พอโดนดุคนตัวเล็กกว่าเพียงยักไหล่ให้ด้วยความเคยชิน..เล่นเอาคุณสามีหน้าบูดกับกริยาก๋ากั่นของภรรยาตัวร้าย ร่างสูงโปร่งเลือกนั่งโต๊ะตัวหลังสุด..ใบหน้าหล่อเหลาราวกับหยกเนื้อดีเปลี่ยนมาเป็นเรียบเฉย
“อาซาน..เอาเหมือนเดิมใช่มั้ย? ต้มขาไก่น้ำแดง หมูสับผัดหนำเลี๊ยบ ผัดกุ้ยช่ายขาวหมูกรอบ..ข้าวต้มสองชาม?”
"ครับ...เฮีย"เสียงทุ้มต่ำตอบ...ร่างสูงโปร่งเลือกนั่งเก้าอี้ไม้กลม..เวลานี้พระอาทิตย์เริ่มลาลับฟ้า..ดารินทรุดตัวนั่งฝั่งตรงกันข้าม...ใจเต้นไม่เป็นจังหวะ..เธอสัมผัสถึงความสุขส่งผ่านจากร่างเดิม...ก่อนที่จะทันได้คิดอะไรปากก็เผลอส่งคำถามออกไปจากความทรงจำจางๆ ของร่างเดิม
"ไม่สั่งต้มจับฉ่ายของโปรดของเฮียเหรอ?"มือเรียวสวยของคุณหมอหนุ่มชะงักจากเทน้ำชาใส่ถ้วยเล็ก...ดวงตาสองชั้นหลบในหลุบลง..น้ำเสียงที่ตอบไปติดจะเย็นชา
"ไม่เป็นไร..เฮียกินอะไรก็ได้ สั่งเยอะเปลืองเงิน"ความหวานประแหล่มเข้าจู่โจม..ดารินรู้ความรู้สึกที่เป็นอยู่มาจากเจ้าของร่างเดิม..ริมฝีปากรูปกระจับเม้มแน่น..เธอหาใช่ผู้หญิงที่พึ่งพิงแต่ผู้ชาย..แถมให้เขาเลี้ยงข้าว..แต่มีเพียงเมนูที่เธอชอบก็กระไรอยู่
ร่างเพรียวระหงตัดสินใจเดินไปหาคุณลุงเจ้าของร้าน
"เฮียคะ จินจินขอเปลี่ยนจากผัดกุ้ยช่ายขาวหมูกรอบ เป็นต้มจับฉ่ายแทนได้มั้ยคะ"น้ำเสียงสุภาพ..มาพร้อมรอยยิ้มหวานจับใจ..ดวงตาได้รูปพราวระยับ..เล่นเอาคนขายที่เห็นกันตั้งแต่เล็ก..เผลอทำทัพพีในมือตก..นึกแปลกใจ..หญิงสาวสวยขนาดนี้เลยเหรอ?
