หน้าหลัก / โรแมนติก / Phoenix's Rebirth หงส์หวนรัก / 04 - ดอกไห่ถังจากอวี๋ฟางหรง

แชร์

04 - ดอกไห่ถังจากอวี๋ฟางหรง

ผู้เขียน: WangFei
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-03-29 21:22:16

เฟิ่งหรั่นและเฟิ่งอี้นั่งที่โต๊ะด้านหลังลำดับถัดมาจากอัครมหาเสนาบดีเฟิ่งผู้เป็นบิดากับมารดาอย่างเฟิ่งฮูหยิน ข้างๆ นางนั้นคือที่นั่งของอวี๋ฟางหรง ธิดาเจ้ากรมอาญาซึ่งมีความสนิทสนมชิดเชื้อกับไทเฮาพอสมควร ทั้งบิดาของนางและบิดาของอวี๋ฟางหรงนั้น ต่างก็เป็นเสนาบดีตำแหน่งสูงทั้งคู่ หากพวกนางถูกจัดมานั่งเคียงข้างกันย่อมไม่แปลก

          ใบหน้าอ่อนเยาว์ของอวี๋ฟางหรงมองเฟิ่งหรั่นด้วยสายตาเป็นมิตร นางคลี่ยิ้มบางๆ ให้อีกฝ่ายอย่างเป็นกันเอง เฟิ่งหรั่นยิ้มอ่อนๆ น้อมรับ พอดีกับสายตาของเฟิ่งอี้ที่มองมาอย่างจับสังเกต        

          “คุณหนูสกุลอวี๋ อวี๋ฟางหรงไม่ใช่หรือเจ้าคะพี่หญิง” เฟิ่งอี้กระซิบถามอย่างไม่ไว้ใจ สายตาของนางจดจ้องอวี๋ฟางหรงไม่วางตา

          เฟิ่งหรั่นปรายหางตาปรามผู้เป็นน้องสาวเงียบๆ

          “นางทักทายเรา มีไมตรีกับเรา เจ้าอยู่นิ่งๆ เถิด”

          “เจ้าค่ะ...” เฟิ่งอี้ยอมสงบปากสงบคำเมื่อได้รับคำเตือนจากผู้เป็นพี่สาว นางรินชาให้ตนเองอย่างเงียบๆ สายตานั้นจับจ้องมองที่ลู่อ๋องซึ่งประทับอยู่ข้างๆ ซู่ไท่เฟยด้วยสายตายากจะคาดเดาความหมาย

          “ข้าได้ยินกิตติศัพท์รูปโฉมอันงดงามของแม่นางเฟิ่งมานานแล้ว มิด

คาดคิดว่าวันนี้จะได้มาเจอท่านด้วยตนเอง หากไม่รังเกียจท่านจะดื่มสุรากับข้าสักจอกได้หรือไม่?” รอยยิ้มของอวี๋ฟางหรงทำให้เฟิ่งหรั่นปฏิเสธไมตรีไม่ลง

          “ย่อมได้สิ” อวี๋ฟางหรงรินสุราใส่จอกของเฟิ่งหรั่นด้วยความยินดี ก่อนที่ทั้งสองจะยกจอกสุราเข้าปากพร้อมกัน การกระทำของพวกนางทั้งสองล้วนอยู่ในสายตาของลู่เฟยหลงและลู่อ๋อง

          “เห็นอวี๋ฟางหรงและเฟิ่งหรั่นเข้ากันได้ดีเช่นนี้ จะเป็นเช่นใดหนอหากให้พวกนางทั้งสองมาเป็นสะใภ้ของราชวงศ์” เซียวฮองเฮาทรงเอ่ย คำกล่าวนี้ราวกับรู้พระทัยของไทเฮาว่าคิดสิ่งใด แต่ว่าทุกอย่างล้วนขึ้นอยู่กับความรู้สึกของคนสองคน การไปบังคับให้อภิเษกสมรสกันนั้นย่อมไม่เหมาะสม

          เซียวฮองเฮาในฐานะสะใภ้ใหญ่ของราชวงศ์ทรงมองทุกอย่างอย่างแม่นยำ พวกนางทั้งสองต่างงดงามและเปี่ยมด้วยวาสนาบารมีทั้งคู่ น่าเสียดายนักหากคนหนึ่งจะต้องแต่งเป็นแค่ชายาอ๋องและอีกคนเป็นหงส์คู่บัลลังก์ ทั้งๆ ที่ความงดงามและความสามารถของพวกนางทั้งคู่ล้วนไม่ด้อยไปกว่ากันเลยสักนิด

