อีกด้าน
ภายในตัวรถคันหรูกำลังแล่นไปตามท้องถนนโดยที่คนดานในทอดสายตามองข้างทางพลางใช้ความคิดนึกถึงเหตุการณ์เมื่อครู่
"เด็กคนเมื่อกี้รู้จักเฮียเหรอครับ" เสียงของลูกน้องคนสนิทเอ่ยถามคนเป็นนายและมองผ่านกระจกมองหลัง
"..." คนถูกถามไม่ตอบ แต่ในหัวกลับนึกเธอคนนั้น หญิงสาวที่เดินชนเขา
"เธอพูดภาษาไทยใช่ไหมครับ" คนหลังพวงมาลัยถามอีกครั้ง มุมปากกดเป็นรอยยิ้มส่งให้กับคนเป็นนาย เขาเป็นคนฮ่องกงแต่กำเนิด แต่เจ้านายคนนี้เป็นลูกครึ่งไทยจึงมีโอกาสได้ฟังและเรียนรู้ภาษาไทยมาบ้าง
ครั้นได้ยินภาษาที่ไม่ค่อยคุ้นเคยจากผู้หญิงคนเมื่อครู่นั้นก็พออนุมานได้ว่าน่าจะเป็นภาษาไทย
"ไอ้เฉิน มึงจะถามทำไมวะ รีบขับไปได้แล้ว ถ้าไปถึงช้ามึงโดนแน่" เสียงเข้มขรึมเอ่ยคาดโทษลูกน้องคนสนิทเมื่อถูกถามในคำถามที่ไม่อยากตอบ
ชายหนุ่มเองก็รู้จักเด็กสาวคนนั้นแต่ก็ไม่มีความจำเป็นอะไรที่จะต้องทักทาย เธอคนนั้นคือน้องสาวของผู้หญิงที่เขาเคยชอบ เขาเพียงบังเอิญเจอเธอเป็นครั้งคราวตอนอยู่ที่ไทยเท่านั้นแหละ อีกทั้งตอนนี้ก็ไม่ได้รู้สึกอะไรกับพี่สาวของเจ้าหล่อนแล้ว มันเป็นแค่ความรู้สึกชั่วคราวและความประทับใจ แต่พอรู้ว่าอีกฝ่ายมีคนรักอยู่แล้วและเธอเองก็ไม่ได้สนใจในตัวเขาก็ไม่คิดจะยุ่งเกี่ยว
คนอย่างเขาไม่เคยขาดผู้หญิง และไม่คิดจะเอาตัวเข้าไปยุ่งหากเธอคนนั้นมีเจ้าของอยู่แล้ว
ไม่นานรถยนต์คันหรูขับเคลื่อนมาที่ตึกสูงใหญ่แห่งหนึ่ง เหล่าชายชุดดำนับสิบชีวิตออกมายืนเรียงเป็นหน้ากระดานอย่างเป็นระเบียบ ครั้นคนในรถเปิดประตูและก้าวขาออกมา กลุ่มชายชุดดำก็โค้งศีรษะเล็กน้อยเพื่อทำความเคารพกับผู้เป็นนายใหญ่
ร่างสูงล้วงกระเป๋าก่อนจะเดินเข้าไปข้างในด้วยใบหน้านิ่งเรียบ ลูกน้องคนสนิทก็คอยเดินตามคนเป็นนายขึ้นไปชั้นบนไปในที่สุด
เมื่อเข้ามาในห้องประชุมที่เต็มไปด้วยผู้ร่วมลงทุนมากมาย เขานั่งลงที่หัวโต๊ะในตำแหน่งประธานบริษัทที่คนส่วนใหญ่แต่งตั้งให้เขาได้รับตำแหน่งนี้เนื่องจากเขามีความน่าเชื่อถือและมีอิทธิพลเป็นอย่างมาก
"เริ่มได้เลย" เสียงทุ้มเอ่ยหลังจากนั้น แสงไฟก็สลัวพร้อมหน้าจอโปรเจกเตอร์ถูกฉายขึ้น
การประชุมครั้งนี้เป็นการประชุมในเรื่องของธุรกิจที่พวกเขาได้ร่วมลงทุนกันซึ่งเป็นแหล่งเศรษฐกิจสำคัญอันดับต้นๆของประเทศ ซึ่งนั้นก็คือ 'การค้าอาวุธ'
