พอได้สะสมของจาก '
การ์ตูนเป็ดน้อย' มาซักพักเลยเริ่มเห็นภาพรวมของสินค้าที่ปล่อยออกมาชัดขึ้น — มันไม่ได้มีแค่ตุ๊กตาเป็ดน้อยนิ่ม ๆ แบบเดียว แต่มีหลายเลเวลตั้งแต่ของใช้ในชีวิตประจำวันจนถึงชิ้นงานเก็บสะสมระดับลิมิตเทด
ในมุมมองของคนที่คลุกคลีในวงการสะสมมานาน ผมชอบแบ่งของออกเป็นกลุ่มใหญ่ๆ เพื่อให้ง่ายต่อการตามหาและประเมินมูลค่า: แกดเจ็ตและไลฟ์สไตล์ (เช่น เสื้อยืด ฮู้ดดี้ ถุงผ้า แก้วมัค หมอนอิง และผ้าห่ม), สเตชันนารีและของใช้ออฟฟิศ (สมุดแพนโน่ ปากกา เทปลาย 'การ์ตูนเป็ดน้อย' ฟิล์มตกแต่งสมุด หรือสติ๊กเกอร์เซ็ต), ของที่ระลึกขนาดเล็กที่เปิดกล่องสุ่มได้ (บลายด์บ็อกซ์ ไข่คาแรคเตอร์ กาชาปอง), ฟิกเกอร์และสแตนด์ (ฟิกเกอร์ขนาดต่าง ๆ ตั้งแต่ไลน์ช็อตจนถึงพรีเมียมไวนิล), และสุดท้ายคือของสะสมเชิงศิลป์หรือรุ่นลิมิต เช่น หนังสืออาร์ตบุ๊ก หมายเลขลิมิตพิมพ์ลายลายเซ็น คอลเล็กชันแผ่นเสียงหรือซีดีเพลงประกอบที่บรรจุหน้าปกพิเศษ
สิ่งที่ทำให้ตลาดน่าสนใจคือการออกแบบหลายระดับ: สินค้าเมสโปรดักชันสำหรับแฟนทั่วไป งานร่วมกับดีไซเนอร์อินดี้ที่ทำเป็นไอเท็มทำมือ และของพรีเมียมที่เลขนับจำกัดออกงานอีเวนต์หรือขายบนเว็บเฉพาะของแบรนด์ ตัวอย่างเช่น เวอร์ชันพรีเมียมของตุ๊กตาเป็ดน้อยที่มากับกล่องไม้และการ์ดหมายเลข ซึ่งมักจะหายากและราคาพุ่งในตลาดมือสอง อีกด้านหนึ่ง สินค้าคอลแลบกับร้านกาแฟหรือคาเฟ่ก็ออกแบบมาน่ารักมาก เช่น แก้วลิมิเต็ดที่มีลายเฉพาะเมนู และโปสการ์ดชุดงานอีเวนต์
ถ้าอยากเริ่มสะสม แนะนำมองป้ายลิขสิทธิ์บนแท็กหรือสติกเกอร์ที่มาในกล่อง เพราะของแท้มักมีสัญลักษณ์ผู้ผลิตหรือซีเรียลนัมเบอร์ และตั้งใจเลือกแหล่งซื้อที่มีรีวิวหรือคอมมูนิตีคอยช่วยตรวจสอบ ราคามือสองอาจสูงกว่าหน้าร้าน แต่บางคนสนุกกับการไล่หาเวอร์ชันเก่า ๆ ซึ่งให้ความรู้สึกเป็นเจ้าของชิ้นประวัติศาสตร์เล็กๆ ของ 'การ์ตูนเป็ดน้อย' — การสะสมสำหรับผมจึงไม่ใช่แค่ของ แต่อยู่ที่เรื่องเล่าเบื้องหลังชิ้นนั้นด้วย