Share

รอยยิ้มที่หายไป

Author: l3oonm@
last update Last Updated: 2025-06-03 00:13:40

เรือนของท่านยายหลี่เฉียงนับว่ามีพื้นที่อยู่ไม่น้อย ตัวเรือนเป็นเรือนสี่ประสาน เรือนหลักมีสามห้องนอน เรือนด้านข้างมีฝั่งละสองห้องนอน

แม้แต่ข้าวของเครื่องใช้ก็มีอยู่ไม่น้อย ทั้งยังพื้นที่ด้านข้าง ด้านหลังที่กว้างขวางเพียงพอให้ปลูกผักเลี้ยงสัตว์ได้อีกด้วย หากทำดีๆ เรือนนี้ก็คงจะน่าอยู่มากทีเดียว

หลี่เฉียงเดินเยื้องย่างออกมาจากห้องครัวอย่างช้าๆ เมื่อเห็นว่าหว่านหนิงนางกำลังเก็บข้าวของเข้าที่อยู่ เท้าของเขาก็หยุดชะงักจะหมุนกลับเข้าไปในห้องครัวอีกครั้ง

“หยุด!!! แล้วมาช่วยข้าเดี๋ยวนี้” หว่านหนิงนางหันไปเห็นเขาเข้าพอดี

“ข้าเหนื่อยแล้ว” เขาบ่นออกมา

“ท่านทำสิ่งใดถึงมาพูดว่าตนเองเหนื่อย มาเดี๋ยวนี้”

เขาจำต้องเดินเข้าไปทำงานตามคำสั่งของหว่านหนิงอย่างไม่อาจเลี่ยงได้ เพราะเกรงกลัวไม้ที่อยู่ในมือของนางต่างหาก

เพียงครึ่งชั่วที่ทั้งสองช่วยกันเก็บข้าวของ เรี่ยวแรงในร่างกายก็ดูเหมือนจะถูกสูบออกไปจนหมดเสียแล้ว

“ยะ หยุด พัก ก่อนเถิด” หลี่เฉียงนั่งลงไปที่พื้นอย่างหมดท่า เขามิอาจจะขยับตัวทำงานต่อได้อีกแล้ว

“อืม” หว่านหนิงก็เห็นด้วยกับเขาเช่นกัน นางใช้ไม้พยุงช่วยเดินกลับไปที่ห้องครัว แล้วตักข้าวที่หุงสุกได้ที่แล้วมาสองชาม

“ท่านมาช่วยข้ายกหน่อย” หลี่เฉียงที่หิวไม่ต่างกับหว่านหนิงก็รีบลุกขึ้นอย่างรวดเร็วแล้วไปรับชามข้าวมาจากนาง

นางมองเขาด้วยสายตาที่รังเกียจ เพราะหลี่เฉียงยกไปของเขาเพียงผู้เดียว ไม่มีน้ำใจที่จะช่วยนางยกสักนิด

หว่านหนิงที่ขี้เกียจเดินกลับเข้าไปกินในห้องโถง นางจึงได้ทรุดตัวลงนั่งที่เก้าอี้ตัวเตี้ยที่อยู่ในครัว แล้วลงมือกินข้าวทันที

“อืม ก็ไม่ได้แย่” นางไม่คิดว่าเพียงข้าวกับมันหุงรวมกันจะมีรสชาติหวานอร่อยได้มากเพียงนี้ หรือจะเป็นที่นางหิวจัด

นางต้มน้ำไว้ เพื่อที่จะเอาไว้อาบน้ำ นางไม่รู้ว่าร่างนี้นอนสลบอยู่บนที่นอนมากี่วันแล้ว ตอนนี้นางอยากจะอาบน้ำมากที่สุด รองมาจากกินข้าวให้อิ่มท้อง

