“มีอะไรกันรึเปล่าคะบอส น้องริน” อารีย์เลขาสาวรีบก้าวขายาวๆมายืนเคียงข้างผู้ช่วยตัวเองด้วยหัวใจเต้นระรัวเมื่อกลัวว่าเจ้านายจะโกรธที่ถูกดารินยืนชี้หน้าอยู่ในขณะนี้ บอสยิ่งไม่ค่อยเหมือนคนอื่นอยู่ด้วย ยามโกรธก็โกรธจนลูกน้องเข้าหน้ากันไม่ติดและบางคนนี่ถึงกับหลั่งน้ำตากันเลยทีเดียว ยามดีนี่ก็ดีใจหายอีกเช่นกัน
“นี่น่ะหรือคะบอสที่พี่อารีย์บอกริน” ใบหน้าหล่อเหลาจนไร้ที่ติ เรือนกายสูงใหญ่และน้ำเสียงแบบนี้เธอจำไม่ผิดแน่ เจ้านายคนที่เคยข่มขืนตัวเองเธอจะยอมรับมันลงได้ยังไงกัน ไอ้คนเฮงซวยที่เธอสาปส่งวันละหลายรอบ ปวดหัวตอนนี้เธอปวดหัวมาก ความผิดเธอด้วยส่วนหนึ่งที่ขาดสติจนเลยเถิดถึงขั้นเสียตัว แต่ถ้าไอ้เจ้านายใหม่ถอดด้ามที่เพิ่งจะรู้ตัวว่าจุดใต้ตำตอมันไม่ใช่เล่ห์เพทุบายหลอกล่อคนกำลังเมาไปยังห้องนอนเหตุการณ์นั้นมันก็จะไม่เกิด การนอนกับใครที่ไหนก็ไม่รู้เมื่อตื่นขึ้นมาแล้วมันก็ยังฝังใจ ยากที่จะลบเลือนออกไปได้ง่ายๆแม้จะบอกกับตัวเองว่าต้องเข้มแข็งและไม่เป็นไรก็ตาม “ใช่แล้วจ้ะน้องริน นี่แหละค่ะบอสของเราพวกเอง คุณชาร์ตัน หยาง ส่วนนี่น้องดารินผู้ช่วยคนใหม่ของดิฉันเองค่ะบอส” อารีย์กล่าวแนะนำเจ้านายให้สาวรุ่นน้องได้รู้จักอย่างเป็นทางการอย่างเกรงๆสายตาบอส หนุ่มเธอไม่รู้ว่ามีเหตุอันใดถึงทำให้น้องสาวที่น่ารักมีปฏิกิริยาเช่นนี้กับเจ้าของบริษัท “แกไม่ต้องตามเข้าไปนะอาหลงอยู่แถวนี้แหละ คุณด้วยคุณอารีย์มีอะไรด่วนก็ห้ามรบกวนเด็ดขาด ผมขอเวลาส่วนตัวจัดการปัญหาหน่อย” สั่งลูกน้องเสร็จก็คว้าข้อมือเล็กที่กำลังตาลุกลากเข้าไปในห้องทำงานท่ามกลางอาการงงงวยของอาหลงและอารีย์ที่มองหน้ากันตาปริบๆอย่างไม่เข้าใจ “ผมพลาดอะไรไปเนี่ยทำไมถึงไม่รู้ว่าบอสกับคุณผู้หญิงคนนั้นรู้จักกันมาก่อน ถึงว่าบอสไม่ว่าอะไรเลยเมื่อถูกชี้หน้าด่าปาวๆอย่างไม่คิดทำอะไรด้วย เขาแอบมีซัมติงกันใช่ไหมเนี่ย” อาหลงยกมือลูบหลังท้ายทอยแล้วสะบัดหัวอย่างงงๆ อยู่ด้วยกันกับเจ้านายแทบตลอดเวลาแต่เรื่องนี้ดันไม่รู้ซะอย่างนั้น ถึงว่าวันนี้อยากเข้าบริษัทนัก ที่แท้ก็มีคนอยากเจอรออยู่ที่นี่นี่เอง “นั่นสิคะ บอสกับน้องรินรู้จักกันได้ยังไงนะโลกมันกลมจังเลย” เธอไม่เคยรู้มาก่อนและคาดว่าดารินก็คงไม่รู้มาก่อนเหมือนกันถึงได้ถามเธอว่านี่น่ะเหรอบอส