All Chapters of หย่าเสร็จ ท่านประธานฉวยโอกาสเป็นสามีใหม่: Chapter 31 - Chapter 40

44 Chapters

บทที่ 31

บทที่ 31สวีหว่านหนิงรู้สึกได้ว่าสายตาของสวีเหยียนซีที่มองมาทางเธอในตอนท้ายนั้นราวกับว่ากำลังด่าเธอว่าโง่ นั้นจึงทำให้ใบหน้าของสวีหว่านหนิงบิดเบี้ยวจากเมื่อครู่เปลี่ยนเป็นสีหน้าที่เต็มไปด้วยความเกลียดชังและในวินาทีต่อมา สวีเหยียนซีหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา พร้อมกับเปิดรูปภาพพลางพูดไปด้วยว่า “พ่อคะ แม่คะ ลุงฉินคะ ป้าฉินคะ ตั้งแต่วันที่ฉันจดทะเบียนสมรสกับฉินเซียว สวีหว่านหนิงก็ส่งทั้งรูปภาพและวิดิโอต่าง ๆ เกี่ยวกับความสัมพันธ์ลับ ๆ ของพวกเขามาให้หนูอยู่เป็นประจำ พูดตามตรง ส่วนตัวไม่คิดว่าวิธีนี้จะทำให้ดูฉลาดเหนือชั้นตรงไหน มีแต่กลับจะทำให้รู้สึกรังเกียจด้วยซ้ำ”“มันเหมือนกับ... เมียน้อยที่กำลังยั่วยุภรรยาหลวงมากกว่า”ไม่มีใครเห็นลูกสาวของตัวเองถูกเรียกว่าเมียน้อยแล้วจะรู้สึกดีทั้งนั้นแม่สวีโกรธจัดขึ้นมาทันที “สวีเหยียนซี หยุดพูดจาเหลวไหลนะ! ฉันเข้าใจดีว่าในใจเธอคงรู้สึกไม่ดีเท่าไหร่นักหรอก แต่ทำไมต้องใส่ร้ายป้ายสีหนิงหนิงถึงขนาดนี้ด้วย! อย่าลืมสิว่าบ้านตระกูลสวีของเราคือคนที่เลี้ยงดูเธอจนโตขนาดนี้ มันตั้งกี่ปี กล้าดียังไง!”“หุบปาก!” สวีกั๋วหมิงตะคอกขึ้นเพื่อหยุดเธอ ขืนเธอยังคงพูด
Read more

บทที่ 32

บทที่ 32สวีกั๋วหมิงพูดออกมาด้วยความโกรธ “หนิงหนิง! ทิ้งเศษแก้วลงเดี๋ยวนี้!”สวีหว่านหนิงร้องไห้ออกมาพร้อมกับส่ายหน้าอย่างสิ้นหวัง “หนูไม่ทิ้ง! ถ้าพี่ฉินเซียวไม่ยอมหย่ามาแต่งงานกับหนู งั้นหนูตายไปซะยังจะดีกว่า!”เมื่อเห็นดังนั้น ฉินเซียวก็เผยรอยยิ้มเยาะเย้ย “ดี งั้นตายให้ดูหน่อย”สวีหว่านหนิงไม่อยากจะเชื่อว่าเป็นคำพูดที่ออกมาจากปากเขาแม่สวีพูดขึ้นด้วยความโกรธจัด “ฉินเซียว พูดอะไรออกมาน่ะ! ไม่เห็นเหรอว่าหนิงหนิงกำลังจะแย่อยู่แล้ว”ในเวลาเกือบพร้อมกัน ประธานฉินก็ตบหน้าเขาไปหนึ่งทีก่อนจะพูดต่อว่า “ดูผลงานที่แกทำไว้สิ ยังจะกล้ามาพูดจาเหลวไหลอีก! ถ้าเกิดเรื่องมันถึงขั้นสูญเสียชีวิตขึ้นมาจริง ๆ ถึงจะชดใช้ด้วยชีวิตแกอีกสิบชาติก็ยังไม่พอ!”คุณนายฉินได้แต่กุมมือปิดปากเก็บเสียงสะอึกสะอื้นจากการร้องไห้และหันหน้าหนีสวีหว่านหนิงยังคงอยู่ตรงนั้นขอร้องแทนเขา “ลุงฉินคะ ขอร้องล่ะค่ะ อย่าทำร้ายพี่ฉินเซียวเลย อย่าทำเลยนะคะ”ฉินเซียวที่ถูกตบไปเมื่อครู่ได้แต่ยืนนิ่งอยู่ตรงนั้น ใบหน้าของเขาเย็นชาราวกับน้ำแข็ง สายตาคู่นั้นของเขาที่กำลังเหลือบไปมองสวีเหยียนซีมีเพียงแต่ความรู้สึกละอายใจและเสียใจต่อเ
Read more

