ตัวละครไหนใน Star War ที่แฟนๆ ชื่นชอบมากที่สุดและทำไม

2025-10-25 18:03:23 182

2 回答

Ulysses
Ulysses
2025-10-26 18:42:19
มีตัวละครไม่กี่คนใน 'Star Wars' ที่มีเสน่ห์เฉพาะตัวเท่า 'โยดา' และผมรู้สึกว่าความนิยมของเขาเกิดจากการผสมผสานระหว่างปัญญาและความน่ารักที่ค่อนข้างแปลก

ผมชอบวิธีที่โยดาถ่ายทอดคำสอนด้วยถ้อยคำสั้นๆ แต่หนักแน่น เช่นวลีที่กลายเป็นตำนานในหมู่แฟนๆ — มันไม่ใช่แค่คำพูดที่ไพเราะ แต่เป็นหลักคิดที่ทำให้คนหยุดคิดถึงชีวิตและการต่อสู้ภายในของตัวเอง อีกจุดที่ผมชอบคือการออกแบบตัวละคร: ขนาดตัวที่เล็กและการเคลื่อนไหวอันรวดเร็วของเขาสร้างความคาดหวังที่ถูกทลายเมื่อโยดาแสดงให้เห็นว่าแม้ตัวเล็กก็สามารถมีพลังมหาศาลได้ ฉากต่อสู้ของโยดาใน 'Attack of the Clones' ชี้ให้เห็นความขัดแย้งระหว่างภาพลักษณ์กับความสามารถจริงๆ

สำหรับผม โยดาไม่ได้เป็นแค่ปราชญ์ในเรื่อง แต่ยังเป็นสะพานเชื่อมระหว่างปรัชญาพื้นบ้านและเรื่องราวแฟนตาซี ช่วงเวลาที่เขาเงียบหรือยิ้มบางๆ มักจะเป็นช่วงที่บทเรียนสำคัญเกิดขึ้น นั่นทำให้แฟนๆ หยิบคำพูดของเขามาคิดซ้ำและยึดถือในชีวิตจริงได้ไม่ยาก
Xavier
Xavier
2025-10-31 17:27:43
ในโลกของ 'Star Wars' มีตัวละครหลายคนที่แฟนๆ หลงรักมาก แต่ถ้าพูดถึงคนที่มักจะถูกยกให้เป็นที่สุด ผมมักจะคิดถึง 'ดาร์ธ เวเดอร์' ก่อนเสมอ

ผมโตมากับภาพของเขาที่ปรากฏในฉากเปิดสุดท้ายของหนังคลาสสิก: จักรวาลสีดำของเสื้อเกราะและหน้ากากที่ปกปิดหมดทุกอย่าง แต่กลับสื่อสารอารมณ์ได้มากกว่าคำพูดเป็นพันฉบับ ความน่ากลัวของเวเดอร์ไม่ได้มาจากพลังล้วนๆ เท่านั้น แต่มาจากการเป็นสัญลักษณ์ของความขัดแย้งในตัวคนๆ หนึ่ง — เด็กที่กลายเป็นวีรบุรุษ แล้วล้มเหลวและย้อนกลับสู่ความดีในที่สุด ฉากที่เขาพูดกับลูกในห้องแห่งความมืด หรือฉากจาก 'Return of the Jedi' ที่เขาตัดสินใจช่วยลูกชาย ช็อตพวกนั้นทำให้ตัวละครที่เหมือนหุ่นยนต์กลายเป็นเรื่องราวความเป็นมนุษย์ที่สะเทือนใจ

นอกจากนี้ยังมีองค์ประกอบเชิงภาพและเสียงที่ย้ำความยิ่งใหญ่ของเขา: เสียงหายใจเป็นจังหวะ, การเคลื่อนไหวช้าๆ แต่ทรงพลัง, และธีมดนตรีที่ติดหูของ John Williams — สิ่งเหล่านี้ช่วยเสริมประสบการณ์ที่ทำให้คนจดจำและพูดถึงเขาต่อเนื่อง ผมเองยังรู้สึกว่าตัวละครของเวเดอร์เปิดช่องให้แฟนๆ ถกเถียงเรื่องศีลธรรม ชะตากรรม และความรับผิดชอบของผู้ที่มีอำนาจ ซึ่งเป็นหัวข้อที่ไม่มีวันตกยุค เหตุผลทั้งหมดรวมกันทำให้เวเดอร์เป็นมากกว่าตัวร้ายธรรมดา เขาเป็นสัญลักษณ์ที่ส่งผลกระทบทั้งทางอารมณ์และวัฒนธรรม ทำให้แฟนๆ จากหลายรุ่นไม่อาจปล่อยผ่านการพูดถึงเขาได้
すべての回答を見る
コードをスキャンしてアプリをダウンロード

