“กลัวพี่เหรอ” ปากถาม แต่ร่างหนายังเดินเข้ามาใกล้ฉันเรื่อยๆ “เปล่านิ” ฉันเดินถอยหลังมาจนชนเข้ากับโต๊ะตัวยาวในห้อง “แล้วถอยหนีทำไม” พี่ราเรซจ้องมองสบตาฉันนิ่ง แววตาของเขาดูราบเรียบ ฉันเดาไม่ออกเลยจริงๆ ว่าเขาคิดอะไรอยู่ “ก็พี่เดินเข้ามาใกล้ทำไมล่ะ” ฉันมองเขาอย่างระแวง แขนหนาสองข้างยื่นเข้ามากักตัวฉันไว้กับโต๊ะ ฉันรีบยกแขนของตัวเองขึ้นมาดันอกแกร่งไว้ไม่ให้เขาเข้ามาชิดกว่านี้ พี่ราเรซโน้มหน้ามาใกล้ ปลายจมูกโด่งเฉียนแก้มฉันไปนิดเดียว “คิดถึงมั้ง..” เขากระซิบตอบที่ข้างหู ตึกๆ ๆ ๆ ๆ ตึกๆ ๆ ๆ ๆ ๆ จะเต้นแรงอะไรหนักหนา ไอ้หัวใจบ้า เดี๋ยวเขาก็ได้ยินหมดหรอก “คิดถึงทำไมค่ะ เราไม่ได้เป็นอะไรกันสักหน่อย” ฉันเผลอสบตากับตาคมเข้าอย่างจัง กลิ่นตัวหอมแตะจมูกชวนหลงใหล “ต้องเป็น...ก่อนใช่ไหม ถึงจะคิดถึงได้” พี่ราเรซยังจ้องมองสบตาฉันไม่ห่าง “งะ..งั้นมั้ง...” ฉันตอบอย่างตะกุกตะกัก “พี่คิดถึงต้านะ..”
View More“พี่ราเรซค่ะ หน้าตาพี่ก็ดีแถมยังเรียนเก่งอีกต่างหาก แต่ทำไมเรื่องผู้หญิงพี่ถึงได้โง่จัง”
เสียงเด็กผู้หญิงหน้าตาน่ารักคนหนึ่งพูดขึ้น “พี่โง่ยังไง” ผมยกคิ้วขมวดเป็นปมอย่างสงสัย “แฟนพี่เขานอกใจ แต่พี่ก็ยังคบกับเขาอยู่อีก ไม่ให้เรียกว่าโง่แล้วจะให้เรียกว่าอะไรคะ” สิ่งที่เด็กนี้พูดมา ไม่ได้ทำให้ผมโกรธเธอเลยสักนิดแล้วผมก็ไม่ได้รู้สึกอะไรด้วย เพราะผมรู้อยู่แล้ว “แล้วจะให้พี่ทำยังไง” ผมยื่นหน้าเข้าไปถาม เธอก้าวถอยหลังไปหนึ่งก้าวและก็ถอยได้แค่นั้นแหละ เพราะด้านหลังมันคือกำแพง “ก็...ไม่รู้สิ คิดเอาเอง” พูดจบ เธอก็ตั้งท่าจะวิ่งหนี ผมรีบยกแขนยาวสองข้างกักตัวเธอไว้ที่กำแพง “ถ้าต้าหนิงบอก พี่จะทำตามทุกอย่างเลย” ตากลมโตจ้องมองหน้าผมอย่าง งงๆ ผมยกยิ้มแสนกระชากใจส่งไปให้เธอ แล้วก็ได้เห็นแก้มเนียนๆ เปลี่ยนเป็นสีแดงระเรื่อ “คือ...