บททั้งหมดของ คุณกับเลขาเกิดมาคู่กัน แล้วจะมาคุกเข่าในงานแต่งฉันทำไม?: บทที่ 61 - บทที่ 70

85

บทที่61

ซ่งจื่ออินลังเลไปครู่หนึ่ง กำลังจะพูดอะไร แต่จู่ๆเพื่อนของเธอก็เรียกเธอ“เดี๋ยวฉันไปก่อนนะ แกเล่นอะไรไปก่อนเองนะ”“โอเค”หลังจากซ่งจื่ออินจากไป สืออวี๋ก็ดื่มไวน์ผลไม้ไปสองสามแก้ว รู้สึกมึน ๆ เลยหามุมเงียบนั่งลง เตรียมพักสักหน่อย แต่นั่งลงไม่นานแล้วนอนหลับไปแล้ว พอตื่นมาอีกที บรรยากาศในห้องก็ยังครึกครื้นเหมือนเดิมสืออวี๋ดูเวลาแล้วพบว่าห้าทุ่มกว่าแล้ว เธอหลับไปหนึ่งชั่วโมงกว่า พอเห็นซ่งจื่ออินยังไม่มีท่าทีจะเลิก เธอก็ทักทายซ่งจื่ออิน และจากไปก่อนพอเดินออกจากคลับ ก็เห็นว่าข้างนอกเริ่มมีหิมะโปรยปรายลงมา แววตาของสืออวี๋ฉายแววตื่นเต้นฤดูหนาวของเมืองเซินหนาวมาก แต่หิมะแทบไม่เคยตกเลย สืออวี๋โตขนาดนี้ ในความทรงจำก็จำได้ว่าเคยตกแค่หนึ่งครั้งสองครั้งเองเธอยืนอยู่หน้าประตู ขณะรอรถที่เรียกเธอก็แหงนหน้ามองหิมะที่โปรยปรายลงมาไม่ขาดสาย ริมฝีปากก็เผลอยกยิ้มขึ้นมาโดยไม่รู้ตัวบนระเบียงของห้องวีไอพีชั้นสอง มีร่างสูงใหญ่ของชายคนหนึ่งยืนอยู่ตรงหน้าต่าง ก้มหน้ามองดูสืออวี๋ที่อยู่ด้านล่างใบหน้าของเขาถูกความมืดบดบังไปบางส่วน แต่ยังพอมองเห็นเค้าโครงที่คมชัดลึกซึ้ง และออร่าเย็นเยียบทั่วกายที่แ
อ่านเพิ่มเติม

บทที่62

สืออวี๋ไม่ค่อยอยากมีปฏิสัมพันธ์กับพวกเขาสักเท่าไหร่ จึงหยุดเดินแล้วตั้งใจจะเรียกพนักงานขายข้างหน้า บอกเธอว่าจะเดี๋ยวค่อยมาดูแต่เธอยังไม่ทันได้พูด เสินหลีที่กำลังลองแหวนอยู่ก็เหมือนจะรู้สึกถึงบางอย่าง เงยหน้าขึ้นหันมองมาทางเธอมือที่กำลังจับแหวนของเสินหลีกำแน่นขึ้น ขอบแหวนกดเข้ากับนิ้วจนเจ็บแปลบคำพูดของจ้าวเฉินในเมื่อคืนดังขึ้นมาอีกครั้งในหัว เหมือนเข็มที่ทิ่มแทงลงกลางใจเธอ ไม่ได้เจ็บมากนัก แต่กลับอึดอัดใจยิ่งนักเธอแค่ไม่ได้เกิดมาดีเหมือนสืออวี๋ แต่ในด้านอื่น ๆ เธอก็ไม่เคยคิดว่าตัวเองด้อยกว่าสืออวี๋เลยสักนิดแต่เวลาที่เพื่อนของเหลียงหยวนโจวพูดถึงเธอ น้ำเสียงกลับเต็มไปด้วยความดูถูกและไม่แคร์เธอจะต้องพิสูจน์ให้ทุกคนเห็นว่า เธอไม่ได้ด้อยกว่าสืออวี๋เลย!เสินหลีก้มหน้าลง ตั้งสติได้อย่างรวดเร็ว ก่อนจะยกมุมปากยิ้มขึ้นเล็กน้อย “คุณหนูสือ บังเอิญจังเลย คุณก็มาซื้อแหวนเหรอ?”เหลียงหยวนโจวมองตามเสียงของเสินหลีไป ก็เห็นสืออวี๋ยืนอยู่ที่ไม่ไกลนั้นพอนึกถึงก่อนหน้านี้ท่าทีเย็นชาของสืออวี๋ตอนเจอเขาที่หน้าประตูโรงพยาบาล บวกกับความคิดเข้าข้างตัวเองในเมื่อคืนนี้ สีหน้าของเขาก็มืดครึ้มลงสือ
อ่านเพิ่มเติม

