บทที่ 6 จอมบดินทร์กล่อมลูก
เจบีดีกรุ๊ปเป็นบริษัทผลิตเครื่องสำอางจำพวกน้ำหอมที่มีสาขาย่อยกระจายอยู่ทุกภูมิภาค รวมแล้วก็ประมาณแปดสาขา จอมบดินทร์ขยายธุรกิจได้ในระยะเวลาอันรวดเร็วนั้นส่วนหนึ่งก็เพราะเขาพึ่งพาทุนทรัพย์ของบุพการี
แม้จะมีเงินฝากในธนาคารหลายบาทและเขาคิดว่ามันเพียงพอแต่ทั้งพ่อและแม่ก็ยังดื้อรั้นที่จะช่วยเขาจึงเหนื่อยห้ามปราม
แต่สาขาย่อยที่กระจายออกไปเป็นการลงทุนของเขาทั้งสิ้น เหตุผลหลักที่เร่งขยับขยายกิจการก็เพราะต้องการกอบโกยในช่วงขาขึ้น วงการธุรกิจมันมีขึ้นมีลงเสมอและผลลัพธ์มักมาโดยไม่บอกกล่าว เพราะฉะนั้นเขาจึงต้องรีบสร้างฐานตัวเองให้มั่นคงมากที่สุด
แปดสาขาที่ว่าเป็นเพียงโกดังเก็บผลิตภัณฑ์เพื่อกระจายตัวน้ำหอมออกสู่ตลาดได้ง่ายและไวขึ้นก็เท่านั้น
สำนักงานใหญ่และโรงผลิตยังตั้งอยู่ในเมืองหลวง หากนับรวมเวลาปีนี้ก็เป็นปีที่ห้าที่เจบีดีกรุ๊ปก่อตั้งขึ้น ดูเป็นระยะเวลาเพียงสั้น ๆ ที่ทำให้จอมบดินทร์ประสบความสำเร็จ
แต่ในความคิดของเจ้าตัวไม่ได้เป็นแบบนั้น
มันออกจะช้าไปเสียหน่อย ส่วนหนึ่งเพราะเขาริเริ่มมันช้า อีกส่วนคือเขากดดันตัวเองมาตั้งแต่แรกและยิ่งทวีคูณมากขึ้นไปอีกเมื่อมีแก้วตาดวงใจเกิดมา
จากที่คิดเพียงว่าจะสร้างรากฐานให้ตัวเองจนมั่นคงแล้วก็ต้องคิดใหม่ เขามีทั้งลูกและภรรยาที่ต้องดูแลเลี้ยงดู เพราะแบบนั้นแล้วจะทำส่ง ๆ ไปพอให้มันเสร็จสิ้นคงไม่ได้
นั่นเป็นเหตุผลหลักที่ทำให้อัลฟ่ากลิ่นเหล้ารัมกลับบ้านดึกเกือบทุกวัน
วันนี้ก็เช่นกัน
ภีมพัฒน์อุ้มกระเตงลูกน้อยเข้าเอว โยกตัวไปมาพลางส่งยิ้มหวานหยอกล้อลูกชาย ดวงตาคู่สวยฝืนเปิดขึ้นทั้ง ๆ ที่มันจะปิดอยู่รอมร่อ
นาฬิกาบนหัวเตียงบอกเวลาว่าอีกสิบนาทีจะเข้าวันใหม่แต่กลับยังไม่เห็นวี่แววของอัลฟ่าสามีแม้แต่เงา
โอเมก้ากลิ่นดอกคาโมมายล์เหม่อมองประตูอยู่นานนับนาทีก็ไม่มีการเคลื่อนไหวเกิดขึ้น จนได้ยินเสียงร้องอ้อแอ้เรียกหาก็หันกลับมาเล่นกับลูกชายในอ้อมแขนดังเดิม
น้องพีชกินนมแล้วหลับไปช่วงก่อนสองทุ่ม วันนี้อากาศด้านนอกเย็นลงกว่าหลายวันก่อนเจ้าตัวน้อยจึงหลับยาวกว่าปกติ เพราะส่วนมากจะเป็นสองชั่วโมงตื่นครั้งหนึ่ง ไม่มีเลยสักวันที่จะได้นอนเต็มอิ่มแต่เขาเต็มใจทำหน้าที่แม่
ไม่รู้ว่าทำมันได้ดีแล้วหรือยัง แต่เขาเต็มที่กับลูกทุกอย่าง
