Share

หวังมู่หลิน

Penulis: l3oonm@
last update Terakhir Diperbarui: 2025-10-03 01:08:55

"ท่านแม่ น้องเล็กเป็นอย่างไรบางขอรับ" รลินที่รู้สึกตัวแล้วแต่ยังไม่สามารถลืมตาได้ ได้ยินเสียงพูดคุยของเด็กผู้ชายอายุ15-16ปี กับผู้หญิงอายุประมาณ 37-40ปี 

"หลินเออร์ ยังไม่รู้สึกตัว ฮึก.. หลินเออร์ นอนนานไปแล้วลูก ฮึก..." เสียงผู้เป็นแม่ร่ำไห้มือก็ลูบหน้ารลินไปด้วย

"ท่านหมอหู่ว่าอย่างไรขอรับ น้องเล็กจะตื่นเมื่อใด" ผู้เป็นพี่ยังคงถามอาการน้อง แม้จะพยายามเข้มแข็งเพียงใดแต่เสียงที่สั่นนั้นรับรู้ได้ว่ากำลังเสียใจอย่างที่สุดเพราะกลัวคำตอบของผู้เป็นมารดาว่าน้องสาวนั้นจะไม่รอด

"หมอหู่บอกหมดทางช่วยแล้ว ถ้าวันนี้น้องไม่ตื่น ฮึก.. ฮืออออ" ผู้เป็นแม่เอ่ยได้เพียงแค่นั้นก็ร้องไห้เสียงดังจนคนด้านนอกรีบวิ่งเข้ามาดู

"เหมยฮวา หลินเออร์เป็นอย่างไร"ผู้ที่เข้ามาใหม่จากที่รลินฟังน้ำเสียงเป็นชายอายุประมาณ 40-42 ปี 

"น้องเล็ก ฮือออออ" เด็กคนนี้อะไร ยังไม่มีใครบอกว่าฉันตายเลยจะร้องอะไรขนาดนั้น รลินที่เริ่มจะหงุดหงิดจากเสียงร้องไห้ก็ขมวดคิ้ว พี่ชายคนโตที่สังเกตเห็นรีบร้องออกมาทันที

"ท่านพ่อ ท่านแม่ น้องเล็กรู้สึกตัวแล้วขอรับ" พร้อมทั้งกระโดดมาถึงข้างเตียงเพื่อจับมือน้องแล้วเรียกชื่อตตลอด

รลินที่รู้สึกว่าถ้ายังนอนนิ่งๆต่อไป คนทั้งหมดคงจะพากันร้องไห้มากกว่านี้แน่นอนเลยพยายามลืมตาขึ้นมามองสำรวจ

"น้ำ ขะ ข้าหิวน้ำเจ้าค่ะ"แม้เสียงที่ออกมาจะเบาจนแทบไม่ได้ยิน ผู้เป็นพี่รองรีบวิ่งออกไปหาน้ำให้น้องสาวทันที

"หลินเออร์ฟื้นแล้ว ท่านเทพเมตตาเราแล้ว หลินเออร์ของแม่เจ็บตรงไหนอีกไหมลูก" ผู้เป็นแม่ก้มลงโขกศีรษะกับพื้นสามครั้งเพื่อขอบคุณเทพเจ้าที่ช่วยให้บุตรสาวฟื้นขึ้นมา

"ข้าหายแล้วท่านแม่ ไม่เจ็บปวดแล้ว ท่านอย่าร้องอีกเลย" แท้จะเพิ่งพบเจอแต่ความอบอุ่นที่ทั้งครอบครัวมอบให้รลินรู้ได้ทันทีว่าคนพวกนี้รักเธอจากใจจริง

"หลินเออร์ หิวแล้วใช่หรือไม่ พี่รองต้มข้าวมาให้เจ้า เจ้ากินข้าวแล้วจะได้กินยา" ข้าวต้มที่พี่รองเธอส่งมาให้ผู้เป็นแม่ป้อนนั้น อย่าเรียกว่าข้าวเลยเรียกน้ำข้าวดีกว่า แต่เธอก็ดื่มเข้าไปเกือบหมด ร่างกายนี้อดอาหารเป็นเวลาหลายวันทำให้กระเพาะนั้นรับอาหารได้ไม่มาก ผู้เป็นแม่ป้อนยาต่อแล้วบอกให้เธอนอนพัก เธอจึงได้มีเวลาสังเกตสิ่งต่างๆรอบตัว 