บางครั้งโลกก็มักจะเล่นตลกกับเราเสมอ ไม่ว่าอะไรก็เกิดขึ้นได้จริงๆสินะ เข้ามาในห้องทำงานส่วนตัวได้ชาร์ตันก็บังคับให้คนที่ลากเข้ามาด้วยนั่งลงบนตักแล้วใช้ท่อนแขนล็อคเอวบางเอาไว้แน่นหนาเพื่อไม่ให้หลุดรอดออกไปได้ก่อนจะเริ่มต้นพูดคุยกันให้รู้เรื่องรู้ราว พลางฉวยโอกาสฟัดจูบเนียนนุ่มและซอกคอหอมกรุ่นอย่างเอาแต่ใจแม้ว่าจะถูกสาวเจ้าฟ้อนเล็บใส่ไม่ยั้งจนเกิดอาการแสบๆคันๆตรงหลังคอก็ตามที มันอดใจเอาไว้ไม่ไหวจริงๆเมื่อได้กอด เขาคิดถึงสัมผัส คิดถึงทุกสัดส่วนบนร่างกายของดาริน “เธอยังคงหอมเหมือนเดิมเลย กลิ่นกายของเธอหอมติดจมูกเหมือนคืนนั้นเลยดารินของฉัน” เสียงทุ้มงึมงำ ไม่มีอาการตะขิดตะขวงใจใดๆทั้งสิ้น ราวกับว่าสิ่งที่กำลังกระทำอยู่นั้นทำเป็นประจำกับคนในอ้อมแขนที่กกกอดเอาไว้แนบอก “ปล่อย! อย่ามาแตะต้องร่างกายของฉันนะ! ฉันไม่ใช่ของสาธารณะที่คิดจะยุ่งด้วยเมื่อไหร่ก็ได้แล้วฉันก็ไม่ใช่ดารินของแกด้วย” ตวาดเสียงกร้าว ทั้งผลักทุบ ตีมาหมด แรงมีเท่าไหร่ก็ประเคนใส่ไม่ยั้ง คืนนั้นเธอทำอะไรเขาไม่ได้เพราะความเมาบวกสิ่งที่เขาทำมันส่งผลให้เรี่ยวแรงไม่มีเหลือมากพอที่จะช่วยตัวเองให้รอดพ้นจากน้ำมือคนเลวนี่ได้ “อยากทำอะไรกับร่างกายฉันก็ตามสบายเลยแต่รับรองว่าหลังจากนี้ฉันเอาคืนเธออย่างสาสมแน่ดาริน สินไพศาล ไม่เชื่อเธอก็ลองดูได้เลยเพราะฉันชอบความท้าทายอยู่แล้วด้วย ยิ่งดื้อมาก พยศมากแบบนี้ยิ่งชอบเข้าไปใหญ่ อยากปราบ็็” ชาร์ตันขู่จากนั้นก็ใช้ฟันขบเนื้ออ่อนตรงฐานคอแล้วใช้เคราหนวดจางๆถูจนแดงเถือกเพราะผิวตรงส่วนนั้นค่อนข้างบอบบาง ก่อนจะเคลื่อนย้ายจมูกมารุกรานแก้มเนียนทั้งสองข้างอย่างเอาเป็นเอาตาย “ปล่อยฉันนะไอ้คนเฮงซวย ฉันไม่ใช่ผู้หญิงข้างถนนที่แกคิดจะทำยังไงกับฉันก็ได้นะไอ้บ้า ไอ้คนชั่วช้าสารเลวเอ๊ย! บอกว่าให้ปล่อยฉันไงฟังภาษาคนไม่รู้เรื่องเหรอไอ้ผู้ชายบ้าหน้าด้านตัณหากลับ รังแกคนไม่มีทางสู้ตั้งแต่คืนนั้นมาจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ปรับปรุงนิสัยเลวๆของตัวเอง คิดว่ารวยแล้วจะทำอะไรก็ได้งั้นเหรอ ไอ้คนนิสัยไม่ดี โอ๊ย! ฉันไม่รู้จะสรรหาคำไหนมาด่าแกแล้วนะ ฮึ่ย!” เสียงเขียวๆตะโกนดังลั่นจนแทบลืมหายใจ ฟึดฟัดฮึดฮัดอย่างคนหัวเสีย พลางออกแรงดิ้นรนขัดขืนเป็นพัลวันเพื่อหวังจะเอาตัวรอดจนเกิดอาการเหนื่อยหอบรุนแรง ความรู้สึกทั้งโกรธทั้งโมโหจนหน้าตาแดงก่ำที่ทำอะไรกำแพงหินยักษ์ไม่ได้เลยนอกจากเจ็บตัวเจ็บใจเสียเอง “ปากคอเราะร้ายเหลือเกินนะแม่คุณ แต่ก็นะคำด่าของเธอฉันกลับไม่รู้สึกอะไรทั้งนั้นนอกจากอยากเลียปากเธอ” บีบแก้มนุ่มแล้วยิ้มร้ายใส่นัยน์ตาวาววับแต่คนฤทธิ์เยอะก็สะบัดหน้าไปมาอย่างไม่ยอมแพ้เช่นกันเลยกดริมฝีปากลงมาประกบเพื่อปิดกลั้นถ้อยคำต่างๆนานาที่เตรียมจะพ่นใส่หน้าเขาอีกระลอกใหญ่ ต้องสั่งสอนเสียหน่อยปล่อยให้ด่ามาพอสมควรแล้ว “อื้อ อ่อย อั้น อ่อย” ดวงตากลมสีดำสนิทเบิกกว้างอย่างตื่นตระหนก พยายามจะพูดว่าปล่อยฉันนะ สองมือยันบ่าหนาไว้สุดกำลัง พลางเม้มปากแน่นเป็นส้นตรงเพื่อไม่ให้เรียวลิ้นหนาสอดแทรกเข้าไปรุกรานได้ แต่เทคนิคที่มีเหนือชั้นมากกว่าหลายเท่า เพียงหลอกล่อนิดหน่อยก็สามารถเข้าไปช่วงชิงความหวานล้ำปานน้ำผึ้งได้สำเร็จ เหมือนชัยชนะเล็กๆ จูบนี้มันยาวนานจนลมหายใจติดขัดราวกับไปวิ่งมาหลายกิโล ใบหน้าเนียนแดงก่ำลามเลียลงมาตามลำคอระหงอย่างรวดเร็วในเวลาไม่ถึงนาที เล็บยาวทั้งสิบจิกเกร็งบนบ่าหนาที่มีเสื้อสูทสวมทับเอาไว้แน่น รอบริมฝีปากอวบอิ่มเปียกชื้นมันวาวที่เกิดจากน้ำลาย ปลายลิ้นเล็กถูกดูดดึงครั้งแล้วครั้งเล่าพลางถูกไล่ต้อนเก็บเกี่ยวความหวานในโพรงปากอย่างมีชั้นเชิงให้หลงมัวเมาสมองมึนเบลอชั่วคราว อานุภาพของมันช่างร้ายแรงจนควบคุมตัวเองไม่ยาก“รินควรจะเชื่อน้ำคำเฮียดีไหมคะเนี่ย” ดารินพลิกกายหันมาหาแล้วโอบรอบลำคอแกร่งของสามีไว้ทันใดเมื่อถูกคนแข็งแรงช้อนอุ้มในท่าเจ้าสาว นัยน์คมตาหวานเชื่อมที่ฉายแววปรารถนาในสิ่งที่ต้องการชัดเจน ทั้งยังบดเบียดริมฝีปากลงแลกจูบกับเธออย่างเร่าร้อน จากประสบการณ์ที่ผ่านๆมาหากเขาบอกว่าขอแค่รอบเดียวนั้นไม่เคยทำได้อย่างน้อยก็สองขึ้นทุกครั้ง ชาร์ตันวางร่างงามระหงนอนบนเตียงหนานุ่มแล้วคร่อมเอาไว้ทั้งตัว ริมฝีปากร้อนรุ่มพรมจูบทั่วใบหน้างดงามที่มีร่องรอยของความเหนื่อยอ่อนอย่างแสนรัก พลางไล่จุมพิตลงมาเรื่อยไปจนสุดปลายเท้าบอบบาง และตอนนี้ก็เคลื่อนใบหน้าของตนเองมาหยุดอยู่ที่กลางอกอวบขาวผ่องคลุกเคล้าสูดดมความหอมของกลิ่นน้ำนมแหล่งอาหารชั้นยอด