แสงสว่างเจิดจ้าสาดเข้าหาหลังเธอเปิดประตู..และสิ่งที่ทำให้หญิงสาวช็อก..คือการที่เห็นผู้คนแต่งตัวไม่ต่างจากคนในบ้าน..บ้านเรือนยังเป็นตึกแถวโบราณมีรูปทรงผสมยุโรป ประดับด้วยลวดลายปูนปั้น..ราวกับเดินหลุดเข้ามาเที่ยวในอีกยุคสมัยหนึ่ง..ร่างเพรียวระหงรีบวิ่งออกจากตรอกหวังจะเจอถนนใหญ่..และใช่เธอเจอมัน..แต่ถนนใหญ่ที่เธอเห็น ก็ช่างต่างจากที่..ที่เธอมา..นอกจากผู้คนที่แตกต่าง..ยังมีรถจิ๊บโบราณ..รถเก๋งวินเทจ แถมยังมีรถรางที่ไม่มีในยุคสมัยของเธอ!!!
'บ้าไปแล้ว..นี้มันเรื่องบ้าอะไร'
ดวงตาคู่สวยเริ่มตระหนก..ชีวิตนี้..เธอมั่นใจว่าสามารถจัดการ และควบคุมทุกอย่างได้..แต่ ณ เวลานี้ สิ่งที่เธอคิดไว้..มันบอกว่าเธอคิดผิด..โดยเฉพาะ 'ความกลัว' ที่กำลังวิ่งเข้าจู่โจม..กลัวกับสิ่งที่ไม่รู้..ไม่คุ้นเคย
"จินเยว่! เธอเป็นบ้าไปแล้วเหรอ"เสียงเข้มขู่ฟ่อ มือหนาใหญ่คว้าแขนคนตัวเล็กให้หันมาประเชิญหน้าเตรียมจะดุด่าชุดใหญ่..แต่พอเห็นสีหน้าซีดเซียวที่แม้แต่แป้งหนาเต๊อะที่คนเป็นเมียนิยมชอบโบกไว้ยังปิดไม่มิด...หลี่ลี่ซาน..ผู้เป็นหมอนิ่วหน้าทันที..ตอนที่บุพการีให้คนไปตามเขานั่น..ข่าวที่ได้รับมาคือเธอตกบันได หัวกระแทกพื้น..ทั้งยังนอนสลบไม่ยอมฟื้น..เขาเองเกือบจะไล่ให้คนไปบอกที่บ้านให้พาเธอมาโรงพยาบาล..ไม่ใช่มาตามเขา..แต่เห็นแกที่เขาเองก็ออกเวรพอดี..จึงจำใจยอมกลับ
"ที่นี้ที่ไหน"เสียงแหบแห้งของคนตัวเล็กแผ่วเบา ชีพจรที่ข้อมือเธอเต้นไม่หยุด..เป็นครั้งแรกที่เขาสัมผัสได้ว่าเมียตัวร้าย..'กำลังกลัว'
"กลับบ้าน"
บ้านที่ชายหนุ่มข้างกายพูดถึง..กับไม่ใช่บ้านที่เธอฟื้น..ร่างสูงโปร่งพาเธอลัดเลาะมาอีกฟากหนึ่งของตรอก..มันเป็นตึกแถวโบราณติดแม่น้ำสายใหญ่ของประเทศ คนฝั่งนี้พลุ่กพล่านยิ่งกว่าฝั่งถนน..มีจับกังขนข้าวของขึ้นเรือ..แม่น้ำสายที่คุ้นตา..ส่งผลให้คนตัวเล็กที่พยายามตั้งสติมาตลอดทาง..เริ่มมั่นใจ..ที่นี้คือประเทศที่เธอเคยอยู่แน่นอน!!