関連書籍

Where the North Star Shines... ภายใต้แสงดาวเหนือ
Where the North Star Shines... ภายใต้แสงดาวเหนือ
"เธอคือบรรณาธิการที่ตามหาเขาในแสง... เขาคือนักเขียนที่ซ่อนตัวในเงา... แต่เมื่อทั้งสองพบกัน บทใหม่ของชีวิตกำลังจะเริ่มต้นขึ้น
評価が足りません
8 チャプター
คุณสามีฉันพร้อมที่จะหย่าแล้วนะ
คุณสามีฉันพร้อมที่จะหย่าแล้วนะ
เมื่อการมีชีวิตไม่ได้เป็นไปอย่างปกติ ชีวิตของเธอและเขาจะจัดการมันอย่างไรเมื่อแรกเริ่มเขาเสนอการหย่าให้กับเธอ แต่เธอกลับยอม และพร้อมที่หย่าและจากเขาไป เขากลับห้ามใจไม่ยอมเสียเอง นั้นมัน...เขารักเธอ?
10
122 チャプター
เสน่ห์รักคุณแม่ลูกแฝด
เสน่ห์รักคุณแม่ลูกแฝด
วันไนท์สแตนที่ไม่ตั้งใจเธอจึงกลายเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวของเด็กแฝดสุดแสบทั้งคู่ตามหาพ่อตัวเองจนพบความน่ารักสองแสบทำให้เขาต้องลดตัวลงมาจีบหญิงเป็นครั้งแรกแล้วเขาจะทำอย่างไรจีบแม่ของลูกทำไมมันยากอย่างนี้วะ
評価が足りません
110 チャプター
กลรักพี่ชายแสนร้าย
กลรักพี่ชายแสนร้าย
ไม่ชอบขี้หน้าเธอตั้งแต่เด็ก ๆ จู่ ๆ วันหนึ่งพ่อกับแม่ก็ให้เธอมาอาศัยอยู่ที่บ้านในฐานะน้องสาวของเขา "ขอบคุณพี่ทิวเขานะคะ" "ใครพี่เธอ ฉันเป็นลูกคนเดียวไม่เคยมีน้องสาว คราวหลังอย่าเรียกฉันว่าพี่อีก ฉันไม่ชอบ" ใช้สายตาดุดันพร้อมทั้งพูดด้วยน้ำเสียงเกรี้ยวกราด การมาของเธอทำให้เขาไม่พอใจ มีโอกาสเมื่อไหร่จึงหาเรื่องกลั่นแกล้งเธอสารพัด วันไหนไม่ได้แกล้งก็แทบนอนไม่หลับ พักหลังชักเริ่มไม่แน่ใจแล้วว่า 'อยากแกล้ง' หรือ 'อยากใกล้' เธอกันแน่
評価が足りません
60 チャプター
พลาดรักรุ่นพี่แสนร้าย
พลาดรักรุ่นพี่แสนร้าย
ในคืนที่ฝนตกลงมาอย่างหนัก ความโชคร้ายนำพาเขาและเธอให้กลับมาพบเจอกันอีกครั้ง แต่ทว่าครั้งนี้ เขากลับไม่ใช่พี่ทิศเหนือคนเดิมที่เธอเคยรู้จัก
10
74 チャプター
Mr.Ray แผนกลรักของนายตัวแสบ
Mr.Ray แผนกลรักของนายตัวแสบ
เมื่อฉันถูกกล่าวหาว่าทำให้เขาเสียหาย และทำให้เขาต้องกลายมาเป็นผสระอัวของฉันและฉันต้องรับผิดชอบ มันใช่ที่ไหน! นี่มันครั้งแรกของฉันนะ! ส่วนนายมันกี่ร้อยครั้งมาแล้ว! อีตาคุณเรย์ตัวแสบเล่นฉันเข้าให้แล้วสิ!
評価が足りません
75 チャプター