ลากปลายลิ้นสากชื้นแตะลงบนเม็ดทับทิมสีสวยที่แข็งเป็นไต ไล้เลียน้ำนมที่ปริ่มออกมาจนเกลี้ยงแล้วอ้าปากรวบดูดยอดถันบวมเป่งจนแก้มตอบ สายตาเหลือบขึ้นมองเมียรักที่นอนส่ายหน้าสะบัดไปมาอย่างเร้าอารมณ์ ส่งเสียงครวญครางอย่างเซ็กซี่ไม่ขาดปาก กระตุ้นให้เกิดความกำหนัดเข้าไปอีก “เมีย อื้อ สะ...เสียวจังค่ะเฮียขา” เสียงหวานครวญครางหอบกระเส่า นัยน์ตาหรี่ปรือฉ่ำวาวหลุบมองศีรษะได้รูปของสามี
“ปะๆ” ดวงตาใสแจ๋วที่มองหน้าปาป๊าทำเอาชาร์ตันที่จ้องลูกอยู่แล้วยิ้มกริ่มตาเป็นประกาย พลางก้มลงฟัดที่แก้มป่องใสอมชมพูอย่างมันเขี้ยว สร้างเสียงหัวเราะเอิ๊กอ๊ากอย่างสนุกสนานให้แม่หนูน้อยวัยกระเตาะที่พออิ่มก็อารมณ์ดีอย่างไม่น่าเชื่อ “เสียงใสตาใสแบบนี้หนูจะง่วงนอนเมื่อไหร่ละเนี่ย ปาป๊าอยากฟัดมาม๊าคนสวยของเราใจจะขาดอยู่แล้วนะครับ หื้ม” เสียงทุ้มแกล้งโอดครวญกับลูกเบาๆคล้ายขอความเห็นใจอยู่กลายๆ พลางไซ้พุงน้อยเล่นเพลินๆ “อือ ปะๆ มะๆ” เด็กหญิงชาร์ลีนในวัยขวบกว่าที่เริ่มจะพูดได้เป็นบางคำแต่ยังฟังไม่ค่อยรู้เรื่องสักเท่าไหร่โต้ตอบกับปาป๊าที่นอนเล่นด้วย พฤติกรรมลอกเลียนแบบหลายอย่างที่คอยทำตามพ่อแม่ก็เรียนรู้ได้เร็วเพราะอยู่ในช่วงจดจำ มือน้อยยกขึ้นจับใบหน้าบิดาแล้วยิ้มแฉ่งอย่างอารมณ์ดีพลอยทำให้พ่อแม่ยิ้มตามไปด้วย “หนูเข้าใจที่ความหมายปาป๊าพูดเหรอคะ ถ้าเข้าใจก็ต้องรีบนอนนะครับเด็กดีของปาป๊า หื้ม เข้าใจเหรอครับน้องชาร์ลีน” ริมฝีปากได้รูปคลี่ยิ้มกว้างแล้วยกฝ่าเท้าน้อยมาจูบแนบปาก และเมื่อโดนเคราที่เริ่มขึ้นเสียงหัวเราะใสแจ๋วก็บังเกิดอีกครั้ง อาการมันเขี้ยวลูกเมียอาการนี้เกิดขึ้นวันละหลายรอบมากจนวิลเล
01.15 น. “แอ๊ๆ” “แง๊ๆ” เสียงร้องไห้กระจองอแงของเด็กน้อยทั้งสองดังปลุกพ่อแม่ที่นอนกอดก่ายหลับใหลอยู่บนเตียงหลังกว้างให้ลืมตาตื่นขึ้นมาอย่างง่ายดาย ชาร์ตันขยับกายลุกขึ้นนั่งพิงหัวเตียงก่อนในสภาพครึ่งหลับครึ่งตื่น ผมเผ้ายุ่งเหยิงไม่เป็นทรง ดารินเองก็ค่อยๆยันกายขึ้นนั่งตาม มือใหญ่คว้ากางเกงนอนขึ้นสวมเรียบร้อยก็รีบสาวเท้าเข้าไปดูเด็กหญิงเด็กชายตัวน้อยที่แสนปลาบปลื้มของตนเองที่มีอายุห่างกันเพียงหนึ่งปี