กว่าจะทันได้คิดอะไรเพิ่ม..ไอ้ต้าวอดีตคู่หมั้นที่เคยคลั่งรักเธอ..แทบจะโยนเธอเข้าห้อง ใบหน้าหล่อเหลาเมินเฉย..ก่อนที่จะเลือกนั่งเก้าอี้ไม้จีนที่อยู่ริมห้อง ทั้งยังรินน้ำชาขึ้นจิบ..ดวงตาสองชั้นหลบในเจือดุ..สายตาที่เขาใช้ คือสายตาที่ชายหนุ่มเคยมองสาวๆ ที่ตามวอแว..แต่ วันนี้เขาเลือกจะใช้มันกับเธอ
ดารินเองพยายามวิเคราะห์สถานการณ์..ข้อแรกที่เธอรู้..ช่วงเวลาที่เธออยู่คือคนละยุคสมัยกับในอดีต ข้อที่สองในยุคปัจจุบันมีความเป็นไปได้ว่าเธอได้ 'ตายไปแล้ว' แค่คิดว่าจะไม่ได้เจอป๊ะป๋า ไม่ได้เจอม๊ะม๊า ไม่ได้เจอน้องๆ ที่น่ารัก..ดวงตาคู่สวยเองก็เริ่มชื้น และข้อที่สาม..ผู้ชายตรงหน้าเกลียดเธอ!!
"ว่ามา..เธอต้องการอะไร"เสียงเข้มเต็มไปด้วยความระอาตั้งคำถามขึ้นก่อน
"ฉันต้องการ..กลับบ้าน"
"ก็นี้ไงบ้านเธอ"
"..."
"เหอะ หรือเธอจะกลับไปอยู่บ้านครอบครัวตระกูลตั้ง?"
"..."
"ถ้าเป็นแบบนั้นจริง..จะวางแผนมาแต่งงานกับฉันทำไม?"น้ำเสียงหงุดหงิดของคนตัวโต ทำหญิงสาวอึ้ง..ริมฝึปากรูปกระจับสีสวยสั่นระริก ก่อนจะกัดฟันถาม
"เราแต่งงานกันแล้ว?"
"ก็ใช่นะซิ..อย่าบอกนะ ว่าหัวกระแทกพื้นจำอะไรไม่ได้?"คนเป็นหมอเริ่มสังเกตอาการ..เธอดูผิดแปลกจากปกติอย่างเห็นได้ชัด..โดยเฉพาะดวงตาคู่สวยที่แต่เดิมเคยมองเขาอย่างรักใคร่หลงใหล..มาวันนี้กับดูว่างเปล่า..ชวนให้ใจวูบโหวง
"อื่ม..ขอโทษนะคะ ตั้งแต่ตื่นมาฉันจำอะไรไม่ได้จริงๆ"เสียงคนโกหกแถตามๆ น้ำไป..เพราะเวลานี้เธอจำเหตุการณ์ของร่างเดิมไม่ได้จริงๆ
"งั้นก็ไปโรงพยาบาลกัน"
"ไม่..ฉันไม่ไป ฉันไม่ชอบโดนฉีดยา..เอาแบบนี้ได้มั้ย นายแค่ตอบคำถามฉันมา..เดี๋ยวฉันก็จำได้เองแหละ"คนตัวเล็กกว่าส่ายหน้าหวือ..ตั้งแต่เกิดอุบัติเหตุรถชนช่วงมัธยมต้น..เธอเกลียดโรงพยาบาลเป็นที่สุด ให้เธอไปนอนโรงพยาบาล..ฆ่าเธอตรงนี้ให้รู้แล้วรู้รอดยังดีซะกว่า
และดูเหมือนคนอ้างตัวว่าเป็นสามีจะไม่พอใจกับคำตอบนัก
"นาย? ฉันอายุมากกว่าเธอหลายปี..ไม่รวมกับที่ฉันเป็นสามีของเธออีก นี้คือสิ่งที่คนในตระกูลเธอสั่งสอนมาหรือ?"คำพูดของอดีตคู่หมั้น ส่งผลให้ดารินสะอึก..ใบหน้านวลสวยแดงม้าน..ไอ้ต้าวอดีตคู่หมั้น รวมถึงสถานะเพื่อนสนิท..แอบด่าเธอทางอ้อม
ดวงตาคมเต็มไปด้วยความระอา..ยิ่งเห็นภรรยาตัวน้อยจอมแสบเงียบไป..เขาเองก็คร้านจะพูดด้วย..ร่างสูงโปร่งลุกขึ้นยืน เตรียมจะขึ้นห้องนอนชั้นสอง
"นั่นคุณกำลังจะไปไหน"คนตัวเล็กรีบทักทันที
"ร้อน..จะไปอาบน้ำ"
"..."
"เห้อ..เฮียพึ่งออกเวร ไม่ได้นอนมาทั้งคืน..ถ้าเธอหิวก็ออกไปกินข้างนอกแทนก็แล้วกัน..เมื่อคืนเฮียเอาเงินไว้ที่เดิมแล้ว"น้ำเสียงคนพูดติดจะล้า..มีเมียทั้งคน..ทั้งไม่ใช่คนที่ตนรัก..งานบ้านงานเรือนก็ทำไม่เป็น..กับข้าวกับปลาก็หากินเองไม่ได้
ทุกวันคนในบ้านมักไปฝากท้องกับบ้านแม่ของเขาแทบทุกมื้อ..คงไม่แปลกที่ม๊าจะไม่พอใจที่ได้สะใภ้หยิบโหย่งมาเป็นลูกสะใภ้ ดารินเองก็เงียบไป เพราะจากที่ฟังสามีป้ายแดงที่เธอไม่รู้ว่าแต่งงานกันมานานแล้วหรือยัง..พล่าม ร่างปัจจุบันของเธอดูทรงแล้วเหมือนจะเป็นผู้หญิงไม่ได้เรื่องเสียเหลือเกิน
หลังจากไอ้ต้าวสามีขึ้นบ้านไปชั้นบน...ดวงตาคู่สวยมีเสน่ห์ทำได้เพียงกวาดตามองรอบๆ ถ้าดูเพียงภายนอกห้องหลังนี้ดูคับแคบไม่น้อย แต่พอเข้ามาดูด้านใน..จึงได้รู้ว่า 'บ้าน' ที่เธอต้องอยู่ชั่วคราวมีขนาดกว้างไม่น้อย มันเป็นห้องแถวสองห้องต่อกัน..เพดานห้องสูงรับลม เพียงแต่เวลานี้บ้านทั้งหลังมีเพียงแสงไฟสีขาวด้านข้างผนังเพียงเท่านั้น พัดลมกลางบ้านขนาดใหญ่หมุนพัดไปมา
หญิงสาวเม้มปากแน่น..ถ้าเป็นไปได้เธอไม่ชอบอากาศร้อน เพราะมันเหนอะหนะ ร่างบอบบางจัดแจงเปิดหน้าต่างบ้านทุกบานออก เพื่อรับแสงและลม ความเหนอะหนะบนใบหน้านวล ส่งผลให้เธอลูบมันเบาๆ ก่อนที่แป้งหนาเต๊อะจะติดมือออกมา..ดวงตาคู่สวยเหลียวซ้ายและขวาเพื่อหาห้องน้ำด้านล่าง..บางทีร่างที่เธออยู่อาจไม่ใช่ตัวเธอ..แต่เป็นใครก็ไม่รู้ที่พึ่งจากไป
คิดได้ดังนั้น..ความไม่สบายใจบางอย่างตีตื้น ก่อนจะเปิดไฟหน้าห้องน้ำขนาดเล็ก..ภาพในกระจกทำหญิงสาวผงะ..ในนั้นมีผู้หญิงที่โครงหน้าคล้ายกับเธอก็จริง..แต่วิธีการแต่งหน้าของคนในกระจก มันบอกกับเธอว่า..หญิงสาวแต่งหน้าไม่เป็น!!