ต้า...” เธอยืนพูดอ้ำอึ้ง ผมจึงขยับตัวเข้าไปใกล้อีก มือเล็กรีบยกขึ้นมาดันอกแกร่งของผมไว้ “พี่ฟังอยู่” ผมก้มหน้าลงสบตากับดวงตากลมโตของเธอที่ห่างกันไม่ถึงเซนต์ “ราเรซ!” เสียงเรียกชื่อด้วยน้ำเสียงที่ไม่พอใจอย่างมากดังขัดขึ้นซะก่อน “ทำอะไรกัน” เธอเดินเข้ามาควงแขนผมอย่างแสดงความเป็นเจ้าของ “พี่ฝ้าย” ต้าหนิงเอ่ยชื่อเธอ “มีธุระอะไรกับแฟนพี่เหรอ ต้าหนิง” ฝ้ายมองหน้าต้าหนิงอย่างเอาเรื่อง “เปล่าคะ ขอตัวนะคะ” เธอรีบวิ่งหนีไปทันทีที่ผมปล่อยแขนออกจากการกักตัวเธอ “คุยอะไรกัน” ฝ้ายหันมาจ้องตาผมเขม็ง “ไม่มีอะไร” ผมชำเลืองมองเธอนิดหน่อย “แล้วเมื่อกี้มันอะไร ถ้าฝ้ายมาไม่ทันเห็น..” ฝ้ายจ้องหน้าผมอย่างเอาเรื่อง “นี่ อย่ามาเยอะกับฉัน ทีเธอจะไปไหน ทำอะไรกับใคร ฉันยังไม่เคยยุ่งเลย” ผมจ้องหน้าเธอกลับ และก็เป็นเธอที่หลบตาผม “ยัยเด็กนั้นมาใส่ร้ายอะไรฝ้ายอีกล่ะ” เธอพูดอ่อนลง พร้อมกับค้องแขนอย่างออดอ้อน “ไปนะ” ผมไม่สนใจที่จะตอบคำถามเธอ ผมแกะมือเธอออกจากแขนหนาแล้วเดินหนีไปทันที ผมชื่อ ราเรซ ครับ ลูกชายสุดหล่อของพ่อเรย์กับแม่ไลลา ผมอายุ 18 ปี กำลังศึกษาอยู่ชั้นมัธยมปีที่ 6 ผู้หญิงที่ชื่อฝ้ายเธอคือแฟนผมเอง เราเริ่มคบกันเมื่อสามปีที่แล้วตอนที่ผมเรียนอยู่ชั้น ม.4 เธอเป็นคนเข้ามาจีบผมก่อน สามปีที่แล้ว.... “หวัดดี เราชื่อฝ้ายนะ ขอนั่งด้วยคน” เธอเดินเข้ามาทัก ผมกำลังนั่งอ่านหนังสือการ์ตูนอยู่ที่ม้าหินอ่อนข้างๆ อาคารเรียน “อยากนั่งก็นั่งสิ” ผมปรายตาไปมองเธอแวบหนึ่ง ในตอนนั้นฝ้ายถือว่าเป็นสาวฮอตของโรงเรียนเลยก็ว่าได้ ไม่ว่าใครก็อยากจะคุยกับเธอ รวมทั้งเพื่อนในกลุ่มของผมด้วย พวกมันชอบพูดถึงเธอบ่อยๆ “เธอเป็นเกย์เหรอ” ผมหันขวับไปมองหน้าเธออย่างตกใจ “ก็เธอนะ ไม่ชอบให้ผู้หญิงเข้าใกล้นิ ใครๆ เขาก็เลยคิดว่าเธอเป็นเกย์” ฝ้ายอธิบาย พร้อมกับส่งยิ้มหวานมาให้ “ฉันแค่รำคาญ ไม่ชอบให้ใครมาวุ่นวาย” ผมค่อนข้างรักสงบ “ให้ฝ้ายช่วยไหม” เธอยื่นข้อเสนอ ผมวางหนังสือการ์ตูนลงแล้วหันมาจ้องหน้าเธอ “ยังไง” “คบกับฝ้ายสิ รับรองไม่มีผู้หญิงคนไหนกล้ามายุ่งกับราเรซอีกแน่” ข้อเสนอเธอมันก็น่าสนใจดีนะ ถ้าเธอทำได้จริงๆ อีกอย่างเธอก็เป็นสาวฮอตของโรงเรียนด้วย