read more

บทที่ 25

บทที่ 25“ค่ะ!” สวีเหยียนซีรีบลุกหนีไปทันทีตอนเธอเดินเข้ามาห้องทำงาน จ้าวจวิ้นโจววางสายโทรศัพท์พอดี เธอเอ่ยถามขึ้นว่า “ท่านประธานจ้าวคะ คุณเรียกฉันมามีธุระอะไรเหรอคะ?”เขาวางโทรศัพท์ลง “สวีเหยียนเช่อกำลังสืบเรื่องของผม”สีหน้าของสวีเหยียนซีแสดงความประหลาดใจออกมาทันทีจ้าวจวิ้นโจวนั่งเอนตัวพิงเก้าอี้ทำงานด้วยสีหน้าท่าทางสบายเหมือนกับแค่เรียกเธอมานั่งคุยเล่นเท่านั้น เขาเอ่ยถามขึ้นว่า “คุณอยากให้เขาสืบเจอเรื่องของผมหรือไม่อยากให้เขาสืบเจอ?”เดาไม่ยากเลยว่าทำไมสวีเหยียนเช่อถึงจะสืบเรื่องของเขา คงเป็นเพราะทั้งสองครั้งที่เขาส่งคนมาตามหาเธอก็ถูกจ้าวจวิ้นโจวขวางไว้ตลอด ดังนั้นก็ไม่น่าแปลกใจที่เขาจะเกิดสงสัยขึ้นมามองออกเลยว่าจ้าวจวิ้นโจวไม่กลัวถูกตรวจสอบเลย ไม่งั้นคงไม่เอาเรื่องนี้มาพูดเล่นลอย ๆ กับเธอแบบนี้เมื่อคิดถึงตรงนี้ เธอก็พูดอย่างไม่ใส่ใจว่า “ถ้าท่านประธานจ้าวมีความสุขก็ดีแล้วค่ะ”จ้าวจวิ้นโจวขมวดคิ้วเล็กน้อย คำตอบนี้เกินความคาดหมายของเขา เขาพูดแซวว่า “ไม่กลัวว่าเขาจะสืบเจอว่าผมกับคุณใกล้ชิดกันเหรอ?”เธอยังไม่รู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ ยิ่งเธอแสดงท่าทีตื่นเต้นและกังวล เขาก็ย
Read more

บทที่ 26

บทที่ 26“ฉินเซียว!” สวีเหยียนซีตะคอกใส่เขาด้วยความโกรธเมื่อเผชิญหน้ากับสวีเหยียนซี เขาก็อ่อนลงทันที “ที่รัก ผมผิดไปแล้ว”เมื่อคู่สามีภรรยาที่ยืนอยู่ตรงข้ามได้ยินชื่อก็มองหน้ากัน ราวกับว่านึกบางสิ่งบางอย่างออก และความหวาดกลัวก็ฉายชัดออกมาจากแววตาของทั้งคู่ในชั่วพริบตาเพราะอย่างไรเสีย ในเมืองจิงแห่งนี้ มีคนที่ใช้นามสกุลฉินไม่มากนักสวีเหยียนซีเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าที่ไร้อารมณ์ “จ่ายเงิน! ชดใช้!”“ได้ครับ” ฉินเซียวรีบควักโทรศัพท์ออกมาอย่างรวดเร็ว พร้อมกับพูดเร่งเร้าชายคนนั้นว่า “รีบเอาคิวอาร์โค้ดรับเงินมาสิ”“จะ จริง ๆ แล้ว”ชายคนนั้นเริ่มพูดติด ๆ ขัด ๆ สวีเหยียนซีจึงรู้ได้ทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น จากนั้นจึงพูดขึ้นอย่างเป็นมิตรว่า “เป็นความผิดของเราเองที่เริ่มก่อน สิ่งที่ควรชดใช้ก็ควรได้รับการชดใช้ หรือถ้าไม่สะดวกรับเงินโอน เดี๋ยวพวกเราไปกดเงินสดมาให้ได้นะคะ”“ไม่ต้อง ๆ! โอนได้ครับ โอนได้เลย” ชายคนนั้นรีบเปิดโทรศัพท์ทั้งมือไม้สั่นไปหมดจนโทรศัพท์เกือบจะตกพื้นอยู่หลายครั้ง ฉินเซียวโอนเงินสามแสนบาทให้อีกฝ่ายทันที รวดเร็วจนแทบจะไม่ทันได้กะพริบตาเมื่อชายคนนั้นเห็นเงินสามแสนที่ถูกโอนเข้าม
Read more

