“อยู่เฉยๆ” เขาไม่ยอม พร้อมออกคำสั่งเสียงเข้มพร้อมส่งสายตาดุมาให้ฉัน เขาจับข้อเท้าฉันขึ้นอีกครั้ง แต่คราวนี้เขาถอดรองเท้าผ้าใบของฉันออกด้วย ฉันพยายามจะขัดขืน แต่เพราะสายตาคมคู่นั้น ฉันก็เลยต้องยอม
“อ๊ะ...ซี๊ดดด” ฉันซูดปากพลางนิ่วหน้า เมื่อเขาจับข้อเท้าฉันหมุนไปหมุนมา ความจริงมันก็ไม่ได้เจ็บมาก แค่แปล๊บๆ
“หึ! ก็ไม่ได้เป็นไรมากนิ ทำไมไม่ลุกไปตบยัยนั่นสักฉาด ปล่อยให้เขารังแกอยู่ฝ่ายเดียวได้ไง” เขาพูดขึ้นพลางปล่อยมือจากข้อเท้าฉัน และหยิบรองเท้าผ้าใบขึ้นมาจะใส่ให้ แต่ฉันแย่งมาได้ก่อน ใครจะกล้าปล่อยให้เขาทำให้ล่ะ แค่นี้ใจก็เต้นจนไม่เป็นจังหวะแล้ว
“ทำไมคุณพูดแบบนั้นละคะ เธอเป็นผู้หญิงของคุณนะ” ฉันพูดขึ้นเสียงแผ่วเบาพลางโน้มตัวลงใส่รองเท้าตัวเอง
“ใครบอกเธอ ว่านั่นผู้หญิงของฉัน” เขาเลื่อนหน้ามาสบตาฉันแล้วเอ่ยขึ้นเสียงเรียบ แต่ฉันไม่ได้สนใจฟังที่เขาพูดสักนิด ตอนนี้ฉันได้ยินแต่เสียงใจตัวเองที่มันดังขึ้นแบบจับจังหวะไม่ได้ สายตานั่นก็เหมือนมีมนตร์สะกดยังไงก็ไม่รู้ ฉันไม่สามารถควบคุมอะไรในตัวเองได้เลยสักอย่าง
Warayu Talk@สนามแข่งรถผมเดินควงกุญแจรถบวกกับผิวปากมาตามทางอย่างอารมณ์ดี ทำไมผมถึงรู้สึกดีทุกครั้งที่ได้อยู่ใกล้ยัยเด็กบ้านั่นวะ ผมคิดว่า...คงจะชอบยัยหนูเฌอนั่นเข้าให้แล้วแน่ๆ ในหัวผมมีแต่ภาพเธอเต็มไปหมดโอ๊ะ!!“ไอ้สัส!!! ตกใจหมด มาทำเหี้ยอะไรแต่เช้าเนี่ยย”ผมสะดุ้งสุดตัว สติแตกกระเจิงไปเลย หุบยิ้มแทบไม่ทันพร้อมกับพ่นคำด่าออกมาเป็นชุดเมื่อเปิดประตูห้องทำงานเข้ามาเจอไอ้น้องเวร ที่ดีดตัวขึ้นนั่งจ้องหน้าผมอย่างจับผิดอยู่บนโซฟากลางห้อง แม่งเอ้ย!! กูเกือบช็อกแต่ประเด็นสำคัญคือมันน่าจะเห็นรอยยิ้มบนหน้าผมแล้วแน่ๆ และแม่งก็ต้องเสือกอยากรู้ชัวร์“ฮั่นแน่! ใครน้าทำให้เฮียกูอารมณ์ดีได้ขนาดนี้”นั่นไง...กูว่าแหละ ต่อมเผือกกระดิกเร็วฉิบหายและหน้าตาแม่งก็กวนตีนสุดๆ ซะด้วย“ไม่เสือก!!” ผมด่ามันแบบชัดถ้อยชัดคำแล้วเดินไปทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟาตัวเดียวกัน ก่อนจะหยิบบุหรี่ขึ้นมาจุดสูบ ภายในเวลาไม่นานกลุ่มควันสีหม่นถูกพ่นออกมาจนฟุ้งไปหมด คงเป็นเพราะเมื่อคืนผมไม่ได้แตะมันเลยละมั้ง มีความรู้สึกโหย
เช้าวันต่อมา….@มหาวิทยาลัย M“ขอบคุณนะคะ ที่มาส่งหนู”“อืม”ฉันไม่ลืมที่จะหันไปขอบคุณเฮียวาโยที่อุตส่าห์ขับรถมาส่งที่มหาลัยแต่ได้กลับมาแค่คำตอบรับสั้นๆ ห้วนๆ เท่านั้น ก็จะไปหวังให้เขาพูดอะไรกลับมาล่ะ ตั้งใจเรียนนะ ตอนเย็นจะมารับ งี้เหรอ หวังเยอะไปไหม เฌอนารีนนนน...