"ได้ซิๆ เดี๋ยวเฮียเปลี่ยนให้..ลื้อไปนั่งรอเลย"น้ำเสียงตะกุกตะกักของคนสูงวัย..ได้รอยยิ้มหวานกับคำขอบคุณเป็นรางวัล
ดวงตาคมกริบของคนตัวโตมองตามด้วยสายตาที่อ่านไม่ออก..มีเพียงรอยยิ้มหยามหยัน..ที่เธอเห็นแล้วขัดใจไปบ้าง
ตอนที่อาหารมาเสิร์ฟที่โต๊ะ..ภาพความทรงจำของร่างเดิมเริ่มไหลทะลักเข้ามา..ร้านนี้เดิมเป็นร้านที่คุณสามีชอบพามาทาน..และเป็นร้านเดียวที่เขาพามาเดทตั้งแต่แต่งงานกันมา...ส่วนหนึ่งเพราะเขาทำงานยุ่งมาก..อดีตเธอเคยวีนเหวี่ยงเขา..ข้อหาที่เขาไม่พาไปกินร้านอาหารเหลาแพงๆ ชายหนุ่มจะใช้วิธีเงียบ หรือไม่ก็เดินหนี ตอนหลังถึงขนาดไม่ออกมากินข้าวนอกบ้านเป็นเพื่อนเธอ..และแทบจะหลับนอนอยู่ในห้องพักโรงพยาบาล
กว่าเธอจะรู้ตัว..ว่าสูญเสียความน่าเอ็นดูที่พอจะมีบ้างในสายตาของเขา..ความสัมพันธ์ของสามีภรรยาก็เริ่มห่างออกไปแล้ว
“มัวแต่นั่งเหม่อ ไม่หิวแล้วหรือยังไง?”คนอายุมากกว่าถอนหายใจ ก่อนจะคีบขาไก่น้ำแดงของโปรดไปให้..ด้วยคิดว่าคนเป็นภรรยาคงเรียกร้องความใส่ใจเหมือนเช่นทุกครั้ง..ดวงตาคู่สวยมองกับข้าวบนชามข้าวต้ม..ทั้งยังพึมพำขอบคุณ
บรรยากาศมื้อเย็นเงียบลงเสียอย่างงั้น..แต่สำหรับลี่ซานแล้วเขาพอใจมาก อย่างน้อยภรรยาตัวแสบไม่ได้ชวนทะเลาะอย่างที่แล้วๆ มา หลังจบมื้ออาหาร สามีตัวโตก็เดินนำเธอกลับบ้านทางเดิม สองข้างทางบ้านเรือนเริ่มทยอยปิดบ้าน ช่างต่างจากยุคสมัยที่เธอจากมาเสียเหลือเกิน
"กุจแจบ้านละ"คุณหมอหนุ่มหันมาถาม ภรรยาสาวส่ายหน้าหวือ เขาถอนหายใจเล็กน้อย ก่อนจะไขกุจแจเข้าบ้าน ดารินเดินตามหน้ามุ่ยทันที เวลานี้บ้านทั้งหลังมีเพียงแสงไฟสลัว ลี่ซานเดินไปที่โต๊ะไม้จีนสลักลายหงส์ ลิ้นชักด้านบนมีกล่องขนาดไม่ใหญ่มาก เขาเลือกหยิบกุจแจบ้านสำรองให้คุณภรรยา
"อย่าทำหายอีกละ"คนตัวโตย้ำคำพูด
"อื่อ รู้แล้ว"
"พูดไม่เพราะเลยนะ"เสียงเข้มแกมดุ
"เจ้าค่ะๆ ไม่ทำหายแล้วค่ะ สัญญา"คนเป็นภรรยาตัวปลอมรับคำ ทั้งยังคว้ากุจแจมาใส่กระเป๋าอย่างดี
"ไปอาบน้ำได้แล้ว"เสียงเข้มสั่งราวกับเธอเป็นเด็กเล็กที่ต้องได้รับการดูแล...เธอเองก็ได้แต่รับคำเสียงเบา...ก่อนที่ร่างสูงโปร่งผิวขาวจัดจะเดินนำขึ้นชั้นสองของบ้าน
ห้องนอนของเขาและเธอมีขนาดกว้างกว่าที่ดารินคิด เพียงแต่เฟอร์นิเจอร์ในห้อง มีเพียงเตียงนอนขนาดหกฟุต ผ้าปูที่นอนเป็นสีเทาสะอาดสะอ้าน ปลายเตียงมีโต๊ะเครื่องแป้งไม้ บนโต๊ะมีครีมสารพัดอย่าง รวมทั้งเครื่องสำอางกองโต...หญิงสาวเดินเข้าไปหยิบบางชิ้นขึ้นมาดู มันช่างวินเทจเหลือเกิน
ส่วนคุณสามี ที่มีหน้าตาราวกับอดีตคู่หมั้นเดินตรงไปที่โต๊ะทำงานที่มีเพียงตัวเดียวในห้อง ข้างโต๊ะมีตู้หนังสือขนาดใหญ่ เขาเลือกจะหยิบหนังสือเกี่ยวกับการแพทย์ขึ้นมาศึกษา แล้วเงียบไป หญิงสาวจึงทำได้เพียงแต่เดินไปดูที่ตู้เสื้อผ้าก่อนจะหยิบเสื้อนอนแขนกุดสีขาว กับผ้าถุงที่พับเรียบร้อยอยู่บนชั้น...ดวงตาคู่สวยฉายแววลังเล...นานแค่ไหนแล้วนะ ที่เธอไม่ได้ใส่ผ้าถุง น่าจะตั้งแต่เรียนรำไทยช่วงประถมมั้ย?