          “ฮองเฮานั้นล้วนคิดเหมือนแม่เสียจริง...” ไทเฮาทรงเอ่ย พระพักตร์งดงามหันไปทอดพระเนตรสตรีทั้งสองอย่างสนพระทัย หากแต่ความสนพระทัยนั้นอยู่ที่อวี๋ฟางหรงมากกว่า “โดยเฉพาะแม่นางอวี๋ จะดีเพียงใดหาก

ได้มาเป็นชายาของหลงเอ๋อร์”

          จอกสุราของลู่เฟยหลงเกือบตกเพราะความตกใจ งานเลี้ยงฉลองนี้พระมารดาคงไม่ได้จัดขึ้นเพราะชัยชนะของเขาเพียงคนเดียว แต่อาจหมาย

ถึงการประกาศเรื่องว่าที่พระชายารัชทายาท หากเป็นเช่นนั้นเขาควรทำเช่นใดเพื่อรักษาเกียรติของอวี๋ฟางหรงและคว้าหัวใจของเฟิ่งหรั่นมาครอง

          สายตาคมปลาบจับจ้องที่เฟิ่งหรั่นอย่างไม่วางตา ซู่ไท่เฟยที่สังเกตเห็นสีพระพักตร์วิตกของลู่เฟยหลง นางยกยิ้มมุมปากอย่างพึงพอใจ จึงกล่าวขึ้นมาว่า

          “ไทเฮาทรงพระปรีชายิ่งนักเพคะ แม่นางอวี๋งดงามสมกับรัชทายาทนัก จะเป็นการดีหรือไม่เพคะ หากมอบสมรสพระราชทานให้กับพวกเขาทั้งสอง และให้เฟิ่งหรั่นสมรสกับลู่อ๋อง” ซู่ไท่เฟยเอ่ยเจตนาของตนเองอย่างไม่ปิดบัง หากดึงอำนาจสกุลเฟิ่งเข้ามา พระนางย่อมเป็นต่อหลายขุมนัก

          “เรื่องการแต่งงานเป็นเรื่องการตัดสินใจของคนทั้งสอง กระหม่อมว่าซู่ไท่เฟยทรงอยู่เฉยๆ จะดีกว่าพะยะค่ะ” ลู่เฟยหลงตอบอย่างใจเย็น สายตาของเขาปราดมองลู่อ๋องที่ยิ้มอย่างพึงพอใจในตัวเฟิ่งหรั่น สตรีเพียงหนึ่งเดียวกลับกลายเป็นที่แย่งชิงของบุรุษทั้งสองคน นางจะรู้หรือไม่ว่าบุรุษทั้งสองอาจจะต้องมีปัญหากันเองเพราะนาง

          ซู่ไท่เฟยเผยยิ้มที่เคลือบแคลงด้วยความนัยบางอย่าง “องค์รัชทายาทคงไม่ทราบ ว่าเมื่อไม่นานมานี้ ลู่อ๋องได้ทำการปักปิ่นให้กับแม่นางเฟิ่งหรั่นแล้ว นั่นหมายความว่าพวกเขาทั้งสองพึงพอใจในตัวกันและกัน มีสิ่ง

ใดที่ต้องถามอีกหรือเพคะ”

          ไทเฮาทรงตรัสถามเฟิ่งหรั่น ซึ่งบัดนี้นางกลายเป็นต้นเหตุของเรื่องทั้งหมดเสียแล้ว “จริงหรือ? เฟิ่งหรั่น เจ้าตอบข้ามาเถิด”

          เฟิ่งหรั่นสะดุ้ง นางอุตส่าห์อยู่เงียบๆ ไม่ปริปากเอ่ยคำใด แต่สุดท้ายกลับต้องมาตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากเช่นนี้ ทางด้านลู่อ๋องเองก็พึงพอใจไม่น้อย เขาพยายามมองหาปิ่นที่มอบให้นาง แต่ว่าตอนนี้ปิ่นนั้นไปอยู่กับเฟิ่งอี้ผู้เป็นน้องสาวของนางเสียแล้ว

          เฟิ่งหรั่นย่อกายคำนับน้อยๆ ก่อนจะตอบไทเฮา “ทูลไทเฮา ทั้งหมดเป็นเรื่องจริงเพคะ”

          นางไม่อาจโกหกได้ ปิ่นที่ลู่อ๋องปักผมให้นางในวันนั้นทุกคนย่อมเห็นประจักษ์ชัด แม้แต่ลู่เฟยหลงก็เช่นกัน