กิจการเหล่านี้สนับสนุนโดนรัฐบาลของประเทศและแน่นอนว่ามันถูกกฎหมาย เขาจะส่งอาวุธไปขายให้กับต่างประเทศซึ่งรัฐจะถือหุ้นเพียง 3% เท่านั้น ทำให้ผู้ร่วมลงทุนก็จะเป็นเหล่าผู้มีอิทธิพลหรือไม่ก็อดีตมาเฟียที่ผันตัวมาทำธุรกิจ
ซึ่งกิจการแบบนี้คงไม่ค่อยมีใครกล้าเข้าร่วมลงทุนสักเท่าไหร่นอกจากคนที่มีอิทธิพลอย่างพวกเขา
"เฮียจะไปไหนต่อรึเปล่าครับ" เฉินลูกน้องคนสนิทเอ่ยขึ้นหลังจากการประชุมเสร็จสิ้น
"ไปโรงแรมไอ้พอร์ช" คนเป็นนายตอบและเดินนำออกจากห้องไป
เฉินเตรียมรถเรียบร้อยผู้เป็นนายจึงเดินขึ้นรถท่ามกลางเหล่าลูกน้องที่ออกมายืนรอและคุ้มกันความปลอดภัย ถึงจะมีอิทธิพลมากแค่ไหนแต่ก็ใช่ว่าควบคุมคนในเงามืดที่จ้องจะทำร้ายได้ง่าย ๆ เพราะแบบนี้ไม่ว่าจะเดินทางไปไหนมาไหนก็มักจะมีลูกน้องตามติดตลอด
@P-HOTEL
ชายหนุ่มเดินลงจากรถตามด้วยลูกน้องที่เดินตามกันมาจำนวนสี่คน ทำให้แขกที่มาพักหรือไม่เว้นแม้แต่พนักงานก็ต่างจับจ้องกับร่างสูงโปร่งนั้นไม่วางตา เขาสวมแว่นตาสีดำ ชุดสูทราคาแพง อีกทั้งส่วนสูงและใบหน้าที่โดดเด่นทำให้เป็นจุดสนใจมากกว่าปกติ
ขายาวก้าวเข้าไปในลิฟต์ด้วยใบหน้าเรียบนิ่ง จุดหมายอยู่ที่ชั้นสิบแปดซึ่งเป็นชั้นที่พวกเขาชอบมาสังสรรค์กันอยู่บ่อย ๆ ชั้นนี้จะเป็นห้องทำงานจัดปาร์ตี้โดยเฉพาะแบ่งเป็นห้อง ๆ แต่ก็มีความเป็นส่วนตัว
เมื่อลิฟต์ขึ้นมาถึงชั้นที่ต้องการ คนตัวโตเดินตรงไปยังห้องประจำซึ่งผ่านห้อง ๆ หนึ่ง ใบหน้าหล่อเหล่าหันไปมองยังห้องนั้นที่ส่งเสียงออกมาค่อนข้างดังและรบกวน แม้ว่าห้องจะเก็บเสียงตามมาตรฐานแต่คนในห้องนั้นก็มากเกินที่จะรับไหวอยู่ดี
คนตัวโตขมวดคิ้วเล็กน้อย เขามองไปที่ห้องนั้นและเกิดความไม่พอใจที่เสียงรบกวนพวกนี้จะดังมาถึงห้องสังสรรค์ของเขา แต่ก็กลับทำอะไรไม่ได้มากเขาจึงรีบเดินไปที่ห้องของตัวเองซึ่งมีเพื่อนของเขานั่งรออยู่ก่อนแล้ว
"กว่าจะมาได้" เมื่อเข้าไปในห้องเสียงของเพื่อนสนิทก็เอ่ยขึ้น
ร่างสูงนั่งที่โซฟาตัวยางก่อนจะหันไปลอกลูกน้องที่เดินตามเขามานิ่งๆ
"ไปรอข้างนอก" สั่งการกับลูกน้องและหันมายังเพื่อนสนิท
สายตาคมมองไปที่เพื่อนสนิททั้งสองคนที่มีกิจกรรมไม่เหมือนกัน คนหนึ่งกำลังแทงสนุ้กกับสาวสวยที่โอบประคองกันไม่ห่าง ส่วนอีกคนก็นั่งอยู่ที่โซฟาตรงข้ามเขาโดยมีหญิงสาวหน้าตาดีกอดเกยข้างกายเช่นกัน