สาวยุค202x ถอนหายใจอย่างละเหี่ยใจ ก่อนที่จะจัดแจงไปอาบน้ำแต่งตัว
ตอนที่เธอทำอะไรเสร็จ คนเป็นสามียังคงนั่งศึกษาตำราแพทย์โดยไม่เปลี่ยนท่า เพิ่มเติมมีเพียงแว่นสายตา..ที่สวมใส่แล้ว..ส่งผลให้ชายหนุ่มดูภูมิฐานกว่าปกติขึ้นอักโข จากการคาดคะเนเขาน่าจะอายุราวยี่สิบกว่า ในขณะที่ตัวเธออายุเพียงสิบเก้าปี สถานะของเธอกับเขาตอนนี้..ย่อมแตกต่างจากสถานะของเธอกับคู่หมั้นหนุ่ม ที่อายุรุ่นราวคราวเดียวกัน..กริยาบางอย่างของหญิงสาวจึงแฝงไปด้วยความเกรงใจโดยไม่รู้ตัว
อาจเพราะเธอจ้องนานเกินไป เขาเลยหันมามองอย่างติดจะรำคาญนิดๆ
"นอนก่อนก็ได้นะ ไม่ต้องรอ"เขาสั่ง จินเยว่รับคำเสียงเบา ร่างบอบบางปีนขึ้นเตียงไปนอนด้านในสุด...คนตัวโตถอนหายใจอย่างระอา ก่อนจะวางหนังสือในมือลง
"ไม่กางมุ้งหรือยังไง?"
"อ๋อ กางยังไงละคะ"คนเป็นภรรยาถามพร้อมกับลุกขึ้นนั่ง ในชีวิตแม้ช่วงวัยที่เกิดมาจะลำบาก แต่ม๊ะม๊าของเธอก็แทบไม่เคยปล่อยให้เธอนอนตากยุง บ้านหลังน้อยมีมุ้งลวดรอบห้องนอน คนเป็นสามีเห็นท่าทางไม่ได้ความยิ่งหงุดหงิด เขาลุกขึ้นมากางให้เธออย่างเสียไม่ได้ ดวงตาเย็นเยียบเต็มไปด้วยความดูถูก...เล่นเอาคนตัวเล็กเม้มปากแน่น เธอแอบมองวิธีการก่อนจะจดจำทุกอย่างไว้ขึ้นใจ พรุ่งนี้จะได้ไม่รบกวนเขาอีก
ตอนที่ชายหนุ่มขึ้นมานอนบนเตียงเดียวกัน..ดารินเองก็ยังนอนไม่หลับ ทุกอย่างในวันนี้เต็มไปด้วยความสับสน การเปลี่ยนแปลงในชีวิตมากกว่าที่แล้วๆ มา...ทำให้ผู้บริหารสาวชักคิดหนัก..วางแผนจะแก้ตามหน้างานไปทีละเรื่อง
ทางด้านลี่ซานเองออกเวรมาก็เหนื่อยแสนเหนื่อย ยังต้องมาเจอปัญหาภรรยาตัวร้ายผู้ชอบก่อเรื่องจนเขาแยกไม่ออกว่าอันไหนเรื่องจริง อันไหนเรื่องเล่น ร่างสูงโปร่งพลิกไปพลิกมาเพื่อกล่อมตัวเองหลับ นึกอิจฉาคนต้นเรื่องที่นอนหลับสนิทราวกับชีวิตนี้ไม่เคยต้องพบเจอปัญหาอะไรเลย