บทที่ 33

บทที่ 33คำพูดของประธานฉินนั้นสะท้านเข้าไปในหัวใจของสวีเหยียนซีเมื่อเห็นว่าประธานฉินยังคงเอ็นดูเธอ ราวกับผู้ใหญ่ที่กำลังเอ็นดูเด็กคนหนึ่ง ซึ่งการกระทำนั้นทำให้เธอถึงกับต้องเม้มปากเพื่อเก็บความรู้สึกไว้ไม่ให้เผยออกมาตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา สองสามีภรรยาตระกูลฉินดูแลเธอด้วยความรักราวกับว่าเธอเป็นส่วนหนึ่งในครอบครัวเดิมทีเธอคิดว่าการที่จะได้เจอครอบครัวสามีแบบนี้เป็นสิ่งที่โชคดีที่หาไม่ได้จากที่ไหนแล้ว แต่ก็น่าเสียดายที่พวกเขากับเธอไม่มีวาสนาต่อกันที่จะได้เป็นครอบครัวเดียวกันอีกต่อไปแล้วและในตอนนั้นเอง ประธานฉินจ้องมองไปที่สวีกั๋วหมิงอีกครั้ง “ประธานสวี เมื่อกี้คุณเป็นคนบอกเองนะครับว่ารักลูกเท่ากันหมด ในเมื่อดูแลหว่านหนิงแล้ว ก็ควรที่จะดูแลเสี่ยวซีด้วยไม่ใช่เหรอครับ?”สวีกั๋วหมิงได้ยินดังนั้นจึงเกิดความไม่พอใจ คิดไม่ถึงเลยว่าฉินหลินจะฉวยโอกาสมาสอนเขาแบบนี้ ในสถานการณ์ตอนนี้ต้องยึดภาพรวมไว้เป็นหลัก เขาจึงพยายามสงบสติอารมณ์และพูดต่อว่า “มันเป็นสิ่งที่ควรทำอยู่แล้ว เสี่ยวซีเป็นลูกสาวของผม ผมต้องชดเชยให้เธออย่างดีอยู่แล้วครับ”ชดเชย? คำพูดนั้นก็แค่พูดเอาหน้าก็เท่านั้นแหละสวีเหยียนซีไ
Read more