ผลผลิตที่เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขที่เกิดจากความรักของเขากับดาริน มันสุขใจราวกับได้กำไรจากธุรกิจมหาศาล แต่อย่างว่ากำรี้กำไรทั้งหลายจะมีค่ามากกว่าสิ่งมีชีวิตเล็กๆที่แสนน่ารักได้อย่างไร “แง๊” “ชู่ รู้แล้วลูกรักปาป๊ารู้แล้วครับผม นิ่งนะครับเด็กดี ฮึบๆนะ” เสียงทุ้มเอ่ยปลอบลูกสาวที่น้ำตานองหน้าไม่ต่างจากลูกชายคนเล็กที่นอนดิ้นงอแงอยู่ในเปลอีกอัน “เฮียอุ้มน้องชาร์ลีนมาหารินก่อนค่ะแล้วเดี๋ยวค่อยอุ้มน้องดามพ์ตามมาทีหลัง” อาตี๋น้อยอาหมวยน้อยของเธอร้องงอแงแบบนี้คือหิวนมหรือไม่ก็อาจจะนอนหลับไม่สบายตัว ยามที่ใดคนหนึ่งตื่นอีกคนก็จะตื่นขึ้นพร้อมกันเสมอราวกับเป็นคู่ฝาแฝดกัน ลูกๆเธออายุห่างกันแค่หนึ่งปีเศษๆ
“เฮียจะไม่รุนแรงโดยเด็ดขาด ไม่ต้องกังวลนะรินจ๋า” แม้ความจริงเขาอยากจะกระแทกแรงๆ แต่เนื่องด้วยตอนนี้ไม่รู้ว่าลูกเขามานอนขดตัวอยู่ในท้องดารินแล้วหรือยังความปลอดภัยจึงสำคัญที่สุดโลดโผนมากไม่ได้ สิ้นเสียงคำสัญญา ชาร์ตันก็จับดารินลงนอนตามเดิมแล้วสาวแก่นกายเข้าออกกลางกายเมียสาวทันที มีความแรงแต่ไม่ถึงกับรุนแรงจนเกินไป สองมือใหญ่ตะปบลงบนสะโพกหนั่นแน่นบีบเคล้นจนเกิดรอย ก่อนจะเคลื่อนไปวางไว้บนความนุ่มหยุ่นที่กำลังดีดเด้งสั่นสะท้อนขึ้นลง ขยี้ยอดถันสั่นระริกระรี้สีเข้มที่เกิดจากความเสียวเพิ่มอารมณ์สาวให้พุ่งสูงขึ้นไปอีก “อ๊า” ชาร์ตันถอนแก่นกายออกช้าๆ แล้วตอกกลับเข้าไปใหม่อีกครั้ง และก็ต้องอ้าปากกว้างค้าง เพราะกล้ามเนื้อด้านในของดารินกำลังบีบรัดเขาอย่างรุนแรง แข่งกันครวญครางกับความซ่านเสียวที่กำลังเกิดขึ้นอย่างไม่มีใครยอมใคร “โอ รินจ๋า ข้างในมันทั้งร้อน ทั้งแน่นเหลือเกินคนดี เฮียรู้สึกดีมากๆที่ได้อยู่ในนี้ ได้แช่แก่นกายในความอ่อนนุ่มของเธออ่าส์ ของเมียเฮียตอดรัดดีจริงๆเลย โอ้ว” เขากดแก่นกายฝังลึกลงไปแล้วแช่นิ่งเอาไว้เพื่อซึมซับความซาบซ่านให้สาแก่ใจ “จะดีกว่านี้มากหากช่วยเฮียขยับตัวนะคะ เมียอ