จากความทรงจำของร่างเดิมนั้นบิดาเป็นบุตรของท่านปู่หวังเหล่ย กับ ท่านย่าซูกุ้ย ท่านย่าซูกุ้ยได้เสียชีวิตไปตอนที่บิดาหวังเจียวจิ้นอายุได้สองหนาว ท่านปู่หวังเหล่ยจึงได้แต่งนางจางซิงมาเป็นภรรยาคนที่สอง ได้กำเนิด บุตรชายหญิงอย่างละคนคือ หวังจง และ หวังลี่ถัง

เมื่อมีบุตรของตนเองแม่เลี้ยงก็คือแม่เลี้ยง ลับหลังท่านปู่หวังเหล่ย นางจางซิงก็ทุบตี หวังเจียวจิ้น ใช่งานเหมือนทาส จนหวังเจียวจิ้นแต่งเหมยฮวาหญิงสาวที่ไม่ทราบที่มา

เจียวจิ้นพบเหมยฮวาที่ริมแม่น้ำเลยช่วยชีวิตไว้ เมื่อตื่นขึ้นมาก็พบว่าความจำเสื่อม เจียวจิ้นจึงดูแลอย่างดีและขอท่านปู่หวังเหล่ยให้ทำการตบแต่งเหมยฮวาให้ นางจางซิงคัดค้านเต็มทีเพราะตั้งใจจะแต่งหลานสาวบ้านเดิมคือนางจางชุนเข้ามาเป็นสะใภ้ตนจะได้ควบคุมได้ง่าย เมื่อคัดค้านไม่สำเร็จงานบ้าน งานในไร่ทั้งหมดจึงตกมาเป็นหน้าที่ของเจียวจิ้นและเหมยฮวา

ส่วนนางจางชุนสุดท้ายจึงได้แต่งเข้ามาเป็นสะใภ้รองลูกชายของนางจางซิง นางจางชุนเมื่อแต่งเข้ามาก็ไม่หยิบจับอะไรทั้งหมดยิ่งมีนางจางซิงให้ท้ายยิ่งกลั่นแกล้งเหมยฮวาอย่างหนัก ทุกอย่างก็ได้แต่ทำลับหลังท่านปู่หวังเหล่ยทั้งสิ้น ท่านปู่เมื่อทราบเรื่องก็ได้แค่ดุด่า และโทษตัวเองที่แต่งูพิษอย่างยางจางซิงเข้ามา แต่เพราะมีบุตรด้วยกันถึงสองคนจะหย่าก็สงสารบุตรทั้งคู่

จุดแตกหักของหวังเจียวจิ้นกับบ้านใหญ่ เมื่อหวังจงลูกรักของนางจางซิงเล่นพนันแล้วไม่มีจ่าย จนคนทวงหนี้มาทวงที่บ้านนางจางซิงจึงจะขายหวังมู่หลินให้กับบ่อนพนัน หวังมู่หลินที่ไม่ยินยอมจึงโต้เถียงให้นางจางซิงขายบุตรสาวของหวังจงก็คือ หวังผู่เยว่ นางจางซิงกับนางจางชุนโมโหจึงลงมือ ทุบตีจนหวังมู่หลินจนไม้ในมือนางจางซิงฟาดเข้าที่หัวหวังมู่หลินจนสลบไป จนนอนไม่ได้สติถึงสามวัน ถึงได้จากไปกลายเป็นรลินเข้ามาแทน หวังเจียวจิ้นจึงขอแยกบ้านกับหวังเหล่ยโดยมีชาวบ้านที่สงสารครอบครัวหวังเจียวจิ้นเป็นพยาน