ใบหน้านวลสวยไร้เครื่องสำอางหนาเต๊อะ ยังคงงดงามราวกับรูปปั้น แต่เจ้าหล่อนก็หาใช่คนที่เขาต้องการจะแต่งงานด้วยไม่...สำหรับคนเป็นหมอแล้วภาพลักษณ์ภายนอกของผู้หญิง เวลาแก่ตัว...หรือปลงสังขารย่อมไม่ต่างกัน...ยิ่งคิดถึงนวลเนื้อนางที่เคยสัญญากันเอาไว้ว่าเขาจะไปขอ.. ยิ่งรู้สึกผิด และนึกรังเกียจผู้หญิงที่นอนอยู่เคียงข้าง
แม้แต่ยามนอน เจ้าหล่อนก็ยังห่มผ้าห่มไม่เรียบร้อย จนเขาต้องตามมาห่มตอนกลางคืนให้ทุกคืน...ครั้งนี้ก็เช่นกัน...ร่างสูงโปร่งของคนเป็นสามีขยับผ้าห่มยัดเข้าไปตรงปลายเท้าของหญิงสาว..กันเธอนอนดิ้น
ไม่ได้นึกห่วง หรือรักใคร่ เพียงแต่กลัวเธอจะเป็นหวัดเท่านั้น พอเช็กสภาพของภรรยาตัวแสบว่าเรียบร้อยแล้ว เจ้าตัวยกยิ้มอย่างพึงพอใจ ก่อนจะนอนหลับไปด้วยความเหนื่อยอ่อน ทิ้งให้สาวเจ้านอนตัวแข็งทื่อ...ความรู้สึกอบอุ่นเริ่มซึมลงกลางใจ...ไม่นึกแปลกใจว่าทำไมร่างนี้ถึงรักหลงสามีมากขนาดนั้น
ณ มหาวิทยาลัย J ชื่อดังระดับต้นๆ ของประเทศหลังตึกคณะบริหารธุรกิจ...หญิงสาวในชุดนักศึกษากำลังยืนรอชายหนุ่มทายาทของตระกูลดังอย่างใจจดใจจ่อ...ท่าทางกระสับกระส่ายพาลให้เพื่อนสาวที่มาด้วยสองคนหัวเราะคึกคัก "ยัยซีลีนเธอจะตื่นเต้นอะไรขนาดนั้นยะ ทำเหมือนไม่เคยอ่อยผู้ไปได้"เพื่อนที่มาด้วยกันแซวเมื่อเห็นดาวคณะนิเทศกระสับกระส่ายใบหน้าสวยเฉี่ยวตามสมัยนิยมถูกแต่งแต้มเป๊ะปัง จนหนุ่มๆ พากันเหลียวหลังมองด้วยความชื่นชม...นอกจากหน้าตาที่ดีเลิศ โปรไฟล์เจ้าหล่อนก็แสนจะไม่ธรรมดา..เพราะเป็นถึงลูกสาวบริษัทรับเหมารายใหญ่ระดับประเทศ คนที่มาจีบมีตั้งแต่ลูกเศรษฐีด้วยกัน ไปจนนักธุรกิจหนุ่มดาวรุ่ง...แต่ชายที่หญิงสาวตกหลุมรักดันเป็นชายหนุ่มสุดหล่อแสนเย็นชาของคณะบริหาร"คีรีมาทางนั้นแล้วยัยซีลีน"เพื่อนอีกคนรีบสะกิด เมื่อเห็นชายหนุ่มรูปร่างสูงโปร่ง ใบหน้าราวกับหลุดมาจากนิยายจีน..ที่ตอนนี้มีสีหน้าเรียบเฉยติดจะเย็นชาเล็กน้อย..ยิ่งสายตาคมกริบที่กวาดมองยิ่งพาให้หัวใจไฮโซสาวหวั่นไหวร่างอวบอิ่มรีบเดินเข้าไปตรงหน้าตามแรงผลักของคนเป็นเพื่อน"สวัสดีคีรี"เสียงหวานเอ่ยถามขึ้น พร้อมช้อนดวงตากลมโตขึ้นมอง...ชายหนุ่มเพียงหรี่ต