บทที่ 34

บทที่ 34“ซีเอ๋อร์ ช่วงนี้เธอย้ายมาอยู่กับฉันก่อนเถอะ”“ช่วงนี้ฉันคงไม่ได้อยู่อย่างสงบหรอก ไม่อยากไปรบกวนชีวิตเธอ วางใจเถอะ ไม่มีใครรู้ว่าฉันอยู่ที่ว่านจิ่นฟุ เรสซิเด้นซ์ ปลอดภัยดี”เมื่อโหยวฉีเห็นว่าที่นั่นคือที่ที่จ้าวจวิ้นโจวเป็นคนจัดเตรียมให้ จึงคิดว่านั่นคงเป็นที่ที่ปลอดภัยมากกว่ามาอยู่กับเธอแน่นอน เพราะคนที่คอยตามตอแยสวีเหยียนซีไม่ใช่มีเพียงแค่ฉินเซียว แต่ยังมีลูกชายคนโตของตระกูลสวีอีกด้วยโหยวฉีหันหน้าเข้าหาหน้าต่างรถพร้อมกับพนมมือขึ้น “ขอให้พวกเขาได้อยู่คู่กันอย่างราบรื่นตราบชั่วฟ้าดินสลาย จะได้ไม่ต้องมาทำร้ายซีเอ๋อร์อีก”สวีเหยียนซียิ้มออกมาอย่างชื่นใจใช่สิ มันต้องราบรื่นสิหลายวันที่ผ่านมานี้สำหรับเธอรู้สึกว่ามันช่างยาวนานราวกับเป็นศตวรรษ เธอทั้งเหนื่อยและทรมาน ราวกับกำลังถูกลอกผิวหนังทั้งเป็น เธอได้แต่หวังว่าช่วงทบทวนที่กำลังจะมาถึงนี้จะผ่านพ้นไปได้ด้วยดี เพื่อที่เธอจะได้ตัดขาดจากฉินเซียวได้สักที จากนั้นจะได้ปลีกตัวออกมาใช้ชีวิตของตัวเองอย่างมีความสุขทันใดนั้น จู่ ๆ เหมือนโหยวฉีจะคิดอะไรบางอย่างได้ จึงหันหน้าไปถามว่า “ซีเอ๋อร์ คนที่เธอให้ฉันไปหานี่คือใครกัน เชื่อถื
Read more

บทที่ 35

บทที่ 35สวีเหยียนซีเม้มปาก “หวังว่าคุณจะได้รับบทเรียนจากครั้งนี้นะ”ฉินเซียวค่อย ๆ หยุดร้องไห้ “พ่อบังคับให้ผมเซ็นเอกสารหย่าแล้ว”“อืม”“แต่ผมก็ยังไม่อยากหย่าอยู่ดี เสี่ยวซี”สวีเหยียนซีเหนื่อยเกินกว่าจะมีแรงมาพูดเรื่องไร้สาระกับเขา เธอจึงทำเพียงแค่เรียกชื่อเขาอย่างอ่อนแรง “ฉินเซียว”“เสี่ยวซี ตอนนี้ผมอยู่สนามบิน” ทันทีที่ฉินเซียวพูดจบ ลิฟต์ก็เปิดออกพอดีทันใดนั้น ร่างของสวีเหยียนซีก็สั่นสะท้าน!“ผมจะกลับมาในวันสุดท้ายของช่วงทบทวน ถึงตอนนั้นผมจะพิสูจน์ให้คุณเห็นเองว่าผมไม่ได้ทำตัวเป็นเด็ก ๆ อีกแล้ว ได้ไหม?” เขาพูดด้วยน้ำเสียงขอร้องอ้อนวอน“ฉินเซียว!” คำคำนี้สวีเหยียนซีแทบจะตะโกนออกมา แต่ใครจะไปคิดว่าฉินเซียวจะวางสายไป เธอพยายามกดโทรกลับไปอีกครั้งอย่างหงุดหงิด แต่ปลายสายกลับปิดเครื่องไปแล้วสมองของเธอว้าวุ่นไปหมด เธอจึงเลือกที่จะโทรหาประธานฉิน “ลุงฉินคะ หนูเองนะคะ เมื่อกี้ฉินเซียวโทรหาหนูบอกว่าตอนนี้เขาอยู่ที่สนามบิน และตอนนี้หนูไม่สามารถติดต่อเขาได้แล้วค่ะ”“อะไรนะ! ไอ้ลูกสารเลวนี่! เดี๋ยวลุงจะส่งคนไปตามเขากลับมา เสี่ยวซี ตระกูลฉินต้องขอโทษหนูด้วยนะ”“อืม ไม่เป็นไรค่ะ” สวี
Read more