บทที่63

สีหน้าของเหลียงหยวนโจวมืดครึ้มมาก “สืออวี๋ นี่คุณจงใจใช่ไหม?”สิบพันล้านคงซื้อได้ทั้งร้านแล้วมั้ง เธอช่างกล้าพูดมาได้จริงๆสืออวี๋มองเขาอย่างไร้อารมณ์ “คุณเป็นคนบอกให้ฉันตั้งราคาเองไม่ใช่เหรอ? ในเมื่อจ่ายไม่ไหว ก็อย่ามาทำตัวเหมือนพวกเศรษฐีไปเลย มีแต่จะทำให้คนอื่นรู้สึกตลก”เธอไม่สนใจสีหน้าของทั้งคู่ หันกลับไปหาพนักงานขาย ยื่นบัตรให้กับพนักงาน “รบกวนช่วยห่อกำไลเส้นนี้ให้ด้วยค่ะ”เดิมทียังอยากดูเครื่องประดับอื่น ๆ ต่อ แต่ตอนนี้อารมณ์เสียไปหมดแล้ว สืออวี๋เลยไม่คิดจะดูต่ออีกพนักงานขายก็เป็นคนหัวไว รีบรับบัตรไว้ทันที “ได้ค่ะ เชิญทางนี้ค่ะ”หลังรูดบัตรเสร็จ พนักงานก็คืนบัตรพร้อมกล่องที่ห่อเสร็จแล้วให้สืออวี๋“ขอบคุณคุณหนูสือ โอกาสหน้าเชิญใหม่นะคะ”สืออวี๋ยื่นมือไปรับ แล้วหันหลังเดินออกไปตอนรอลิฟต์ เสินหลีกับเหลียงหยวนโจวก็ตามออกมา“ประธานเหลียงคะ ยังไงฉันก็ยังรู้สึกว่าแหวนวงนี้มันแพงไปหน่อยนะคะ หรือว่าเรากลับไปเปลี่ยนเป็นวงเล็กกว่านี้ไหมคะ?”“ไม่ต้อง วงนี้สวยสุดแล้ว”“งั้นก็ได้ค่ะ แต่วันนี้จู่ๆคุณก็พาฉันมาซื้อแหวน อย่าบอกนะว่าจะขอฉันแต่งงาน? ฉันไม่ใช่คนที่ง่ายขนาดนั้นนะ แค่แหวน
อ่านเพิ่มเติม

