บททั้งหมดของ เซี่ยชิงหลี ดรุณีเปลี่ยนชะตาพลิกอนาคต: บทที่ 71 - บทที่ 80

183

สารภาพรัก

เลือดสีแดงฉานเริ่มไหลเปรอะพื้นดินปะปนกับฝุ่นผงใต้ฝ่าเท้าเซี่ยจื่อยวนดวงตาเบิกกว้างเพราะความหวาดกลัว เขาร้องขอชีวิต และเขาร้องเรียกชื่อผู้คนที่ไม่อยู่ตรงนั้น ทั้งที่อีกฝ่ายไม่มีทางได้ยินไม่มีใครช่วยเขาได้อีกแล้ว เพราะทุกสิ่งที่เขาได้รับมันคือสิ่งที่เขาเคยกระทำมาก่อน หนึ่งในชายฉกรรจ์คว้ามีดสั้นที่เหน็บไว้ข้างเอวออกมา เสียงสุดท้ายที่เซี่ยจื่อยวนได้ยินคือเสียงของแม่หม้ายหม่า ที่ยืนมองเขาด้วยสายตาเรียบเฉย“นี่คือบาปของเจ้า...คือสิ่งที่เจ้าควรได้รับ”มีดสั้นแทงลงไป ร่างของเซี่ยจื่อยวนแน่นิ่งกลางทางดิน ไม่มีเสียงร้องเจ็บปวด ไม่มีแม้แต่เสียงร้องขอความเมตตาให้กับตน เขาถูกทิ้งเอาไว้กลางป่า การตายของเซี่ยจื่อยวนไม่ต่างจากแม่เฒ่าหวังผู้เป็นมารดา และจุดที่เขาล้มลงคือจุดที่มารดาของเขาเคยเสียชีวิตสองวันหลังจากนั้น ข่าวการตายของเซี่ยจื่อยวนก็มาถึงหมู่บ้านสือโถว และผู้ที่ลงมือก็ถูกจับส่งทางการทั้งหมด ทว่า...ไร้เสียงร้องไห้ ไม่มีใครตกใจ มีเพียงความเงียบงัน...และลมหายใจแผ่วเบาของคนที่ได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับเขาอีกครั้งหลี่หลันฮวาอดีตภรรยาทำเพียงพยักหน้าด้วยใบหน้าเรียบเฉย ก่อนจะหันหลังเดินเข้าไปด้าน
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-10-04
อ่านเพิ่มเติม

ความหวังยังมีอยู่

ไม่กี่วันหลังจากนั้นงานแต่งเล็กๆ ได้ถูกจัดขึ้น ณ ลานหน้าเรือนตระกูลหลี่ท่ามกลางแสงแดดยามเช้าและสายลมอ่อนๆ ที่พัดผ่านทุ่งหญ้าสีทองรอบหมู่บ้านสือโถว งานแต่งงานครั้งนี้ไม่มีพิธีการซับซ้อนใดมีเพียงรอยยิ้มของผู้คนที่จริงใจ และสายตาชื่นชมของชาวบ้านที่มาร่วมยินดีหลี่หลันฮวาแต่งชุดผ้าปักสีแดง ปล่อยผมครึ่งมวยประดับดอกบ๊วยขาว มือสองข้างประสานไว้เบื้องหน้า รอยยิ้มของนางดูอ่อนโยนและเต็มไปด้วยความสงบที่หาได้ยากยิ่งในชีวิตที่ผ่านมาเซี่ยฉางเยี่ยนสวมชุดคลุมยาวสีแดงมงคลยืนหลังตรงอย่างสง่าผ่าเผย เขาส่งยิ้มให้เจ้าสาวที่เฝ้ารอมาทั้งชีวิตอย่างเงียบๆ มีเพียงแววตาที่สื่อว่า จากนี้ไปข้าจะอยู่ตรงนี้ เพื่อเจ้าและครอบครัวนี้...ตลอดไปเซี่ยชิงหลีและคนบ้านหลี่ช่วยกันจัดโต๊ะอาหารง่ายๆ ในลานเรือน เซี่ยชิงเป่าเด็กน้อยวิ่งไปรอบๆ พร้อมเสียงหัวเราะร่า ผู้เฒ่าเมิ่งและอาจารย์ใหญ่จ้าวก็มานั่งเป็นแขกกิตติมศักดิ์อีกครั้งส่วนผู้เฒ่าหลี่และแม่เฒ่าโจวผู้เป็นบิดามารดาของหลี่หลันฮวาลอบเช็ดน้ำตาเงียบๆ เมื่อคิดว่าครั้งนี้บุตรสาวของตนจะได้มีความสุขเสียที“ข้าคิดว่าชีวิตของนางจะโดดเดี่ยวไปจนแก่เฒ่า...ไม่คิดเลยว่าจะได้เห็นวันนี
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-10-04
อ่านเพิ่มเติม