แป้งผสมรองพื้นหนาเต๊อะถูกโบ๊ะหลายรอบจนหน้าดูลอย คิ้วที่ควรได้รูปถูกวาดด้วยดินสอเขียนคิ้วให้เป็นรูปทรงเรียวเล็กตามสมัยนิยม..ดวงตาคู่สวยพยายามแต่งให้ดูซึ้ง แต่กับดูเลอะเทอะ.. ทั้งยังมีแผงขนตาปลอมหนาเต๊อะซ้อนกันอีกสองชั้น..ทั้งที่แต่เดิมเธอมั่นใจ..ขนตาของเธอทั้งหนาและยาว สรุปจินเยว่ที่เธอมาสิงอยู่สภาพช่างดูไม่ได้เอาเสียเลย!!!
มือได้รูปสวยรีบตักน้ำในถังน้ำ...ล้างทุกอย่างที่อยู่บนหน้าออกจนเกลี้ยง..จนเห็นผิวสีขาวอมชมพูขึ้นสีแดงระเรื่อเพราะถูกขัดอย่างแรง..ดวงตาคู่เดิม..จมูกขึ้นเป็นสันสวย และปากรูปกระจับสีแดงจัดตามธรรมชาติ..โดยเฉพาะขี้แมลงวันเม็ดเล็กๆ ใต้ตาซ้าย..ใบหน้าที่ไร้เครื่องสำอางที่โชว์ตรงหน้า..สวย..หวาน..คมจับใจ..มันคือใบหน้าของเธอนั่นเอง
ใจของคนผิดยุคสมัยเริ่มชื้น..อย่างน้อยนอกจากไอ้ต้าวสามีตัวโตที่ทำสีหน้าเหม็นเบื่อเธอ ยังคงมีตัวเธอที่รูปร่างหน้าตาไม่ต่างจากตัวเธอในอีกยุคสมัยหนึ่ง..อย่างน้อย..ความคุ้นชินของคน..มันก็ทำให้ชีวิตคนเรามีหลักยึดได้ไม่มากก็น้อย
ณ มหาวิทยาลัย J ชื่อดังระดับต้นๆ ของประเทศหลังตึกคณะบริหารธุรกิจ...หญิงสาวในชุดนักศึกษากำลังยืนรอชายหนุ่มทายาทของตระกูลดังอย่างใจจดใจจ่อ...ท่าทางกระสับกระส่ายพาลให้เพื่อนสาวที่มาด้วยสองคนหัวเราะคึกคัก "ยัยซีลีนเธอจะตื่นเต้นอะไรขนาดนั้นยะ ทำเหมือนไม่เคยอ่อยผู้ไปได้"เพื่อนที่มาด้วยกันแซวเมื่อเห็นดาวคณะนิเทศกระสับกระส่ายใบหน้าสวยเฉี่ยวตามสมัยนิยมถูกแต่งแต้มเป๊ะปัง จนหนุ่มๆ พากันเหลียวหลังมองด้วยความชื่นชม...นอกจากหน้าตาที่ดีเลิศ โปรไฟล์เจ้าหล่อนก็แสนจะไม่ธรรมดา..เพราะเป็นถึงลูกสาวบริษัทรับเหมารายใหญ่ระดับประเทศ คนที่มาจีบมีตั้งแต่ลูกเศรษฐีด้วยกัน ไปจนนักธุรกิจหนุ่มดาวรุ่ง...แต่ชายที่หญิงสาวตกหลุมรักดันเป็นชายหนุ่มสุดหล่อแสนเย็นชาของคณะบริหาร"คีรีมาทางนั้นแล้วยัยซีลีน"เพื่อนอีกคนรีบสะกิด เมื่อเห็นชายหนุ่มรูปร่างสูงโปร่ง ใบหน้าราวกับหลุดมาจากนิยายจีน..ที่ตอนนี้มีสีหน้าเรียบเฉยติดจะเย็นชาเล็กน้อย..ยิ่งสายตาคมกริบที่กวาดมองยิ่งพาให้หัวใจไฮโซสาวหวั่นไหวร่างอวบอิ่มรีบเดินเข้าไปตรงหน้าตามแรงผลักของคนเป็นเพื่อน"สวัสดีคีรี"เสียงหวานเอ่ยถามขึ้น พร้อมช้อนดวงตากลมโตขึ้นมอง...ชายหนุ่มเพียงหรี่ต