"กูเพิ่งประชุมเสร็จ" ตอบก่อนจะเอนกายพิงพนักด้านหลังด้วยความเหนื่อยล้า เขาหลับตาเพื่อพักสายตาชั่วคราวเนื่องจากจดจ้องกับหน้าจออิเล็กทรอนิกส์เป็นเวลานาน
ตรงที่นั่งตรงข้ามพยักพเยิดหน้ากับหญิงสาวเล็กน้อยเพื่อเป็นการบอกให้เธอไปบริการเพื่อนของเขาที่เพิ่งมาถึงแทน เธอคนนั้นก็ทำตามอย่างว่าง่าย เดินอ้อมหลังโซฟาของมาเฟียหนุ่ม ก่อนจะวางมือลงบนบ่ากว้างเพื่อนวดผ่อนคลาย
*เนื้อหาต่อไปนี้มีการกระทำที่ไม่เหมาะสม*ผู้เขียนไม่ได้มีเจตนาชี้นำให้ทำตาม ผู้เขียนได้ทำการเขียนนิยายเรื่องนี้นานพอสมควร วุฒิภาวะและความคิดความอ่านยังไม่เพียงพอ โปรดใช้วิจารณญาณในการเสพผลงานนะคะ ต้องขออภัยสำหรับเนื้อหาที่ไม่เหมาะสมด้วยค่ะCHAPTER 5ผิดสัญญา (2)“ฮึก ปะ...ปล่อยนะ!” เวลตันยิ้มหยันเมื่อคนตัวเล็กใต้ร่างของเขาเอาแต่ผลักไส แม้ว่าจะรู้ตัวดีว่ายังไงก็หนีไม่พ้น แต่เธอยังยังอ้อนวอนในสิ่งที่เขาไม่คิดจะทำความดื้อดึงและความพยศในตัวเธอทำให้ไฟอารมณ์ของเวลตันเดือดพล่าน ฤทธิ์แอลกอฮอล์และสัญชาตญาณของสัตว์ป่าดิบเถื่อนเมื่อเห็นเรือนร่างยั่วยวนตรงหน้ามีใครบ้างที่จะโง่และยอมปล่อยเหยื่อตัวเล็กตัวนี้ไป“แค่รับข้อเสนอของฉันเงินสักบาทเธอก็ไม่ต้องจ่าย” เสียงเข้มเอ่ยแหบพร่าที่ข้างแก้มใส คนตัวเล็กเบี่ยงออก ถ้าเธอยอมรับข้อเสนอบ้า ๆ นั่นมันก็ไม่ต่างอะไรไปจากคนขายตัว!“หยุดนะ! คุณอดอยากถึงขนาดบังคับขืนใจคนอื่นเลยหรอ! มาเฟียอย่างคุณจะมาสนใจแพรทำไม คุณมีผู้หญิงมากมายแล้วทำไมต้องเอาแพรไปเกี่ยวด้วย!”“หลงตัวเองเกินไปรึเปล่าแพรดาว”“อ๊ะ!” แพรดาวเบ้หน้าเมื่อถูกมือหนาบีบกรามเล็ก“คิดว่าฉันสนใจเธอขนาดนั้น
*เนื้อหาต่อไปนี้มีการกระทำที่ไม่เหมาะสม*ผู้เขียนไม่ได้มีเจตนาชี้นำให้ทำตาม ผู้เขียนได้ทำการเขียนนิยายเรื่องนี้นานพอสมควร วุฒิภาวะและความคิดความอ่านยังไม่เพียงพอ โปรดใช้วิจารณญาณในการเสพผลงานนะคะ ต้องขออภัยสำหรับเนื้อหาที่ไม่เหมาะสมด้วยค่ะCHAPTER 5ผิดสัญญา (1)ณ บ้านหลังใหญ่สุดหรูราคานับร้อยล้านที่ถูกตกแต่งด้วยข้าวของเครื่องใช้และเฟอร์นิเจอร์ราคาแสนแพง ด้านนอกเป็นสวนดอกไม้และต้นไม้หลากหลายพันธุ์ ทางด้านหลังจะเป็นสระว่ายน้ำขนาดกลางเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจในวันหยุดรถแท็กซี่แล่นมาจอดที่หน้าประตูรั้วบ้านหลังใหญ่ คนในรถลงจากรถและรีบวิ่งเข้าไปในตัวบ้านด้วยความรีบร้อน