บทที่64

สืออวี๋รู้สึกแปลกใจเล็กน้อย เพราะเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ตอนคุยกับลูกความคนนี้ทุกอย่างก็ราบรื่นดี“คุณโจว คุณมีความกังวลอะไรอยู่หรือเปล่าคะ?”ทนายจางจากสำนักกฎหมายหมิงซิ่น สืออวี๋ก็รู้จัก เขามีความเชี่ยวชาญคดีอาญามากกว่า ไม่ใช่คดีหย่า“ฉันคุยกับทนายจางแล้ว ก็รู้สึกว่าเขาเหมาะกว่าค่ะ ทนายสือ ขอโทษนะคะที่ทำให้คุณเสียเวลา ฉันยังมีธุระต่อ แค่นี้ก่อนนะค่ะ”สืออวี๋ยังไม่ทันได้พูดอะไร ปลายสายก็ตัดไปแล้วเธอวางโทรศัพท์ลง เมื่ออีกฝ่ายตัดสินใจเลือกทนายคนอื่น เธอโทรกลับไปก็ไม่มีประโยชน์อะไรไม่นานหลังจากกลับถึงบ้าน ก็มีลูกความอีกคนที่ก่อนหน้านี้คุยกันเรียบร้อยแล้วก็โทรมา บอกว่าจะเปลี่ยนไปจ้างทนายคนอื่นสุดสัปดาห์ตลอดสองวัน ลูกความที่เธอเคยคุยไว้เกือบทั้งหมด ต่างก็ทยอยติดต่อมาบอกว่าจะเปลี่ยนทนายด้วยกันทั้งนั้น ก่อนหน้านี้ไม่เคยเกิดเรื่องแบบนี้มาก่อนเลยถ้าเป็นแค่หนึ่งหรือสองคนเปลี่ยนทนาย ก็คงยังถือว่าปกติ แต่เยอะขนาดนี้ เห็นได้ชัดว่ามันไม่ปกติ เช้าวันจันทร์ พอสืออวี๋มาถึงสำนักงาน ก็ไปที่ห้องทำงานของเฉียนเหว่ยทันทีและบอกเรื่องนี้ให้กับเขาหลังจากฟังจบ สีหน้าของเฉียนเหว่ยก็ดูเคร่งเครียดขึ้น แ
อ่านเพิ่มเติม

บทที่65

“ฉันเข้าใจแล้วค่ะผอ.เฉียน ขอบคุณนะคะ”เฉียนเหว่ยถอนหายใจออก แล้วพูดอย่างช้า ๆว่า “ทนายสือ ถ้าคุณเหลียงเขาต้องการจะแย่งคดีของคุณด้วยวิธีแบบนี้จริง ๆ เราก็ไม่มีทางห้ามได้ คุณจะลองไปคุยกับเขาดูไหม?”เพราะทั้งสองเคยเป็นคนรักกันมาก่อน หากสืออวี๋ไปหาเขา บางทีเรื่องนี้อาจยังมีทางออกก็ได้สืออวี๋ลุกขึ้น หันไปมองเฉียนเหว่ยแล้วพูดว่า “ค่ะ ฉันจะลองพิจารณาดู ผอ.เฉียน ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ฉันขอตัวก่อนนะคะ”“โอเค”กลับมาที่โต๊ะทำงานของตัวเอง สืออวี๋นั่งมองหน้าจอสักพัก สุดท้ายก็ตัดสินใจลุกขึ้น คว้ากระเป๋าแล้วเดินตรงไปทางประตูสำนักงานซือห่าวอวี่เห็นเข้า ก็รีบขึ้นวิ่งไปตามเธอ “พี่สืออวี๋ พี่จะไปไหน?”“ฉันจะไปหาคนหน่อย คุณไม่ต้องตามมาหรอก กลับไปดูคดีต่อเถอะ”เห็นอารมณ์เธอผิดปกติเล็กน้อย ซือห่าวอวี่ก็พูดด้วยเสียงเข้มว่า “ผมไปกับพี่”“ไม่ต้อง ฉันไปคนเดียวก็พอ”ซือห่าวอวี่ไม่ได้พูดอะไรต่อ แต่ก็ไม่ยอมถอย กดปุ่มลิฟต์ลงไปชั้นล่างไม่นานลิฟต์ก็มาถึง ซือห่าวอวี่ก้าวเข้าไปตามเธอ สืออวี๋กดชั้นใต้ดินหนึ่ง แล้วก้มหน้าโดยไม่พูดอะไร ไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่ซือห่าวอวี่มองดูเธอ สายตาเต็มไปด้วยความกังวลไม
อ่านเพิ่มเติม