ย้อนไปเมื่อสิบปีก่อนณ MMMO international schoolเด็กหนุ่มชั้นมัธยมปีศึกษาปีที่สี่ผู้มีฐานะเป็นหลานของเจ้าของโรงเรียนเอกชนอันดับหนึ่งของประเทศ..ซึ่งเวลานี้กำลังนั่งอารมณ์ไม่ดีอยู่บริเวณหน้าโถงประชุมของโรงเรียน ใบหน้าหล่อเหลาเริ่มบูดบึ้ง..นัยน์ตาคมกริบกวาดมองหมู่คนที่ผ่านไปผ่านมา..คล้ายกับกำลังใครสักคนอยู่...รุ่นพี่รุ่นน้องผู้หญิงเมื่อสบสายตาเข้าก็แทบเป็นลม..บรรยากาศเย็นชาน่าหลงใหลไม่ได้ทำให้ความนิยมในตัวเด็กหนุ่มน้อยลงเลยไม่ถ้าในโรงเรียนหรือมหาลัยวิทยาลัยมีเดือนคณะ นายคีรี สิริวงษ์ชัย ย่อมเหนือเมนขึ้นไปอีกขั้นแน่ละ ทั้งรูปร่างหน้าตา..รวมถึงฐานะวงศ์ตระกูลที่จัดอยู่ในหนึ่งกลุ่มลูกหลานผู้มีอิทธิพลระดับประเทศ...รวมถึงผลการเรียนอันดับหนึ่งของสายชั้น เมื่อขึ้นเวทีร้องเพลงเสียงก็เพราะเป็นหนักหนา..ต้องเรียกว่า hot ยิ่งกว่า hotดังนั้นตั้งแต่เกิดมาใครๆ ล้วนต่างประจบสอพลอ เชิดชูบูชา ถ้าจะมีคนหนึ่งที่ปฏิเสธมัน ก็คงไม่พ้นนางสาวดาริน กิตติวรชัยกุล เจ้าหล่อนอย่าว่าแต่ประจบเอาใจเขาเลย วันๆ มีแต่ไล่เขาไปให้พ้นๆ หน้าอีกทั้งวันนี้ยัยตัวร้ายยังหลอกให้เขามารอหน้าโถงประชุมใหญ่ได้ครึ่งค่อนชั่วโมง ทั้งๆ
รถสปอร์ตคันหรูยังวิ่งไปตามทางที่คุ้นเคย..เพียงแต่รอบนี้หญิงสาวสายซิ่งกับขับรถด้วยความไวที่ช้าลงกว่าปกติ หลังคารถเปิดประทุนถูกเปิดออก..สายลมยามดึกปะทะหน้าพาให้อารมณ์ดีไม่น้อย..ผมดำสลวยที่เริ่มยาวถูกมัดรวบง่ายๆ ไว้ด้านหลัง น่าแปลกปกติอดีตคู่หมั้นคนสวยจะตัดมันเสียสั้นกุด เพราะเจ้าหล่อนติดนิสัยขี้รำคาญจวบจนรถหรูจอดสนิทตรงลานจอดรถสะพานขึ้น p มันคือสถานที่...ที่หญิงสาวมาทุกครั้งเวลาไม่สบายใจ หรือเวลาที่เขารู้สึกแย่..เธอจะยืนอยู่บนข้างๆ หันมามองหน้าเขา พร้อมเอียงหัวรับฟังเล็กน้อย..แล้วก็ปล่อยเขาพูดไป..แม้จะไม่มีคำแนะนำดีๆ แต่แค่เธอยืนอยู่ตรงนั้น แค่รับฟัง..