หลี่เฉียงไม่เห็นว่าหว่านหนิงนางเดินตามมา เขาเพียงแค่ชะเง้อคอมองหานางก่อนจะพุ้ยข้าวเข้าปากอย่างรวดเร็ว เมื่อหมดแล้วจึงเดินไปที่ครัวเพื่อจะตักเพิ่ม จึงได้เห็นว่าหว่านหนิงนางนั่งลงกินอยู่ที่พื้นห้องครัวอย่างน่าสงสาร

“จะเอาเพิ่มรึ ตักเอาเองอยู่ในหม้อ” นางหันไปเห็นว่าหลี่เฉียงเดินถือชามเข้ามา

“เหตุใดเจ้าถึงไม่เข้าไปนั่งกินที่ห้องโถงให้ดี”

“ไม่ ข้าเดินไม่ไหว” นางกินข้าวต่ออย่างไม่ใส่ใจ

หลี่เฉียงเดินไปตักข้าว แล้วมานั่งลงที่ตรงหน้าของหว่านหนิง “เฮ้ยย ท่านจะนั่งที่พื้นทำไม กลับไปกินที่ห้องโถงเลย”

“กินเหอะ” เขาก้มหน้าลงกินข้าว โดยไม่ฟังเสียงไล่ของนาง

เมื่อหว่านหนิงนางกินหมดแล้ว หลี่เฉียงดึงชามข้าวในมือของนางเดินไปล้างให้

“ขอบคุณมาก” ทำดีก็ทำได้ แต่ทำไม่ไม่ยอมทำ

เพียงไม่นานรอยยิ้มของหว่านหนิงก็ชะงักไป เพราะหลี่เฉียงเพียงแค่เดินนำไปวางไว้มิได้ล้างให้อย่างที่นางคิด

“หืมมม แล้วจะแย่งไปทำไม!!!” นางโวยวายออกมาอย่างเหลืออด หลงคิดว่าจะช่วยเหลือนาง เห็นว่านางเดินไม่ไหว

“ประเดี๋ยวค่อยล้างก็ได้ เจ้าจะเสียงดังไปเพื่ออันใด” เขาอุดหูทันที เพื่อหว่านหนิงนางตะโกนเสียงดังออกมา

“พอ ๆ ๆ หากไปทำก็หลีกไป” หว่านหนิงพยุงตัวขึ้น แต่ข้อเท้าเจ้ากรรมไม่ยอมทำตามใจของนาง

นางเสียหลักล้มลงทันที หลี่เฉียงเขาจะรีบก็มัวแต่ตกใจที่เห็นนางลุกพรวดขึ้นมา คิดว่านางจะเข้ามาทุบตีอีกแล้ว จึงได้เบี่ยงตัวหลบไม่ได้รับตัวของนางไว้ หว่านหนิงจึงล้มลงไปกองอยู่ที่พื้นแทน

“โอ๊ยยย” นางล้มแรงไม่ใช่น้อยจึงได้ร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด

“เป็นอันใดมากหรือไม่” หลี่เฉียงรีบเข้ามาดูนาง

“หลีกไปเลย” นางดันตัวเขาออก หากไม่ใช่เพราะเขาทำให้นางโมโหจนต้องลุกขึ้นไปล้างเอง นางจะเจ็บตัวเพิ่มเช่นนี้หรือ

หว่านหนิงค่อยๆ หาที่เกาะแล้วดันตัวลุกขึ้นอย่างยากลำบาก ก่อนจะค่อยๆ เดินไปล้างชามที่กินเสร็จแล้ว

“ข้าล้างให้เอง” เขาแย่งชามที่อยู่ในมือของนางไปล้าง

“แล้วเมื่อครู่ ทำไมไม่ล้างเล่า” นางถลึงตามองเขาอย่างไม่พอใจ

“ก็ข้าค่อยกลับมาล้าง แต่เจ้าจะต้องล้างให้ได้เดี๋ยวนี้เลย”

“กินเสร็จก็สมควรล้างเลย ท่านจะทิ้งไว้ทำไม”

“เมื่อก่อนเจ้าไม่เห็นจะเป็นเช่นนี้” เขามองนางอย่างแปลกใจ เมื่อก่อนกินเสร็จก็ล้วนแต่วางกองทิ้งไว้ หากอยากกินเมื่อใดก็ล้างมาใช้เมื่อนั้น