บทที่66

สืออวี๋มองดูเขา ใบหน้าเรียบเฉยไร้ซึ่งอารมณ์เห็นดวงตาที่นิ่งสงบของเธอ ในใจของเหลียงหยวนโจวพลันเอ่อล้นไปด้วยความรู้สึกบางอย่างที่ทั้งอธิบายไม่ได้และบอกไม่ถูก เหมือนมีบางสิ่งค่อย ๆ เลือนหายไป แต่เขากลับไม่มีแรงคว้ามันไว้สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปเล็กน้อย มือที่วางอยู่บนโต๊ะก็ค่อย ๆ กำแน่นแต่สืออวี๋ไม่ทันสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงของเขา แม้จะสังเกตเห็นก็ไม่ใส่ใจอยู่ดี“ถ้าคุณคิดแบบนั้น งั้นฉันจะบอกให้กับคุณตอนนี้เลยว่า เหลียงหยวนโจว ต่อให้ฉันจะไปหาใครสักคนที่บนถนนมาแต่งงานด้วย ก็ไม่มีวันกลับไปที่ข้างกายคุณอีกแล้ว”“สืออวี๋!”สีหน้าของเหลียงหยวนโจวมืดครึ้มลงทันที แววตาที่จ้องมองสืออวี๋เหมือนจะกลืนกินคนทั้งเป็น“แน่จริงคุณก็พูดอีกครั้ง!”“ถ้าคุณชอบฟัง ฉันจะอัดเสียงแล้วส่งให้คุณเปิดวนฟังทุกวันเลย”ททันทีที่พูดจบ แก้วชาก็ถูกปาใส่ตรงเท้าเธออย่างแรง“เพล้ง!”แก้วแตกกระจาย น้ำชาร้อนจัดสาดกระเด็นใส่ขาเธอมีความเจ็บปวดแล่นขึ้นมาที่น่อง สืออวี๋กัดฟันแน่น ก่อนจะก้มลงมอง ก็เห็นรอยเปียกชื้นบริเวณน่องของตัวเองเสียงตะโกนด้วยความโกรธของเหลียงหยวนโจวดังมาจากด้านหน้า “ไสหัวไป!’สืออวี๋ฝืนทนความ
อ่านเพิ่มเติม

บทที่67

สืออวี๋เม้มปาก เธอไม่เคยมาสวนสนุกมาจริงก่อนอายุสิบหก เธอเติบโตอยู่ในชนบท ไม่เคยเห็นสวนสนุกเลยด้วยซ้ำตอนอายุสิบหกหลังถูกตระกูลสือรับกลับไปแล้ว มีครั้งหนึ่งตอนขับรถผ่านสวนสนุก เธอถามด้วยความสงสัยว่าที่นั่นคืออะไร แม่สือกลับทำหน้าตาไม่พอใจและพูดด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดว่า “สวนสนุกก็ไม่รู้จัก ที่ที่เด็ก ๆ เล่นกัน มาจากบ้านนอกก็งี้แหละ อะไรก็ไม่รู้จัก เด็กบ้านนอกคอกนาจริงๆเลย”น้ำเสียงรังเกียจของแม่สือในตอนนั้น ถึงตอนนี้สืออวี๋ยังจำได้ชัดเจนหลังจากนั้น เวลามองเห็นสิ่งก่อสร้างหรือสถานที่ที่ไม่รู้จัก เธอก็ไม่กล้าถามอีกต่อไป แต่จะถ่ายรูปหรือแอบจำไว้ แล้วค่อยกลับไปค้นหาทีหลังเห็นสืออวี๋เงียบไป ซือห่าวอวี่ก็ทำหน้าไม่อยากจะเชื่อ เขาไม่คิดว่าจะมีคนที่ไม่เคยไปสวนสนุกมาก่อนจริง ๆ“ในเมื่อพี่ไม่เคยมาก่อน งั้นวันนี้ผมก็จะยอมทำหน้าที่เป็นไกด์ครั้งหนึ่ง พาเพื่อนผู้ใหญ่อย่างพี่ไปเดินเล่นเอง!”สืออวี๋เงยหน้ามองเขา แล้วเอ่ยขึ้นว่า “ทำไมคุณถึงพาฉันมาที่นี่?”“ก็พี่อารมณ์ไม่ดีไม่ใช่เหรอ?ทุกครั้งที่ผมอารมณ์ไม่ดี ก็จะมาที่สวนสนุกตลอด ไปกันเถอะ!”พูดจบ เขาก็หันหลังรีบเดินมุ่งหน้าไปทางสวนสนุกแล้วสืออว
อ่านเพิ่มเติม