นางจางซิงที่โดนผู้ใหญ่บ้านและหัวหน้าตระกูลกดดันทำให้ต้องยินยอมให้แรงงานชั้นดีแยกครอบครัว โดยระบุว่าที่ดินทำกินไม่ยกให้ เงินก็ไม่ให้ให้ออกไปแต่ตัว แต่ท่านปู่หวังเหล่ยไม่ยินยอม สุดท้ายจบที่ยกสินเดิมของท่านย่าซูกุ้ยที่ดินปลูกบ้านติดเขา 5 หมู่ พร้อมเงินสองตำลึง

หวังเจียวโจวบุตรชายคนโตของหวังเจียวจิ้นจึงให้ระบุลงไปด้วยว่า บ้านใหญ่และบ้านของหวังเจียวจิ้นแม้ยากจนหรือร่ำรวยขอไม่เกี่ยวข้องกันอีก ทางบ้านหวังเจียวจิ้นจะแสดงความกตัญญูโดยให้ ข้าวสาว 10 ชั่ง ธัญพืช 10 ชั่ง เงินห้าตำลึงทุกปี สำหรับครอบครัวที่ยากจน ของขนาดนี้แทบจะรีดเลือดจากปูเลยทีเดียว

บ้านที่รลินนอนอยู่ตอนนี้ที่คือบ้านที่ได้มาจากการแยกบ้าน ตัวบ้านถ้าหากโดนพายุคงถล่มลงมาแน่นอน ผนังที่ดำด่าง มีรอยแตก เครื่องเรือนที่แทบจะไม่มี เตียงที่นอนอยู่ก็เป็นพวกชาวบ้านที่เห็นใจช่วยทำขึ้นง่ายๆจากไม้ไผ่ บ้านหลังนี้มีทั้งหมดสามห้อง บิดามารดาสองห้อง พี่ใหญ่พี่รอง1ห้อง และห้องที่เล็กที่สุดเป็นห้องของรลิน แค่วางเตียงนอนที่เดินก็เหลือเพียงน้อยนิดเท่านั้น 

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • ข้ามเวลามาสู้ชีวิต   ตอนจบ

    ห้าปีผ่านไปชายแดนประจิมเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ชาวเมืองแคว้นฉีเริ่มเข้ามาทำการค้ามากขึ้น ถึงกับมีตลาดชายแดนที่ทั้งสองแคว้นจะนำสินค้าของตนมาซื้อขายแลกเปลี่ยนกัน ชีวิตชาวบ้านจึงดีขึ้นมู่หลินได้หาพืชผักที่ทนต่อสภาพอากาศหนาวเข้ามาปลูก นางยังค้นพบภูเขาที่มีดินเค็ม เมื่อถวายฎีกาถึงฮ่องเต้ให้ทราบเรื่องแล้ว พระองค์ได้ช่วยส่งเสริมให้ชาวบ้านบริเวณใกล้เคียงภูเขาผลิตเกลือออกมาจำหน่าย โดยหักภาษีเข้าคลังเพื่อพัฒนาพื้นที่เมืองอื่นต่อไปฮ่องเต้ฉู่เฟยหลางสละราชบัลลังก์ให้กับองค์รัชทายาทขึ้นปกครองตอนนี้เจ้าลูกเต่าทั้งสามติดตามบิดาเข้าไปฝึกวรยุทธ์ในค่ายทหาร เพราะไป๋เฟยหรงหมั่นไส้บุตรชายทั้งสามที่เกาะติดมู่หลินมากเกินไปไป๋หมิงยู่ ไป๋หรงซิ่ง ไป๋เฉินกง เวลาอยู่กับบิดาทั้งสามจะทำตัวนิ่งขึม เหมือนเช่นบิดา พอลับหลังบิดา ทหารที่เป็นพี่เลี้ยงทั้งหลายล้วนปวดหัวกันเป็นแทบ เด็กชายทั้งสามพี่ใหญ่วางแผน พี่รองดูต้นทาง น้องเล็กหลอกล่อ กลยุทธ์ที่ร่ำเรียนมาจากกงหยวนนั้นเรียกได้ว่าตอนนี้เก่งเกินอาจารย์เสียแล้วแม้แต่กงหยวนยังเจ้าเล่ห์ไม่ได้เท่าไป๋หรงซิ่งเลย หากหนีเรียนวันใดแล้วโดนจับได้ ไป๋เฉินกงจะทำหน้าที่เรียกร