“เหอะ ที่ข้าพูดไปก่อนหน้านี้ท่านไม่ได้ฟังเลยใช่หรือไม่ ข้าบอกแล้วว่าข้ามิใช่ซูหว่านหนิง”

“หากเจ้ามิใช่นาง แล้วเจ้าเป็นใคร” เขามองนางอย่างมองคนโง่ ก็เห็นๆ กันอยู่ ที่ยืนตรงหน้าของเขาเป็นซูหว่านหนิงไม่ผิดแน่

“ล้างให้เสร็จก่อนแล้วข้าจะเล่าให้ฟัง” นางบังคับให้เขาล้างชาม หากเขาอยากจะรู้เรื่องของนาง

“เจ้าเดินไหวหรือไม่” เขาเอ่ยถาม เมื่อเห็นหว่านหนิงพยุงตัวเองจะเดินกลับเข้าเรือน

“ได้” นางโบกมือไม่ให้เขาใส่ใจ ให้ล้างชามต่อไป

นางตักน้ำที่ต้มไว้ เพื่อจะไปอาบน้ำที่ห้องน้ำด้านหลัง หลี่เฉียงที่เห็นเช่นนั้นก็ไล่ให้นางไปเตรียมของเขาจะช่วยยกน้ำเข้าไปให้ด้านในห้องน้ำไว้ก่อน

หว่านหนิงนางเดินกลับเข้าไปที่ห้อง เพื่อจะนำเสื้อผ้าไปเปลี่ยน แต่พอเห็นสภาพห้องแล้ว นางสมควรที่จะต้องนำสิ่งที่อยู่ด้านในไปซักใหม่ทั้งหมดเลย

ยังดีที่ภายในหีบกับตู้ยังมีผ้าห่มอยู่อีกหนึ่งผืน และมีผ้าที่ใช้สำหรับปูรองนอนอยู่ด้วย นางจึงนำมาเปลี่ยนทั้งหมดเสียใหม่

“เจ้าทำสิ่งใด” หลี่เฉียงที่เห็นนางหายเงียบไปนานก็เดินมาดู เพราะน้ำที่เขานำไปไว้ให้เริ่มจะเย็นเสียแล้ว

“ท่านมาก็ดี ช่วยข้าเปลี่ยนหน่อย” เพราะขาข้างที่เจ็บ ทำให้หว่านหนิงเคลื่อนไหวร่างกายไม่สะดวกนัก

หลี่เฉียงก็ดูเหมือนไม่อาจจะช่วยเหลือสิ่งใดนางได้มาก เขาคงไม่ค่อยทำ ไม่ว่านางจะสั่งให้ทำเช่นไรก็ดูเหมือนจะไม่เป็นไปเสียทุกอย่าง

หว่านหนิงเหมือนจะคิดผิดที่เรียกเขามาช่วย นางเหมือนจะเหนื่อยเพิ่มขึ้นมากกว่าเดิมเสียด้วยซ้ำ

“ท่านไปล้างตัวก่อน ข้าจะได้ซักเสื้อผ้าของท่านด้วยเลย” นางมองเสื้อผ้าของเขาอย่างนึกรังเกียจ

“ได้” ครั้งนี้เขาพูดง่ายเสียจนหว่านหนิงเองยังตกตะลึง

หลี่เฉียงจะไม่รีบรับปากได้อย่างไร ตั้งแต่มาอยู่ที่หมู่บ้านไฉชงได้ห้าวัน ซูหว่านหนิงนางแทบไม่เคยซักเสื้อผ้าให้เขาเลย ในเมื่อมีคนเสนอตัวมาให้เขาก็ต้องรีบคว้าไว้ทันที

แม้เขาจะล้างตัวไปก่อนหน้านี้แล้วก็ตาม แต่ก็ยังเร่งฝีเท้าไปทางด้านหลังเรือน เพื่ออาบน้ำอีกรอบ ด้วยกลัวว่านางจะเปลี่ยนใจไม่ซักเสื้อผ้าให้เขา