มันก็ทำให้เขามีความสุข เวลานี้ก็เช่นกัน..ร่างเพรียวระหงยังยืนอยู่ตรงนั้นเงียบ ๆ ดวงตาคู่สวยที่เขานึกรักเหม่อมองออกไปยังแม่น้ำสายใหญ่ประจำประเทศ ใบหน้าด้านข้างของเธอยังงดงามราวกับรูปสลัก..ริมฝีปากที่ถูกเคลือบด้วยสีแดงจัดเหมือนสีเสื้อผยอเล็กน้อย..ก่อนที่เธอจะตัดสินใจผินตากลับมามองเขา..เราต่างก็รู้ถึงนัยยะเดียวกัน..เขารู้ว่าเธอจดจำได้..และอะไรบางอย่างในดวงตาเขาก็บ่งบอกว่าเขาจดจำได้เช่นกัน“นายคีรี”“ว่ายังไงนางสาวดาริน”คำเรียกขานที่ชอบใช้แท
"หมายความว่ายังไงคะ!!!"คำตอบของคนเป็นพ่อ ส่งผลให้ดวงตาคู่สวยเบิกกว้างด้วยความตกใจ...หัวใจดวงน้อยเต้นช้าลง..ความรู้สึกสูญเสียบางอย่างเกิดขึ้นโดยไม่รู้ตัว"ป๊ะป๋าก็หมายความตามนั้น ป๊ะป๋าเป็นคนขอถอนหมั้นเอง""อ้าว ได้ยังไงคะ แล้วแบบนี้นายคีรีไม่เสียใจแย่เหรอ""ถ้านายคีรีจะเสียใจก็เป็นปัญหาของนายคีรีซิ เกี่ยวอะไรกับบ้านเราด้วยล่ะแค่วันนั้นขับรถพาอายไปลงเขา...ป๋าก็แทบจะฆ่ามันทิ้งแล้ว..ถอนหมั้นๆ ไปก็ดีแล้ว อีกอย่างหนูก็ไม่เคยชอบพันธะนี้อยู่แล้วนี่""ป๊ะป๋า!!! มันไม่ใช่ความผิดของนายคีรี วันนั้นมันเป็นอุบัติเหตุ..นายคีรีเขาปกป้องอายด้วยซ้ำ""ไม่รู้ ถอนหมั้นแล้วก็คือถอนหมั้น อย่าไปพูดถึงผู้ชายคนนั้นอีกเลย"คนเป็นพ่อผู้หวงลูกสาวรีบตัดจบอารมณ์ดี ก่อนจะหยิบมือถือมาไล่อ่านข่าว ไม่สังเกตสีหน้าซีดเซียวของคนเป็นลูกแม้แต่นิด'เผด็จการชะมัด..เผด็จการเหมือนใครกันนะ ก็เหมือนตัวเธอนะซิ!!'เมื่อออกจากโรงพยาบาลได้สองอาทิตย์คนป่วยเริ่มอาการดีขึ้น...อีกทั้งได้สรุปในใจอีกหลายอย่าง ดังนั้นไอ้คนที่ไม่ชอบออกงานเลี้ยงสังคมหรูหราก็กลับมาออก...เพื่อจะเห็นหน้าใครบางคนและยังสามารถใช้เหตุผลประมาณว่า 'บังเอิญเจอกัน เลยไ
เมื่อคนเป็นพี่กลับบ้านมาแล้วพบน้องชายทำหน้าเครียด ในมือของเขามีสมุดเบิกถอนสมุนไพร ส่งผลให้คนมีชนักติดหลังเสียววาบในใจ...ดวงตาคมกริบหรี่มอง พร้อมโยนสมุดในมือลงบนโต๊ะ"มีอะไรจะแก้ตัวมั้ย?""...""ทำไมเจ้ทำแบบนี้ เจ้ทำมันลงไปได้ยังไง""ลื้อมันบ้าอาซาน อีฮวงนั้งไม่สมควรให้กำเนิดลูกหลานตระกูลหลี่!!""