บทที่ 36

บทที่ 36ข่าวนี้ถือว่าเป็นข่าวดีสำหรับจ้าวจวิ้นโจว เขาเอ่ยขึ้นว่า “งั้นผมควรพูดแสดงความยินดีกับคุณไหม?”สายตาของสวีเหยียนซีประสานเข้ากับสายตาเขา ก่อนจะเอ่ยออกมาเพียงสองคำ “ขอบคุณ”จ้าวจวิ้นโจวหรี่ตาลงเล็กน้อยทันที “คุณดูเหมือนจะเสียใจที่เซ็นเอกสารไปแล้วนะ”“เปล่า”“งั้นทำไมพอเขาไปสนามบิน คุณถึงได้รีบร้อนขนาดนี้ล่ะ?”สวีเหยียนซีชะงักเล็กน้อย ก่อนจะหันมามองเขาด้วยสีหน้าที่บ่งบอกว่า คุณไม่มีประสบการณ์ ฉันไม่โทษที่คุณจะถามคำถามโง่ ๆ อะไรแบบนี้ จากนั้นจึงตอบว่า “เขาหนีไปต่างประเทศ ถ้าพ้นช่วงทบทวนแล้วเขายังไม่กลับมาข้อตกลงการหย่าก็จะถือเป็นโมฆะ คุณว่าฉันไม่ควรต้องรีบหรือไง?”“...” จ้าวจวิ้นโจวถึงกับไปไม่เป็น เขาเองไม่เคยแต่งงาน จะไปรู้เรื่องกฎหมายการแต่งงานพวกนี้ได้อย่างไร สุดท้ายหลังจากเงียบไปพักใหญ่ เขาก็กระแอมเบา ๆ “งั้นผมจะไปลากตัวเขากลับมาเอง”“ตระกูลฉินจะจัดการเอง” สวีเหยียนซีเหนื่อยเกินกว่าจะเถียงกับเขาแล้ว “ท่านประธานจ้าวคะ ฉันขอตัวไปอาบน้ำเข้านอนได้ไหมคะ?”เมื่อเห็นว่าเธอเหนื่อยมาก จ้าวจวิ้นโจวก็เพียงพยักหน้ารับเบา ๆ“งั้นราตรีสวัสดิ์ค่ะท่านประธานจ้าว” พูดจบ สวีเหยียนซีก็เ
Read more

บทที่ 37

บทที่ 37ชายหนุ่มสวมเสื้อโค้ทยาวสีเทาเข้ม ระหว่างที่เดินลงมา ชายเสื้อพลิ้วเบา ๆ เผยให้เห็นเอวเรียวบางของเขาพอดี ด้านในเป็นเสื้อเชิ้ตสีอ่อนที่ปลดกระดุมออกสองเม็ด เผยให้เห็นกล้ามหน้าอกราง ๆ เรียกได้ว่า... เดินไปทางไหนก็ปล่อยเสน่ห์กระแทกตากันเลยทีเดียวจ้าวจวิ้นโจวเดินมาหยุดตรงหน้าเธอ ก่อนกลิ่นหอมจาง ๆ ของน้ำหอมจะลอยเข้าจมูก…ใช่แล้ว กลิ่นนี้เอง ตอนเธอเจอเขาครั้งแรกก็เคยได้กลิ่นนี้มาแล้ว มันเบาบาง ต้องเข้าใกล้มากถึงจะได้กลิ่นพอรู้สึกถึงสายตาคมลึกที่จ้องมองมา สวีเหยียนซีรีบเก็บอาการอย่างแนบเนียน พลางเอ่ยเสียงสุภาพ “สวัสดีตอนเช้าค่ะ ท่านประธานจ้าว”จ้าวจวิ้นโจวจ้องสำรวจดวงตาของเธอแล้วพูดขึ้นว่า “ดีแล้ว ตาไม่บวม”คำพูดนั้นทำให้สวีเหยียนซีถึงกับงง ทำไมตาของเธอต้องบวมด้วย?“ไปเถอะ ไปสนามบิน” เขาขึ้นรถแล้ว ขณะที่ฟางห่าวช่วยยกกระเป๋าเดินทางของเธอไปเก็บในท้ายรถลุงโจวอาศัยจังหวะนั้นกระซิบพูดเรื่องที่เมื่อกี้ยังพูดไม่ทันจบกับเธอว่า “เมื่อกี้นายท่านเพิ่งรับโทรศัพท์และน่าจะเป็นเรื่องที่ไม่ค่อยน่าพอใจนัก ตอนแรกผมยังกลัวว่านายท่านจะหงุดหงิดจนยกเลิกการเดินทางไปทำงาน แต่ดูแล้วก็คงไม่มีอะไรแ
Read more