แล้วหนุ่มหล่ออย่างผมจะปฏิเสธคนสวยลงได้อย่างไร ที่จริงก็ปฏิเสธไปเยอะแล้วล่ะ แต่ผมกลับสนใจเธอมากกว่าคนอื่นๆ ซะงั้น “แล้ว...” ผมถามฝ้ายต่อ เธอหันไปส่งยิ้มให้กับเพื่อนตัวเองที่นั่งอยู่โต๊ะด้านหลังผม “เอาโทรศัพท์มาสิ” ผมยื่นโทรศัพท์ตัวเองไปให้ตามที่เธอบอก แล้วเธอก็กดยุคหยิกไปมาจากนั้นก็ส่งให้ผมคืน “เดี๋ยวทักไปนะ” พูดจบเธอก็ลุกขึ้นแล้วเดินกลับไปหาเพื่อนของเธอที่โต๊ะ ติ่ง! เสียงเฟซบุคของผมแจ้งเตือน ผมรีบเปิดดูทันที ----Beauti Fai---- ได้ตอบรับคำขอของคุณ ----LaRac กำลังคบกับ Beauti Fai---- ผมหันไปยิ้มให้กับความเจ้าเล่ห์ของเธอ ซึ่งเธอก็ยิ้มตอบกลับมาเหมือนกัน “ไอ้เชี้ยเรซ!” เสียงเพื่อนผมเองแหละ เลโอ มันวิ่งตาตั้งมาหาผมพร้อมกับ บิ๊กไบค์ แล้วก็โต้ง “มึงทำงี้ได้ไงว่ะ อุตส่าห์กูแอบมองตั้งนาน ตัดหน้ากูไปเฉยเลย” เลโอวิ่งมาถึงก็โวยใส่ผมทันที “ได้ไงวะ” บิ๊กไบค์ถามแบบยิ้มๆ “ไอ้นี่มันร้ายจริงๆ” โต้งเดินมาตบบ่าผม เหมือนชื่นชม “เขามาหากูเอง” ผมหันไปตอบไอ้เลโอ “เชอะ! กูไม่เชื่อมึงหรอก มึงมันเจ้าเล่ห์ ต้องไปล่อลวงเขามาแน่ๆ เลย” เลโอพูด ไปแล้วสมอง.. เพื่อนผม “มึงดูหน้ามันดิ หล่อขนาดนี้ใครบ้างไม่สน” บิ๊กไบค์ตบหัวเลโอไปหนึ่งที มันจะได้เลิกคิดฟุ้งซ่าน ๊หลังจากรับประทานอาหารเย็นเสร็จ พี่ราเรซก็พาฉันมานั่งเล่นที่ห้องสมุดของบ้าน ฉันไม่รู้มาก่อนเลยว่าพี่ราเรซจะชอบอ่านหนังสือการ์ตูนขนาดนี้ ฉันเดินไปหยิบหนังสือการ์ตูนออกมาจากชั้นวางเล่มหนึ่ง มันเป็นภาษาญี่ปุ่นซึ่งฉันอ่านไม่ออก หนังสือพวกนี้เปิดกลับหลังด้วยเฮะ ฉันเปิดออกหน้าแรกถึงกับมือไม้อ่อนทำหนังสือหลุดมือร่วงลงพื้นทันทีตุบ!!ภาพวาดการ์ตูนในหนังสือมันติดเรทมากอ่ะ ฉันไม่กล้าหยิบขึ้นมาดูอีกเลยพี่ราเรซเดินเข้ามาพอดี เขามีสีหน้าแปลกใจที่เห็นฉันยืนนิ่ง พี่ราเรซก้มลงไปหยิบหนังสือเล่มนั้นขึ้นมาดู แล้วเขาก็มีสีหน้าตกใจไม่แพ้กัน“ทำไมต้องหื่นขนาดนี้ค่ะ” ฉันโวยทันทีที่หันหน้ามาหาเขา“อ่านออกด้วยเหรอ ว๊าว..