関連質問

ซีซันล่าสุดของ Invincible War เล่าเหตุการณ์หลักอะไรบ้าง

3 回答2025-10-31 16:37:41
ประโยคเปิดฉันเลือกใช้แบบตรงไปตรงมาว่า ซีซันล่าสุดของ 'Invincible' เป็นการยกระดับสงครามให้กลายเป็นเรื่องส่วนตัวอย่างแท้จริง — ไม่ได้หมายถึงการต่อสู้กันเฉย ๆ แต่หมายถึงเหตุการณ์ที่กระทบทั้งอุดมการณ์ ครอบครัว และสังคมที่อยู่รอบตัวตัวละคร. ฉากหลักที่เด่นชัดคือการชนกันของอุดมการณ์ระหว่างเผ่า Viltrumite กับกลุ่มพันธมิตรจักรวาล: มีการเปิดเผยตัวละครสำคัญจากฝั่ง Viltrumite ที่มีอำนาจและแผนการชัดเจน ทำให้ความขัดแย้งกลายเป็นสงครามเต็มรูปแบบ การสู้รบไม่ได้จำกัดแค่บนโลก แต่ขยายไปสู่การปะทะในอวกาศและการบุกรุกดาวเคราะห์หลายแห่ง ฉากต่อสู้ที่ออกแบบมาได้ดุดันและโหดร้าย แสดงให้เห็นราคาที่แท้จริงของการเป็นฮีโร่ — เพื่อนร่วมทีม ลางชีวิต และบ้านเมืองล้วนต้องเสี่ยง นอกจากการสู้รบแล้ว ซีซันนี้ยังเน้นผลกระทบเชิงจิตใจต่อบรรดาตัวละครหลัก: ความสัมพันธ์ที่สั่นคลอนระหว่างพ่อกับลูก ความลังเลในการใช้พลัง และการตัดสินใจที่ต้องแลกด้วยชีวิตของคนรอบตัว บทบาทของตัวละครอย่างผู้มีพลังเปลี่ยนแปลงโลกและผู้บัญชาการฝ่ายศัตรูทำให้ฉากการเมืองแทรกเข้ามาได้อย่างสมบูรณ์ ซีซันจบลงด้วยเงื่อนงำบางอย่างที่เตรียมทางให้เหตุการณ์ใหญ่ยิ่งขึ้น แต่สิ่งที่ติดตาฉันที่สุดคือตัวละครที่ต้องเรียนรู้ที่จะรับผิดชอบต่อผลของการกระทำ — มันเตือนฉันถึงความเข้มข้นของเรื่องราวในซีรีส์ไซไฟอย่าง 'The Expanse' ที่ไม่ละเลยคนธรรมดาท่ามกลางสงครามจักรวาล

ตัวละครใดใน Invincible War มีอิทธิพลต่อตอนสุดท้าย

3 回答2025-10-31 18:14:32
ฉากปิดท้ายของ 'Invincible' ถูกฉายให้เห็นชัดสุดเมื่อความสัมพันธ์พ่อลูกกลายเป็นแรงขับเคลื่อนของทั้งเรื่องราวและอารมณ์ของตอนสุดท้าย ผมมองว่า Nolan — ในนาม Omni-Man — เป็นตัวละครที่มีอิทธิพลสูงสุดต่อบทสุดท้าย เพราะทุกการตัดสินใจของเขาสร้างผลสะเทือนทั้งเชิงกายภาพและจิตใจต่อโลกและต่อ Mark โดยตรง นัยยะจากการเปิดเผยตัวตน การเลือกทางของเขาระหว่างความจงรักภักดีต่อเผ่าพันธุ์ Viltrumite กับความผูกพันที่มีต่อครอบครัว ทำให้บทสรุปไม่ได้เป็นแค่ฉากต่อสู้ย่อย แต่กลายเป็นการทดสอบค่านิยม ระเบียบศีลธรรม และตัวตนของพระเอก มุมมองส่วนตัวคือฉากการปะทะกันระหว่าง Nolan กับ Mark ไม่ได้มีไว้เพื่อโชว์พลังเท่านั้น แต่มันเผยให้เห็นความแตกต่างในนิยามคำว่า ‘ฮีโร่’ — Nolan เป็นตัวเร่งที่บีบ Mark ให้เลือกว่าจะเป็นฮีโร่อย่างไร ฉากสุดท้ายจึงมีความหนักทั้งในแง่บทบาทและผลลัพธ์ต่อพล็อตระยะยาว ของเล่นทางอารมณ์อย่างเสียงคำพูดสุดท้าย การมองตา และการตัดสินใจที่ไม่กลับหลัง ทำให้ผมยอมรับว่าไม่มีตัวละครไหนที่สำคัญเท่ากับเขาเมื่อพูดถึงแรงกระทบต่อตอนปิดเรื่องนี้