บทที่68

ซือห่าวอวี่ซื้อน้ำกลับมา เห็นสืออวี๋นั่งเหม่อมองสามพ่อแม่ลูกที่นั่งอยู่ข้าง ๆ จึงเดินไปแล้วยื่นน้ำให้เธอ“พี่สืออวี๋ พี่ก็อยากกินไอศกรีมเหรอ?”ถ้าเขามองไม่ผิด เมื่อครู่สายตาของสืออวี๋จับจ้องไปที่ไอศกรีมในมือของเด็กผู้หญิงคนนั้นอยู่ตลอดสืออวี๋รับน้ำมา แล้วพูดว่า “ไม่อยากกิน แค่รู้สึกว่าเด็กผู้หญิงคนนั้นน่ารักดี”“ไม่เคยมีคนบอกพี่หรือไง พี่ก็น่ารักมากเหมือนกัน?”สืออวี๋เงยหน้ามองเขา “ไม่เคย คนส่วนใหญ่จะประเมินว่าฉันมืออาชีพและมีประสิทธิภาพ อ้อ ใช่แล้ว พวกที่แพ้คดีจะบอกว่าฉันพูดเก่ง ปากคมสุด ๆ”“ประเมินได้ตรงมากเลย”“เอาล่ะ ตอนนี้ก็ไม่เช้าแล้ว เรากลับกันเถอะ”“โอเค”ทั้งสองเดินออกจากสวนสนุก ขึ้นรถแล้ว สืออวี๋หันไปมองซือห่าวอวี่ “ห่าวอวี่ วันนี้ขอบคุณมากนะ ตอนนี้อารมณ์ฉันดีขึ้นเยอะเลย”“ไม่ต้องขอบคุณหรอก เรื่องเล็กน้อยเอง”เขาสตาร์ทรถขับออกไปกลับมาถึงสำนักงานกฎหมาย สืออวี๋ก็เริ่มหาคดีใหม่ต่อ ส่วนซือห่าวอวี่ก็นั่งดูเอกสารคดีที่สืออวี๋เคยรับผิดชอบมาก่อนตลอดสัปดาห์ต่อมา สืออวี๋นอกจากจะติดตามงานคดีที่เซ็นสัญญาไว้แล้ว ก็ไม่ได้รับคดีใหม่เข้ามาเลยเห็นได้ชัดว่าเหลียงหยวนโจวไม่คิด
อ่านเพิ่มเติม