เฮ้อออ ลมหายใจถูกพ่นออกมาอย่างแผ่วเบาพร้อมกับคอที่ตกลงโดยอัตโนมัติก่อนจะหันไปเปิดประตูรถ แต่…แกร่กกกฉันยังไม่ทันเปิดเลยนะ แล้วเสียงเปิดประตูนั้นก็ต้องเป็นของฝั่งคนขับซินะ“เฮียจะไปไหนคะ” ฉันรีบหันไปคว้าแขนเฮียวาโยอย่างถือวิสาสะก่อนเขาจะพาตัวเองลงจากรถ“ก็...”“ไม่ได้นะคะ เฮียห้ามลงไปนะ” ฉันไม่รู้หรอกว่าจุดหมายปลายทางของเขาคือที่ไหนเพราะฉันโพล่งแทรกขึ้นซะก่อน แต่ฉันไม่ยอมให้เขาลงไปยืนเฉิดฉายอยู่ท่ามกลางผู้หญิงพวกนั้นแน่ ขนาดแค่เปิดประตูรถไว้นะ เลด้าของพวกนางยังทำงานได้ดีไม่มีตกเลยสักนิด ทั้งๆ ที่มีฉันนั่งเป็นตุ๊กตาหน้ารถอยู่แท้ๆ ไม่มีความเกรงใจบ้างเลยรึไงกัน ฉันกวาดสายตามอ
ไม่ใช่แค่ไอจีหรอกนะที่แจ้งเตือนเด้งไม่หยุด แต่ไลน์ก็ไม่น้อยหน้าไปกว่ากัน ดีที่ฉันตั้งสั่นไว้ ไม่งั้นละก็...ไม่อยากคิดเลย หนวกหูตายแน่ แค่รูปนิดเดียวเอง ตื่นเต้นไรกันนักหนา อย่าว่า...แต่พวกนั้นเลย ฉันเองก็ตื่นเต้นไม่แพ้พวกนั้นหรอก ฮึ่ยๆ โมเมนต์แบบนี้ไม่ได้มีกันง่ายๆ นะบอกก่อน แลดูบ้าผู้ชายจริงจังมาก ถ้าวันหนึ่งเขาหายไปจากชีวิตฉัน...ฉันต้องตายแน่ๆ เลย แต่มันยังมาไม่ถึง ช่างไปก่อนแล้วกัน ตอนนี้ฉันมีความสุขก็พอ….ครืดดด~ ครืดดดด~~โอ๊ะ!ฉันสะดุ้งโหยงพร้อมกับปล่อยมือถือที่อยู่ๆ มันก็สั่นจากสายเรียกเข้าของใครบางคนหลุดมือด้วยความตกใจป๊อกกโอ๊ยยย…และที่ยิ่งไปกว่านั้นคือองศาที่มุมมือถือตกลงไปกระแทกนั่นคือใจกลางหน้าผากของคนบนตักพอดิบพอดี...ร่างหนาร้องลั่นด้วยความเจ็บก่อนจะดีดตัวขึ้นนั่งจ้องหน้าฉันอย่างเอาเรื่องพลางยกมือขึ้นลูบหน้าผากตัวเองป้อยๆ“หนูขอโทษค่ะ เจ็บมากไหม หนูขอโทษ” ฉันรีบเอ่ยบอกเขาแบบร้อนรน แล้วเอามือขึ้นลูบรอยแดงตรงหน้าผากเขาเบาๆ อีกสักพักมันต้องปูดขึ้นเป็นลูกมะนาวแหงๆ แต่ฉันไม่ได้ตั้งใจนี่นา แต
ปังๆๆ สวบๆๆๆ ปัง ปัง หวืออออระหว่างที่ฉันกำลังทำหน้าที่แม่บ้านแม่เรือนอย่างขะมักเขม้นอยู่นั่น ทั้งเสียงปืน เสียงวิ่ง เสียงหวอก็ยังคงดังสนั่นหวั่นไหวลั่นห้อง ให้ตายเถอะ...นึกว่าล้างจานอยู่ในสนามรบก็ไม่ปาน แต่เสียงเหล่านั้นก็ไม่ได้ทำให้ฉันตกใจได้เท่ากับเสียงเอะอะโวยวายของคนหัวร้อนที่ควบคุมอยู่ในโลกของความเป็นจริงนี้หรอก“นั่นๆ กูโดนเข้าแล้วสัส ไอ้แม็กซ์ ไอ้เหี้ย มาช่วยกูก่อน”และยังไม่พอนะ….ยังคงมีเสียงเอะอะโวยวายของอีกหลายคนตามมาด้วย คาดว่าน่าจะประมาณสี่คนได้ถ้ารวมเฮียวาโยด้วยก็เป็นห้า คิดดูเหอะ...เล่นกันห้าคน แล้วคือเสียงทุกคนก็ดังประสานกันแบบ...เสียงในเกมนี่เบาไปเลย แล้วคือ...สารพัดสัตว์มาเดินป้วนเปี้ยนในห้องฉันเต็มไปหมดแล้วเนี่ย[ไอ้สัส!! กูก็จะตายแล้วเนี่ย ไอ้เหี้ยดิน เก็บหาส้นตีนอะไรนักหนาปืนอ่ะ มาช่วยพวกกูก่อน][อ้าววว เฮีย อ่อนเองอย่าพาลดิวะ]คือมันจำเป็นต้องจริงจังขนาดนี้ไหม ฉันเช็ดไม้เช็ดมือหลังจากทำทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยพลางเหลือบตามองคนหัวร้อนที่นั่งหน้ายุ่งเป็นยุงตีกันอยู่บนโซฟา ท่าทางกระฟัดกระเฟียดสุดๆ สายตายั