เด็กชายตัวน้อยในอ้อมกอดอ้าปากหัวเราะเอิ้กอ้ากจนตาปิดเมื่อถูกคนเป็นแม่หยอกล้อพุงน้อย ๆ ไม่หยุด นิ้วเล็กป้อมปัดป่ายอากาศ ภีมพัฒน์นึกเอ็นดูลูกชายจึงกดริมฝีปากหอมหวงแก้มนุ่มนิ่มไปทั้งสองข้างอย่างอดใจไม่อยู่
หมั่นเขี้ยวจริงเชียว
หยอกล้อกันอยู่นาน ลูกชายตัวน้อยก็เริ่มแสดงท่าทางบอกความต้องการ มือน้อยภายใต้ถุงมือเด็กพยายามปัดเสื้อผ้าของผู้เป็นแม่ ริมฝีปากเม้มเข้าหากันแล้วอ้าออกเป็นจังหวะ ภีมพัฒน์รู้ได้ทันทีว่าลูกน้อยต้องการอะไร
เล่นจนเหนื่อยแล้วก็หิว
“น้องพีชหิวแล้วหรือลูก กินเก่งจริงเชียว”
โอเมก้าแม่ลูกอ่อนส่ายศีรษะน้อย ๆ อย่างเอ็นดูลูกชาย ก่อนจะเลิกเสื้อยืดที่ใส่อยู่ขึ้นจนเห็นหน้าอกสวย มันชูชันเล็กน้อยเพราะปะทะเข้ากับความเย็นของเครื่องปรับอากาศ
เมื่อได้กลิ่นน้ำนมของแม่ เด็กชายตัวน้อยก็รีบซุกใบหน้าฝังลงไปทันที ริมฝีปากดูดเต้านมจนแก้มพองอวบน่ารักน่าเอ็นดู
ในตอนแรกภีมพัฒน์เป็นกังวลเรื่องนี้มากเพราะตนมีแผ่นอกที่แบนราบต่างจากโอเมก้าทั่วไปที่หน้าอกจะนูนขึ้นมาเล็กน้อยเพื่อกักเก็บน้ำนมในตอนที่เป็นคุณแม่เช่นเขาตอนนี้
โอเมก้าน้อยเกรงว่าจะไม่มีน้ำนมพอให้ลูกดื่มจนถึงวัยที่ต้องหย่านม แต่คงเป็นเพราะฮอร์โมนหรืออะไรบางอย่างในร่างกายที่กระตุ้นให้ผลิตน้ำนมอยู่ตลอดแม้เขาจะมีแผ่นอกแบน ๆ ไว้กักเก็บ บางทีที่รู้สึกปวดหรือคัดเต้าก็ต้องปั๊มใส่ถุงเก็บใส่ตู้เย็นไว้
น้องพีชน่ะกินเก่งที่หนึ่งเลย ถ้าเขาปล่อยให้น้ำนมพวกนั้นไหลทิ้งไปเฉย ๆ คงไม่พอให้ลูกชายตัวน้อยดื่มเป็นแน่
ภีมพัฒน์ขยับกายเอนหลังพิงหัวเตียง เขาเริ่มรู้สึกปวดหลังขึ้นมาหน่อย ๆ แล้ว คงเป็นเพราะต้องอุ้มกระเตงลูกชายไว้ทั้งวันอีกทั้งยังก้ม ๆ เงย ๆ ทำหน้าที่แม่ศรีเรือน
อัลฟ่าสามีเคยเสนอว่าให้จ้างแม่บ้านมาทำความสะอาด เขามีหน้าที่แค่เลี้ยงดูลูกก็พอ แต่ภีมพัฒน์ไม่ค่อยชอบใจเท่าไหร่ถ้าในพื้นที่ส่วนตัวของเขากับสามีจะมีกลิ่นของคนอื่นปะปนอยู่ด้วยจึงปฎิเสธไปเสียหนักแน่น
แค่คิดก็หงุดหงิดในใจ
ลูกชายตัวน้อยยังดูดเต้าเขาไม่ปล่อย ดูท่าแล้วคงไม่รู้สึกอิ่มง่าย ๆ โอเมก้าน้อยจึงถือโอกาสนี้พักสายตาสักหน่อย ทำงานเลี้ยงลูกมาทั้งวันจึงเริ่มรู้สึกล้าตามตัวบ้างแล้ว
ดวงตาคู่สวยปิดลง อ้อมแขนกระชับอุ้มลูกน้อยเข้าอกไว้แน่น ประคองไว้อย่างดีไม่ให้ตก หมอนอิงใบใหญ่ถูกนำมารองไว้ใต้ร่างน้อยของลูกชาย
ภีมพัฒน์แค่ต้องการพักเพียงครู่เดียวเท่านั้น
