มีเรื่องสยองขวัญสั้น ๆ ที่ฉันกลับไปอ่านซ้ำบ่อย ๆ เพราะแต่ละเรื่องมีท่อนที่ทำให้หัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะไม่ซ้ำกันเลย เรื่องพวกนี้หาอ่านได้ฟรีตามห้องสมุดดิจิทัลหรือเว็บไซต์สาธารณะ ฉันชอบชี้ให้เพื่อน ๆ เริ่มจากคลาสสิกที่ยังคงสร้างบรรยากาศหลอนแม้จะอ่านมาหลายครั้งแล้ว เพราะโครงเรื่องกระชับและการตั้งโทนทำได้เฉียบคม
'The Tell-Tale Heart' —
นิยายสั้นของ Edgar Allan Poe ที่เล่นกับความรู้สึกผิดและเสียงในหัว จงระวังตอนอ่านกลางคืนเพราะจังหวะประโยคทำให้น้ำเสียงในหัวซ้ำ ๆ
'The Black Cat' — อีกเรื่องของ Poe ที่เน้นการทำลายตัวเองจากความหลงใหลและความรุนแรงที่ค่อย ๆ งอกขึ้น
'The Fall of the House of Usher' — โทนหม่นเศร้าและบรรยากาศบ้านทรุดโทรมคือความหลอนแบบเก่า แต่ยังทรงพลัง
'The Masque of the Red Death' — นิทานสยองเชิงสัญลักษณ์ ที่ฉันชอบเพราะความทิ้งท้ายแบบเปรี้ยง
'The Yellow Wallpaper' — เรื่องสั้นที่เล่นกับจิตและสังคม ทำให้ความหลอนอยู่ใกล้ชิดเหมือนเพื่อนบ้านที่ไม่เคยหายไป
'The Monkey's Paw' — นิยายสั้นที่สอนบทเรียนเกี่ยวกับความอยากได้และผลพวงที่ไม่คาดคิด
'The Horla' — บทประพันธกรรมเหนือจริงจาก Guy de Maupassant ที่ให้ความรู้สึกว่ามีบางอย่างคอยชะมัดข้างหลัง
'Oh, Whistle, and I'll Come to You, My Lad' — เรื่องผีฝรั่งสั้น ๆ ที่ค่อย ๆ บิดบรรยากาศจนเยือก
สำหรับคนที่อยากได้รสชาติหลาย ๆ แบบ ฉันยังมีอีกชุดที่อ่านแล้วรู้สึกว่าไม่เปลืองเวลาแต่บรรยากาศแน่น 'Casting the Runes' — มุกการสาปและการตามล่าในโลกสมัยก่อนที่ยังทำงานได้ 'The Signal-Man' — Dickens เล่าเรื่องผีด้วยวิธีที่ทำให้สถานการณ์ธรรมดาดูอันตราย 'Green Tea' — เลฟานูกับความหลอนเชิงจิตวิทยา 'Carmilla' — แวมไพร์เรื่องคลาสสิกที่ทั้งโรแมนติกและน่าขนลุก 'The Damned Thing' และ 'The Boarded Window' — สองเรื่องของ Ambrose Bierce ที่ใช้ภาพสั้น ๆ แต่กระแทก ความเรียงตอนท้ายที่ทำให้ลมหายใจหยุดชั่วขณะ 'Hoichi the Earless' ของ Lafcadio Hearn — นิทานญี่ปุ่นผสมบรรยากาศเหนือธรรมชาติ แบบนี้อ่านเสร็จแล้วอยากปิดไฟช้า ๆ อ่านให้สนุกและเตรียมชากาแฟไว้สักแก้วก่อนลงมือจะได้ไม่โดดเดี่ยวเกินไป