          อวี๋ฟางหรงมองนางด้วยสายตาที่ซ่อนความหมายบางอย่าง

          “เจ้ารู้หรือไม่ว่าการทำเช่นนั้น ตามธรรมเนียมแล้วเจ้าจะต้องแต่งงาน” ซู่ไท่เฟยเอ่ย นางพยายามอย่างยิ่งยวดเพื่อจะดึงอำนาจสกุลเฟิ่งมาเป็นของตนเอง เฟิ่งหรั่นพยักหน้าน้อยๆ เป็นเชิงตอบรับ

          ลู่อ๋องได้ทีจึงลุกขึ้นเอ่ยแก้ไขสถานการณ์อันชวนอึดอัดสำหรับเฟิ่ง หรั่น “ทูลไทเฮา กระหม่อมกับเฟิ่งหรั่นสนิทสนมกันมานาน เราสองมีใจตรงกัน หากทรงพระเมตตาโปรดมอบสมรสพระราชทานให้พวกเราสองคนด้วยเถิด”

          ความรู้สึกในใจของเฟิ่งหรั่นตีรวนกันไปหมด หากเป็นยามอื่นนางคงรู้สึกดีที่ลู่อ๋องรักและเมตตานางมากถึงเพียงนี้ แต่ยามนี้ความรู้สึกกลับไม่เป็น

เช่นนั้น นางรู้สึกเหมือนมีบางอย่างแปลกไป แปลกจนนางไม่อาจคาดเดาได้ ว่าจะเกิดสิ่งใดขึ้นต่อจากนี้

          เฟิ่งอี้มองลู่อ๋องและเฟิ่งหรั่นผู้เป็นพี่สาวด้วยสายตาแสดงประกาย

ความรู้สึกบางอย่าง ยากนักที่จะคาดเดาความคิดในใจของนางได้ ในยามนี้นางจ้องมองเฟิ่งหรั่นราวกับรอคำตอบจากอีกฝ่ายว่าจะตอบเช่นไร ในยามสถานการณ์ที่น่าอึดอัดใจเช่นนี้

          ไทเฮาทรงมองเฟิ่งหรั่นสลับกับลู่อ๋อง หากนางถูกดึงเป็นชายาเอกของลู่อ๋อง ตำแหน่งพระชายารององค์รัชทายาทสำหรับนางคงหมดความหมาย พระนางหมายพระทัยอยากให้อวี๋ฟางหรงเป็นพระชายาเอกเป็นว่าที่ฮองเฮา ส่วนเฟิ่งหรั่นเป็นพระชายารองว่าที่หวงกุ้ยเฟยในอนาคต มันจะดีต่อลู่เฟยหลงไม่น้อยเลยทีเดียว แต่ในยามนี้สตรีเพียงผู้เดียวกลับเป็นที่ต้องการของบุรุษทั้งสอง หากทั้งสองต้องมาแตกคอกันเพราะนางคงไม่ใช่เรื่องดีแน่

          “เรื่องนี้เจ้าจะตัดสินใจอย่างไร” ไทเฮาทรงคาดคั้นคำตอบจากหญิงสาว นางยืนด้วยท่าทีสงบนิ่งเพียงผู้เดียวท่ามกลางสายตาหลายคู่ที่จับจ้องมองมา นางกลืนน้ำลายลงคออึกหนึ่ง พลันสายตาเห็นประกายไหววูบของลู่เฟยหลง สายตาคู่นั้นหมายความว่าอย่างไรกัน...

          หากนางปฏิเสธ เรื่องที่ลู่อ๋องปักปิ่นให้นางก็คงเป็นที่ลือกระฉ่อนกันทั้งเมืองหลวง และคนที่เสียหายที่สุดคือนางและตระกูลเฟิ่ง แต่หากนางยอมรับการแต่งงานครั้งนี้ ก็จะช่วยตระกูลเฟิ่งให้รอดพ้นจากคำครหา อีกทั้งอาจเสริมอำนาจของบิดานางให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้นได้ คิดทางใดก็ย่อมเป็นผลดีต่อนางทั้งนั้น อีกทั้งลู่อ๋องกับนางก็สนิทสนมกันมาเนิ่นนาน นางเองก็แอบพึง

พอใจเขาอยู่มิใช่น้อย หากนางได้แต่งงานกับเขาโดยเร็วอาจช่วยเสริมอำนาจ

หนุนหลังเขาก็ย่อมได้

          ทุกคนต่างรอคำตอบของเฟิ่งหรั่นอย่างใจจดใจจ่อ นางถอนหายใจ

อยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเอ่ยออกมา “หม่อมฉัน...น้อมรับการสมรสครั้งนี้เพคะ”