ร่างหนาของอัลฟ่าสาวเท้าเข้าใกล้เตียงนอนระหว่างเขาและภรรยา เห็นภีมพัฒน์อุ้มลูกนอนอยู่ในอกแต่ตัวเองกลับหลับพริ้มจนคอตกก็ได้แต่ยิ้มขำ
น้องพีชเองก็ไม่ผละออกจากเต้านมของคนเป็นแม่แม้ตนจะหลับไปแล้วเช่นกัน
แม่ลูกนี่เหมือนกันจริง ๆ
จอมบดินทร์วางเสื้อสูทพาดบนเก้าอี้ใกล้ ๆ รั้งเนกไทลงและปลดกระดุมเสื้อคลายความอึดอัดก่อนจะทรุดกายนั่งข้างภรรยาโอเมก้า
กลิ่นหอมของดอกคาโมมายล์ลอยอบอวลอยู่ในห้องทำให้เขาผ่อนคลายมากทีเดียว อดไม่ได้ที่จะฝังจมูกลงบนพวงแก้มใส กดย้ำไปเสียหลายรอบอีกฝ่ายก็ยังนิ่งเฉย
คงเหนื่อยไม่ใช่น้อย
เจ้าจอมอ้าแขนออกรับเอาลูกน้อยมาอุ้มไว้เอง ฝ่ามือหนาตบก้นดังปุ ๆ เจ้าตัวน้อยจะได้ไม่ตื่นมาร้องงอแงรบกวนคนเป็นแม่เพราะถูกจับเปลี่ยนท่าทาง
เขาพาน้องพีชมานอนลงบนเปลประจำตัวดี ๆ จัดการห่มผ้าและวางหมอนข้างกั้นรอบทิศทางอีกที ไม่ลืมก้มลงหอมหน้าผากน้อย ๆ พลางกระซิบบอกฝันดีแผ่วเบา
อัลฟ่ากลิ่นเหล้ารัมหันกลับไปมองภรรยาตัวน้อยที่กำลังอยู่ในนิทราบนเตียง เขาเดินเข่าไปนั่งข้าง ๆ คนตัวเล็กแล้วทำแบบเดียวกับที่ทำกับลูกชาย
ท่อนแขนหนาช้อนร่างบอบบางของภีมพัฒน์มาไว้ในอ้อมแขน กระถดกายถอยหลังเล็กน้อยแล้ววางโอเมก้าลงนอนบนเตียงดี ๆ ฝ่ามือหนาเกลี่ยปอยผมน้อย ๆ
ตีสองแล้ว เขาควรจะรีบไปจัดการตัวเองแล้วมานอนกอดภรรยา ตอนเช้ายังต้องเข้าประชุมอีกยาวเพราะฝ่ายการตลาดนำเสนอโปรเจคใหม่ ซึ่งเขาคิดว่ามันมีความเป็นไปได้แต่หากมองภาพรวมแล้วยังมีจุดบกพร่อง
เขาจะเร่งอุดมัน จะได้ไม่ต้องกลับบ้านดึกดื่นแบบนี้
เขารู้ว่าภรรยาตัวน้อยนั่งรอเขากลับบ้านจนหลับคอพับไปแบบนั้น
จอมบดินทร์ดันกายลุกขึ้น แต่ไม่ทันไรก็ถูกรั้งร่างให้ล้มลงบนเตียง เพราะไม่ได้ตั้งตัวเขาจึงทิ้งกายลงไปทั้งร่าง ดีที่เกร็งศีรษะไว้ได้ไม่อย่างนั้นคงเจ็บระบม
อัลฟ่าหันมองคนข้างกายที่น่าจะเป็นสาเหตุให้คนตัวโตร่างหนาแบบเขาล้มไปทั้งร่างได้ ก็เห็นแต่ร่างของโอเมก้าน้อยที่นอนหลับตาพริ้ม มองดูแล้วก็ไม่มีทีท่าว่าจะตื่นขึ้นมา
แต่ข้อมือบางกลับกำเสื้อเชิ้ตของเขาไว้แน่น
ละเมออย่างนั้นหรือ
เจ้าจอมหัวเราะหึในลำคอ นึกเอ็นดูภรรยาเหลือเกิน
วันนี้เขาออกจากบ้านตั้งแต่น้องพีชยังไม่ตื่น มื้อเช้าก็ไม่ได้ทานร่วมกับภีมพัฒน์อย่างเช่นทุกวัน อีกทั้งยังกลับดึกกว่าปกติ
สัญชาตญาณของโอเมก้ามักติดกลิ่นของสามีเป็นเรื่องปกติ