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ข้าทะลุมิติมา ได้สามีไร้ค่าคนหนึ่ง   ตอนจบ

    หลังจากงานเลี้ยงราชสมภพของฮ่องเต้ ก็ยังไม่มีคณะทูตคนใดที่คิดจะเดินกลับ ด้วยต้องการตัวของคนที่ทำชุดฉลองพระองค์ของฮ่องเต้และฮองเฮากลับแคว้นของตนไปด้วยความวุ่นวายด้านนอกนางมิได้รับรู้ ด้วยมีสัตว์เทพทั้งสี่ที่คอยจัดการพวกที่ลักลอบเข้ามาในจวนอยู่ตลอด บางคนเกือบจะเอาชีวิตมาทิ้งไว้ เพื่อต้องการเข้ามาชิงตัวหว่านหนิงนางกลับไปที่แคว้นของพวกเขาด้วยตอนนี้ทั่วถึงเมืองหลวงจึงได้รู้ว่าจวนตระกูลหลี่มิใช่สถานที่ ที่ผู้ใดจะเข้าไปวุ่นวายได้ง่ายๆ หากมีปัญญาที่จะเข้าไปก็ต้องลองดูว่าจะมีโอกาสได้กลับออกมาอีกหรือไม่ตัวองค์ชายสามจึงได้รู้ว่าเสือที่กุ้ยเฟยพูดถึงมิได้ไม่มีอยู่จริง มันมีอยู่ที่จวนตระกูลหลี่ เพราะเสี่ยวหู่เผยตัวตนของมันเข้าเสียแล้วหากวันใดที่จวนตระกูลหลี่เปิดประตูจวนทิ้งไว้ ชาวบ้านที่ผ่านไปผ่านมาก็จะพบเสือโคร่งตัวใหญ่เดินอยู่ภายในจวนที่เสี่ยวหู่มันทำเช่นนี้เพื่อจัดการมิให้ผู้ใดเข้ามากวนนายหญิงยามที่นางตั้งครรภ์ใกล้คลอด ก่อนหน้านี้ที่มันเผยตัว ด้วยแคว้นต้าซ่งส่งคนมาลอบลักพาตัวหว่านหนิงคนขององค์ชายสามที่คุ้มกันห่างๆ อยู่รอบจวนเข้ามาช่วยเหลือไม่ทัน พอไปแจ้งองค์ชายสามก็เห็นเสี่ยวหู่กำลังตะปบใบห

  • ข้าทะลุมิติมา ได้สามีไร้ค่าคนหนึ่ง   ข้าตั้งครรภ์แฝดรึ

    ตระกูลซูเมื่อรู้ว่าหว่านหนิงนางกลับมาถึงเมืองหลวงก็รีบมาพบนางทันที พอได้เห็นว่านางไม่มีอันใดให้เป็นห่วง ทั้งยังไม่มีอาการแพ้ท้องให้ได้เห็น ต่างก็พากันกลับออกไป ปล่อยให้นางได้พักผ่อนฉลองพระองค์ที่หว่านหนิงนางทำขึ้นถวาย เป็นที่พอพระทัยของฮ่องเต้ยิ่งนัก จนประทานรางวัลมาให้นางถึงสองคันรถม้า ทั้งยังมีป้ายเชิดชูฝีมือปักผ้าของนางประทานมาให้อีกด้วยป้ายพระราชทานนี้ถูกติดไว้อยู่ที่หน้าจวน เคียงข้างป้ายจวนตระกูลหลี่อย่างยิ่งใหญ่ ราคาผ้าปักกั้นฉากสามผืนก่อนหน้านี้ที่นางทำขึ้น ถูกทาบทามขอซื้อสูงถึงผืนละห้าพันตำลึงทอง แต่ก็ไม่มีผู้ใดที่คิดจะขายออกไป ด้วยอยากจะเก็บไว้ให้บุตรหลานและอวดสายตาของผู้อื่นเสียมากกว่าเพราะการตั้งครรภ์ของนาง หว่านหนิงนางจึงไม่ได้ถูกผู้ใดรบกวนขอให้ปักผ้าให้อีก มีเพียงผืนที่นางรับบอกจ้าวซื่อ และชุดของตู้ลู่จื้อที่นางรับปากไว้แล้วเท่านั้นที่นางทำให้ของทั้งสองสิ่งต่างก็มอบให้พวกเขาก่อนที่นางจะเดินทางกลับเมืองหลวงแล้ว ตอนนี้นางจึงว่างงานเอาแต่กินนอนอยู่เพียงภายในจวนเท่านั้นเรื่องที่น่าแปลกอีกเรื่องเห็นจะเป็นต้นหม่อนที่โตวันโตคืนจนบ่าวในจวนต่างตกตะลึงทุกวัน ยิ่งได้เห็นเหล่าผี