บทที่ 27

บทที่ 27เมื่อสวีเหยียนซีได้ฟังดังนั้น จึงรู้สึกราวกับว่าเลือดทั่วทุกส่วนในร่างกายกำลังแข็งเป็นน้ำแข็งไปหมดเธอคิดว่าเป็นฝีมือของสวีหว่านหนิงมาโดยตลอด ใครจะไปคิดว่าสวีกั๋วหมิงก็ให้ความร่วมมือ แถมยังลงมือช่วยวางแผนด้วยตัวเองอีกต่างหาก“ที่รัก ผมพูดความจริงนะ ถ้าเมื่อกี้ผมพูดโกหกแม้แต่คำเดียว ขอให้ผมโดนฟ้าผ่าตายเลย” เขาพูดพลางยกมือขึ้นสาบานเพื่อยืนยันความน่าเชื่อถือของตัวเอง“ที่รัก?”“อย่ามาแตะต้องตัวฉัน!”ในขณะที่ฉินเซียวพยายามหาวิธีเข้าไปพูดดี ๆ ด้วย แต่แล้วโทรศัพท์ก็ดังขึ้นมาเสียก่อนพอเห็นว่าเป็นสายจากสวีหว่านหนิง เขาก็ขมวดคิ้วขึ้นด้วยความรู้สึกรังเกียจ พร้อมกับเก็บโทรศัพท์ใส่กระเป๋ากางเกงเข้าที่เดิม เมื่อเห็นดังนั้น สวีเหยียนซีจึงพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงประชดประชันว่า “รับสิ ไม่แน่ว่าเธออาจจะฆ่าตัวตายอีกก็ได้”“ที่รัก คุณเชื่อผมเถอะนะ ผมเคลียร์กับเธอแล้วจริง ๆ เธอจะตายหรือไม่ตายมันก็ไม่เกี่ยวอะไรกับผม” ฉินเซียวมีท่าทีแข็งกร้าว แต่พอเห็นใบหน้าที่เรียบเฉยของสวีเหยียนซี เขาก็เริ่มทำอะไรไม่ถูก “ที่รัก คุณจะไม่เชื่อผมสักครั้งเลยเหรอ?”เชื่อ?สวีเหยียนซีรู้สึกว่าเมื่อคำนี้ออกมาจากปา
Read more

บทที่ 28

บทที่ 28ทางทีดีอย่าอยู่ดีกว่า เพราะเธอจะได้กลับบ้านทำโอที“อยู่ครับ ท่านประธานจ้าวกำลังทานมื้อเย็นอยู่พอดีเลย คุณสวีรีบเข้ามาก่อนสิครับ”สวีเหยียนซีฝืนยิ้มพร้อมกับเดินเข้าไปในบ้าน ภาพที่เธอเห็นคือจ้าวจวิ้นโจวกำลังค่อย ๆ ทานอาหารที่อยู่ตรงหน้าอย่างพิถีพิถัน เธอเอ่ยทักทายว่า “ท่านประธานจ้าวคะ”“ทานข้าวมาหรือยัง? ” จ้าวจวิ้นโจวถามเธอ“ทานแล้วค่ะ”“งั้นมาทานเป็นเพื่อนผมอีกหน่อยสิ”“...พอดีฉันอิ่มแล้ว”“ยัดเข้าไปอีกสักสองสามคำมันไม่ทำให้ท้องแตกหรอกน่า”ภายในใจของสวีเหยียนซีรู้สึกด้านชาไปหมด จะทานแล้วท้องแตกหรือไม่แตกมันไม่ใช่ปัญหาหรอก แต่ประเด็นคือเธอไม่อยากทานต่างหาก ในขณะที่เธอกำลังจะปฏิเสธอีกครั้ง ลุงโจวก็หยิบชามพร้อมตะเกียบออกมาเพื่อจัดเตรียมให้เธอ “คุณสวี ทานสักหน่อยเถอะครับ”เมื่อเธอเห็นชามและตะเกียบถูกจัดวางไว้บนโต๊ะอาหารให้เธอเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สวีเหยียนซีจึงยอมแพ้พร้อมกับกล่าวคำขอบคุณก่อนจะเดินเข้าไปนั่งลงจ้าวจวิ้นโจวมองเธอด้วยหางตา “ทานข้าวข้างนอกมาเหรอ?”“ทำกินเองค่ะ”“งั้นคงทำอาหารมื้อใหญ่สินะ”เมื่อได้ยินเช่นนั้น สวีเหยียนซีก็มองไปที่เขาอย่างไม่เข้าใจ “ทำไมถึง
Read more

