“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ แล้วจะเจรจาสงบศึกอะไรอีก? ปล่อยให้พวกมันบุกป้อมปราการเกอเอ่อเติงเข้ามาเลย พวกเราจะได้ตัดสินแพ้ชนะกันในสนามรบ อย่างมากที่สุดข้าก็แค่สวมเกราะไปออกรบสังหารศัตรูด้วยตนเอง...” หนานกงอู๋ตี๋สนับสนุนการรบมาโดยตลอด นับเป็นแบบอย่างของความซื่อตรงและไม่ยอมอ่อนข้อซ่างกวนหลินในฐานะอัครมหาเสนาบดีแห่งจักรวรรดิ รู้สึกว่าเรื่องนี้ไม่จำเป็นต้องให้ผู้คนหลั่งเลือดล้มตายไปมากกว่านี้ จึงกล่าวพร้อมรอยยิ้ม “ท่านจอมพลใหญ่อย่าเพิ่งใจร้อน ข้าคิดว่าการเจรจาสงบศึกก็ไม่ใช่เรื่องเลวร้ายอะไร ขอเพียงสามารถถ่วงเวลาไว้ได้ รอให้กองทัพของเราวางกำลังเสร็จสิ้น ท่านว่าจริงหรือไม่?”หนานกงอู๋ตี๋เห็นว่าเขาไม่ได้มีเจตนาจะเจรจาสงบศึกจริง ๆ ก็พยักหน้าเล็กน้อยแล้วกล่าวว่า “ท่านอัครมหาเสนาบดีกล่าวได้ถูกต้องยิ่งนัก เช่นนั้นก็เจรจากันไปก่อน หากเจรจาไม่ลงตัวก็ค่อยรบกัน อย่างไรเสีย กรมกลาโหมของเราก็ต้องการเวลาในการรวบรวมเสบียงและกำลังพลเช่นกัน”“ในเมื่อพวกท่านมีความเห็นตรงกัน ก็ให้ท่านอัครมหาเสนาบดีและกรมรัฐพิธีรับผิดชอบเรื่องการเจรจาสงบศึก” ฮ่องเต้อู่เต๋อทรงตัดสินพระทัยอย่างเด็ดขาด มอบหมายให้ท่านอัครมหาเสนาบดีเป
อ่านเพิ่มเติม