          ลู่เฟยหลงบีบจอกชาแน่นจนเกือบแตก แต่หากเขาสะกดอารมณ์เอาไว้ได้ทัน ฮ่องเต้ผู้เป็นพระเชษฐาและฮองเฮาผู้เป็นพระเชษฐภคินีย่อมเข้าพระทัยความรู้สึกของพระอนุชาผู้นี้ดีว่าคิดเช่นไรกับเฟิ่งหรั่น แต่ทว่าไทเฮานั้นคงไม่มีทางล้มเลิกความตั้งใจที่จะให้อวี๋ฟางหรงมาเป็นสะใภ้ง่ายๆ แน่ เพลานี้ทั้งสองพระองค์สงสารลู่เฟยหลงยิ่งนัก งานวันนี้คืองานเลี้ยงสังสรรค์แท้ๆ แต่กลับต้องมาพังทลายลงเพราะการกระทำของซู่ไท่เฟย

          “เจ้าคิดดีแล้วหรือเฟิ่งหรั่น?” เซียวฮองเฮาเอ่ยถามอีกฝ่าย สีพระพักตร์นั้นจริงจังยิ่ง ยามเห็นสีหน้าวิตกของลู่เฟยหลงก็ยิ่งสงสารจับใจ

          ผู้ถูกขนานนามก้มศีรษะน้อมรับ “เพคะ หม่อมฉันตัดสินใจดีแล้วเพคะ”

          อวี๋ฟางหรงได้ฟังแล้วก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก แต่สุดท้ายนางกลับนึกสงสารเฟิ่งหรั่นนัก อีกฝ่ายเข้านอกออกในวังบ่อยกว่านาง อีกทั้งลู่เฟยหลงก็แสดงชัดเจนนักว่าหลงรักเฟิ่งหรั่นอย่างจริงใจ สุดท้ายนางจะกลายเป็นมือที่สามขัดขวางความรักของเขากับเฟิ่งหรั่นอย่างนั้นหรือ?

          เฟิ่งอี้ได้แต่กำชายอาภรณ์ของตนเองเบาๆ การตัดสินใจของเฟิ่งหรั่นคราวนี้ทำให้นางไม่อาจสะกดอารมณ์ที่มีได้ พวกนางทั้งสองพี่น้องต่างมีความสนิทสนมกับลู่อ๋องมานาน แต่เหตุใดลู่อ๋องจึงไม่หันสายตามามองนางบ้าง เหตุใดต้องมองแต่พี่สาวของนาง เหตุใดกัน...นางไม่ดีอย่างไร ถึงมีแต่คน

มองข้ามนางตลอด

          อวี๋ฟางหรงนึกอยากช่วยลู่เฟยหลงแต่ก็ไม่อาจทำสิ่งใดได้  เห็นทีหากมีโอกาสนางคงต้องทำอันใดสักอย่างเพื่อลู่เฟยหลงสักครั้ง

          งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา!

          ทันทีที่งานเลี้ยงจบ เฟิ่งหรั่นก็รีบขอตัวกลับจวนก่อนทันที ส่วนบิดา

กับมารดานั้นอยู่สนทนากับไทเฮาต่อสักพัก วันนี้นางแทบไม่ยินดีกับการตอบรับสมรสแต่งงานกับลู่อ๋องเลยสักนิด ทั้งๆ ที่เขาเป็นบุรุษคนแรกที่นางรู้สึกดีด้วย อีกทั้งยังเป็นผู้มีพระคุณของนางในวัยเยาว์

          รถม้าขับเคลื่อนมาจอดถึงหน้าจวน หญิงสาวก้าวขาลงมาเดินเข้าจวนพร้อมกับจิงเจียวสาวรับใช้คนสนิท สักพักเจ้าไห่เหลียน เสือขาวที่ตนเองเลี้ยงเอาไว้ก็โผล่ออกมาเข้ามาคลอเคลียนางอย่างออดอ้อน เฟิ่งหรั่นนั่งลงบนเก้าอี้ในศาลารับแสงจันทร์ นางมองเจ้าไห่เหลียนที่คลอเคลียนางด้วยความเอ็นดู