ยิ่งตอนนี้ฮอร์โมนของเจ้าคาโมมายล์น้อยยังไม่คงที่ดีนัก เมื่อได้กลิ่นฟีโรโมนของเขาคุณแม่ลูกอ่อนจึงไม่อยากให้มันจางไปจากตัวแม้ตัวเองจะไม่รู้สึกตัวก็ตาม
"ถ้าเธอติดกลิ่นพี่เพราะความรู้สึกของเธอจริง ๆ มันคงจะดีกว่านี้"
อัลฟ่ากลิ่นเหล้ารัมคว้าผ้าขนหนูเดินเข้าห้องน้ำ ก่อนลุกออกไปก็ไม่ลืมถอดเสื้อเชิ้ตทิ้งไว้ข้างกายร่างบางให้โอเมก้าน้อยรู้สึกปลอดภัยในยามหลับแม้จะยังอยู่ในห้องนอนก็ตาม
จอมบดินทร์ชำระร่างกายตามปกติแล้วลงไปแช่ตัวในอ่างอาบน้ำ ให้ความอุ่นของสายน้ำช่วยทำให้เขาผ่อนคลาย เส้นผมสีควันบุหรี่เปียกลู่ลงยิ่งขับให้ใบหน้าคมดูดุดันมากกว่าเก่า
ในหัวคิดวนกับการประชุมที่ใกล้จะถึงนี้ว่าเขาต้องพูดเรื่องอะไรบ้าง
ยิ่งคิดก็ยิ่งขมวดคิ้ว เมื่อได้อยู่ตามลำพังแล้วใช้ความคิดในพื้นที่ของตัวเองก็มองเห็นข้อบกพร่องมากกว่าเดิม จากที่มีเพียงห้าจุดก็เพิ่มมาเป็นสิบ เขาจำมันใส่สมองไว้มีเรื่องไหนบ้าง
แต่ทุกอย่างก็กระเจิงหายไปเมื่อหูแว่วได้ยินเสียงร้องจ้าของลูกชาย
อัลฟ่าร่างหนาผุดกายลุกขึ้นยืน คว้าเอาผ้าขนหนูมาซับหยดน้ำตามตัวลวก ๆ แล้วรีบสาวเท้าเข้าห้องนอน
น้องพีชร้องเสียงดังขนาดนั้นเกรงว่าจะทำให้ภีมพัฒน์ตื่นแล้วอีกฝ่ายจะนอนไม่พอ
ท่อนขายาวรีบจ้ำอ้าวไปที่เปลของลูกน้อย จอมบดินทร์อุ้มกระเตงน้องพีชเข้าเอวแล้วพาเดินออกมาทางห้องครัว
อัลฟ่าร่างหนาเปิดตู้เย็นเอาน้ำนมที่คุณแม่โอเมก้าปั๊มเก็บไว้ออกมา รองน้ำที่เป็นอุณหภูมิห้องใส่กะละมังแล้วแช่ถุงนมไว้ ระหว่างรอให้น้ำนมคลายความเย็นก็อุ้มลูกน้อยโยกไปมา หยอกล้อให้เจ้าตัวน้อยหยุดร้องโยเย
"น้องพีชไม่ร้องนะลูก จุ๊ ๆ นะครับ" น้ำเสียงทุ้มของอัลฟ่าเอ่ยกับลูกชายในอ้อมแขน ไม่รู้หรอกว่าเจ้าตัวน้อยจะรับรู้และทำตามไหมแต่ก็ยังดีกว่าปล่อยให้ร้องจ้าอยู่แบบนี้
"ให้คุณแม่นอนพักนะครับ น้องพีชไม่เสียงดังรบกวนคุณแม่นะลูก มาเล่นกับคุณพ่อแทนนะครับ"
จอมบดินทร์บอกลูกชายไปแบบนั้น ความจริงแล้วตัวเขาเองก็ล้าจากงานจนสามารถล้มตัวลงนอนแล้วหลับได้ภายในหนึ่งนาที แต่เพราะเขารู้ว่าการเลี้ยงลูกน้อยอยู่บ้านมันเหนื่อยและดูดพลังขนาดไหนจึงไม่คิดไปปลุกภรรยามาตอนนี้
เขาเป็นประธานบริษัท แม้จะมีประชุมด่วนแต่ถ้าเขาไม่ต้องการไปร่วมแล้วนอนกกกอดโอเมก้าน้อยกับลูกอยู่ในเพนท์เฮาส์ใครจะขัดได้
แต่ภีมพัฒน์เป็นคุณแม่ลูกอ่อน ไม่สามารถกำหนดเวลาพักเองได้ ตอนนี้เจ้าคาโมมายล์น้อยกำลังพักผ่อนเขาจึงอยากมอบเวลาช่วงนี้ให้อีกฝ่ายได้มากที่สุด