ย้อนไปเมื่อสิบปีก่อนณ MMMO international schoolเด็กหนุ่มชั้นมัธยมปีศึกษาปีที่สี่ผู้มีฐานะเป็นหลานของเจ้าของโรงเรียนเอกชนอันดับหนึ่งของประเทศ..ซึ่งเวลานี้กำลังนั่งอารมณ์ไม่ดีอยู่บริเวณหน้าโถงประชุมของโรงเรียน ใบหน้าหล่อเหลาเริ่มบูดบึ้ง..นัยน์ตาคมกริบกวาดมองหมู่คนที่ผ่านไปผ่านมา..คล้ายกับกำลังใครสักคนอยู่...รุ่นพี่รุ่นน้องผู้หญิงเมื่อสบสายตาเข้าก็แทบเป็นลม..บรรยากาศเย็นชาน่าหลงใหลไม่ได้ทำให้ความนิยมในตัวเด็กหนุ่มน้อยลงเลยไม่ถ้าในโรงเรียนหรือมหาลัยวิทยาลัยมีเดือนคณะ นายคีรี สิริวงษ์ชัย ย่อมเหนือเมนขึ้นไปอีกขั้นแน่ละ ทั้งรูปร่างหน้าตา..รวมถึงฐานะวงศ์ตระกูลที่จัดอยู่ในหนึ่งกลุ่มลูกหลานผู้มีอิทธิพลระดับประเทศ...รวมถึงผลการเรียนอันดับหนึ่งของสายชั้น เมื่อขึ้นเวทีร้องเพลงเสียงก็เพราะเป็นหนักหนา..ต้องเรียกว่า hot ยิ่งกว่า hotดังนั้นตั้งแต่เกิดมาใครๆ ล้วนต่างประจบสอพลอ เชิดชูบูชา ถ้าจะมีคนหนึ่งที่ปฏิเสธมัน ก็คงไม่พ้นนางสาวดาริน กิตติวรชัยกุล เจ้าหล่อนอย่าว่าแต่ประจบเอาใจเขาเลย วันๆ มีแต่ไล่เขาไปให้พ้นๆ หน้าอีกทั้งวันนี้ยัยตัวร้ายยังหลอกให้เขามารอหน้าโถงประชุมใหญ่ได้ครึ่งค่อนชั่วโมง ทั้งๆ
รถสปอร์ตคันหรูยังวิ่งไปตามทางที่คุ้นเคย..เพียงแต่รอบนี้หญิงสาวสายซิ่งกับขับรถด้วยความไวที่ช้าลงกว่าปกติ หลังคารถเปิดประทุนถูกเปิดออก..สายลมยามดึกปะทะหน้าพาให้อารมณ์ดีไม่น้อย..ผมดำสลวยที่เริ่มยาวถูกมัดรวบง่ายๆ ไว้ด้านหลัง น่าแปลกปกติอดีตคู่หมั้นคนสวยจะตัดมันเสียสั้นกุด เพราะเจ้าหล่อนติดนิสัยขี้รำคาญจวบจนรถหรูจอดสนิทตรงลานจอดรถสะพานขึ้น p มันคือสถานที่...ที่หญิงสาวมาทุกครั้งเวลาไม่สบายใจ หรือเวลาที่เขารู้สึกแย่..เธอจะยืนอยู่บนข้างๆ หันมามองหน้าเขา พร้อมเอียงหัวรับฟังเล็กน้อย..แล้วก็ปล่อยเขาพูดไป..แม้จะไม่มีคำแนะนำดีๆ แต่แค่เธอยืนอยู่ตรงนั้น แค่รับฟัง..มันก็ทำให้เขามีความสุข เวลานี้ก็เช่นกัน..