มุ่งหน้าสู่เมืองหลวง

หลายวันต่อมาเช้าตรู่ของวันที่ท้องฟ้ายังเป็นสีอ่อน สายหมอกบางเบาลอยคออยู่รอบหุบเขาหมู่บ้านสือโถวเซี่ยชิงหลีปิดหีบไม้ใบสุดท้ายของตนลงอย่างแน่นหนา แม้ในใจของนางยังมีความกังวลซ่อนอยู่ และรู้สึกสังหรณ์ใจว่าการเดินทางไปยังเมืองหลวงเพื่อวางรากฐานครั้งนี้อาจไม่ใช่เรื่องง่าย แต่นางเชื่อมั่นในสิ่งที่ตนเลือก...และพร้อมเผชิญหน้ากับมันหญิงสาวสะพายห่อผ้าที่มีของใช้ส่วนตัว ก่อนจะเดินออกจากห้องเพื่อบอกลาทุกคน ทว่า…เมื่อเปิดประตูเรือนด้านหน้าออก สิ่งที่นางพบกลับทำให้นางยืนนิ่งเหมือนถูกตรึงไว้กับพื้นภายใต้ต้นท้อหน้าลานเรือนหลี่หลันฮวาในชุดเดินทางสีเรียบ ยืนเคียงข้างเซี่ยฉางเยี่ยน พร้อมหีบสัมภาระหลายใบ มู่หรงหนานเฟิงเดินถือห่อผ้าเข้ามาพร้อมกับเซี่ยชิงเป่าที่ยืนหาวอยู่ข้างกายเซี่ยจื่ออี้อาเหิงที่เดินตามเซี่ยชิงหลีจากทางด้านหลัง ถึงกับยิ้มกว้างด้วยความตื่นเต้น“...อะไรกัน”หญิงสาวเอ่ยพึมพำเสียงเบาด้วยสีหน้าไม่เข้าใจ และเป็นมารดาของนางที่ก้าวเข้ามาหา พลางเอ่ยอธิบายด้วยสีหน้าอ่อนโยน“ลูกเดินทางไกลแม่ไม่วางใจ อีกอย่างแม่มีลูกแค่สามคน...จะปล่อยให้พวกลูกลำบากลำพังได้หรือ เช่นนั้นจะยังเรียกแม่ว่าแม่ได้อย
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-10-04
อ่านเพิ่มเติม