          ครั้งหนึ่งไห่เหลียนเคยเป็นลูกเสือตัวน้อยจากงานล่าสัตว์ ในปีนั้นที่นางยังเด็กมากอายุเพียงแปดหนาวเท่านั้น บิดาพาเข้าร่วมการล่าสัตว์ นางจดจำได้อย่างดีว่าถูกเสือตัวหนึ่งทำร้ายจนสลบไป พอนางฟื้นขึ้นมาอีกทีกลับพบว่าเป็นลู่อ๋องที่ช่วยชีวิตนางเอาไว้ และนั่นคือจุดเริ่มต้นความสัมพันธ์ของนางกับลู่อ๋อง และลูกเสือขาวนามว่าไห่เหลียนตัวนี้ก็เป็นบิดาที่อนุญาตให้นางนำมาเลี้ยงดูที่จวน     

“เจ้าเข้าใจความรู้สึกข้าในยามนี้ด้วยหรือ?” นางเอ่ยถามไห่เหลียนด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน แม้เจ้าเสือโคร่งตัวยักษ์จะไม่เข้าใจคำพูดของนาง แต่ทว่ามันกลับมีท่าทีออดอ้อนคลอเคลียหนักอย่างยิ่ง นางลูบหัวของมันด้วยความเอ็นดู

          นางคลี่ยิ้มบางๆ พลางมองจิงเจียว “เจ้าพาไห่เหลียนไปอาบน้ำเถิด หากท่านพ่อมาเจอมันในสภาพเปื้อนดินเช่นนี้ คงโดนตำหนิอีกแน่”

          จิงเจียวลูบศีรษะเจ้าไห่เหลียนเพียงนิด เจ้าเสือโคร่งยักษ์สีขาวก็เชื่อ

อย่างว่าง่าย เป็นเพราะแบบนี้เองเฟิ่งหรั่นถึงได้เอ็นดูนัก ดูท่าทางสมรส

พระราชทานครั้งนี้นางคงหลีกเลี่ยงไม่ได้แล้ว

          เฟิ่งอี้มาถึงจวนหลังเฟิ่งหรั่น แต่แววตาของนางนั้นปรากฏความรู้สึกชิงชังอย่างชัดเจน ทั้งๆ ที่เฟิ่งหรั่นก็มองออกว่านางนั้นรู้สึกอย่างไรกับลู่อ๋อง แต่การทำเช่นนี้มันคือการทรยศความรู้สึกของนางที่เป็นน้องสาวแท้ๆ แต่นางไม่อาจทำสิ่งใดได้ พระเสาวนีย์ของไทเฮาถือเป็นที่สิ้นสุด การที่ท่านพ่อและท่านแม่อยู่สนทนาต่ออีกสักพัก ก็คงกำหนดฤกษ์วันอภิเษกเป็นแน่

          อีกทั้งอวี๋ฟางหรงนั่นคือผู้ใดกัน หากไม่มีอีกฝ่ายสักคนนางก็คงได้แต่งงานกับลู่อ๋อง และพี่สาวของนางคงได้แต่งงานกับลู่เฟยหลงเป็นแน่ แม้ลู่เฟยหลงจะเป็นถึงรัชทายาท แต่ก็มีข่าวลือหนาหูนักที่ว่าเขาเป็นบุรุษชอบตัดแขนเสื้อตนเอง5 นางไม่รู้ความจริงข้อนี้เป็นอย่างใด แต่หากเฟิ่งหรั่นได้แต่งงานกับเขาก็เท่ากับว่าชีวิตของนางจะไม่สามารถมีทายาทสืบทอดราชบัลลังก์ องค์ชายน้อยลู่เสวียนนั้นก็ยังเด็กเกินไป หากราชบัลลังก์ว่างเว้นผู้สืบทอด ก็จะมีเพียงลู่อ๋องเท่านั้นที่มีสิทธิ์

          นางจะยอมให้เฟิ่งหรั่นได้ดิบได้ดีไม่ได้เด็ดขาด!

         

          เฟิ่งหรั่นนั่งชมจันทร์ที่ศาลาสักครู่หนึ่ง นางหยิบดอกไห่ถังที่อวี๋ฟางหรงมอบให้ตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอกันในงานเลี้ยง ดอกไม้ชนิดนี้เต็มไปด้วยปริศนามากมายที่ยากจะคาดเดา ดอกไห่ถังนี้ซ่อนปริศนาไว้มากมายเหลือเกิน คงไม่ใช่เรื่องบังเอิญที่อวี๋ฟางหรงให้กับนางแน่ ดอกไม้ที่เปรียบเหมือนของสำคัญชนิดนี้จะมอบให้ผู้อื่นได้อย่างไรกัน

          ยิ่งคิดก็ยิ่งปริวิตก นางจะต้องค้นหาความลับของดอกไห่ถังนี้ให้ได้!