ร่างเพรียวระหงยังยืนอยู่ตรงนั้นเงียบ ๆ ดวงตาคู่สวยที่เขานึกรักเหม่อมองออกไปยังแม่น้ำสายใหญ่ประจำประเทศ ใบหน้าด้านข้างของเธอยังงดงามราวกับรูปสลัก..ริมฝีปากที่ถูกเคลือบด้วยสีแดงจัดเหมือนสีเสื้อผยอเล็กน้อย..ก่อนที่เธอจะตัดสินใจผินตากลับมามองเขา..เราต่างก็รู้ถึงนัยยะเดียวกัน..เขารู้ว่าเธอจดจำได้..และอะไรบางอย่างในดวงตาเขาก็บ่งบอกว่าเขาจดจำได้เช่นกัน“นายคีรี”“ว่ายังไงนางสาวดาริน”คำเรียกขานที่ชอบใช้แท
"หมายความว่ายังไงคะ!!!"คำตอบของคนเป็นพ่อ ส่งผลให้ดวงตาคู่สวยเบิกกว้างด้วยความตกใจ...หัวใจดวงน้อยเต้นช้าลง..ความรู้สึกสูญเสียบางอย่างเกิดขึ้นโดยไม่รู้ตัว"ป๊ะป๋าก็หมายความตามนั้น ป๊ะป๋าเป็นคนขอถอนหมั้นเอง""อ้าว ได้ยังไงคะ แล้วแบบนี้นายคีรีไม่เสียใจแย่เหรอ""ถ้านายคีรีจะเสียใจก็เป็นปัญหาของนายคีรีซิ เกี่ยวอะไรกับบ้านเราด้วยล่ะแค่วันนั้นขับรถพาอายไปลงเขา...ป๋าก็แทบจะฆ่ามันทิ้งแล้ว..ถอนหมั้นๆ ไปก็ดีแล้ว อีกอย่างหนูก็ไม่เคยชอบพันธะนี้อยู่แล้วนี่""ป๊ะป๋า!!! มันไม่ใช่ความผิดของนายคีรี วันนั้นมันเป็นอุบัติเหตุ..นายคีรีเขาปกป้องอายด้วยซ้ำ""ไม่รู้ ถอนหมั้นแล้วก็คือถอนหมั้น อย่าไปพูดถึงผู้ชายคนนั้นอีกเลย"คนเป็นพ่อผู้หวงลูกสาวรีบตัดจบอารมณ์ดี ก่อนจะหยิบมือถือมาไล่อ่านข่าว ไม่สังเกตสีหน้าซีดเซียวของคนเป็นลูกแม้แต่นิด'เผด็จการชะมัด..เผด็จการเหมือนใครกันนะ ก็เหมือนตัวเธอนะซิ!!'เมื่อออกจากโรงพยาบาลได้สองอาทิตย์คนป่วยเริ่มอาการดีขึ้น...อีกทั้งได้สรุปในใจอีกหลายอย่าง ดังนั้นไอ้คนที่ไม่ชอบออกงานเลี้ยงสังคมหรูหราก็กลับมาออก...เพื่อจะเห็นหน้าใครบางคนและยังสามารถใช้เหตุผลประมาณว่า 'บังเอิญเจอกัน เลยไ
เมื่อคนเป็นพี่กลับบ้านมาแล้วพบน้องชายทำหน้าเครียด ในมือของเขามีสมุดเบิกถอนสมุนไพร ส่งผลให้คนมีชนักติดหลังเสียววาบในใจ...ดวงตาคมกริบหรี่มอง พร้อมโยนสมุดในมือลงบนโต๊ะ"มีอะไรจะแก้ตัวมั้ย?""...""ทำไมเจ้ทำแบบนี้ เจ้ทำมันลงไปได้ยังไง""ลื้อมันบ้าอาซาน อีฮวงนั้งไม่สมควรให้กำเนิดลูกหลานตระกูลหลี่!!""