ฝ่ามือหนาแตะถุงสูญญากาศ เมื่อรู้สึกว่าอุณหภูมิได้ที่ดีแล้วจึงยกมันออกจากกะละมังมาวางพักไว้ ร่างหนาของอัลฟ่าหันกลับหลัง มองหาเก้าอี้ประจำตัวของลูกแล้ววางเจ้าตัวน้อยลงนั่งบนนั้น
"น้องพีชรอคุณพ่อแปปนึงนะครับ พ่อจะเอานมให้หม่ำ ๆ นะ" เจ้าจอมหันกลับมาจัดการมื้อดึกของลูกน้อย ขวดนมที่ล้างคว่ำไว้แล้วถูกนำมาใช้ เขาเทน้ำนมลงขวดช้า ๆ ระวังไม่ให้มันหกแม้แต่หยดเดียวเพื่อที่เจ้าตัวน้อยจะได้ดื่มจนอิ่มแล้วหลับได้สบายตัว
โอเมก้าแม่ลูกอ่อนเดินวนไปทั่วห้องนอนอย่างว้าวุ่นใจ ใบหน้าสวยเหยเก มิหนำซ้ำดวงตายังแดงกล่ำและมีน้ำสีใสเอ่อคลอคล้ายว่ามันจะร่วงหล่นได้ทุกเมื่อ
น้องพีชหายไปไหน
สัญชาตญาณของคนเป็นแม่ทำเขาหวาดกลัว
ภีมพัฒน์จำได้ดีว่าตนกำลังอุ้มลูกชายเข้าอกเพื่อให้ดื่มนมนอนแล้วตัวเองก็พักสายตา แต่คงเป็นเพราะเหนื่อยล้าสะสม ทั้งงานบ้านทั้งเลี้ยงลูกคนเดียวจึงเผลอหลับไป
ตื่นมาอีกทีก็ไม่เจอลูกอยู่ในอ้อมกอดแล้ว
เดินวนหาทั่วห้องก็ไม่เจอ
"น้องพีช...อยู่ไหนลูก" โอเมก้าน้อยเรียกหาลูกเสียงสั่นเครือ ทั้งดวงตาทั้งจมูกแดงเรื่ออย่างน่าสงสาร ก้มส่องใต้เตียงหรือซอกแคบตรงไหนก็ไม่เจอ
กลัวเหลือเกิน
คุณแม่ลูกอ่อนอยู่ไม่สุข วิ่งวนอีกสามสี่รอบก็คิดจะออกไปหาด้านนอกห้องนอน ถึงแม้ตนจะจำได้แม่นยำว่าปิดประตูสนิทแล้วก็ตาม แต่ตอนนี้เขาไม่รู้ขะไปตามหาลูกจากที่ไหนแล้ว
ภีมพัฒน์ยันกายลุกขึ้นยืนหลังจากนั่งแหมะอยู่บนพื้น กำลังจะก้าวออกไปด้านนอกก็เป็นจังหวะเดียวกับที่ประตูถูกเปิดออก
ร่างหนาของอัลฟ่าแทรกกายเข้ามา ในอ้อมแขนมีเด็กชายตัวน้อยกำลังถือขวดนมดูดจ๊วบจ๊าบอย่างสบายใจ ต่างจากคนเป็นแม่ที่แทบจะปล่อยโฮลั่นเมื่อเห็นว่าลูกยังปลอดภัย
"น้องพีช..." โอเมก้ารีบรุดไปรับเจ้าตัวน้อยมาอุ้มไว้ในอ้อมกอด ไม่สนใจสายตาสงสัยระคนแปลกใจของสามีอัลฟ่าสักนิด
"เมื่อกี้ลูกร้อง พี่กลัวลูกรบกวนเธอเลยพาไปกินนมด้านนอก" อัลฟ่ากลิ่นเหล้ารัมเอ่ยตามหลังภรรยาแต่คล้ายว่าอีกฝ่ายจะไม่ได้ให้ความสนใจเขาเลย
ภีมพัฒน์พาลูกน้อยมานอนบนเตียงดี ๆ ตบตูดกล่อมนอนอย่างที่เคยทำ ริมฝีปากบางเม้มแน่นกลั้นอาการสะอื้น ความกลัวมลายหายไปจนสิ้นเหลือเพียงความขุ่นเคืองสามีที่แอบหอบลูกหนีเขาไป
"ปลุกภีมก็ได้นี่ครับ"
"พี่อยากให้เธอพัก..."
"ภีมโกรธคุณจอม คุณแย่งลูกภีมไป"
"อ้าว..."
