All Chapters of รัชทายาทผงาดฟ้า: แผ่นดินนี้ข้าเป็นใหญ่: Chapter 31 - Chapter 40

100 Chapters

บทที่ 31

“เจ้าคิดจะทำอะไร?” องค์ชายเจ็ดตกใจจนถอยหลังไปหนึ่งก้าว“เจ้าคิดว่าไงล่ะ?” หยางเฉินน้ำเสียงเยือกเย็นดุจน้ำค้างแข็ง“หยางเฉิน เจ้าอย่าฆ่าข้าเลย ข้าจะไม่ต่อต้านเจ้าอีกแล้ว!” องค์ชายเจ็ดตกใจกลัวจนถอยหลังต่อเนื่อง“ข้าเคยพูดว่า หว่านเอ๋อร์ตายอย่างไร? ข้าจะให้คนที่ฆ่านางได้ลิ้มรสการลงทัณฑ์ที่โหดร้ายที่สุดในใต้หล้า!” หยางเฉินหัวเราะเสียงเย็นยะเยือกพลางพูด“อย่านะ! อย่า...” ในที่สุดองค์ชายเจ็ดก็ตื่นตระหนกแล้วหยางเฉินปลายเท้าแตะพื้น กายลอยขึ้น ดาบในมือฟันออกไป องค์ชายเจ็ดรู้สึกว่านิ้วของตนถูกตัดไปสด ๆ นิ้วหนึ่งอ๊าก...องค์ชายเจ็ดเจ็บจนดิ้นพล่านอยู่บนพื้น ราวไส้เดือนใกล้ตายตัวหนึ่งที่เกลือกกลิ้งอยู่บนทราย“หว่านเอ๋อร์ ข้าเคยสัญญากับเจ้าว่า จะต้องช่วยเจ้าล้างแค้นให้ได้ และนำความเจ็บปวดที่เจ้าได้รับหวนคืนสู่สัตว์เดรัจฉานตัวนี้เป็นร้อยเท่าพันเท่า! ตอนนี้ข้าจะค่อย ๆ เลาะกระดูกเขาซะ!”หยางเฉินพูดเสียงเย็น เดินไปหาองค์ชายเจ็ดทีละก้าว“หยาง...หยางเฉิน ไม่ใช่ขะ...ข้าเพียงผู้เดียวที่ฆะ...ฆ่าหว่านเอ๋อร์เสียหน่อย เจ้า...เจ้าจะเอามาลงที่ข้าคนเดียวไม่ได้นะ!” องค์ชายเจ็ดร้องตะโกนขึ้นมา“ไม่ใช่เจ้
Read more

บทที่ 32

แม้องค์ชายใหญ่จะรู้ดีว่าต้องตัดขาดเบาะแสทั้งหมด ทว่า อวี่เหวินจิ่นเป็นลุงของตน เป็นไปไม่ได้ที่จะฆ่าเขาได้น่ะสิ?“ท่านลุง หน่วยกล้าตายพวกนั้นคงจะไม่มีตัวตนใช่ไหม?” องค์ชายใหญ่ถาม“นั่นแน่นอนอยู่แล้ว มิฉะนั้น จะเรียกว่าหน่วยกล้าตายได้อย่างไร?” อวี่เหวินจิ่นพยักหน้าพลางตอบ“ในเมื่อไม่มีตัวตน เช่นนั้นก็ไม่ต้องกลัว ถึงอย่างไรตอนนี้คนก็ตายหมดแล้ว จะกลัวสิ่งใดกัน?” องค์ชายใหญ่ว่า“แต่ตอนนั้นกระหม่อมพบยอดฝีมือผู้หนึ่ง ตกใจจนต้องรีบหนี ไม่ทันได้ตรวจสอบว่าตายหมดแล้วแน่หรือไม่?” อวี่เหวินจิ่นพูดด้วยสีหน้าขมขื่น“เช่นนี้แล้วกัน ท่านกลับไปดูอีกสักครั้ง หากยังมีใครรอดชีวิต เช่นนั้นก็ฆ่าเสีย!” องค์ชายใหญ่ให้เขากลับไปฆ่าปิดปากครั้นอวี่เหวินจิ่นนึกถึงภูเขาศพทะเลโลหิต ตอนนี้ไหนเลยจะมีความกล้ากลับไป พูดด้วยสีหน้าทนทุกข์ว่า “น่าจะตายหมดแล้วล่ะ!”“ไม่ว่าจะตายหมดแล้วหรือยัง ทางที่ดีท่านกลับไปดูอีกครั้งเถิด ดูให้แน่ใจว่ายังมีใครรอดชีวิตหรือไม่? หากถูกจับได้ ก็จะสาวมาถึงท่านแน่นอน” องค์ชายใหญ่พูดเสียงขรึม“ก็ได้! เช่นนั้นกระหม่อมจะกลับไปดู” อวี่เหวินจิ่นตอบรับอย่างไม่เต็มใจแต่น่าเสียดาย คนขี้ขลาดอย
Read more