บทที่ 38

บทที่ 38เมื่อเห็นเขามาตามหาซีเอ๋อร์ด้วยท่าทีรีบร้อน โหยวฉีก็อดคิดไม่ได้ว่า ผู้ชายคนนี้มีความรู้สึกบางอย่างที่ไม่ธรรมดาต่อซีเอ๋อร์อยู่ในใจ ในที่สุดเธอก็อดกลั้นอารมณ์ที่พลุ่งพล่านในใจไม่ได้ พูดด้วยน้ำเสียงที่ปนด้วยความไม่พอใจว่า “ซีเอ๋อร์เซ็นข้อตกลงการหย่าแต่โดยดีแล้วนะคะ ยอมปล่อยให้ฉินเซียวกับสวีหว่านหนิงได้สมหวังแล้ว ตอนนี้เธอเสียใจมาก ต้องการเวลาทำใจค่ะ “ฉันว่าคนที่เธอไม่อยากเจอที่สุดก็คือคนในตระกูลสวี แล้วพี่ใหญ่สวี ไม่คิดจะให้เธอได้มีพื้นที่ส่วนตัวบ้างเลยเหรอคะ ทำไมต้องตามหาตัวเธอให้ได้ขนาดนั้น?”สวีเหยียนเช่อตอบ “ก็เพราะเธอกำลังทุกข์ใจไง เธอถึงต้องมีใครสักคนอยู่เคียงข้าง”โหยวฉีย้อนถามทันที “แล้วพี่ใหญ่สวีมั่นใจเหรอคะ ว่าซีเอ๋อร์อยากให้พี่เป็นคนอยู่ข้าง ๆ เธอ?”คำพูดนี้เหมือนแทงเข้ากลางใจ ทำให้สวีเหยียนเช่อรู้สึกอึดอัดขึ้นมาทันที เขาหันกลับมาพูดเสียงแข็ง “โหยวฉี เธอเป็นแค่เพื่อนของซีเอ๋อร์เท่านั้น”โหยวฉีรีบโต้ตอบ “ฉันเป็นเพื่อนสนิทที่สุดของเธอต่างหาก”สวีเหยียนเช่อหน้าเคร่ง ไม่พูดอะไรอีก แล้วหันหลังเดินออกไปโหยวฉียืนมองแผ่นหลังเขา แล้วอดสบถในใจไม่ได้ “เหอะ… นี่มันอะไรกั
Read more