_______________________________

5ตัดแขนเสื้อตนเอง หมายถึง พวกรักร่วมเพศ (ชายรักชาย) มาจากสำนวนจีนที่ว่า "ต้วนซิ่วจือผี่” แปลว่า "พิศวาสจนตัดแขนเสื้อ” เรื่องมีอยู่ว่า ฮั่นอ้ายตี้ ฮ่องเต้สมัยนั้นทรงหลงใหลขันทีเทียมคนหนึ่ง (ไม่ได้ตอนเป็นขันทีจริง แต่ได้ติดตามรับใช้ใกล้ชิดอยู่ข้างกายฮ่องเต้ไม่ต่างจากขันที) ชื่อ "ตงเสียน” ถึงขนาดให้อำนาจ ตำแหน่งและจวนส่วนตัวอันหรูหรา และให้ติดตามเป็นเงาไม่ห่างกาย พระองค์เสด็จไปไหน ก็ต้องเห็นเขาอยู่ที่นั่น จนวันหนึ่ง ขณะที่ตงเสียนนอนหลับใหลโดยทับแขนเสื้อของพระองค์อยู่นั้น ฮ่องเต้จำต้องลุกจากที่บรรทม แต่ไม่กล้าปลุกคนรัก จึงยอมตัดแขนเสื้อตนเองเพื่อให้ตงเสียนได้นอนหลับสบายต่อไป การกระทำดังกล่าวจึงเป็นที่มาของคำว่า "ตัดแขนเสื้อ” ที่

หมายถึง ชายรักชาย นั่นเอง

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • Phoenix's Rebirth หงส์หวนรัก    21 - หวนคืนสู่นครา

    โรงเตี๊ยมแห่งนี้แม้จะเล็กไปหน่อย แต่ก็เป็นแหล่งรวบรวมข่าวสารชั้นดีเช่นกัน ไม่มีใครรู้ว่าแท้จริงแล้วลู่เฟยหลงนั้นอยู่เบื้องหลังการชำระล้างมลทินให้เฟิ่งหรั่น มีแต่คนกล่าวเพียงว่าอัครมหาเสนาบดีเฟิ่งผู้เป็นบิดาที่คอยหาหลักฐานมากมายร่วมสามปี จนได้หลักฐานว่าคนที่อยู่เบื้องหลังการใส่ร้ายอดีตพระชายาเก้าจนถึงแก่ความตาย ก็คือขันทีคนสนิทของลู่อ๋อง แม้จะไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด แต่ก็มีหลายคำถามมากมายที่ผู้คนต่างกล่าวขานกัน ว่าเป็นเพราะลู่อ๋องต้องหลงเสน่ห์ชายารององค์ใหม่เป็นแน่ เฟิ่งหรั่นยกยิ้มอย่างพึงใจ อย่างน้อยสามปีที่นางหายไปท่านพ่อท่านแม่ก็ยังคงทวงความยุติธรรมให้นางมาตลอด การกลับมาคราวนี้นางจะต้องกอบกู้ศักดิ์ศรีที่เคยถูกย่ำยีกลับคืนมา เปิดโปงความชั่วของพวกมันทั้งสองคนในชั่วพริบตานางย่อมทำได้ แต่หากทำเช่นนั้นศัตรูที่นางเคียดแค้นชิงชังจะตายง่ายไป นางต้องการแย่งชิงสิ่งที่พวกมันหมายปองให้มาอยู่แทบเท้านาง ในเมื่อเคยเป็นคนดีแต่กลับถูกคนชั่วหลอกใช้ นางก็ขอกลายเ