  • ข้าทะลุมิติมา ได้สามีไร้ค่าคนหนึ่ง   บุตรข้าเป็นตัวนำโชค

    ต่อไปนี้นางก็จะมีช่องเก็บของส่วนตัวเสียที ของมีค่าทั้งหมดหว่านหนิงนางนำมาใส่ลงไปด้านใน และผูกเก็บไว้ที่ข้างเอวของนางอย่างหวงแหน ยิ่งทำให้คอของเสี่ยวหู่ตั้งตรงมากกว่าเดิมเซียงเซียงกลับมาถึงเรือนก็นำผ้าหลายพับมามอบให้หว่านหนิง โดยผ้าทั้งหมดที่นางมอบให้ในครั้งนี้ เพื่อทำชุดและผ้าอ้อมให้บุตรของหว่านหนิงเท่านั้นส่วนเหมยลี่นางนำสุราแสงจันทร์ ที่ถูกนำออกมาแอบแสงจันทร์ในวันพระจันทร์เต็มดวงถึงหนึ่งร้อยครั้งด้วยกัน“นายหญิงสุราไหนี้ ท่านไว้ดื่มหลังจากที่ท่านคลอดบุตรแล้ว จะช่วยให้พลังหยินหยางในร่างกายท่านสมดุลเร็วขึ้น”หว่านหนิงนางมองสัตว์เทพทุกตัวของนางอย่างซาบซึ้ง ดวงตาของนางมีน้ำตาเอ่อคลอออกมา“ข้าไม่รู้จะขอบใจพวกเจ้าเช่นไร เพียงแค่มีพวกเจ้าอยู่ข้างกายจ้า ข้าก็นึกขอบคุณสวรรค์มาแล้ว” นางร่ำไห้ออกมาจนได้เสี่ยวหู่ซุกเข้าไปในอ้อมกอดของหว่านหนิงนางทันที ส่วนทั้งสามต่างเข้ามาคลอเคลียอยู่ที่แก้มของนางหลี่เฉียงที่เข้ามาเห็นภาพนี้พอดี ก็ยิ้มมองทั้งหมดอย่างภูมิใจ เรื่องดีที่สุดในชีวิตของเขาก็คงเห็นจะเป็นเรื่องนี้ที่มีหว่านหนิงและสัตว์เทพที่คอยช่วยเหลือ“ท่านพี่ ท่านดูนี่” หว่านหนิงนางนำของทั้งหมดออ