#โอเมก้าของเจ้าพ่อน้ำหอม
55555555555555555555
ช่วยท่านประธานด้วยค่ะ
โดนเมียโกรธเพราะหอบลูกหนีไปกินนม
TW : chomchan_writer
บทที่ 20 พี่รัท เธอฮีท...เราควรทำอย่างไรดี"อ๊า! อ๊ะ อ๊ะ...ป๊า อ๊ะ!" เสียงกระเส่าของโอเมก้าแทบดังลั่นภูเขาลูกหนึ่ง สาเหตุก็มีเพียงอย่างเดียวคือถูกจอมบดินทร์รังแกจนตัวลอยตาลอย แม้จะอยากเม้มปากกลั้นเสียงก็ไม่สามารถทำได้ตามใจหวังท่อนลำใหญ่กระแทกกระทั้นปรนเปรอช่องทางเปียกชื้นจนมันบวมเป่งแต่อัลฟ่ากลับยังไม่พอใจ หยัดสะโพกตอกใส่ภรรยาจนหัวสั่นหัวคลอน ริมฝีปากอ้าออกหอบเอาอากาศทุกวินาที บางจังหวะก็ส่งเสียงร้องคล้ายกับจะขาดใจ"อ๊าา เสียวxxxชิบ อีกนิดค่ะคนสวย" อัลฟ่าสามีเอ่ยลอดไรฟัน ท่อนแขนอุ้มกระเตงภรรยาไว้ในอ้อมแขนแล้วกระแทกสะโพกส่งตัวตนเข้าไปด้านในตัวภีมพัฒน์หนักหน่วงจอมบดินทร์ตั้งใจว่าจะพาภรรยาไปพลอดรักเร่าร้อนที่ด้านหลังรถ แต่เพราะเจ้าดอกไม้เอ่ยห้ามไว้ กลัวว่าน้องพีชที่หลับอยู่จะรับรู้ถึงแรงสะเทือนและกลิ่นฟีโรโมนเข้มข้นของพวกเขาเขาไม่มีทางเลือกยอมตามใจภรรยาไม่เข้าไปด้านในรถแต่อารมณ์ที่พุ่งสูงก็ไม่สามารถกล่อมให้เบาลงได้ นอกเสียจากจะได้ปลดปล่อยกับคนรัก"อ๊ะ! ฮ...อ๊า ป...อ๊ะ" เรียวแขนทั้งสองข้างตวัดโอบรอบคอสามีไว้แน่น นิ้วทั้งสิบก็จิกลงเนื้อหนังของเจ้าของอ้อมกอดจนห้อเลือด แม้จะกลัวอีกฝ่ายเจ
บทที่ 19 คืนนี้...เขาลูกนี้เป็นของเรา“ค...คุณจอม” เสียงหวานกระเส่าของโอเมก้าน้อยเรียกให้ผู้เป็นสามีละจากลำคอขาวขึ้นมามองสบกันเจ้าจอมยกยิ้มมุมปาก มือหนาข้างหนึ่งยกขึ้นมาจับคางมนให้เชิดขึ้นมองตนก่อนจะเอ่ยเสียงกระซิบ “เรียกใหม่ค่ะ หนูต้องผัวว่าอะไร”“ป๊า...อื้อ” ยังไม่ทันเอ่ยได้จนจบประโยค อิสระก็ถูกพรากไปด้วยรสจูบดุดันจากสามี มันทำให้แขนขาเขาอ่อนเปลี้ยหาที่จับยึดไม่ได้เลยทีเดียว“เชื่อฟังดีมากหนูภีม”เจ้าดอกไม้นอนแผ่หลาอยู่บนกระโปรงรถหลังถูกสามีรั้งตัวมากอดแนบชิดแล้วพรมจูบไล่ไปทั้งตัวโอเมก้าน้อยอยู่ในอ้อมกอดของจอมบดินทร์ในท่าลิงอุ้มแตง เขาจึงคิดว่าสามีจะพาไปด้านหลังตัวรถแต่กลับไม่ใช่เป็นกระโปรงด้านหน้ารถแทนเธอยั่วพี่เองภีมพัฒน์...ไม่น่าเลย“ป...ป๊า มันโล่งไป” เสียงหวานเอ่ยบอกเจ้าจอมอย่างประหม่า ดวงตาคู่สวยหันซ้ายหันขวาอย่างระแวดระวัง“ภีมกลัวมีคนมาเห็น”แม้คำพูดและท่าทางจะแสดงออกว่าตื่นกลัว แต่ก้อนเนื้อในอกกลับตรงกันข้ามตื่นเต้น...ใช้เป็นคำนิยามได้ดีทีเดียวประธานแห่งเจบีดีกรุ๊ปยกยิ้มอย่างเอ็นดูภรรยา แต่สายตาของผู้ล่าและฝ่ามือหนาที่ขย้ำเอวคอดอยู่กลับเตรียมพร้อมตะครุบเหยื่อในทันที “