การจากลาของครอบครัว

“และจงจำเอาไว้…ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ครอบครัวยังรอพวกเจ้าอยู่ที่นี่เสมอ”คำพูดนั้นทำให้หลี่หมิงเจ๋อและหลี่เยว่หยางนิ่งงันไปชั่วขณะ ก่อนที่ทั้งคู่จะโผเข้ากอดบิดาของตน น้ำตาของชายวัยกลางคนทั้งสองที่กลั้นเอาไว้มาตลอดรินหลั่งออกมาอย่างเงียบๆชายหนุ่มทั้งสองคุกเข่าลงเบื้องหน้าบิดาของตน พร้อมคำนับอย่างเคารพ“ขอบคุณท่านพ่อ...สำหรับทุกอย่าง ขอบคุณที่เข้าใจข้า”น้ำเสียงของหลี่เยว่หยางสั่นเครือเล็กน้อย ทว่าเต็มไปด้วยความตื้นตันใจ“ลูกไม่อาจตอบแทนสิ่งที่ท่านอบรมสั่งสอนได้ในตอนนี้...แต่จะไม่ทำให้ท่านต้องผิดหวังอย่างแน่นอน”หลี่หมิงเจ๋อก้มศีรษะจรดพื้น ลุงใหญ่และลุงรองมองดูบุตรชายของตนโดยไม่กล่าวถ้อยคำใดเพิ่มเติม เพียงแต่ยกมือขึ้นแตะหัวไหล่ของทั้งคู่เบาๆ เป็นการให้อภัยและอวยพรเงียบๆ ในแบบของคนเป็นบิดาเมื่อทั้งสองลุกขึ้นเตรียมจะก้าวขึ้นรถม้า ร่างสูงของหลี่เยว่สิงพี่ชายคนโตของตระกูลหลี่ ก็ก้าวออกมาจากด้านหลังด้วยสีหน้าสงบนิ่ง“เจ้าสองคนไม่ต้องเป็นกังวลเรื่องทางนี้...ข้าจะดูแลท่านพ่อ ท่านแม่ และทุกคนที่นี่ให้เอง...จนกว่าพวกเจ้าจะกลับมาในวันที่ประสบความสำเร็จ”หลี่เยว่หยางและหลี่หมิงเจ๋อชะงักฝีเท้า หัน
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-10-04
อ่านเพิ่มเติม

หยิ่งผยอง

ขณะที่ภายในศาลาว่าการยังอบอวลไปด้วยกลิ่นอายของความเคร่งเครียดและผลประโยชน์ทางการค้า โดยไม่รู้เลยว่าอีกฟากหนึ่งขบวนเดินทางไปยังเมืองหลวงที่เรียบง่ายกำลังสนุกสนานสองวันต่อมาท่ามกลางสายลมอุ่นที่พัดโชยบางเบา ขบวนรถม้าของเซี่ยชิงหลีก็กำลังเคลื่อนตัวผ่านแนวป่าไผ่ริมฝั่งแม่น้ำใหญ่ เสียงกีบเท้าม้าสะบัดดังกึกกักอย่างเป็นจังหวะผู้เฒ่าเมิ่งเปิดม่านรถม้าออกเพียงเล็กน้อย ทำให้มองเห็นเงาของเรือพาณิชย์ลำใหญ่จอดเทียบท่าอยู่เบื้องหน้า เสียงคนงานในท่าเรือที่เริ่มวุ่นวายกับการเตรียมลำเลียงข้าวของ ทำให้บรรยากาศที่แสนเงียบเหงามาตลอดทางเริ่มคึกคักขึ้นทีละน้อยเซี่ยชิงเป่าโผล่หน้าออกมาจากรถม้าอีกคันหนึ่ง ดวงตาของนางทอประกายเมื่อเห็นเรือสำเภาลำใหญ่เบื้องหน้า“ว้าว!! ที่นี่หรือคือท่าเรือ”เด็กน้อยตะโกนถามด้วยสีหน้าตื่นเต้น อาเหิงที่นั่งรถม้าคันเดียวกันรีบเบียดเซี่ยชิงเป่าออก เพื่อดูบรรยากาศภายนอกเช่นเดียวกัน“ภรรยา อาเหิงเห็นเรือลำใหญ่”หญิงสาวได้แต่ยกยิ้มเอ็นดูเด็กน้อยทั้งสอง หลี่เยว่หยางและหลี่หมิงเจ๋อที่เคยออกไปไกลที่สุดก็แค่เพียงอำเภอหลิงหนาน ต่างก็แสดงท่าทีตื่นเต้นไม่ต่างกัน“ถูกต้องอีกไม่นานพวกเราทั้
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-10-04
อ่านเพิ่มเติม