เนื่องจากเธอมาสายมากกว่าเวลานัดกว่าครึ่งชั่วโมงแล้วแพรดาวทำงานพาร์ตไทม์หลังเลิกเรียนที่ร้านค้าใกล้ ๆ กับมหาวิทยาลัย ลำพังค่าใช้จ่ายรายเดือนที่พี่สาวของเธอส่งมาให้ใช้นั้นเพียงพอและอยู่ได้อย่างสบาย แต่ด้วยสัญญาที่เธอได้ตกลงไว้กับเวลตันทำให้เธอต้องหางานพิเศษทำเพราะต้องจ่ายให้เขามากถึงสี่หมื่นบาทต่อเดือนแต่ในเดือนนี้เธอได้รับค่าใช้จ่ายรายเดือนช้ากว่าปกติสองวันเพราะพี่สาวของเธอกำลังยุ่งกับงานที่อู่ อีกทั้งยังเป็นช่วงวันหยุดทำให้ระ
CHAPTER 4ข้อแลกเปลี่ยน 2 (2)หนึ่งเดือนผ่านไป“เฮียครับ คุณวิลเลียมขอเลื่อนนัดเย็นนี้ครับ แจ้งมาว่าภรรยาป่วยเลยต้องรีบไปดูแลครับ” เฉินลูกน้องคนสนิทหรือเรียกว่าเป็นมือขวาของผมเอ่ยบอกขณะที่ผมกำลังอ่านเอกสารตรงหน้าด้วยความเคร่งเครียด“อืม ก็ดี” ผมตอบกลับไปก่อนจะเลื่อนสายตามามองนาฬิกาที่ข้อมือ ซึ่งบ่งบอกเวลาสี่โมงเย็นแล้วผมจัดการปิดแฟ้มเอกสารและพิงกายกับเก้าอี้ทำงานอย่างเหนื่อยล้า นั่งอยู่ในที่ตรงนี้ตั้งแต่เช้าเพราะช่วงนี้ที่บริษัทค่อนข้างวุ่นวาย แล้วอีกอย่างธุรกิจคาสิโนที่ผมได้ร่วมลงทุนกับคนไทยก็กำลังไปได้ดี มันเลยทำให้ช่วงนี้ผมต้องทำงานหนักมากกว่าปกติหลายเท่า“แล้วเฮียจะกลับเลยรึเปล่าครับ”“กูจะไปหาโรส พวกมึงก็กลับกันได้เลย” ผมลุกขึ้นจากเก้าอี้และหยิบสูทขึ้นมาใส่ตามเดิม‘โรส’ คือผู้หญิงที่ผมเลี้ยงดูปัจจุบัน นับวันและเวลาคร่าว ๆ ที่เธอเข้ามาอยู่ในการดูแลของผมก็น่าจะสองปีได้แล้วโรสเป็นนางเอกดัง เธอสวยและมีชื่อเสียง ในช่วงที่เธอกำลังโด่งดังผมให้คนไปติดต่อเธอ จวบจนตอนนี้ก็เข้าสู่ปีที่สองแล้วที่เราอยู่ด้วยกัน เธอเข้ากับผมได้ดีโดยเฉพาะเรื่องบนเตียง ไม่เข้ายุ่งเรื่องส่วนตัวหรือเรื่องที่ตัวเ
CHAPTER 4ข้อแลกเปลี่ยน 2 (1)WELTON’S PART ;ผมมาที่สถานีตำรวจพร้อมกับพอร์ชเพื่อนสนิทและเป็นเจ้าของโรงแรมที่เกิดเหตุ รวมถึงแพรดาวและเพื่อนของเธอก็มาที่นี่ด้วย เนื่องจากผมรับปากกับเธอไว้แล้วว่าจะช่วยจัดการเรื่องคดี ซึ่งข้อแลกเปลี่ยนระหว่างเราก็คือ ‘เงิน’ แทนข้อเสนอก่อนหน้านั้นก็คือการมาเป็น ‘ผู้หญิงของผม’ฟังดูก็อาจจะแปลกใจว่าทำไมผมถึงให้ข้อเสนอนั้นกับเธอ ไม่ใช่เพราะว่าผมพิศวาสหรืออยากได้เธอขนาดนั้นหรอกนะ อ้อ...