บทที่ 18 เธอยั่วพี่เองเป็นเวลาเกือบหนึ่งชั่วโมงหลังออกจากปั๊มน้ำมันก็มาถึงสถานที่สำหรับพักผ่อนของพวกเขาในสัปดาห์นี้ มันเป็นพื้นพี่ราบบนภูเขาลูกหนึ่งในจังหวัดทางภาคเหนือ จอมบดินทร์ติดต่อกับเจ้าหน้าที่ดูแลไว้แล้ว เมื่อมาถึงก็สามารถขับรถเข้ามาจอดได้เลยอัลฟ่าร่างสูงอยู่ในชุดลำลองที่ไม่บางมากนัก เสื้อยืดสีครีมและกางเกงคาร์โก้สีเดียวกันถูกเขาหยิบมาใส่เมื่อเช้าก่อนออกเดินทาง แม้ไม่ได้ทำอะไรหนักหน่วงจนเหงื่อโทรมกายแต่ในตอนนี้เขาอยากอาบน้ำเป็นอย่างแรก เผื่อว่าสายน้ำเย็น ๆ จะช่วยให้อารมณ์ร้อนรุ่มภายในใจเขาทุเลาลงไปบ้างแค่นิดเดียวก็ยังดีเจ้าจอมยืนเอนกายพิงกระโปรงรถอยู่ด้านนอก ท่อนแขนทั้งสองข้างประสานกันไว้กลางอก ลมหายใจสูดเข้าออกลึกเพื่อข่มอารมณ์ที่กำลังปะทุอยู่ภายในเมื่อชั่วโมงก่อนเขาเกือบพาลูกเมียพบเจอกับอุบัติเหตุเพราะควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้ ฝ่าเท้าเหยียบเบรคมิดจนโอเมก้าข้างกายหัวขมำ โชคดีที่เส้นทางนี้ไม่ค่อยมีรถผ่านจึงไม่มีอะไรเกิดขึ้นภีมพัฒน์ถูกสามีเอ่ยห้ามไม่ให้ตามออกไปด้านนอกแม้จะถึงที่หมายแล้ว อีกฝ่ายอ้างว่าเพราะลูกชายยังไม่ตื่นจึงให้เขาอยู่เป็นเพื่อนน้องพีชก่อน ส่วนตัวเองจะออกไปส
บทที่ 17 คุณจอม...เป็นอะไร"คุณจอมครับ..." โอเมก้าน้อยเอ่ยเรียกสามีเสียงแผ่ว ใบหน้าสวยฉายแววความกังวลอยู่มาก ท่าทีที่แสดงออกก็เช่นกัน ฝ่ามือบางกำเข้าหากันด้วยความประหม่า ในหัวคงคิดหลายเรื่องราวจนพันกันยุ่งเหยิง คิ้วทั้งสองข้างจึงชนเข้าหากันอัลฟ่ากลิ่นเหล้ารัมยกยิ้ม ภีมพัฒน์ในตอนนี้เหมือนลูกกระต่ายขี้กลัวแม้เขาจะไม่รู้ว่าเรื่องที่อีกฝ่ายกลัวคืออะไร แต่ไม่ได้กลัวเขาแน่นอนวันนี้เขายังไม่ได้แกล้งเจ้าดอกไม้เลยสักนิดเดียว หน้าที่สามีและพ่อก็ไม่ได้ขาดตกบกพร่องแม้แต่น้อย"หื้ม ว่าไงคะ" จอมบดินทร์มองภรรยาด้วยความรัก ระบายยิ้มอ่อนโยนให้คนตรงหน้าพร้อมกับปิดแฟ้มเอกสาร ท่อนแขนหนายกขึ้นมาตั้งไว้บนโต๊ะ ศีรษะจึงเอียงลงแนบกับฝ่ามือ นัยน์ตาคมก็จับจ้องภีมพัฒน์ไม่ละสายตาโอเมก้าน้อยหลุบตาลงต่ำ สองเท้าสาวเข้าใกล้สามีจนกระทั่งมายืนประจันหน้ากับอีกฝ่ายก็ยังไม่ยอมเงยหน้าขึ้นมองพวกเขายังอยู่ในห้องทำงานของประธานแห่งเจบีดีกรุ๊ป จอมบดินทร์นั่งอยู่ด้านหลังโต๊ะทำงานในขณะที่มีภรรยาตัวน้อยยืนกุมมืออยู่ตรงหน้า ส่วนลูกชายถูกอเล็กซ์ขโมยไปตั้งแต่ช่วงเที่ยง จนป่านนี้ก็ยังไม่พาหลานมาคืน ไม่รู้ว่าไปเล่นซนกันถึงไหนแล้วเ