บทที่ 33

องค์ชายรองโกหกไม่หยุด คอยหาข้อแก้ตัวกลบเกลื่อน หวังถักทอคำลวงให้แนบเนียนไร้ช่องโหว่......ราวหนึ่งชั่วยามให้หลัง องค์ชายรองนำโลงศพขององค์ชายเจ็ดมาสู่วังหลวงข่าวการถูกสังหารขององค์ชายเจ็ดแพร่สะพัดไปทั่วทั้งวังหลวง ฮ่องเต้อู่เต๋อได้ยินว่าพระโอรสสิ้นใจแล้ว ย่อมรีบเสด็จมาทันที“เจ้าสอง นี่มันเกิดอะไรขึ้น?” ฮ่องเต้อู่เต๋อทรงกริ้วดุจสายฟ้าฟาด“ทูลเสด็จพ่อ ท่านต้องแก้แค้นให้เจ้าเจ็ดนะพ่ะย่ะค่ะ!” องค์ชายรองคุกเข่า น้ำตานองหน้าฮ่องเต้อู่เต๋อค่อย ๆ เดินเข้าไปที่โลงศพ สูดลมหายใจลึก ก่อนจะเปิดฝาโลง ครั้นเห็นว่าที่ใส่ไว้ด้านในคือโอรสของตน ดวงเนตรพลันมืดมน โกรธจนแทบสิ้นสติเซวียกุ้ยเฟยได้ยินข่าวโอรสของตนสิ้นชีพแล้ว ก็ร่ำไห้คร่ำครวญวิ่งเข้ามา แต่พอเห็นร่างไร้ลมหายใจขององค์ชายเจ็ด ก็เป็นลมหมดสติไปโดยตรง“ทูลเสด็จพ่อ วันนี้เจ้าเจ็ดถูกลอบทำร้ายระหว่างทางกลับจวน ตอนกระหม่อมไปถึง ฮือ ๆ ๆ...” องค์ชายรองเริ่มร้องไห้ฟูมฟาย สาธยายคำลวงของตนเขาน้ำมูกน้ำตาท่วมหน้า พลิกความผิดที่เป็นผู้ลอบสังหาร กล่าวว่าเป็นผู้ถูกลอบสังหารเสียเอง สุดท้ายยังกล่าวโทษว่าศัตรูฝีมือโหดเหี้ยม แม้แต่ศพก็ยังไม่เว้นสีหน้าข
Read more