หนังสือคอมิกส์ต้นฉบับของ Invincible War เริ่มจากเล่มไหน

3 回答2025-10-31 15:15:16
เมื่อต้องพูดถึงจุดเริ่มต้นของเรื่องราวต้นฉบับแล้ว เรื่องนี้เริ่มจากเล่มแรกของคอมิกส์เลย คือ 'Invincible' เล่มที่ 1 ที่ตีพิมพ์โดย Image Comics ในปี 2003 โดยทีมสร้าง Robert Kirkman, Cory Walker และ Ryan Ottley ซึ่งเล่มแรกจะเป็นประตูที่พาเราไปรู้จักโลก ตัวละคร และจังหวะโทนของเรื่องอย่างชัดเจน ในฐานะแฟนที่ตามมาตั้งแต่เล่มแรก ผมชอบวิธีที่ซีรีส์ค่อยๆ ขยายขอบเขตจากเรื่องราวของฮีโร่ในเมืองเล็กๆ ไปสู่การปะทะระดับจักรวาล หากเป้าคือการตาม 'สงคราม' ในเรื่องโดยเฉพาะ ส่วนใหญ่คนจะหมายถึง 'Viltrumite War' ซึ่งเป็นอาร์คใหญ่ของเรื่องและเกิดขึ้นค่อนข้างลึกในซีรีส์ ไม่ได้ขึ้นตั้งแต่เล่มแรก แต่ถาต้องการอ่านตั้งแต่จุดเริ่มต้นของโลกและตัวละคร การเริ่มที่เล่ม 1 จะให้บริบทที่ดีที่สุดก่อนจะพาไปสู่ความเข้มข้นของสงคราม สรุปสั้นๆ ว่าแนะนำให้เริ่มที่ 'Invincible' เล่มที่ 1 เพื่อสัมผัสต้นฉบับอย่างครบถ้วน แล้วถ้าสนใจเฉพาะอาร์คสงครามแบบรวดเร็วก็หาข้อมูลต่อว่าต้องข้ามไปที่ตอนใดของซีรีส์ แต่สำหรับการเข้าใจอารมณ์และน้ำหนักของเหตุการณ์ทั้งหมด เล่ม 1 คือจุดเริ่มต้นที่เหมาะสมและคุ้มค่าเสมอ

เพลงประกอบ Invincible War มีเพลงไหนโดดเด่นบ้าง

4 回答2025-10-31 22:26:28
เพลงประกอบการต่อสู้ใน 'Invincible' ทำให้หัวใจฉันกระตุกได้ทุกครั้งที่ดังขึ้น — โดยเฉพาะจังหวะหนักแน่นและการใช้เครื่องเป่าเป็นจังหวะตอกย้ำความรุนแรงของฉาก. ประทับใจมากกับคัทที่ใช้เสียงกลองหนัก ๆ ประสานกับสายซินธ์ต่ำ ๆ ในช่วงฉากการปะทะระหว่างมาร์กกับโอมนี-แมน เรียกว่าเป็นการผสมผสานระหว่างออร์เคสตราและอิเล็กทรอนิกส์ที่ลงตัวทำให้ความรุนแรงทั้งทางกายและอารมณ์ถูกขับขึ้นไปอีกระดับ. สิ่งนี้ทำให้ฉันเห็นภาพการเคลื่อนไหวบนจอชัดขึ้น เหมือนได้ยินจังหวะหัวใจที่เต้นพร้อมกับหมัดและแรงปะทะ อีกสิ่งที่โดดเด่นคือธีมที่นุ่มกว่าแต่หนักแน่นในฉากผลลัพธ์ของการต่อสู้ — เสียงสายไวโอลินช้า ๆ กับเปียโนเบสที่เหมือนดึงความเศร้าและความสับสนของตัวละครออกมา เพลงพวกนี้ไม่ได้พยายามทำให้คนดูลืมความโหด แต่กลับเสริมความปวดร้าวหลังจากความรุนแรง ช่วยให้ฉากไม่กลายเป็นแค่ฟุตเทจแอ็กชัน แต่กลายเป็นโมเมนต์ที่มีความหมาย สรุปแล้ว ถ้าต้องเลือกชิ้นที่เด่นจริง ๆ จะบอกว่าเป็นคอนทราสต์ระหว่าง 'ธีมการสู้รบแบบหนักหน่วง' กับ 'ธีมหลังการต่อสู้ที่เต็มไปด้วยความเศร้า' ทั้งสองแบบเล่นงานอารมณ์คนดูได้ต่างกันและกลมกลืนกันอย่างประหลาด — ทำให้ฉากสงครามใน 'Invincible' ไม่ใช่แค่อีเวนต์ แต่เป็นประสบการณ์ที่สะเทือนใจและตราตรึงใจ

ฉากจางฮั่นแต่งงานใน My Love From The Star ถ่ายทำที่ไหน?