เก่งจัง” พี่ราเรซแกล้งชมเพื่อกลบเกลื่อน“แค่ภาพวาดมันก็ชัดเจนแล้วค่ะ”คนบ้า ไม่รู้จะหื่นอะไรปานนั้น หนังสือการ์ตูนที่เห็นอยู่เต็มห้องเนี้ย ก็คงจะมีแต่แบบนี้ทั้งนั้นสินะ“มันคลายเครียดดีนะ” ยังมีหน้ามายิ้มระรื่นอีก เหอะ!ฉันสะบัดหน้าใส่หนึ่งทีก่อนจะเดินหนีมานั่งลงกับเบาะนั่งสไตล์ญี่ปุ่น หันไปมองรอบๆ ห้อง สายตาก็ไ
“แน่นะ”ฉันเล่ตามองพี่ราเรซอย่างไม่ค่อยไว้ใจ พี่ราเรซพยักหน้าให้แทนคำตอบ แล้วฉันมีทางเลือกอื่นอีกไหม เฮ้อ...ฉันหันตัวกลับมาหาเขาอย่างเลี่ยงไม่ได้ แต่เหมือนพี่ราเรซจงใจแกล้งฉันด้วยการยืนตัวตรงไม่ยอมโน้มตัวลงมา เขาสูงกว่าฉันอ่ะ แล้วฉันจะจูบได้ยังไงถ้าเขาไม่ยอมโน้มตัวลง“ไม่ถึงอ่ะ พี่เรซก็ก้มมาหน่อยสิ” ฉันโวยให้“ก็จูบให้ถึงสิ” พี่ราเรซตอบแล้ววันนี้ฉันจะจูบเขาได้ไหมล่ะเนี้ย ฉันมองหันซ้ายหันขวาและก็เจอกับอ่างล้างหน้า ฉันหันหน้ากลับมายิ้มให้พี่ราเรซเมื่อหาตัวช่วยได้แล้ว ฉันเดินไปนั่งบนขอบอ่างล้างหน้า จากความสูงของอ่างล้างหน้ามันก็พอทำให้ฉันอยู่ในระดับเดียวกันกับร่างหนาพอดี พอนั่งได้เรียบร้อยแล้วฉันก็กวักมือเรียกให้พี่ราเรซเดินเข้ามาหา หึๆ คิดไม่ถึงล่ะสิ ว่าฉันจะฉลาดขนาดนี้ ฉันยิ้มหวานส่งไปให้อย่างเป็นผู้ชนะ“ฉลาดเหมือนกันนะเราน่ะ” พี่ราเรซเดินเข้ามาชิดตัวแล้วยิ้มให้ฉันอย่างมีเลศนัย เดี๋ยวนะ ทำไมรอยยิ้มของพี่ราเรซดูไม่น่าไว้ใจแบบนั้นนะ เหมือนเขากำลังหัวเราะฉันด้วยซ้ำไป“แน่นอน” ฉันตอบเขาอย่างมั่นใจ พี่ราเรซยื่นหน้าเข้ามาใกล้
พี่ราเรซเลี้ยวรถเข้ามาจอดในโรงรถของบ้านหลังหนึ่ง ในโรงรถมีรถจอดอยู่เรียงกันอยู่ห้าคันรวมคันที่พี่ราเรซขับด้วย บ้านหลังนี้ใหญ่โตพอสมควร ดูก็รู้ว่าเป็นบ้านของคนมีเงิน พี่ราเรซลงจากรถแล้วเดินอ้อมมาฝั่งฉันเพื่อเปิดประตูรถให้“ขอบคุณค่ะ” ฉันกล่าวขอบคุณ พี่ราเรซเอื้อมมือหนามากุมมือบางของฉันไว้แล้วพาฉันเดินเข้ามาภายในบ้าน ทันทีที่ก้าวขาเข้ามาในบ้านฉันก็รับรู้ถึงความอบอุ่นของบ้านหลังนี้ได้ทันที กลิ่นหอมจางๆ จากดอกไม้ที่อยู่ในแจกันข้างประตู ทำให้ฉันรู้สึกผ่อนคลาย ลดอาการตื่นเต้นได้นิดหน่อย