  • ข้ามเวลามาสู้ชีวิต   บทส่งท้าย

    ใช้เวลาเดินทางครึ่งเดือนก็มาถึงแดนประจิม จวนท่านแม่ทัพนั้นไม่มีอะไรให้มู่หลินปรับปรุงแก้ไขนอกจากห้องน้ำ นางอยากจะเอาที่นอนออกมาใช้ใจจะขาด แต่ยังไม่ได้บอกกล่าวเรื่องมิติที่มีให้กับเฟยหรงได้รู้มู่หลินที่นอนไม่สบายตัวก็ขยับไปมาจนเฟยหรงรู้สึกตัว“น้องหญิง นอนไม่หลับหรือ” เฟยหรงดึงตัวมู่หลินมา กอด“ท่านพี่ข้าจะพาท่านไปที่แห่งหนึ่ง” พูดจบมู่หลินก็พาเฟยหรงเข้าไปในมิติของตน“ที่นี่คือที่ใด” เฟยหรงมองรอบๆ อย่างโง่งม ที่นี้สวยมากจริงๆ ลำธารที่น่าลงไปแช่ ภูเขาด้านหลังก็ดูอุดมสมบูรณ์ ไหนจะแปลงสมุนไพรหลากหลายชนิด พืชผักผลไม้เต็มไปหมด ทุ่งข้าวที่เหลืองอร่ามพร้อมเก็บเกี่ยว กระท่อมหลังน้อยที่อยู่ท่ามกลางสวนดอกไม้“ที่นี่คือมิติของข้าเจ้าค่ะ” มู่หลินพาเฟยหรงเข้าไปในกระท่อม ด้านในเครื่องเรือนของใช้ไม่เหมือนที่เขาเคยเห็น นางจึงเล่าเรื่องทั้งหมดของนางตั้งแต่แรกให้ฟัง ก็เหมือนสิ่งที่นางเล่าให้ครอบครัวฟังเฟยหรงกอดมู่หลินยิ่งนึกถึงว่านางเกือบตายมาแล้วครั้งหนึ่งใจเขาก็ยิ่งปวด“หากเจ้าไม่อยากนำที่นอนออกไปด้านนอก เจ้าจะบอกพี่เรื่องนี้หรือไม่” เฟยหรงเอ่ยอย่างน้อยใจ มู่หลินจึงจูบไปที่มุมปากเพื่อเอาใจ“ย่อมต้อง

  • ข้ามเวลามาสู้ชีวิต   งานมงคล

    ไป๋เฟยหรงกลับมาเมืองหลวงครั้งนี้ตัวแทบจะติดกับมู่หลินเลยทีเดียว ยิ่งมู่หลินออกไปข้างนอกเฟยหรงแทบจะให้นางใส่ผ้าคลุมทั้งตัวไม่ใช่ว่าไม่มีสตรีเข้าหาเฟยหรงนะ มีมากเลยทีเดียว สาวใช้ที่มาใหม่ในจวนไป๋ที่คิดจะปีนเตียงเฟยหรง โดนเฟยหรงถีบออกมาจากห้องรักษาตัวอยู่ห้าวันกว่าจะลุกขึ้น เมื่อมีตัวอย่างให้เห็นใครจะกล้าเสี่ยงขุนนางที่ใจกล้าก็อยากจะยกบุตรสาวให้เป็นอนุ ตอนเช้ามาทหารเข้ามาจับกุมโดนขุดความผิดที่ตนก่อไว้ตั้งแต่เริ่มเป็นขุนนาง แม้จะเล็กน้อยไม่โดนตัดสินโทษหนักก็ย่อมต้องโดนลดขั้น เมื่อเป็นเช่นนี้ขุนนางทั้งหลายเลยเลิกยุ่งกับแม่ทัพไป๋ไปโดยปริยาย“หลินเออร์ แม่ว่าเจ้าแต่งให้ท่านแม่ทัพเสียเลยเถิด ตอนนี้เจ้าก็ 17 หนาว แล้ว พ่อกับแม่มีพี่รองของเจ้าอยู่ด้วย เจ้าไม่ต้องเป็นห่วง” เหมยฮวาเรียกมู่หลินมานั่งพูดคุย เพราะนางก็เห็นใจว่าที่ลูกเขยเช่นกัน“ข้าแล้วแต่ท่านพ่อท่านแม่เจ้าค่ะ” มู่หลินยอมตกลงเฟยหรงที่ได้ยินเช่นนั้นก็แทบจะวิ่งไปป่าวประกาศให้คนทั้งเมืองหลวงได้รู้กันทั่ว เฟยหรงรีบเข้าวังหลวงไปขอฤกษ์มงคลที่เร็วที่สุด แล้วก็เร็วจริงๆ งานจะจัดขึ้นในอีกเจ็ดวันข้างหน้ามู่หลินขบเคี้ยวเขี้ยวฟันอย่างโมโห สั