บทที่ 34

วางแผนลอบทำร้ายองค์ชาย นี่คือความผิดมหันต์สิบประการที่ไม่อาจให้อภัยได้!เมื่อเผชิญกับข้อกล่าวหาเช่นนี้ หยางเฉินสีหน้าเคร่งขรึม เอ่ยด้วยเสียงเย็นชาว่า “พี่รอง เจ้าบอกว่าข้าฆ่าเจ้าเจ็ด มีหลักฐานอะไรหรือ?”“หลักฐานหรือ? เจ้าอยู่ในท้องพระโรง พูดว่าจะล้างแค้นให้หว่านเอ๋อร์ เจ้าเจ็ดก็สารภาพตรง ๆ ว่าเขาฆ่าหว่านเอ๋อร์ ตอนนี้เขาตายแล้ว ไม่ใช่เจ้าแล้วจะเป็นใคร?” องค์ชายรองชี้ออกมาโดยตรง“พี่รอง ก็แค่ปากแค่พูดลอย ๆ เท่านั้น ข้าจำได้ว่าเมื่อก่อนพวกท่านก็เคยพูดหลายครั้งว่าอยากกำจัดข้า แต่ตอนนี้ข้ายังปลอดภัยดีอยู่เลย หากท่านบอกว่าข้าฆ่าเจ้าเจ็ด ก็เอาหลักฐานออกมาสิ” หยางเฉินโต้แย้งเสียงเย็นองค์ชายรองไหนเลยจะมีหลักฐาน อีกทั้งก็เป็นเพียงการคาดเดาของเขาเท่านั้น ยิ่งไปกว่านั้น เขาก็ไม่กล้าเปิดเผยเรื่องที่เขาส่งเจ้าเจ็ดไปเรือนรับรองทิงเฟิงเห็นว่าหาหลักฐานมาไม่ได้ หยางเฉินก็ถามเสียงเย็น “พี่รอง น้องเจ็ดตายอย่างไรกันแน่?”ฮ่องเต้อู่เต๋อเห็นว่าหยางเฉินดูเหมือนจะไม่ใช่คนที่ฆ่าใครอย่างโหดเหี้ยมได้ ก็ชี้ไปที่โลงศพ พลางเอ่ยเสียงเย็น “เจ้าไปดูด้วยตัวเองเถอะ”หยางเฉินเข็นรถเข็นมายังข้างโลงศพ พอเห็นองค์ชาย
Read more

บทที่ 35

หยางเฉินเหลือบมองฮ่องเต้อู่เต๋อแวบหนึ่ง เห็นว่าเขาไม่คัดค้าน ก็รีบเอ่ยตอบทันทีว่า “ข้ากลับวังมากว่าหนึ่งชั่วยามก่อนแล้ว เรื่องนี้ผู้บัญชาการทหารรักษาพระองค์สามารถเป็นพยานได้”“พ่ะย่ะค่ะ ตอนที่องค์รัชทายาทกลับวัง กระหม่อมอยู่ที่หน้าประตูวัง” ผู้บัญชาการเซียวรีบลุกออกมาทันที“งั้นเจ้าไปทำอะไรมา? ใช่หรือไม่ว่าไปจัดการอะไรบางอย่าง?” องค์ชายรองตวาด“ข้าปฏิบัติตามพระบัญชาของเสด็จพ่อ ไปดูคุณหนูซ่างกวนที่จวนอัครเสนาบดี จากนั้นไปกินข้าวที่หอจุ้ยเซียน สุดท้ายไปเรือนรับรองทิงเฟิง ปลดบ่าวไพร่และองครักษ์ในเรือน จากนั้นก็กลับวังกับแม่ทัพไป๋” หยางเฉินเล่ารายละเอียดการเดินทางของตนหนึ่งรอบแต่น่าเสียดาย เขาเก็บงำเรื่องที่ตนฆ่าองค์ชายเจ็ดไปครึ่งชั่วยาม แต่เวลานานขนาดนี้แล้ว เวลาครึ่งชั่วยามก็ไม่สะดุดตาอะไรเลย“เหตุใดต้องปลดบ่าวไพร่และองครักษ์ในเรือนรับรองทิงเฟิงด้วย?” องค์ชายรองไล่ถามต่อหยางเฉินยิ้มสดใส เหลือบมองฮ่องเต้อู่เต๋ออย่างเขินอาย พูดด้วยสีหน้าขมขื่น “ข้าสูญสิ้นวรยุทธ์แล้ว ซ้ำยังกลายเป็นคนพิการอีก คิดว่าจะหาเงินเล็ก ๆ น้อย ๆ ไปจ้างหมอที่มีชื่อเสียงทั่วทั้งใต้หล้ามาช่วยรักษาข้า เรือนรับรอง
Read more