บทที่ 16 เมียผมไม่เคยน้อยหน้าใคร"เงียบปากเดี๋ยวนี้คุณดรีม""กล้าพูดกับฉันแบบนี้หรือ"ประธานแห่งเจดีบีกรุ๊ปได้ยินคล้ายคนมีปากเสียงกันหลังจากรีบวิ่งตามอเล็กซ์เพื่อนตัวดี อาจจะหนึ่งหรือสองคนหรือมากกว่านั้น มีหลายประโยคที่เขาฟังไม่ถนัดแต่ที่แน่ชัดคือทุกคนกำลังโจมตีคน ๆ เดียวกันเพื่อนอัลฟ่ากระหืดกระหอบขึ้นไปเรียกเขาถึงในห้องทำงาน อีกทั้งยังรีบเร่งเสียจนนึกรำคาญ แต่พอได้ยินว่าเรืองที่เกิดขึ้นมีชื่อของภีมพัฒน์เข้าไปเกี่ยวข้องก็รีบจ้ำอ้าวจนแทบกลายเป็นวิ่งในทันทีประตูห้องสตูดิโอที่ชั้นล่างสุดของตึกเปิดอยู่ มีพนักงานใส่เสื้อสีดำระบุคำว่า staff ยืนจับกลุ่มกันสองถึงสามคน เมื่อได้กลิ่นฟีโรโมนที่จำได้ว่าเจ้าของมันเป็นผู้บริหารสูงสุดของที่นี่ก็รีบพากันหลีกให้พ้นทาง"คุณสูงส่งมาจากไหนถึงได้หยาบคายกับคุณภีมแบบนั้น""แล้วคุณภีมอะไรนั่นมันสูงกว่าฉันตรงไหน ทำไมจะพูดถึงไม่ได้"ประโยคแรกเป็นเสียงผู้หญิงคลับคล้ายคลับคลาว่าจะเป็นหนึ่งในพนักงานของบริษัท ฟังจากน้ำเสียงคงจะโมโหอยู่มากแต่ยังไว้หน้าไม่หยาบคายใส่คู่สนทนาแต่ประโยคถัดมาเขาไม่คุ้นหูเลยสักนิด"หยุดเดี๋ยวนี้นะ ให้เกียรติคุณภีมด้วย""เป็นถึงเมียประธ
บทที่ 15 ขอโทษที่ทำให้เธอเป็นแบบนี้"ภีม...วันนี้หนูเป็นอะไรคะ บอกพี่หน่อยคนดี" อัลฟ่ากลิ่นเหล้ารัมเอ่ยถามภรรยาตัวน้อยหลังจากเร่งเดินตามอีกฝ่ายภีมพัฒน์เดินดิ่งจากสตูดิโอชั้นล่างขึ้นลิฟต์มาที่ชั้นผู้บริหารซึ่งเป็นชั้นทำงานประจำของเขา เจ้าจอมเกือบตามภรรยาทันตั้งแต่เมื่อครู่แล้วแต่คนอายุน้อยก็ไวเหลือเกิน รีบปิดประตูลิฟต์จนเขาต้องชักเท้าชักมือออกเกือบไม่ทันกว่าลิฟต์จะว่างก็ตอนที่เขาวิ่งขึ้นไปห้าจากยี่สิบชั้น รู้ว่ามันคงเหนื่อยเพราะตนก็ใกล้เข้าเลขสี่เต็มที ไม่ได้หนุ่มแน่นวิ่งได้หลายชั่วโมงติดกันเหมือนแต่ก่อนแต่ก็ไม่คิดว่ามันจะหอบแฮกขนาดนี้"ภีมเปล่าครับ""เธอเป็น"คุณแม่ลูกอ่อนยังคงเบี่ยงหน้าไม่ยอมสบสายตากับสามี มิหนำซ้ำยังกระถดกายถอยหลังตอนที่จอมบดินทร์ขยับเข้าใกล้ ทำอัลฟ่าใจร่วงไปอยู่ตาตุ่ม หัวคิ้วพันกันมุ่นเพราะคิดไม่ตกว่าเมื่อเช้านี้เขาทำอะไรพลาดไป"คนดี...พี่ทำอะไรผิดหรือเปล่า เธอบอกพี่สิ เธอเงียบแบบนี้พี่เดาใจเธอไม่ถูก" เจ้าจอมยังคงพูดหว่านล้อมภรรยาแต่ก็ไม่ได้ผลเช่นเคย"เธอไม่ถูกใจที่พี่ทำตรงไหนหรือเปล่า""ไม่มีครับ""น้องพีช ช่วยคุณพ่อหน่อยสิครับ"เมื่อคุยกับภรรยาไม่ได้ผลก็เปลี่ย