ไม่ดูตาม้าตาเรือ

เจียงอวี้อ้าปากที่กำลังหัวเราะค้าง เขาหันขวับไปมองเซี่ยชิงหลีและทุกคนอีกครั้ง สีหน้าของชายหนุ่มแสดงออกว่าไม่เชื่อในสิ่งที่ได้ยิน ทว่าหญิงสาวไม่สนใจเจ้าบัณฑิตหน้าขาวอีกต่อไป นางพยักหน้าให้ทุกคนเดินตามขึ้นเรือ ทันใดนั้นร่างบางก็ถูกขวางอีกครั้ง“เดี๋ยวก่อน!!...พวกเจ้าคือคนที่จ่ายเงินเช่าเรือลำนี้จริงๆ หรือ”“เจ้าคิดว่าอย่างไรเล่า”หญิงสาวเลิกคิ้วถามกลับ เจียงอวี้ไม่อยากจะยอมรับ ทว่าตนเองก็ไร้หนทางและไม่อยากรออีกต่อไป จึงยอมลดทิฐิของตนลง“นี่!..เช่นนั้นก็ได้ ข้ายอมจ่ายให้สองเท่าของราคาตั๋วโดยสาร ข้าจะโดยสารเรือลำนี้ไปกับพวกเจ้าด้วย”เซี่ยชิงหลีปรายตามองชายหนุ่มตรงหน้าแค่เพียงแวบเดียว ก่อนจะหมุนตัวกลับ นางไม่คิดโต้เถียงกับผู้ที่ไม่รู้จักกาลเทศะเช่นเขา อีกอย่าง ถึงนางจะยินยอมให้เขาร่วมเดินทางไปพร้อมกับพวกตน บนเรือลำนี้ต่อไปก็คงยากที่จะพบความสงบได้“เรือลำนี้...ไม่รับผู้โดยสารเพิ่ม”นางกล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบ แล้วก้าวขึ้นเรือโดยไม่แม้แต่จะหันกลับไปมองเจียงอวี้อีกคนงานประจำเรือรีบเปิดทางเพื่อให้ครอบครัวของเซี่ยชิงหลีขึ้นเรือได้อย่างปลอดภัย ท่ามกลางสายตางุนงงของชาวบ้านริมท่าเรือ ที่เริ่มจับ
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-10-05
อ่านเพิ่มเติม

ความทรงจำที่ยากลืมเลือน

“วันหนึ่ง...ในตอนที่ข้าอายุเจ็ดขวบ เจียงอวี้ตามมารดาของเขามาเยี่ยมท่านย่าที่จวน...เขากับมู่หรงฮ่าวหลุนเข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ย จากนั้น...ข้าก็กลายเป็นของเล่นของทั้งสองคน”เซี่ยชิงหลีไม่ได้พูดอะไร นางเพียงค่อยๆ หยิบผักขึ้นจากเขียงวางลงในหม้อ น้ำแกงเริ่มเดือดเบาๆ ราวกับสะท้อนความร้อนในใจของคนที่กำลังเล่าเรื่อง“วันนี้โชคดีที่เจียงอวี้ไม่ทันเห็นข้า” มู่หรงหนานเฟิงถอนหายใจเบาๆ อีกครั้ง“ไม่อย่างนั้น...บางทีเขาอาจพูดจาอะไรเลวร้ายออกมาอีกก็ได้”ชายหนุ่มเว้นวรรคก่อนจะมองไปยังเปลวไฟใต้หม้อต้มแกง“ข้าไม่กลัวเขา...แต่ไม่อยากให้ใครต้องมองข้าด้วยสายตาแบบเมื่อก่อนอีกแล้ว”เซี่ยชิงหลีหยุดคนหม้อแกง จากนั้นเงยหน้าขึ้นมองเขาตรงๆ“ต่อให้เขาเห็นเจ้า แล้วพูดจาไม่ดีออกมา...เจ้าก็ไม่ใช่เด็กอย่างเมื่อก่อนแล้ว”หญิงสาวเอ่ยออกมาเรียบๆ มู่หรงหนานเฟิงชะงักงัน ดวงตาเศร้าไหววูบก่อนจะยกยิ้มจางๆ ภายในห้องครัวเล็กมีเพียงเสียงเดือดของน้ำแกงและกลิ่นหอมของอาหารที่เริ่มตลบอบอวล กลบฝังอดีตอันขมขื่นของมู่หรงหนานเฟิงไว้ชั่วขณะภายหลังจากมู่หรงหนานเฟิงเล่าเรื่องในอดีตของตนเองจบ บรรยากาศภายในห้องครัวก็เงียบลงชั่วขณะ มีเพียงเส
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-10-05
อ่านเพิ่มเติม