  • ข้ามเวลามาสู้ชีวิต   แต่งเลยมิได้หรือ

    แล้วก็ถึงวันสอบเตี้ยนซื่อ หน้าพระที่นั่ง โดยวันสอบจะมีฮ่องเต้เป็นผู้คุมสอบและออกข้อสอบ ผู้ที่ได้คะแนนสูงสุดอันดับหนึ่งจะได้เป็น จอหงวน อันดับที่สอง ปั๋งเหยี่ยน อันดับที่สาม ทั่นฮวาครอบครัวหวังมาส่งเจียวโจวกับเจียวจ้านหน้าสนามสอบ“ตั้งใจทำออกมาให้ดีที่สุดพอ พ่อไม่คาดหวังว่าเจ้าทั้งสองจะติดสามอันดับ” เจียวจิ้นให้กำลังใจบุตรชาย“แต่ข้าคาดหวังว่าท่านพี่ทั้งสองจะได้จอหงวนเจ้าค่ะ”เจียวโจวดีดหน้าผากมู่หลิน เจียวจ้านตบอกให้น้องเล็กรอดูได้เลยเมื่อทั้งสองเดินเข้าสนามสอบแล้ว เจียวจิ้น เหมยฮวา มู่หลินจึงกลับไปรอที่จวนระหว่างรอผลสอบ ข่าวที่ส่งจากโยวโจวทำให้เฟยหรงถึงกับนั่งไม่ติด ต้องรีบควบม้าออกมาจากค่ายทหารนอกเมืองเพื่อขอความเห็นใจจากมู่หลินทันที่“หลินเออร์” เฟยหรงเอ่ยเสียงอ่อยเรียกมู่หลินมู่หลินเลิกคิ้วรอฟังว่าพ่อตัวดีจะพูดสิ่งใด"เยว่เออร์ตั้งครรภ์แล้ว""อืม" ใช่เรื่องนี้นางรู้แล้ว เพราะห่าวหรานส่งข่าวมาเช่นกัน"หลินเออร์ แต่งเลยมิได้หรือ" มู่หลินหรี่ตามองเฟยหรง"กลับค่ายไปเลย" นางกัดฟันพูดผลการสอบเตี้ยนซื่อ ก็ไม่ทำให้ทุกคนผิดหวัง เจียวโจวได้เป็นปั๋งเหยี่ยน เจียวจ้านได้อันดับที่ห้า เด็กๆ