ฉันเดาว่าอีกไม่กี่นาทีนี้ฉันจะได้เจอกับแม่ของพี่ราเรซแน่นอน“แม่ครับ” พี่ราเรซเอ่ยเรียกผู้หญิงคนหนึ่งที่กำลังจัดจานชามบนโต๊ะอาหารอย่างสวยงาม เหมือนกับว่าวันนี้จะมีแขกคนพิเศษมาอย่างนั้นแหละ เธอหันมามองฉันกันพี่ราเรซ ฉันเผลอบีบมือพี่ราเรซแน่นด้วยความตื่นเต้น พี่ราเรซบีบมือฉันคืนเบาๆ เพื่อให้ผ่อนคลาย“มากันแล้วเหรอ” เธอส่งยิ้มหวานมาให้ ผู้หญิงคนนี้ยิ้มสวยจังเลย ถึงจะอายุไม่น้อยแล้วก็ตามแต่เธอกลับดูสวยมากจริงๆ ฉันรู้ล่ะ ว่าพี่ราเรซยิ้มสวยเหมือนใคร เหมือนแม่เขานี่เอง“ต้าหนิง
“เรียนเสร็จแล้วใช่ไหม” พี่ราเรซเลิกเล่นกับเฮียโต้งแล้วหันมาถามฉัน “ค่ะ” “พี่โต้งครับ ผมขออนุญาตพาต้าหนิงไปบ้านผมนะครับ แล้วจะมาส่งวันพรุ่งนี้เช้า” พี่ราเรซหันไปคุยกับเฮียโต้งอีกครั้ง “โห.. งั้นไม่ต้องมาส่งแล้วล่ะ ไอ้เรซ..” เฮียโต้งตอบแบบประชด “จริงป่ะ กูจะได้พาต้าไปเก็บเสื้อผ้าแล้วย้ายมาอยู่กับกูเลย” พี่ราเรซพูดอย่างดีใจ ดูก็รู้ว่าตั้งใจกวนทีน... “มึงกล้าสาบานป่ะ ว่าไม่รู้จริงๆ ที่เมื่อกี้กูประชด” เฮียโต้งแกล้งทำหน้าตึงนิดหน่อย แต่ก็ไม่ได้โกรธจริงจังอะไร “เผื่อฟลุคไง” พี่ราเรซตอบ “ไอ้ห่านี่ น้องกูยังเรียนไม่จบเลย เพราะแบบนี้ไง กูถึงไม่อยากให้น้องกูมีแฟน โดยฉะเพราะมีแฟนแบบมึงเนี้ย” “แบบคนหล่อๆ อย่างกู ใช่ไหมล่ะ” พี่ราเรซตอบ “หล่อตายแหละมึงอ่ะ สู้กูก็ไม่ได้ พวกมึงด้วย” แล้วเฮียโต้งก็หันไปอวดความหล่อของตัวเองกับเพื่อนๆ “อ้าว.. ไอ้โต้งพูดงี้ก็สวยดิ น้องแก้มใสครับ บอกมาเลยว่าใครหล่อสุด ยกเว้นไอ้เรซไม่ต้องนับมัน” พี่เลโอหันไปถามความคิดเห็นแก้มใส “เออ... ก็แล้วแต่คนมองล่ะค่ะ พวกพี่ก็ดูดีกันคนล่ะแบบ” แก้มใสตอบแบบเลี่ยงๆ “ไม่เอาดิ ตอบมาเลยพี่สามคนนี้ ใครหล่อสุด” พี่เลโอยังไม่ล่ะควา