แล้วไอ้เรื่องที่เธอบอกว่าผมอยากเอาคืนพี่สาวเธอน่ะไม่ใช่เลยสักนิด ผมไม่ได้อยากเกี่ยวข้องกับเธอเลยจริงอยู่ที่ผมชอบเพลงพิณซึ่งก็คือพี่สาวของแพรดาว ผมชอบผู้หญิงคนนั้นก็เพราะเธอนั้นเข้มแข็งและน่าค้นหา เพลงพิณเป็นช่างซ่อมรถ แน่นอนว่ามันคือความประทับใจเพราะผมไม่เคยเห็นผู้หญิงสวยหุ่นดีที่ไหนเลือกทำอาชีพนี้ส่วนแพรดาวเธอแตกต่างจากพี่สาวโดยสิ้นเชิง เธอดูอ่อนแอ บอบบาง ใคร ๆ ก็คงอยากดูแลเธอราวกับไข่ในหินแต่ไม่ใช่ผม...สาเหตุที่แท้จริงของผมเลยก็คืออยากจัดการนิสัยพยศของเธอ เธอตัดสินผมไปแล้วว่าผมอยากเอาคืนพี่สาว แถมยังทำตัวอวดดีอีก!และที่สำคัญผมไม่เคยช่วยใครฟรี ๆ เงินสามแสนนั้นมันก็แค่ข้ออ
CHAPTER 3ข้อแลกเปลี่ยน 1 (4)“ใช่ค่ะ ใช่ แพรกับเพื่อนไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องเลยสักนิด”“เรื่องคืนนั้นก็แปลว่าเธอโดนยาปลุกเซ็กซ์ใช่ไหม”“เอ่อ...ค่ะ...” ฉันตอบเสียงแผ่วลง ยิ่งพูดถึงเรื่องคืนนั้นฉันก็ยิ่งรู้สึกแย่“คืนนั้นฉันไม่ได้ป้องกัน เธอรู้ดีใช่ไหม”“คะ? อะ...เอ่อ ค่ะ! แพรทานยาคุมฉุกเฉินแล้วค่ะ ไม่ต้องกังวลนะคะ หากผิดพลาดแพรก็จะไม่เรียกร้องหรือให้คุณรับผิดชอบเลนสักนิดค่ะ แพรรับรองได้!” ฉันตอบทันควัน หากมันผิดพลาดอะไรฉันจะขอรับมันไว้คนเดียวก็พอ แต่ฉันมั่นใจมากว่ามันจะไม่ได้เรื่องแบบนั้นแน่ๆแอบแปลกใจเหมือนกันแหละที่เขาพูดเรื่องคืนนั้นแทนที่จะพูดเรื่องคดี แต่เขาคงกลัวว่าจะมีปัญหาตามมาละมั้งถึงได้ย้ำอีกครั้ง แน่นอนว่าคนอย่างฉันเองก็รอบคอบที่จะซื้อยาคุมฉุกเฉินมากิน ถึงเขาจะบอกว่าใส่ถุงหรือป้องกันแล้วก็เถอะ ไม่ว่าเขาจะพูดยังไงฉันก็ต้องป้องกันด้วยวิธีที่ตัวเองทำได้เหมือนกัน“ละ...แล้ว...คะคุณจะช่วยแพรไหม”&
CHAPTER 3ข้อแลกเปลี่ยน 1 (3)“เปลี่ยนใจรับข้อเสนอของฉันแล้วหรอ” เสียงเข้มเอ่ยขณะที่มุมปากหยัดเป็นรอยยิ้มหยันนิด ๆ ทว่าสายตาของเขากลับยังไม่แม้แต่จะเชยขึ้นมองกันสักนิด“คะ...คือ...แพร...เอ่อคือฉัน...”“ฉันจะจัดการให้วันนี้ ไปอาบน้ำแล้วถอดเสื้อผ้ารอเลย”“!?” เท่านั้นล่ะ ร่างกายและสติสตังของฉันก็ถูกพรากหายไปทันทีเหมือนถูกของบางอย่างทุบตีจนไร้การรับรู้ไปชั่วขณะ ฉันยืนนิ่งค้างอยู่อย่างนั้นจนคุณเวลตันแปลกใจละมั้งเขาถึงเงยหน้ามองและเอ่ยอีกครั้ง“ยืนนิ่งอยู่ทำไม”“คุณฟังแพรก่อนนะคะ ที่แพรมาที่นี่แพรอยากให้คุณช่วย”“ก็ฉันจะช่วยอยู่นี่ไง” เขาวางปากกาและเปลี่ยนมาเป็นกอดอกกดสายตามองกัน“ตะ...แต่ไม่ใช่ด้วยข้อแลกเปลี่ยนแบบนั้น”&ldquo