คนที่ไม่สมควรเกิดมาเป็นลูกหลานตระกูลหลี่คือเจ้ต่างหาก ส่วนจินจินเธอดีเกินกว่าผู้หญิงหลงท่ก สันดานเลวอย่างเจ้มาก""อาซาน นี้ลื้อ นี้ลื้อด่าอั๊ว""เออ อั๊วด่าเจ้นี้แหละ เรื่องนี้มันไม่จบแน่ เจ้เตรียมใจไว้ได้เลย"คนเป็นน้องพูดพร้อมกับเก็บสมุดเบิกจ่ายสมุนไพรติดมือไปด้วย เล่นเอาพี่สาวเหงื่อตก แต่หล่อนรู้น้องชายนั้นแสนดีขี้ใจอ่อนมากแค่ไหน...อีกอย่างจินเยว่ก็เสียไปหลายปีแล้ว...ไหนเลยจะมาเอาผิดเธอได้แต่ไอ้คนใจดีมาตลอดชีวิต กับเลือกนำเรื่องไปฟ้องอาปามู่เฉิน กับอาม๊าด้วยรู้ว่าท่านทั้งสองเป็นคนยุติธรรม...เมื่อบุพการีรับรู้เรื่องทุกอย่างก็ถึงกับตกใจ...เพราะสิ่งที่ลูกสาวคนเดียวกระทำเป็นสิ่งที่เลวร้ายมาก มันไม่ต่างทำจากการทำร้ายสายเลือดครอบครัวตระกูลหลี่ดังนั้นตอนหลี่หนิงเกอเดินเข้าห้องทำงานของอาปามู่เฉิน
ระหว่างที่ชายหนุ่มลงมือทำความสะอาดหลุมศพของภรรยา...หลี่มู่เฉินที่เดาไว้แล้วว่าลูกชายจะมาที่นี้ ก็เดินเข้ามาหาทันที หลังจากที่ยัยหนูจินเยว่เสียไปได้สองเดือน..ลูกชายของเขามักมาทำความสะอาด เอาดอกไม้มาวาง “อาซาน”“อ้าว อาปา มาได้ยังไงครับ”เสียงแห้งถามกลับ พร้อมส่งรอยยิ้มเศร้าหมองไปให้..ใบหน้าภายใต้หมวกสานกันแดด แดงขึ้นเล็กน้อย เนื่องจากอยู่ด้านนอกเป็นระยะเวลานาน“อื่ม อาปามีเรื่องจะคุยกับลื้อ”หลังจบคำผู้ชายสองวัยจึงเดินไปนั่งใต้ร่มไม้ที่อยู่ไม่ไกลจากหลุมฝังศพจินเยว่นัก“ลื้อแน่ใจแล้วรึ ที่จะลาออกจากโรงพยาบาล”“ครับ”“เห้อ อาซาน..ฟังอาปานะ จินจินอีตายไปแล้ว แต่ลื้อยังมีชีวิตอยู่”“อื่ม ผมรู้..ผมเองก็กำลังใช้ชีวิตอยู่นี้ไง”“แบบที่ลื้อทำอยู่ เขาไม่ได้เรียกว่าการใช้ชีวิตนะอาซาน”เสียงอาปาอ่อนล้า มือหนาหยาบตบหลังลูกชายเบาๆ เพื่อปลอบประโลม“อาปารู้ว่าลื้อรักจินจินมาก”“...”“ไม่งั้นอาปาคงไม่หมั้นหมายลื้อให้จินจินหรอก”“ทำไม...อาปารู้ละครับว่าผมรักจินจิน”น้ำเสียงลูกชายโตเริ่มพร่า..เพราะตัวเขาเองยังไม่รู้ตัวเลยว่ารักเธอตั้งแต่เมื่อไร“จำได้มั้ย ว่าปีหลังๆ มานี้ ลื้อชอบบ่นว่าน้อง..แต่พอกลับมาทีไ