“น่าพิศวาสตายแหละ”“จริงอ่ะ สักนิดก็ไม่มีเลยเหรอ” พี่ราเรซลุกขึ้นนั่งแล้วเอียงคอถามอย่างทะเล้น“ไม่!!”ฉันลุกขึ้นไปนั่งบนโซฟาข้างร่างหนา เอื้อมมือบางไปจับคางพี่ราเรซให้หันหน้ามาตรงๆ“โอ๊ะ โอ๊ย..” ทันทีที่มือฉันโดนคางพี่ราเรซก็ร้องลั่น“เจ็บเหรอ ต้าขอโทษ...”“พี่ล้อเล่น แฮ่ๆ ๆ”“คนบ้า!!”ตุบ!! ตุบ!! ตุบ!!ฉันรัวกำปั้นใส่อกเขาไปหลายที เจ้าเล่ห์จริงๆ เลย ไอ้เราก็ตกใจ อุตส่าห์เป็นห่วง มาแกล้งกันซะได้พี่ราเรซรวบมือของฉันเพียงมือข้างเดียวของเขา แล้วออกแรงดึงทำให้ตัวฉันเข้าไปชิดกับอกแกร่ง มือหนาอีกข้างก็เลื่อนผ่านมาด้านหลังเพื่อโอบกอดตัวฉัน“ปล่อย!!” ฉันส่งสายตาดุไปให้“ไม่ปล่อย..” พี่ราเรซลอยหน้าลอยตาตอบ“ถ้าไม่ปล่อยต้าจะตะโกนเรียกเฮียโต้งให้ลงมาลากพี่ขึ้นไปเลย” ฉันพูดขู่เขา“ก็เรียกสิ” พี่ราเรซยักไหล่ตอบอย่างไม่สะทกสะท้าน“เฮะ.. อุ๊บ..”ริมฝีหนาโฉบลงมาปิดปากฉันทันที ลิ้นชื้นแทรกผ่านกรีบปากเข้ามาตวัดดูดดึงลิ้นเล็กอย่างช่ำชอง ลิ้นหนาเกี่ยวกวัดหยอกล้อกับลิ้นเล็กไปมาอยู่ในโพรงปากของฉัน เขาสูบเอาทุกอย่างที่อยู่ในโพรงปากของฉันไม่เหลือแม้แต่อากาศหายใจ ฉันผลักไหล่หนาออกเมื่อเริ่มขาดอากาศหายใจจริง
“พี่ไม่เคยเห็นต้าเป็นแค่สิ่งของนะ พี่จริงจังกับต้า แต่ในขณะเดียวกันพี่ก็กลัวด้วย” พี่ไผ่สบตากับฉัน นัยน์ตาของพี่ไผ่สั่นไหวเหมือนเขาแอบร้องไห้อยู่ภายใน มันทำให้ฉันรู้สึกผิดต่อเขาอย่างมหัน ฉันมันคนนิสัยไม่ดี ฉันทำร้ายเขา..“กลัวอะไรคะ” ฉันถามพี่ไผ่“กลัวจะเสียต้าไป”ฉันถึงกลับจุกจนพูดไม่ออก เพราะเขาดีมาก ฉันจึงไม่มีความกล้าพอที่จะบอกเลิกเขา“พี่ไผ่..” ฉันเอ่ยชื่อเขาเสียงเบาหวิว“ตั้งแต่คบกันมา เราไม่เคยทะเลาะกันเลยสักครั้ง มันเหมือนจะดีนะ แต่สำหรับพี่กลับไม่ได้รู้สึกอย่างนั้น” พี่ไผ่เงยหน้าขึ้นมองฟ้า เมื่อน้ำตาเขากำลังจะไหลออกมา“ต้าไม่เคยงอน ไม่เคยโกรธ หรือหึงพี่เลย มันทำให้พี่เสียใจนะรู้ไหม”“ทำไมล่ะคะ”“เพราะต้าไม่ได้สนใจพี่ตั้งแต่แรกแล้วไง”ฉันหลุบตาลงต่ำไม่อาจสบตากลับพี่ไผ่ได้อีกต่อไป เพราะสิ่งที่พี่ไผ่พูดมามันคือความจริง“แต่พี่ก็ยังดื้อดึงที่จะคบกับต้าต่อ เพราะคิดว่าสักวันหนึ่ง ต้าต้องหันมาสนใจพี่บ้าง แต่แล้ว สิ่งที่พี่กลัวก็กลับมาอีกครั้ง” พี่ไผ่หันไปจ้องหน้าพี่ราเรซ“ต้าขอโทษ..”
Comments