คนที่ไม่สมควรเกิดมาเป็นลูกหลานตระกูลหลี่คือเจ้ต่างหาก ส่วนจินจินเธอดีเกินกว่าผู้หญิงหลงท่ก สันดานเลวอย่างเจ้มาก""อาซาน นี้ลื้อ นี้ลื้อด่าอั๊ว""เออ อั๊วด่าเจ้นี้แหละ เรื่องนี้มันไม่จบแน่ เจ้เตรียมใจไว้ได้เลย"คนเป็นน้องพูดพร้อมกับเก็บสมุดเบิกจ่ายสมุนไพรติดมือไปด้วย เล่นเอาพี่สาวเหงื่อตก แต่หล่อนรู้น้องชายนั้นแสนดีขี้ใจอ่อนมากแค่ไหน...อีกอย่างจินเยว่ก็เสียไปหลายปีแล้ว...ไหนเลยจะมาเอาผิดเธอได้แต่ไอ้คนใจดีมาตลอดชีวิต กับเลือกนำเรื่องไปฟ้องอาปามู่เฉิน กับอาม๊าด้วยรู้ว่าท่านทั้งสองเป็นคนยุติธรรม...เมื่อบุพการีรับรู้เรื่องทุกอย่างก็ถึงกับตกใจ...เพราะสิ่งที่ลูกสาวคนเดียวกระทำเป็นสิ่งที่เลวร้ายมาก มันไม่ต่างทำจากการทำร้ายสายเลือดครอบครัวตระกูลหลี่ดังนั้นตอนหลี่หนิงเกอเดินเข้าห้องทำงานของอาปามู่เฉิน
ระหว่างที่ชายหนุ่มลงมือทำความสะอาดหลุมศพของภรรยา...หลี่มู่เฉินที่เดาไว้แล้วว่าลูกชายจะมาที่นี้ ก็เดินเข้ามาหาทันที หลังจากที่ยัยหนูจินเยว่เสียไปได้สองเดือน..ลูกชายของเขามักมาทำความสะอาด เอาดอกไม้มาวาง “อาซาน”“อ้าว อาปา มาได้ยังไงครับ”เสียงแห้งถามกลับ พร้อมส่งรอยยิ้มเศร้าหมองไปให้..ใบหน้าภายใต้หมวกสานกันแดด แดงขึ้นเล็กน้อย เนื่องจากอยู่ด้านนอกเป็นระยะเวลานาน“อื่ม อาปามีเรื่องจะคุยกับลื้อ”หลังจบคำผู้ชายสองวัยจึงเดินไปนั่งใต้ร่มไม้ที่อยู่ไม่ไกลจากหลุมฝังศพจินเยว่นัก“ลื้อแน่ใจแล้วรึ ที่จะลาออกจากโรงพยาบาล”“ครับ”“เห้อ อาซาน..ฟังอาปานะ จินจินอีตายไปแล้ว แต่ลื้อยังมีชีวิตอยู่”“อื่ม ผมรู้..ผมเองก็กำลังใช้ชีวิตอยู่นี้ไง”“แบบที่ลื้อทำอยู่ เขาไม่ได้เรียกว่าการใช้ชีวิตนะอาซาน”เสียงอาปาอ่อนล้า มือหนาหยาบตบหลังลูกชายเบาๆ เพื่อปลอบประโลม“อาปารู้ว่าลื้อรักจินจินมาก”“...”“ไม่งั้นอาปาคงไม่หมั้นหมายลื้อให้จินจินหรอก”“ทำไม...อาปารู้ละครับว่าผมรักจินจิน”น้ำเสียงลูกชายโตเริ่มพร่า..เพราะตัวเขาเองยังไม่รู้ตัวเลยว่ารักเธอตั้งแต่เมื่อไร“จำได้มั้ย ว่าปีหลังๆ มานี้ ลื้อชอบบ่นว่าน้อง..แต่พอกลับมาทีไ