บทที่ 36

องครักษ์ขององค์ชาย โดยปกติแล้วจะเป็นหน้าที่ของทหารรักษาพระองค์ในการจัดเตรียม แต่หลังจากกลับถึงจวนแล้ว ก็จะเป็นหน้าที่ขององครักษ์ประจำจวนที่ต้องรับผิดชอบเองฮ่องเต้อู่เต๋อพอได้ยินว่าออกจากจวนโดยไม่ได้พาองครักษ์มาด้วย ก็ตรัสถามด้วยเสียงกริ้วทันที “ไม่ได้พามาเลยแม้แต่คนเดียวรึ?”“พ่ะย่ะค่ะ ไม่ได้พามาเลยแม้แต่คนเดียว!” องค์ชายรองรีบตอบรับ“เหตุใดจึงไม่พามา? เจ้าไปจับตัวองครักษ์ในจวนของเจ้าเจ็ดมาเดี๋ยวนี้ เราจะไต่สวนด้วยตนเอง” ฮ่องเต้อู่เต๋อรับสั่งเสียงดัง“พ่ะย่ะค่ะ ลูกจะรีบไปจับคนมาเดี๋ยวนี้!” องค์ชายรองตอบรับทันทีที่ไม่ได้พาองครักษ์เหล่านี้มาด้วย แท้จริงแล้วเป็นความประสงค์ขององค์ชายเจ็ด หากฝ่าบาททรงไต่สวนขึ้นมา การให้ปากคำขององครักษ์ทุกคนย่อมเหมือนกันเป็นแน่ ย่อมต้องทรงคิดว่าเจ้าเจ็ดไปทำเรื่องลับ ๆ บางอย่างถึงตอนนั้นเกรงว่าจะหลอกลวงให้ผ่านไปได้ยากแล้วกระมัง?“ช่างเถอะ เจ้าไม่ต้องไป ผู้บัญชาการเซียว เจ้าส่งคนไปจับตัวองครักษ์ทั้งหมดขององค์ชายเจ็ดมาเดี๋ยวนี้” ฮ่องเต้อู่เต๋อหันไปมองผู้บัญชาการเซียว แล้วรับสั่งเสียงดัง“กระหม่อมรับราชโองการ!” ผู้บัญชาการเซียวรับบัญชาเสียงดังแล้วจากไ
Read more

บทที่ 37

“นี่เป็นเพียงการคาดเดาของลูกพ่ะย่ะค่ะ ยังต้องให้หน่วยองครักษ์เสื้อแพรและค่ายกองกำลังป้องกันเมืองตรวจสอบและสืบสวนอย่างละเอียดอีกครั้ง” หยางเฉินไม่ได้พูดออกมาเต็มปากแท้จริงแล้ว เขาได้หว่านเมล็ดพันธุ์แห่งความสงสัยลงในพระทัยของฮ่องเต้อู่เต๋อแล้วเป็นไปตามคาด เพียงครู่เดียว ผู้บัญชาการหน่วยองครักษ์เสื้อแพร ชุยหมิงชง ก็รีบร้อนเข้ามา“ใต้เท้าชุย สถานการณ์เป็นอย่างไรบ้าง?” ฮ่องเต้อู่เต๋อตรัสถามอย่างร้อนรน“ทูลฝ่าบาท กระหม่อมนำคนไปยังถนนเส้นที่องค์ชายรองกล่าวถึงแล้ว มีคนบอกว่าเมื่อหนึ่งชั่วยามก่อนเกิดเหตุลอบสังหารขึ้น มีคนตะโกนลั่นว่ามีนักฆ่า แต่พวกเขากลับไม่เห็นเงาคนเลยพ่ะย่ะค่ะ...”“กระหม่อมได้ส่งคนขยายขอบเขตการค้นหาทันที เพียงแต่ตอนนี้ฝนตกหนักขนาดนี้ ต่อให้มีนักฆ่า ตอนนี้ก็คงจะหนีไปจนไร้ร่องรอยแล้วพ่ะย่ะค่ะ” ใต้เท้าชุยรายงานอย่างละเอียดในใจของหยางเฉินพลันหนักอึ้ง องค์ชายรองฉลาดหลักแหลมจริง ๆ ยังจัดฉากเหตุการณ์ลอบสังหารขึ้นมาอีก“เช่นนั้นก็หมายความว่า จับนักฆ่าไม่ได้เลยแม้แต่คนเดียวรึ?” พระพักตร์ของฮ่องเต้อู่เต๋อมืดครึ้มลง“ฝ่าบาท แต่ว่าพวกกระหม่อมได้รับการร้องเรียนจากราษฎรว่า ทางเร
Read more