  • Phoenix's Rebirth หงส์หวนรัก    20 - เมืองเจี้ยงจู

    ไป๋ลู่หัวเสียอย่างยิ่ง หากนางทำสิ่งใดทำไมต้องมีคนมาขัดจังหวะนางตลอดเวลานะ! เซียนสาวหันมาเผชิญหน้ากับผู้มาเยือนทางด้านหลัง นางยิ้มแหยๆ ให้กับจูเชว่อย่างอารมณ์ดี เขาอายุมากกว่านางหลายพันปีอีกทั้งยังเป็นคนที่คอยขัดขวางนางทุกเรื่องหากนางคิดอ่านสิ่งใด เขาทำตนราวกับตนเองมีเนตรทิพย์แดนสวรรค์ที่สามารถมองเห็นทุกสรรพสิ่งได้ นางเกลียดยิ่งนัก! “เซียนที่ต้องทัณฑ์ไม่ได้รับอนุญาตให้ขึ้นมาแดนสวรรค์ และยิ่งไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าหอชะตาเซียน เจ้าบังอาจฝ่าฝืนกฎเช่นนี้ ไม่กลัวสวรรค์ลงทัณฑ์หรือไร?”จูเชว่ถามด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม หากเขาไม่สะกดรอยมาเห็นนางเสียก่อน เกรงว่านางคงทำเรื่องไม่น่าให้อภัยไปแล้ว “แล้วท่านแม่ทัพเล่า มีเวลาว่างมากนักรึถึงมาตามจับผิดข้า คราวก่อนก็ครั้งนึงแล้ว ท่านตามติดข้าเป็นเงาเช่นนี้ คงมิใช่ทำร้ายอันใดกับข้าอยู่ใช่มั้ย?” พยัคฆ์สาวแสร้งเอ่ยปกปิดเรื่องราวของตน และได้ผล...แม้ว่าจูเชว่จะชอบขัดขวางนาง แต่ทว่าไม่เคยตาม

  • Phoenix's Rebirth หงส์หวนรัก    19 - ร่างที่ไร้ลมหายใจ

    บริเวณลานประหาร ร่างบอบบางที่ถูกตรึงด้วยไม้กางเขน สภาพร่างกายของนางอันบอบบางราวกิ่งหลิวเปียกชุ่มไปด้วยคราบโลหิตจากทัณฑ์ทรมาน เส้นผมที่เคยถูกรวบเกล้าประดับด้วยเครื่องประดับอันงดงาม บัดนี้กลับหลุดลุ่ยปรกใบหน้า ดวงตาที่เคยอ่อนหวานในยามนี้เต็มเปี่ยมไปด้วยความแค้น ที่ไม่มีโอกาสได้มอบความตายคืนให้กับคนที่กระทำนาง ‘เฟิ่งหรั่น’ คือบุตรีของอัครมหาเสนาบดี นางผู้เปี่ยมด้วยรูปโฉมอันงดงามและอำนาจบารมีของบิดา วาสนาชีวิตที่เคยเป็นถึงพระชายาอ๋อง บัดนี้กลับตกต่ำกลายเป็นนักโทษประหารความผิดไม่น่าให้อภัย ดวงตางดงามค่อยๆ ลืมตาขึ้นทีละนิดมองสภาพแวดล้อมรายรอบที่เต็มไปด้วยผู้คนมากมายที่รุมสาปแช่งนาง นางกระตุกยิ้มมุมปากอย่างเย้ยหยันในโชคชะตาของตนเอง นางไม่เคยคาดคิดมาก่อนเลยว่าวาสนาที่ตนเองเคยเป็นชายาของอ๋องเก้าบุรุษที่ยิ่งใหญ่ บัดนี้จะตกต่ำเป็นถึงนักโทษประหาร คิดแล้วช่างน่าเจ็บปวดใจยิ่งนัก

  • Phoenix's Rebirth หงส์หวนรัก    18 - ทัณฑ์หลิงฉือ

    ลู่เฟยหลงลอบเดินออกมาทางด้านหลังตำหนัก ซึ่งเป็นช่องทางลับที่เขาแอบสร้างเอาไว้นานแล้ว ไม่คาดคิดว่าวันนี้จะได้ใช้ช่องทางลับนี้ ช่องทางลับที่แม้แต่ฝ่าบาทกับพระมารดาก็ไม่ทรงทราบ ซ่งหลานบอกเขาว่าเฟิ่งหรั่นถูกนำตัวไปขังในคุกใต้ดินที่มืดที่สุดของคุกหลวง คุกที่ไม่มีแม้กระทั่งแสงเดือนหรือแสงตะวันสาดส่อง ชายหนุ่มลอบย่องเข้ามาเงียบๆ วรยุทธ์ของเขานั้นสูงส่งเกินกว่าที่ทหารยามจะคาดเดาได้ เขานำห่อผ้าห่มผืนใหญ่มาด้วยเพื่อหวังจะโอบนางให้คลายความหนาวแล้วพาหนีออกจากคุกแห่งนี้ แต่ทว่าเขาต้องหยุดฝีเท้าเมื่อเจอกับสตรีอีกหนึ่งนางกำลังตรงไปที่ห้องขังเฟิ่งหรั่น เฟิ่งอี้! ชายหนุ่มกำหมัดแน่นเมื่อเห็นสตรีตัวต้นเหตุของเรื่องราวทั้งหมด กำลังเดินอย่างแช่มช้ามิรู้ร้อนรู้หนาวอันใด กริยาท่าทางราวกับคนใจเย็นสุขุม ทั้งๆ ที่บิดาและมารดาของนางกำลังร้อนรนเพราะหาทางช่วยเฟิ่งหรั่น แต่นางคนนี้กลับมีท่าทีราวกับเบิกบานใจ