4 回答2025-11-16 22:27:13
ฉากงานแต่งสุดอลังการของจางฮั่นใน 'My Love from the Star' ถูกถ่ายทำที่โรงแรมรอยัลฮอลิเดย์โฮเทล ในจังหวัดกยองกี เกาหลีใต้ ซึ่งเป็นสถานที่จัดงานแต่งงานชื่อดังระดับไฮเอนด์ ความพิเศษของฉากนี้คือการผสมผสานระหว่างสถาปัตยกรรมยุโรปคลาสสิกกับแสงสีที่โรแมนติก ผู้กำกับเลือกใช้โถง Grand Ballroom เพราะเพดานสูงและหน้าต่างบานใหญ่ที่ให้บรรยากาศเหมือนอยู่ในเทพนิยาย แสงแดดที่ลอดผ่านกระจกสีสร้างเอฟเฟกต์แม่เหล็กให้ฉากดูเหมือนฝัน บรรยากาศทั้งหมดช่วยเสริมความรู้สึกว่าชีวิตของตัวละครกำลังเปลี่ยนผ่านไปสู่บทใหม่ ที่น่าสนใจคือหลังถ่ายทำเสร็จ สถานที่แห่งนี้กลายเป็นจุดหมายปักหมุดของแฟนๆ ที่อยากสัมผัสบรรยากาศแบบเดียวกับในซีรีส์

จะดูซีรีส์ Invincible War ถูกลิขสิทธิ์ในไทยได้ช่องทางไหน

3 回答2025-10-31 08:37:47
สายซูเปอร์ฮีโร่แบบดิบเถื่อนจะหลงรักความตรงไปตรงมาของ 'Invincible' ซึ่งในไทยมีช่องทางถูกลิขสิทธิ์หลัก ๆ ให้เลือกดูอยู่พอสมควร ในมุมมองของแฟนรุ่นหนุ่มที่ติดตามตั้งแต่แรก ฉันมีความสุขมากที่ได้เห็นซีรีส์นี้ลงบนแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งระดับโลก เพราะแปลว่าเราไม่ต้องพึ่งแหล่งเถื่อน: ณ ตอนนี้ 'Invincible' เป็นคอนเทนต์แบบเอ็กซ์คลูซีฟของ 'Prime Video' ในหลายพื้นที่ รวมถึงผู้ชมในไทยด้วย ซึ่งหมายความว่าถ้าสมัครสมาชิก Prime ก็สามารถรับชมทั้งซับไทยและเสียงพากย์ (ขึ้นกับซีซันและการอัปโหลดของแพลตฟอร์ม) ได้อย่างสบายใจ อีกมุมที่อยากบอกคือถ้าต้องการสะสมเป็นเวอร์ชันโฮมมีเดีย บางครั้งโปรดักชันใหญ่จะมีดีวีดีหรือบลูเรย์ขายในตลาดต่างประเทศ และร้านขายสื่อใหญ่อาจนำเข้ามาในไทย แต่ถ้าต้องการความรวดเร็วและภาพกับเสียงที่ได้มาตรฐานจริง ๆ การดูผ่าน 'Prime Video' คือคำตอบที่ปลอดภัยสุดสำหรับแฟนที่ไม่อยากพลาดฉากดราม่ารุนแรงอย่างการปะทะระหว่างพ่อกับลูกซึ่งเป็นหนึ่งในซีนที่ทำให้ซีรีส์นี้โดดเด่นและพูดถึงกันมาก