บทที่ 39

บทที่ 39สวีเหยียนซีถึงกับอึ้งไปอีกครั้งจ้าวจวิ้นโจวรู้แม้กระทั่งรสนิยมเล็ก ๆ น้อย ๆ ของเธอ!ยิ่งไปกว่านั้น เธอเพิ่งเริ่มชอบชาลี่ซานเมื่อปีนี้เองด้วยซ้ำ แม้แต่ฉินเซียวยังคิดมาโดยตลอดว่าเธอชอบลาเต้ ทั้งที่เธอเคยบอกเขาไปหลายครั้งแล้ว แต่เขาก็ไม่เคยจำได้สักที ถึงอย่างนั้น เขายังอุตส่าห์ชงลาเต้มาให้ทุกวันไม่รู้เบื่อ เธอเลยไม่อยากทำให้ความตั้งใจของเขาเสียเปล่า สุดท้ายก็เลยไม่คิดจะเถียงให้มากความ ว่าเธอชอบชาลี่ซานหรือลาเต้กันแน่สวีเหยียนซีหลุบตาลงซ่อนความรู้สึกในแววตา ก่อนจะยกยิ้มบาง ๆ รับถ้วยชา พร้อมเอ่ยคำขอบคุณเธอก้มลงจิบชาหนึ่งอึก กลิ่นหอมหวานละมุนกระจายทั่วในปาก พอเงยหน้าขึ้นอีกครั้ง สายตากลับเผลอทอดมองไปยังฝั่งตรงข้าม จ้าวจวิ้นโจวกำลังอ่านนิตยสาร แขนซ้ายพาดไว้บนที่วางแขนเป็นท่าทางสบาย ๆ ทุกครั้งที่เขาเปิดหน้าหนังสือ ก็พลอยทำให้เธอเห็นชัดเจนถึงมือเรียวยาวสวยสมบูรณ์แบบคู่นั้นหัวใจเธอเผลอไหววูบ ก่อนจะครุ่นคิด จ้าวจวิ้นโจวคนนี้รู้เรื่องของเธอมากแค่ไหนกันแน่?-สองชั่วโมงต่อมา เครื่องบินก็มาถึงเมืองไห่เพื่อความเงียบสงบ สวีเหยียนซีเลือกที่จะไม่ปิดโหมดเครื่องบิน ปล่อยให้มันเป็นแบ
Read more

บทที่ 40

บทที่ 40แต่ว่าจ้าวจวิ้นโจวกดตัดสายไปแล้วเอาไว้รับสายอย่างเดียว ส่วนเวลาอื่น ๆ ก็เก็บไว้ในกระเป๋าก็พอ สวีเหยียนซีบอกแบบนั้นเพื่อปลอบใจตัวเอง ก่อนจะคว้ากระเป๋าแล้วลงไปยังลานจอดรถชั้นใต้ดินเมื่อกวาดตามองไปรอบ ๆ ทั้งลานจอดรถ รถเบนท์ลีย์คอนติเนนทัลสีฟ้าโดดเด่นสะดุดตาเกินกว่าจะหาไม่เจอ เพราะมันมีอยู่เพียงคันเดียวเท่านั้นพอปลดล็อกด้วยกุญแจรถ สวีเหยียนซีก็แทบไม่อยากเชื่อเลยว่าผู้ชายอย่างจ้าวจวิ้นโจวจะมีรถหรูที่สีหวานละมุนราวกับรถของนางฟ้าแบบนี้หรือว่าในใจเขาเองก็อาจจะมีมุมความเป็นเด็กสาวแอบซ่อนอยู่ แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ขณะที่เธอกำลังจะเปิดประตูรถ จู่ ๆ ก็มีผู้หญิงคนหนึ่งก้าวมาขวางตรงหน้า ยืนกอดอกพลางจ้องเธอตาไม่กะพริบ “นี่มันรถของจ้าวจวิ้นโจว! ทำไมกุญแจถึงอยู่ในมือเธอได้?”สวีเหยียนซีสะดุ้งเล็กน้อย ความคิดแรกคือนี่คงเป็นผู้หญิงที่ตามจีบเขาอยู่แน่ ๆเพียงแต่ใบหน้านี้ เธอไม่เคยเห็นมาก่อนที่เมืองจิง แต่ถ้าอีกฝ่ายรู้ว่านี่เป็นรถของจ้าวจวิ้นโจว ก็แปลว่าต้องรู้จักเขา เพียงแต่เธอไม่เคยเจอเท่านั้นเองเธอพูดว่า “ท่านประธานจ้าวให้ฉันยืมรถค่ะ”สิ้นคำพูดนั้น ผู้หญิงตรงหน้าก็ระเบิดอา
Read more
PREV
12345
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status