มีพบย่อมมีจาก

อาเหิงตบมือดีใจยิ้มร่าราวกับเด็กน้อย ใบหน้าที่ดูบริสุทธิ์ยามนี้เปล่งประกายจนทำให้เซี่ยชิงหลีตาพร่าวันตรู่วันต่อมา...แสงแดดยามเช้าส่องแสงอ่อนๆ ทอลงมา ทำให้บรรยากาศดูอบอุ่น น้ำค้างเกาะพราวตามราวไม้ยังไม่ทันแห้ง ทุกคนก็ตื่นขึ้นมารับลมยามเช้ามู่หรงหนานเฟิงยืนอยู่บนดาดฟ้า สวมเสื้อคลุมบางสีเทาอ่อน สายลมเย็นพัดปลายเส้นผมของชายหนุ่มไหวเบาๆ ใบหน้าที่เมื่อวานยังดูหม่นเศร้ากลับดูผ่อนคลายขึ้นข้างกายเขาคือเซี่ยจื่ออี้ที่ยืนพิงเสาเรืออยู่เงียบๆ สีหน้าเรียบนิ่ง ทว่าแววตายามเมื่อมองอีกฝ่ายดูอ่อนโยนอย่างเห็นได้ชัด“ข้า…รู้สึกดีขึ้นมากแล้ว เมื่อคืน...ขอบคุณนะ”มู่หรงหนานเฟิงหลบสายตาพลางเอ่ยเบาๆ ทว่าหากสังเกตให้ดีจะเห็นว่าลำคอของชายหนุ่มแดงเรื่อลามไปจนถึงใบหู เซี่ยจื่ออี้เหลือบตามอง พลางยกยิ้มบางๆ“เจ้าก็ควรดีขึ้นได้แล้ว” คำพูดนั้นทำให้มู่หรงหนานเฟิงหัวเราะออกมา“ข้าจะถือว่านั่นเป็นคำปลอบใจในแบบของเจ้าก็แล้วกัน”แววตาเศร้าหม่นจากคืนก่อนเลือนหายไปแทบหมดสิ้น แทนที่ด้วยรอยยิ้มบางที่เผยขึ้นจากใจจริงไม่ไกลจากตรงนั้น เซี่ยชิงหลีกำลังจัดวางถังใส่เหยื่อกับคันเบ็ดไม้ไผ่ที่นางหยิบมาจากห้องเก็บของของเรือโดยสา
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-10-05
อ่านเพิ่มเติม