  • ข้ามเวลามาสู้ชีวิต   งานปักปิ่นมู่หลิน

    ท่านผู้เฒ่าเซี่ยมาถึงก็เมืองหลวงพักผ่อนเพียงหนึ่งวันก็พาคนทั้งตระกูลเดินทางเข้าสู่วังหลวง"ถวายพระพรฝ่าบาท ขอจงทรงพระเจริญหมื่นปี หมื่นหมื่นปี""ลุกขึ้น ไม่ต้องมากพิธี" ฮ่องเต้มองสหายต่างวัยด้วยความคิดถึง"เซี่ยหลี่เฉียงรับราชโองการ ตระกูลเซี่ยจงรักภักดีต่อราชวงศ์ มีความดีความชอบร่วมปราบกบฏองค์ชายใหญ่ในครั้งนี้ ฮ่องเต้ทรงพระราชทานตำแหน่งกั๋วกง ขั้นหนึ่ง ประทานจวนหน่งหลัง เงินรางวัล 50,000 ตำลึงทอง ผ้าไหม 20 พับ เครื่องประดับ 5 หีบ จบราชโองการ " ขันทีประกาศราชโองการแม้ของรางวัลที่ได้จะไม่อาจเทียบเท่ากับของที่เคยโดนยึดไป แต่ตระกูลเซี่ยก็ไม่เสียดาย เพราะทรัพย์สินของตระกูลตอนนี้มีมากมายเทียบเท่าเงินในคลังหลวงได้ฮ่องเต้ยังคงต้องใช้เงินเยี่ยวยาชาวเมืองที่ได้รับผลกระทบจากการก่อกบฏขององค์ชายใหญ่ในครั้งนี้อีกมากตระกูลเซี่ยเข้าพักในจวนหลังใหม่ ท่านตาท่านยายยังบ่นกับมู่หลินเรื่องที่นอนนั้นนอนไม่สบายเท่าที่หมู่บ้านชุนหง ห้องน้ำก็ไม่สะดวกสบาย หลานสาวแสนดีจึงเอาใจด้วยการเอาที่นอนของใช้ออกมาให้ทุกคน ท่านตาท่านยายเลยได้ยิ้มหน้าบานครอบครัวหวังเจียวจิ้นนั้นแยกตัวไปอยู่จวนที่ห่าวหรานซื้อไว้ หากให้นั

  • ข้ามเวลามาสู้ชีวิต   บทลงโทษของกบฏ

    เซี่ยซีห่าวนำทัพพร้อมพวกกบฏเดินทางถึงเมืองหลวงหลังจากที่ไป๋เฟยหรงถึงเกือบสิบวันฮ่องเต้สังประหารขุนนางฝ่ายกบฏทั้งหมด ขุนนางคนใดที่โทษไม่หนักก็เนรเทศออกไปใช้แรงงานที่ชายแดน ส่วนองค์ชายใหญ่นั้นทดพิษบาดแผลไม่ไหวชิงตายไปเสียก่อนวันตัดสินโทษเพียงแค่สองวัน หวงกุ้ยเฟย เสนาบดีเว่ย เว่ยซูเหิง โดนตัดสินให้แล่เนื้อเถือหนังจนกว่าจะสิ้นใจตายส่วนคนในจวนตระกูลเว่ยและตำหนักขององค์ชายใหญ่ที่ตรวจสอบแล้วไม่มีความผิดก็โดนเนรเทศสั่งห้ามทั้งหมดกลับเข้าเมืองหลวงและหมดสิทธิ์เข้าสอบขุนนางตลอดชีวิตเว่ยซูเม่ยที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการก่อกบฏครั้งนี้ แต่นางมีความผิดที่ส่งนักฆ่าไปลอบสังหารมู่หลินหลายครั้ง จึงโดนตัดสินให้ประหารชีวิตด้วย ถึงแม้มู่หลินจะเสียดายที่นางไม่ได้เป็นคนจัดการเอง แต่ก็ไม่ได้ติดใจเพราะโทษตายที่นางได้รับนั้นสมควรแล้วขุนนางกว่าครึ่งในท้องพระโรงที่โดยตัดสินโทษครั้งนี้ แต่ฮ่องเต้ก็ไม่ได้ทรงร้อนใจเท่าใด เพียงแต่ตั้งขุนนางตงฉินเข้ามาแทนในตำแหน่งสำคัญที่หายไป ส่วนในตำแหน่งอื่นนั้น ทรงรอการสอบหน้าพระที่นั่งในอีกหกเดือนที่จะถึงนี้ คงเติมเต็มท้องพระโรงได้ครบทุกตำแหน่งเวลาที่ครอบครัวบ้านหวังรอก็มาถ

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status