การได้อ่าน '
อิเหนา' ทำให้รู้สึกถูกดึงเข้าไปในเครือข่ายเรื่องเล่าที่เดินทางข้ามทะเลและภาษา จังหวะของบทกวีไทยที่เราเรียกกันว่า 'ลิลิตอิเหนา' ไม่ได้เกิดขึ้นจากสุญญากาศ แต่มีต้นตอมาจากเรื่องราวในคาบสมุทรมลายูโดยทั่วไป นักวิชาการมักยกชื่อต้นฉบับมลายูว่า 'Hikayat Inderaputera' (หรือสะกดแบบอื่น ๆ ว่า 'Inderaputra/Inderaputera') เป็นต้นกำเนิดที่ชัดเจน: ตำนานนี้มีเค้าโครงของเจ้าชายที่ผจญภัย ความรัก และการทดสอบชะตากรรมซึ่งสอดคล้องกับโครงเรื่องในฉบับไทยที่เรารู้จักกันดี
จุดที่น่าสนใจสำหรับฉันคือเรื่องราวต้นฉบับของมลายูน่าจะมีรากหยั่งยาวกลับไปตั้งแต่ยุคกลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ — โดยทั่วไปนักวิจัยประเมินว่ารูปแบบของ 'Hikayat Inderaputera' มีการส่งต่อและแต่งขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 15–17 ขึ้นอยู่กับพื้นที่และภาษาที่ปรากฏ ขณะที่การดัดแปลงเป็นฉบับภาษาไทยซึ่งกลายเป็น 'ลิลิตอิเหนา' เกิดการปรับถ้อยคำ ปรับบริบทให้เข้ากับรสนิยมและค่านิยมแบบไทย จึงยากที่จะชี้วันเดือนปีเกิดผลงานเวอร์ชันไทยอย่างเด็ดขาด แต่สัญญาณสำคัญชี้ว่าเรื่องนี้เข้ามาในสยามตั้งแต่สมัยอยุธยา และมีการกลายรูปอย่างเข้มข้นในรัชสมัยต่อ ๆ มาเมื่อวรรณกรรมวังและการละเล่นพื้นบ้านรับเอาไปใช้
อีกมุมหนึ่งที่ผมชอบคิดคือการเป็นเรื่องเล่าข้ามวัฒนธรรมไม่ใช่แค่การย้ายอักษรเท่านั้น แต่เป็นการผสมผสานพลังทางสัญลักษณ์—ชื่อตัวละครบางตัวสะท้อนกลิ่นอายอินเดียหรือเปอร์เซียผ่านทางมลายูก่อนจะเข้ามาสู่ไทย ฉากบางฉากถูกเติมหรือตัดตามรสนิยมท้องถิ่น ทำให้เราได้งานที่มีสุนทรียะและความรู้สึกเป็นไทยมากขึ้น แม้แก่นเรื่องจะยังสะท้อนสายสัมพันธ์กับตำนานมลายูดั้งเดิมก็ตาม
สรุปในแบบของคนอ่านที่ติดตามเรื่องเล่าข้ามชาติ ประวัติของ 'อิเหนา' คือภาพของการเดินทางและการปรับตัว: ต้นทางมาจาก 'Hikayat Inderaputera' ราวศตวรรษที่ 15–17 และถูกแต่งปรับเป็นฉบับภาษาไทยในช่วงหลังเมื่อเรื่องนั้นเริ่มฝังรากในสังคมสยาม ผลลัพธ์ที่ได้คืองานที่เป็นทั้งสมบัติของวรรณกรรมไทยและหลักฐานว่าความคิดข้ามพรมแดนสามารถสร้างงานศิลป์ที่แปลกใหม่ได้อย่างน่าทึ่ง