ในมุมมองของฉัน การปรับบท
ราเชลในหนังควรเริ่มจากการนิยามเป้าหมายภายในที่ชัดเจนกว่าเดิม — ไม่ใช่แค่เป็นตัวกระทำที่เรื่องพาไป แต่ให้เธอเป็นคนเลือกทางเดินบ้าง ฉันชอบการเดินเรื่องที่ให้ผู้ชมค่อยๆ ปะติดปะต่อเหตุผลของตัวละครผ่านการกระทำ เล่าแบบภาพแล้วค่อยเติมบทสนทนาแทนการให้ข้อมูลผ่านบทพูดยาว ๆ นั่นจะช่วยให้ราเชลมีมิติขึ้นและไม่รู้สึกเป็นตัวละครที่ถูกออกแบบมาเพื่อตอบสนองเหตุการณ์ของคนอื่นเท่านั้น
อีกสิ่งที่คิดว่ามีประโยชน์คือการแทรกฉากเล็กๆ ที่แสดงความเปราะบางแบบไม่หวือหวา — ช็อตเธอทำสิ่งธรรมดาแล้วเรารู้ว่าเบื้องหลังมีเรื่องหนักหน่วง เช่น ฉากเธอนั่งมองภาพถ่ายเก่า หรือตัดกลับไปยังความทรงจำที่สั้นและครุ่นคิด วิธีนี้คล้ายกับแนวทางของ 'Blue Valentine' ที่ให้ความรู้สึกจริงจังกับความสัมพันธ์โดยไม่ต้องอธิบายทุกสิ่งในบทพูด ผู้ชมจะอินมากขึ้นเมื่อได้เห็นรายละเอียดเล็กๆ ที่บ่งบอกการเติบโตหรือการถดถอย
สุดท้าย ฉันคิดว่าทางผู้สร้างควรตัดสินใจเรื่องตอนจบให้ชัดว่าต้องการสื่ออะไรกับราเชล — จะให้เป็นการไถ่บาป การยอมรับตัวเอง หรือการลาจากที่เต็มไปด้วยคำถาม เปิดตอนจบให้เป็นกึ่ง ๆ คลุมเครือก็ได้ แต่ต้องแลกด้วยฉากก่อนหน้าที่ให้เหตุผลเพียงพอว่าทำไมเธอถึงเลือกทางนั้น ตัวอย่างจาก 'Lost in Translation' แสดงให้เห็นว่าการใช้ภาพและบรรยากาศสามารถสื่อภาวะภายในได้โดยไม่ต้องพึ่งบทพูดยาวๆ ฉันชอบความเป็นไปได้ที่ราเชลจะออกจากเรื่องด้วยท่าทีที่ไม่สมบูรณ์แบบแต่มีความเป็นเจ้าของชีวิตมากขึ้น เพราะนั่นทำให้ตัวละครอยู่ในความคิดของผู้ชมต่อไปไม่ใช่แค่หลังเครดิตเท่านั้น