บทที่ 29

บทที่ 29จ้าวจวิ้นโจวสูบบุหรี่เข้าปอดอย่างสุขุม พร้อมเลิกคิ้วเล็กน้อย มองไปที่สวีเหยียนซีที่กำลังนั่งก้มหน้าก้มตาทำโอทีอยู่บนโซฟาอย่างขะมักเขม้น ในดวงตาที่ลึกลับที่แสนยากจะหยั่งถึงของเขานั้น แท้จริงแล้วกำลังเดือนพล่านและปั่นป่วนมานานแล้ว ก่อนที่เขาจะตอบกลับอย่างส่งเดชไปว่า “ก็แค่มาทำงาน ยังจะอยากรู้รายละเอียดอะไรอีก”“เชี่ยเอ๊ย ไอ้จ้าวจวิ้นโจว มึงจะมาตอแหลกับกูเพื่อ!” เพื่อนตัวแสบของเขาตะคอกดังลั่นจนลำโพงโทรศัพท์เสียงแทบแตก“...” จ้าวจวิ้นโจวอยากจะไปบีบคอเขาซะให้ตายคาที่“พอเธอจดทะเบียนเสร็จปุ๊บก็มาทำงานกับมึงปั๊บ คนอื่นอาจจะดูไม่ออก แต่กูรู้จักมึงดี! มึงมันเจ้าเล่ห์ร้ายเงียบ กูไม่เชื่อเรื่องสัญญาเดิมพันสามปีห่าเหวอะไรนั่นหรอกโว้ย! ถ้ามึงไม่ได้จะทำอะไรอย่างที่คิด กูยอมยืนกลับหัวสระผมสามเดือนเลย!”จ้าวจวิ้นโจวได้ยินดังนั้นถึงกับหัวเราะออกมา แต่แฝงไปด้วยความโกรธ เขาอยากจะบีบคอไอ้เพื่อนคนนี้ตอนนี้ให้ตายจริง ๆ “พูดดิวะ มึงจะไปเป็นชู้แย่งคนรักของคนอื่นจริง ๆ เหรอ! หรือมึงแค่อยากเล่นเกมแย่งชิงของรักของคนอื่นเอามาเป็นของตัวเองเฉย ๆ เพื่อแสดงอำนาจ!”จ้าวจวิ้นโจวอัดบุหรี่เข้าไปอีกอึก ก่
Read more

บทที่ 30

บทที่ 30สี่สิบนาทีต่อมา สวีเหยียนซีเดินทางมาถึงบ้านตระกูลสวี บรรยากาศภายในห้องรับแขกเงียบสงัดในห้องมีสวีกั๋วหมิงกับภรรยาของเขา และมีสองสามีภรรยาตระกูลฉิน ฉินเซียวกำลังคุกเข่าอยู่บนพื้น โดยมีสวีหว่านหนิงนั่งอยู่ข้าง ๆ แม่สวี แต่ไม่เห็นสวีเหยียนเช่อแม้แต่เงาซึ่งการที่สวีเหยียนเช่อไม่อยู่ถือเป็นเรื่องที่ดีสำหรับเธอ“พ่อคะแม่คะ” สวีเหยียนซีพูดพลางเดินเข้าไปหยุดตรงหน้าพวกเขา และทักทายทีละคนว่า “สวัสดีค่ะลุงฉิน ป้าฉิน”เมื่อสองสามีภรรยาตระกูลฉินได้ยินเธอเรียกพวกเขาเช่นนั้นก็แสดงสีหน้าท่าทางเสียดายออกมา และพวกเขาก็เข้าใจท่าทีของสวีเหยียนซีแล้วฉินเซียวที่กำลังนั่งคุกเข่าอยู่บนพื้นเงยหน้าขึ้นมามองเธอทันที ราวกับว่าเขากำลังเจ็บปวดว่าทำไมเธอถึงไม่เรียกพ่อแม่ของเขาว่า พ่อ แม่ เหมือนเคยแล้วแต่สวีเหยียนซีไม่แม้แต่จะชายตามองเขาด้วยซ้ำและในตอนนั้นสวีกั๋วหมิงก็เอ่ยปากพูดขึ้นมาว่า “เมื่อกี้พ่อโทรหาซีซีและเล่าความจริงกับลูกไปตรง ๆ เรื่องนี้เป็นเรื่องอื้อฉาวของสองตระกูลเรา และเป็นเพราะเราสองตระกูลที่อบรมสั่งสอนลูกไม่ดีพอ ถึงทำให้พวกเขาทำผิดพลาดร้ายแรงขนาดนี้”จากนั้นเขาถอนลมหายใจอันหนักอึ้ง
Read more
PREV
12345
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status