  • Phoenix's Rebirth หงส์หวนรัก    17 - ดั่งดวงใจ

    เฟิ่งหรั่นถูกคุมขังอยู่ในตำหนักหลายวัน ขณะที่ลู่อ๋องไม่สนใจความเป็นความตายของนาง เขากลับแต่งตั้งเฟิ่งอี้น้องสาวนางเป็นพระชายารอง ให้ดูแลงานทุกอย่างภายในวังอ๋องแทนนางที่ถูกคุมขังในตำหนัก แต่นับว่าสวรรค์ยังมีเมตตากับนางอยู่บ้าง กงกงของวังหาได้เชื่อว่านางเป็นคนทรยศ จึงคอยลอบส่งข่าวสารผ่านจิงเจียวถึงแผนการของลู่อ๋อง “เจ้าคนชั่ว!” เฟิ่งหรั่นเปล่งวาจาด้วยบันดาลโทสะ ฝ่ามือบางที่เคยขาวผ่อง ตอนนี้กลับชุ่มโชกไปด้วยเลือดเนื่องจากนางฟาดฝ่ามือของตนเองเข้ากับผนังกำแพงโดยไม่นึกถึงความเจ็บปวดเลยสักนิด “พระชายาเพคะ” จิงเจียวมองนายของตนด้วยความสงสาร ทั้งหมดนั่นคือการใส่ร้ายกันชัดๆ เจ้านายของนางไม่เคยกระทำตนออกนอกลู่นอกทาง ทุกอย่างเป็นแผนการใส่ร้ายทั้งสิ้น ลู่อ๋องใส่ร้ายเจ้านายของนางจนต้องโดนลงทัณฑ์เช่นนี้! “ข้าแต่งงานกับเขาก็เพื่อหวังช่วยเสริมฐานอำนาจให้เ

  • Phoenix's Rebirth หงส์หวนรัก    16 - แผนใส่ร้าย

    ในขณะที่ตำหนักหนึ่งกำลังบรรเลงบทเพลงรักอย่างเร่าร้อน ทางด้านตำหนักของเฟิ่งหรั่นกลับเงียบเหงายิ่งนัก หญิงสาวตื่นขึ้นมาในยามดึก เนื่องด้วยเพลานี้นางพักผ่อนจนพิษไข้สร่างลงไปมาก ด้านข้างกันนั้นมีจิงเจียวคอยช่วยตระเตรียมห่อยาและคอยเช็ดตัวให้กับนาง เฟิ่งหรั่นขยี้ตามองสรรพสิ่งรอบๆ กาย นางกลับมาที่ตำหนักตั้งแต่เมื่อไหร่! ครั้งล่าสุดนางจำได้ว่าเฟิ่งอี้พานางไปเดินเล่นแถวๆ เขตตำหนักบูรพา จากนั้นนางก็เมามายจนสติเลือนรางจดจำสิ่งใดไม่ค่อยได้ นางจำได้แค่เพียงว่ากลิ่นกายของบุรุษที่มิใช่ลู่อ๋อง และเสียงทะเลาะกันในขณะนั้นคล้ายกับว่าเป็นห้วงความฝัน แต่เป็นห้วงฝันที่เหมือนจริงเสียเหลือเกิน “พระชายา ทรงตื่นบรรทมแล้วหรือเพคะ ทรงนอนต่ออีกสักหน่อยเถิด อีกหลายชั่วยามเพคะกว่าฟ้าจะสาง” จิงเจียวเอ่ยด้วยความเป็นห่วง ตอนนี้พระชายาของนางกำลังตกที่นั่งลำบาก นางไม่รู้ว่าควรจะเอ่ยปลอบใจอย่างไรดี “ข้าจะออกไปสูดอากาศบริสุทธิ์สักหน่อย” เฟิ่งหรั่นกำลังจะก้าวขาลงจากเตียงแต่จิงเจียวปรามเอาไว้ก่อน “อย่าเพิ่งเลยเพคะพระชายา ตอนนี้ท่านอ๋องทรงมีคำสั่งกักบริเวณพระองค์เอา

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status