ไม่นานรถก็เคลื่อนมาจอดหน้าเจคลีน ความจริงจะเรียกตลาดสดก็ได้นะ แต่มันคือซูเปอร์มาเก็ตที่รวมของสดทุกอย่างไว้ในห้องแอร์ แตกต่างจากตลาดสดนิดหนึ่ง ถ้าเป็นคนทำกับข้าวกินเองจะต้องรู้จักที่นี่เป็นอย่างดีเลยแหละ ฉันเองก็มาแทบจะทุกวัน แต่เฮียวาโยเคยมาเดินที่แบบนี้ด้วยเหรอ อย่างเขาจำเป็นต้องมาจ่ายตลาดเองด้วยเหรอฉันเหลือบมองคนที่กำลังจะเปิดประตูลงจากรถด้วยความสงสัย และเป็นจังหวะเดียวกับที่เขาหันกลับมามองฉันเหมือนกัน ความจริงฉันก็ไม่ค่อยเข้าใจความหมายสักเท่าไหร่ แต่คิดว่า...เขา คงจะอยากด่าฉันว่านั่งบื้ออะไรอยู่ ทำไมไม่ลง แน่ๆ เลย ฉันต้องเซฟตัวเองก่อน รีบหันกลับมาปลดเข็มขัดนิรภัยของตัวเองแบบรีบๆ แล้วเปิดประตูลงจากรถเดินตามแผ่นหลังกว้างนั่นไปทันที คนอะไร...ดุชะมัดฉันสะดุ้งเล็กน้อย เมื่อจู่ๆ มือหนาของเฮียวาโยก็เอื้อมมาสอดเข้าใจกลางฝ่ามือฉันแล้วออกแรงบีบน้อยๆ พอให้มันไม่หลุดจากกัน ขาฉันหยุดกึกทันทีจ้องไปที่มือของเราสองคนแบบอึ้งๆ ก่อนจะเงยหน้ามองคนตัวสูงที่ยืนหันข้างให้ฉันในจุดที่อยู่ห่างเพียงช่วงแขน“ขาสั้น เดินช้าชะมัด” เขาพูดขึ้นพลางส่ายหน้าไปมาแบบหงุดหงิด แล้วสา
ฉันละสายตาจากจุดที่ตัวเองเดินวนไปวนมาเมื่อครู่นั้นกลับมามองถุงกระดาษในมือหนาของคนที่เพิ่งขึ้นมานั่งอยู่หลังพวงมาลัยหมาดๆ ถูกยื่นมาอยู่ในระดับสายตาพอดิบพอดี“อะไรเหรอคะ” ฉันเอ่ยถามเสียงแผ่ว สายตาก็ยังคงจ้องอยู่ที่ถุงกระดาษนั่นไม่ลดละ ไม่ใช่อะไรหรอกนะ แต่ไม่กล้าเงยหน้ามองคนที่ยื่นถุงกระดาษนี่มาให้ต่างหาก ฉันไม่รู้ว่าจะต้องทำหน้ายังไง ไม่รู้ว่าจะต้องทำตัวยังไง มัน...มันแบบ ไม่รู้จะเริ่มยังไง…“ดูเอาเอง” คำตอบสั้นๆ ห้วนๆ หลุดออกมาจากปากเฮียวาโยพร้อมกับยื่นถุงกระดาษนั่นเข้ามาใกล้ขึ้นจนแทบจะชนหน้าฉันอยู่แล้วฉันรับมันมาแล้วเปิดออกดู พร้อมกับตาที่เบิกกว้างขึ้นด้วยความตกใจ เพราะข้างในนั้นมันคือยาคุมกำเนิด ต้นเหตุของการเดินวนไปวนมาอยู่หลายรอบหน้าร้านขายยานั่นเอง แสดงว่าที่เฮียวาโยเข้าไปร้านขายยาเมื่อกี้เพราะไปซื้อยาคุมนี่มาให้ฉันงั้นเหรอ ใบหน้าฉันร้อนผ่าวๆ ไปหมด ใจก็เต้นระส่ำไม่เป็นจังหวะ มันเริ่มเหมือนเรา สองคน...เอ่อ..หมายถึงฉัน กับ เฮียวาโยน่ะ มัน...เอ่อ...เหมือนเราเป็นแฟนกันเลยเนอะ งื้ออออ...แต่ถ้าเป็นแบบนั้นจริงฉันต้องตายก่อนแน่ๆแต่..เดี๋ยวนะ ทำไมในถุงกระดาษถึงมียาคุมสองแบบล่ะ อันหนึ่งค