บทที่69

ทันทีที่คำพูดของเธอจบลง สีหน้าของผู้คนรอบ ๆ ก็เปลี่ยนไป แววตาที่หันมามองสืออวี๋ล้วนเต็มไปด้วยความไม่เป็นมิตรมองดูสืออวี๋ที่ยังคงไม่ยอมขอความช่วยเหลือจากตน สีหน้าของเหลียงหยวนโจวก็มืดครึ้มถึงขีดสุด นิ้วมือที่จับแก้วไวน์ไว้ก็กำแน่นจนขาวซีดผู้หญิงคนนั้นจับสังเกตได้ทันทีถึงการเปลี่ยนแปลงของคนรอบข้าง หันไปพูดกับคนรับใช้ของตระกูลซ่งว่า “ยังไม่รีบไล่ผู้หญิงที่แอบเข้ามาคนนี้ออกไปอีก?ถ้าเกิดส่งผลกระทบต่องานวันเกิดของคุณหนูซ่งขึ้นมา ฉันจะดูว่าเธอจะรับผิดชอบไหวไหม!คนใช้เพิ่งเข้ามาทำงานใหม่ ไม่เคยเห็นสืออวี๋ จึงไม่รู้ว่าเธอเป็นเพื่อนของซ่งจื่ออินและบอกกับที่เห็นอีกฝ่ายแต่งตัวหรูหรา แต่สืออวี๋กลับเรียบง่ายจนดูธรรมดา จึงเลือกเข้าข้างผู้หยิงคนั้นแทนเพราะวันนี้แขกที่มาแต่ละคนล้วนเป็นผู้มีฐานะ หากเธอทำให้ใครขุ่นเคือง ก็คงต้องถูกไล่ออกแน่“คุณผู้หญิงคะ กรุณาออกไปเดี๋ยวนี้ ไม่อย่างนั้นฉันจะเรียกการ์ดแล้วนะคะ!”สืออวี๋ขมวดคิ้วทันที สีหน้าก็เย็นชาลง“ฉันแค่มาส่งของ ส่งเสร็จฉันก็ไป”พึ่งพูดจบ ผู้หญิงคนนั้นก็หัวเราะเยาะ “ส่งของอะไร? ส่งตัวเธอเองหรือไง? แต่ก็ต้องดูว่าคนที่อยู่ในนี้มีคนจะเอาหรือเ
อ่านเพิ่มเติม

บทที่70

ผู้คนรอบข้างต่างก็สงสัยในตัวตนของสืออวี๋ แต่กลับมีอยู่สามคนที่สีหน้าเคร่งเครียด เห็นได้ชัดว่าอารมณ์ไม่ดีสักเท่าไหร่หนึ่งคือเสินหลี อีกหนึ่งคือเหลียงหยวนโจว และอีกคนก็คือหานเชี่ยนเธอจ้องเขม็งไปทางที่สืออวี๋จากไป ดวงตาเต็มไปด้วยความไม่พอใจและโกรธแค้นเรื่องวันนี้ เธอจำไว้แล้ว!หลังจากซ่งจื่อเฉียนออกจากสวน ก็ตรงไปยังห้องรับรองชั้นสองของวิลล่าเมื่อผลักประตูเข้าไป เขาเดินไปยังหน้าระเบียงบนระเบียงมีโต๊ะหนึ่งตัว ข้างซ้ายและขวาตั้งเก้าอี้ไว้สองตัวตอนนี้บนเก้าอี้ฝั่งขวา ชายคนหนึ่งในชุดสูทสีเทาเงินกำลังนั่งอยู่ ผมสีดำ ดวงตาคมดั่งดวงดาว ออร่าสงบนิ่งเย็นชา ขาที่ยาวเรียวยิ่งทำให้ดูโดดเด่นเป็นพิเศษซ่งจื่อเฉียนนั่งลงตรงข้ามเขา “จัดการเรียบร้อยแล้ว แต่ตานายดีมากนะ ขนาดไกลขนาดนั้นยังมองออกว่าคนนั้นคือสืออวี๋……ไม่สิ นายรู้จักสืออวี๋ได้ยังไง?”เขาขมวดคิ้วมองดูซือเยี่ยน ถ้าจำไม่ผิด ซือเยี่ยนกับสืออวี๋ไม่เคยเจอกันมาก่อนแล้วเมื่อครู่เขาถึงพูดชื่อของสืออวี๋ออกมาได้อย่างถูกต้องได้ไง?ก่อนหน้านี้พวกเขากำลังนั่งคุยกันบนระเบียง แต่จู่ๆซือเยี่ยนก็หรี่ตาลงแล้วบอกกับเขาว่าสืออวี๋กำลังถูกรังแกอยู่
อ่านเพิ่มเติม
ก่อนหน้า
1
...
456789
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status