ทฤษฎีแฟนๆ เกี่ยวกับจุดจบใน Invincible War มีอะไรบ้าง

3 回答2025-10-31 01:31:48
หนึ่งในทฤษฎีแฟนๆ ที่ผมชอบถกเถียงกับเพื่อนๆ คือการจบสงครามของ 'Invincible' จะไม่ใช่การชนะแบบเด็ดขาด แต่เป็นการล่มสลายของอุดมการณ์ของเผ่าวิลทรูมเอง ผมเห็นภาพ Nolan/Omni-Man ไม่ได้แค่กลับใจเพราะความรักต่อครอบครัว แต่เพราะความเหนื่อยล้าจากระบบอำนาจที่โหดร้าย ทฤษฎีนี้บอกว่าแรงกระทบจากการสูญเสียครั้งใหญ่บนสนามรบจะทำให้เกิดการแบ่งฝ่ายภายใน จนผู้นำสายโบราณอย่าง Thragg ถูกคัดค้านจากกลุ่มหนุ่มใหม่ที่เห็นว่าอาณาจักรต้องเปลี่ยนแนวทาง นอกจากเหตุการณ์ยักษ์ชนยักษ์ที่เราคาดหวัง ทฤษฎีนี้ชี้ให้เห็นร่องรอยเล็กๆ ในบทสนทนาและการตัดสินใจของตัวละคร เช่น ความไม่เห็นด้วยในหมู่วิลทรูม และการยอมรับความเป็นมนุษย์ของ Nolan นั่นคือหลักฐานว่าการปฏิวัติภายในเป็นไปได้ ผมเชื่อว่าการจบแบบนี้จะให้พื้นที่ทางอารมณ์มากกว่าแค่การกำจัดศัตรูทั้งหมด เหล่าตัวละครต้องเผชิญกับปัญหาทางจริยธรรม และผลลัพธ์อาจเป็นสันติภาพที่เปราะบาง แต่มีความหวัง ซึ่งผมว่ามันเข้มข้นและทรงพลังกว่าการชนะแบบคลีนชี้ชะตา

ฉันควรอัปเกรดสกิล Kafka Honkai Star Rail ตัวไหนก่อน

3 回答2025-11-05 05:53:14
การอัปเกรดสกิลของคาฟคาใน 'Honkai: Star Rail' ควรพิจารณาจากบทบาทที่คุณต้องการให้เธอทำในทีมจริง ๆ มากกว่าตัวเลขล้วน ๆ ผมมักจะเริ่มจากถามตัวเองสองอย่าง: ผมต้องการให้คาฟคาเป็นแหล่งดีบัฟ/รอง DPS ที่คอยเปิดทางให้เพื่อนร่วมทีม หรือผมอยากให้เธอเป็นตัวระเบิดความเสียหายหลักของปาร์ตี้? ถาตอบว่าเน้นให้ทีมทำงานร่วมกันได้ดีขึ้น ผมจะให้ความสำคัญกับสกิลที่เพิ่มโอกาสติดสถานะหรือลดคูลดาวน์ เพราะการรักษาความต่อเนื่องของเอฟเฟกต์มักแปลเป็น DPS รวมที่สูงกว่าในหลาย ๆ ดันเจี้ยนและโหมดกิจกรรม แต่ถ้าต้องการให้คาฟคาเป็นคนที่ปั๊มดาเมจแบบพุ่งเป้า ให้เน้นอัปเกรดค่าสกิลที่เพิ่มความแรงตอนใช้หรือค่าสำหรับฟีเจอร์ที่คอมโบกับ Light Cone และ relics ของเธอ การจัดลำดับจริง ๆ ผมมักทำแบบนี้: อันดับหนึ่งคือสกิลที่ใช้บ่อยที่สุดในรอบต่อรอบ (ความถี่ใช้งานเท่าใด) อันดับสองคืออัลติเมตที่ให้ประโยชน์แบบกลุ่มหรือเพิ่ม burst damage อันดับสามคือตัวสกิลที่เป็นแค่เสริมระยะยาว เพราะทรัพยากรจำกัด การเลือกให้ตรงกับสไตล์การเล่นและตัวละครที่จับคู่ด้วย เช่น เมื่อตั้งทีมร่วมกับ 'March 7th' ผมมักเน้นให้คาฟคาคงสถานะและรีเซ็ตคูลดาวน์เพื่อให้การซัพพอร์ตทำงานต่อเนื่องมากกว่าเลือกอัปสกิลแบบพุ่งแรงเพียงอย่างเดียว
無料で面白い小説を探して読んでみましょう
GoodNovel アプリで人気小説に無料で!お好きな本をダウンロードして、いつでもどこでも読みましょう!
アプリで無料で本を読む
コードをスキャンしてアプリで読む
DMCA.com Protection Status