ดารินมองดูตัวเองในกระจกอย่างเขินอาย ยังไม่กล้าจะออกไปเผชิญหน้ากับคนหื่นที่ออดอ้อนขอให้เธอใส่ชุดนี้ให้เขาดูเป็นของขวัญที่เราจดทะเบียนกัน ปากอวบอิ่มเม้มขบกันแน่นอย่างชั่งใจ แก้มเนียนใสแดงจัด ชุดกี่เพ้าสีม่วงสุดเซ็กซี่เป็นซีทรูบางใสแจ๋วมองเห็นความอวบอัดของหน้าอกและหัวนมชัดเจนทั้งสองเต้า ใส่ชุดก็เหมือนไม่ได้ใส่อะไรเลยเพราะมันเห็นเนื้อหนังทะลุปรุโปร่งทุกส่วน มีเพียงจีสตริงตัวกระจ้อยร่อยปิดกลางกายเอาไว้เท่านั้น ได้แต่ถามใจตัวเองว่าคิดผิดหรือคิดถูกที่ยอมตามใจคนหื่นจัด “รินจ๋าเปลี่ยนชุดเสร็จยังจ๊ะ ผัวนอนรอเข้าหอจนจะลงแดงตายห่าอยู่แล้วนะทูนหัว ออกมาหาผัวสักทีเถอะอย่าแกล้งกันแบบนี้เลย” เสียงทุ้มร้องเรียกเมียรักที่หายเข้าไปในห้องแต่งตัวนานหลายนาที ชุดที่ให้ใส่ก็ไม่มีอะไรเลยทำไมถึงนานนักก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน รู้อย่างนี้จับเปลี่ยนให้เองกับมือก็ดี “ทำไมถึงหื่นได้โล่ขนาดนี้นะมิสเตอร์ชาร์ตัน หื่น!!” นามสกุลนี้เหมาะสมกว่านามสกุลหยางที่ใช้อีก เสียงหวานบ่นอุบอิบกับตัวเองที่ตอนนี้แปลงกายเป็นสาวหมวยตามเชื้อสายที่มีอยู่ในตัวครึ่งหนึ่งของสามีก่อนจะตัดสินใจเดินออกมา “เลือดแทบจะไหลหมดตัวเลย” ชาร์ตันครางเสีย
เมื่อเช้าวันใหม่มาเยือนคฤหาสน์หลังงามก็ได้ต้อนรับเจ้าหน้าที่จากเขตที่ชาร์ตันส่งคนให้ไปรับมา มีเพียงดารินคนเดียวที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวกับใครเขากระทั่งเดินลงบันไดมาแล้วถูกชักจูงให้ไปห้องรับแขกแทนห้องอาหาร อิศราฉีกยิ้มกว้างเมื่อได้เป็นหนึ่งในพยานแห่งการเริ่มต้นเรื่องราวดีๆในวันนี้ เช่นเดียวกับวิลเลียมที่นั่งอยู่ข้างกัน ไม่เว้นแม้แต่บรรดาแม่บ้านทั้งหลายก็ถูกเรียกรวมตัวด้วยเหมือนกัน “เซ็นสิดาร์ลิ่ง ทุกคนรออยู่นะ” เสียงทุ้มนุ่มกระซิบชิดใบหูหอมกรุ่นเมื่อคนข้างกายยังคงมึนงง ผิดกับเขาที่เซ็นอย่างไม่ลังเลตั้งแต่เจ้าหน้าที่ยื่นใบสำคัญมาให้ตรงหน้า “โอ รินไม่ทันได้ตั้งตัวเลยค่ะ” ดารินกระซิบเสียงหวาน สายตาพร่ามัวมองหน้าชาร์ตันสลับกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้า ตื่นเต้นระคนยินดีจนมือไม้เย็นเฉียบไปหมด เขาไม่เคยพูดถึงเรื่องนี้มาก่อนเลย ไม่เคยเลยจริงๆ ปากกาที่จะตวัดเซ็นลงไปในแผ่นกระดาษสั่นเล็กน้อยแต่พอมีมือใหญ่ทาบทับเอาไว้อีกทีมันก็มั่นคง เมื่อคืนเขาก็ไม่ได้พูดเรื่องนี้แม้สักนิดก็ไม่หลุดปาก ทานข้าวเสร็จก็อุ้มเธอกลับขึ้นห้อง อาบน้ำอาบท่าและมานอนกอดกันบอกรัก เล่าเรื่องนั้นเรื่องนี้ให้ฟังจนหลับ “เฮียรักรินมากน