บทที่ 38

บัดนี้องค์ชายเจ็ดถูกสังหาร สถานการณ์ในราชสำนักก็สั่นคลอนไม่มั่นคง หากจะปลดรัชทายาทในเวลานี้ ดูเหมือนว่าจะไม่เหมาะสมนักที่สำคัญที่สุดคือ ท่าทางของหยางเฉินนั้น เห็นได้ชัดว่าเป็นการลองใจ ทำเป็นเพียงแค่ละครฉากหนึ่งเท่านั้น“คนสองกลุ่มต้องการชีวิตข้า? ใครกันแน่ที่ต้องการชีวิตข้า?” หยางเฉินพึมพำกับตัวเอง แต่ก็ดูเหมือนจะพูดให้ฮ่องเต้อู่เต๋อได้ยินพระพักตร์ของฮ่องเต้อู่เต๋อดูไม่ค่อยดีนัก เห็นได้ชัดว่าพระองค์ก็ทรงคิดอะไรบางอย่างออก แต่กลับตรัสออกมาได้ยาก“รัชทายาท เจ้าอย่าได้คาดเดาไปเลย เราได้ส่งคนไปสืบสวนแล้ว เชื่อว่าย่อมต้องมีร่องรอยอยู่บ้าง” ที่ฮ่องเต้อู่เต๋อตรัสเช่นนี้ ก็ได้แต่ถือว่าเป็นการปลอบใจหยางเฉิน“เสด็จพ่อ หากพวกเขาจะสังหารลูก ลูกควรจะตอบโต้หรือไม่พ่ะย่ะค่ะ?” หยางเฉินเอ่ยถามขึ้นมาทันใด“เจ้าวางใจเถอะ ไม่มีใครกล้าสังหารเจ้า! เราไม่ได้บอกไปแล้วรึ? ต่อไปเวลาเจ้าออกจากวัง ให้ส่งทหารรักษาพระองค์ไปคุ้มกันเจ้าให้มากขึ้น” พระพักตร์ของฮ่องเต้อู่เต๋อดูไม่สู้ดีนัก“เสด็จพ่อ หากพวกเขาจะสังหารลูก แล้วลูกไม่กล้าแม้แต่จะต่อต้าน พระองค์จะทรงวางพระทัยมอบแผ่นดินให้แก่ลูกได้หรือพ่ะย่ะค่ะ?” ในแ
Read more