จวนแม่ทัพเซี่ย

เวลาต่อมาขบวนรถม้าเคลื่อนตัวออกจากท่าเรือเข้าสู่เมืองหลวงชั้นใน เบื้องหน้าที่มองเห็นอยู่ไกลๆ เต็มไปด้วยถนนกว้างขวาง ตลาดที่มีผู้คนเดินขวักไขว่ และจวนมากมายที่มีประตูสีชาดบานใหญ่ตั้งตระหง่านเสียงล้อรถม้าทั้งสี่คันดังเป็นจังหวะบนถนนหินเรียบ วิ่งตรงเข้าสู่ใจกลางเมืองหลวงโหยวโจว ขณะที่ม่านบางของหน้าต่างถูกเปิดออกเพื่อให้คนภายในได้มองเห็นทิวทัศน์ภายนอกสองข้างทางค่อยๆ แปรเปลี่ยนจากร้านค้าและบ้านเรือนธรรมดา ไปสู่พื้นที่ของขุนนางตระกูลใหญ่ที่เรียงรายอย่างเป็นระเบียบจวนหลังแล้วหลังจวนเล่าปรากฏต่อสายตาของทุกคน และจวนขุนนางแต่ละหลังล้วนโอฬารราวกับพระราชวังย่อมๆแค่เพียงประตูหน้าก็สูงใหญ่เกือบเท่าประตูเมือง แผ่นหินสลักชื่อจวนสีทองส่องประกายสะท้อนแสงแดด ยอดหลังคาทรงเฟยหยานที่งดงามดั่งพระราชวังที่เซี่ยชิงหลีเคยเห็นในชีวิตก่อนภายในรถม้าคันที่วิ่งอยู่ด้านหน้า เซี่ยจื่ออี้และมู่หรงหนานเฟิงยังคงนั่งสงบนิ่ง ใบหน้าของทั้งสองไม่แสดงท่าทีใดๆ ออกมากับภาพที่เห็นเบื้องหน้าคนหนึ่งเคยไปเมืองใหญ่และได้เห็นอะไรๆ มาบ้างแล้ว ส่วนอีกคนถูกเลี้ยงมาในจวนเสนาบดี พวกเขาย่อมเคยชินกับความยิ่งใหญ่ที่เป็นเพียงเปลือกนอกเ
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-10-05
อ่านเพิ่มเติม

มิอาจยอมรับได้

ร่างบางพึมพำเสียงเบา โลกที่นางกำลังจะก้าวเข้าไป อาจยิ่งใหญ่และซับซ้อนกว่าที่เคยคิดเอาไว้มากนักหลังจากประกาศคำสั่งของแม่ทัพเซี่ยผ่านไป บรรยากาศภายในจวนก็กลับคืนสู่ความสงบอีกครั้ง แม้ภายในจวนจะเต็มไปด้วยข้ารับใช้ ทว่าทุกซอกมุมก็ถูกดูแลอย่างดีจนไร้ที่ติข้ารับใช้หลายสิบชีวิตต่างขยันขันแข็งเดินเก็บกวาด ขัดพื้น เช็ดหน้าต่าง จัดเครื่องเรือนจนเรือนทุกหลังดูสะอาดตาและร่มรื่นเหมือนเพิ่งได้รับการตกแต่งใหม่พ่อบ้านจู้ ผู้อาวุโสประจำจวนเป็นผู้ดูแลการจัดสรรเรือนให้เจ้านายคนใหม่ทั้งหมดอย่างมีระบบ แม้ใบหน้าจะดูเข้มงวดทว่าแววตากลับอ่อนโยนโดยเฉพาะยามเมื่อมองเด็กๆ ที่กำลังวิ่งเล่นด้วยสีหน้ามีความสุขเรือนของเซี่ยจื่ออี้และมู่หรงหนานเฟิง ตั้งอยู่ใกล้แนวป่าไผ่ถัดจากเรือนหลัก เสียงลมพัดต้นไผ่เสียดสีกันเบาๆ คล้ายดนตรีกล่อมเกลาจิตใจ ตำแหน่งเรือนค่อนข้างสงบ เย็นสบาย เหมาะกับผู้ที่ต้องตั้งใจอ่านตำราเพื่อเข้าสอบในอีกสองเดือนข้างหน้าภายในเรือนมีห้องหนังสือขนาดย่อม โต๊ะเขียนพู่กันวางอยู่ใต้หน้าต่างบานใหญ่ที่รับแสงแดดยามเช้าได้อย่างพอดี มู่หรงหนานเฟิงเมื่อก้าวเข้าไปครั้งแรกก็ถอนหายใจออกมาแผ่วเบา“บางที ข้าอาจอ่
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-10-05
อ่านเพิ่มเติม
ก่อนหน้า
1
...
678910
...
19
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status