บทที่ 39

พระพักตร์ของเซวียกุ้ยเฟยมืดครึ้ม ตรัสถามลอดไรฟัน “ใครกันแน่ที่สังหารเจ้าเจ็ด?”“รู้แต่เพียงว่าเป็นคนอีกกลุ่มหนึ่งพ่ะย่ะค่ะ ลูกเองก็ไม่รู้ว่าเป็นผู้ใด?” องค์ชายรองส่ายหน้า“เป็นหยางเฉินที่วางกับดักไว้ใช่หรือไม่?” เซวียกุ้ยเฟยตรัสถามด้วยเสียงเย็นชา“ไม่น่าจะใช่พ่ะย่ะค่ะ ลูกคาดว่าเป็นคนของพี่ใหญ่” ในตอนนี้องค์ชายรองก็พอจะเดาอะไรบางอย่างออกแล้ว“อะไรนะ? คนของเจ้าใหญ่? เช่นนั้นก็มิใช่ว่า...” เซวียกุ้ยเฟยตรัสอย่างประหลาดใจ“เสด็จแม่ ลูกจับคนรอดชีวิตมาได้คนหนึ่ง ถึงเวลาไต่สวนก็จะได้รู้ทุกอย่างเองพ่ะย่ะค่ะ” องค์ชายรองตรัสด้วยเสียงเคร่งขรึม“ไม่ว่าใครจะสังหารเจ้าเจ็ด ข้าจะให้มันต้องชดใช้ด้วยชีวิต! ข้าจะฉีกร่างมันเป็นหมื่น ๆ ชิ้น!” เซวียกุ้ยเฟยตรัสอย่างน่าสยดสยอง“เสด็จแม่ หากพวกเราเปิดศึกกับฮองเฮาและพี่ใหญ่ โอกาสชนะของเรามีไม่มากนักพ่ะย่ะค่ะ!” องค์ชายรองตรัสด้วยใบหน้าเศร้าสร้อย“เรื่องเหล่านี้ให้แม่เป็นคนจัดการให้เจ้าเอง เจ้าแค่ทำหน้าที่องค์ชายรองให้ดีก็พอแล้ว แต่ต่อไปจะทำการใดก็ใช้สมองคิดเสียบ้าง วันนี้หยางเฉินเพิ่งจะออกจากวัง พวกเจ้าก็ไปลอบสังหารเขาเสียแล้ว นี่มันโจ่งแจ้งเกินไปแล้ว พว
Read more

บทที่ 40

หลังจากองค์ชายเจ็ดบรรลุนิติภาวะแล้ว ฮ่องเต้อู่เต๋อได้พระราชทานจวนหลังหนึ่งให้เขา ซึ่งตั้งอยู่ภายในเมืองหลวงเมืองอู่ตี้นั้นใหญ่โตมาก นอกวังหลวงคือเมืองหลวง นอกเมืองหลวงคือเมืองชั้นใน นอกเมืองชั้นในคือเมืองชั้นนอก และถัดออกไปอีกก็คือเมืองรอบนอกขนาดเล็กจวนขององค์ชายเจ็ดในตอนนี้ แขวนไปด้วยผ้าขาวและแถบผ้าโปร่งสีขาว ทั้งยังมีพวงหรีดและกระเช้าดอกไม้ที่ขุนนางฝ่ายบุ๋นฝ่ายบู๊นำมามอบให้ รวมถึงสิ่งของสำหรับเคารพศพบางส่วนเซวียกุ้ยเฟยในฐานะพระมารดาขององค์ชายเจ็ด ตอนนี้กำลังนำองค์ชายรองกล่าวขอบคุณเหล่าขุนนางชั้นสูงที่เดินทางมาแสดงความเสียใจโดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากฟ้าสาง ขุนนางฝ่ายบุ๋นฝ่ายบู๊และพระญาติเชื้อพระวงศ์ที่ทราบข่าว ก็ทยอยกันเดินทางมาเคารพศพองค์ชายเจ็ดตามธรรมเนียมของจักรวรรดิเฉียนอู่ จำเป็นต้องจัดพิธีทางศาสนาให้แก่องค์ชายเจ็ดที่สิ้นพระชนม์อย่างน่าสลด เพื่อส่งดวงวิญญาณของพระองค์ไปสู่สุคติหอวิญญาณถูกจัดตั้งขึ้นในห้องโถง ตกแต่งอย่างโอ่อ่า โลงศพถูกเปลี่ยนเป็นใบที่ดีกว่าและใหญ่กว่า เพื่อแสดงถึงความสูงส่งของราชวงศ์แต่ตอนนี้ถึงแม้จะสูงส่งเพียงใด ก็เป็นเพียงศพ ๆ หนึ่งเท่านั้นหยางเฉินท
Read more
PREV
123456
...
10
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status