  • ข้าทะลุมิติมา ได้สามีไร้ค่าคนหนึ่ง   ก็ไว้ท้องต่อไป

    นับตั้งแต่ออกเดินทางจากเมืองหลวง ตัวหว่านหนิงนางก็แทบจะไม่ได้ปักผ้าสักเท่าไหร่ นางเอาแต่นอนพักอยู่ภายในรถม้า พอเข้าพักที่โรงเตี๊ยมนางก็เอาแต่นอน“นายท่าน นายหญิงกำลังตั้งครรภ์เจ้าค่ะ” ฮวาเตี๋ยนางร้องบอกหลี่เฉียง เมื่อนางลองบินเข้าไปใกล้ท้องของหว่านหนิงเพื่อให้แน่ใจว่าสิ่งที่นางคิดถูกต้อง“จะ เจ้า...เจ้าว่าอย่างไรนะ” หลี่เฉียงร้องออกมาอย่างตกใจจนเสี่ยวชิงที่เพิ่งนำม้าไปเก็บด้านหลังเรือน ต้องเดินเข้ามาดูว่าเกิดเรื่องใดขึ้น เขาก็เห็นเพียงนายท่านพูดคุยอยู่กับความว่างเปล่าเท่านั้น โดยมีเสี่ยวหู่ยืนอยู่ด้านข้าง จะบอกว่าคุยกับแมวก็ดูจะประหลาดเกินไป“ข้าบอกว่า นายหญิงตั้งครรภ์เจ้าค่ะ ท่านควรไปเชิญหมอมาตรวจให้นางอีกครั้งเพื่อความ...อ้าว” ฮวาเตี๋ยนางยังพูดไม่จบหลี่เฉียงก็วิ่งเข้าไปในหมู่บ้านเสียแล้วโดยหลงลืมไปเลยว่ามีเสี่ยวชิงอยู่ จะใช้ให้เสี่ยวชิงไปตามก็ย่อมได้ พอออกจากเรือนก็พบป้าตู้ที่นางกำลังจะเดินมาดูว่าผู้ใดมาที่เรือนของหว่านหนิง“อ้าว อาเฉียงเจ้ากลับมาเมื่อใด แล้วอาหนิงเล่า” นางดึงรั้งหลี่เฉียงที่กำลังเร่งฝีเท้าเข้าไปในหมู่บ้านไว้“เพิ่งกลับมาขอรับ ท่านป้าข้าจะรีบไปตามหมอ ขอตัวก่อนขอรั

  • ข้าทะลุมิติมา ได้สามีไร้ค่าคนหนึ่ง   มีเสือเข้ามา

    ยิ่งรู้ว่าหลี่เฉียงกับหว่านหนิงจะเดินทางกลับซานตง องค์ชายสามก็เสด็จมาพูดคุยเรื่องนี้ที่จวนตระกูลซูด้วยพระองค์เอง ยิ่งทำให้ผู้พบเห็นต่างตกตะลึงและยิ่งอยากจะสร้างความสัมพันธ์กับพวกเขามากกว่าเดิม“หากเจ้ากลับไปแล้วเปิ่นหวางจะหาสุราดื่มได้อย่างไร” ทุกวันนี้ก็แทบจะจิบวันละอึกอยู่แล้ว หากทั้งสองมิเดินทางกลับมาเมืองหลวงอีก มิต้องส่งคนไปรับสุราที่เมืองซานตงหรอกรึ“กระหม่อมเพียงกลับไปจัดการเรื่องที่เมืองซานตงและจะย้ายมาอยู่ที่เมืองหลวงพ่ะย่ะค่ะ” เรื่องนี้หลี่เฉียงพูดคุยกับหว่านหนิงนางแล้วหว่านหนิงนางก็อยากจะอยู่ใกล้บิดามารดา ตอนนี้ทั้งสองก็ให้พ่อบ้านเร่งหน้าจวนหลังใหม่ให้ทั้งคู่แล้ว เพราะหากยังอยู่ที่เรือนตระกูลซู หลี่เฉียงจะถูกผู้อื่นมองว่าเป็นเขยแต่งเข้า เรื่องนี้ไม่ดีสำหรับตัวเขาเลยสักนิดความจริงที่องค์ชายสามมาในวันนี้ก็อยากจะถามเรื่องที่เกิดขึ้นภายในวังเมื่อสองวันก่อนด้วย แต่เขาคิดว่าคงเป็นไปไม่ได้ จึงไม่ได้เอ่ยถามออกมาสองวันก่อนที่ตำหนักของกุ้ยเฟยเกิดเรื่องขึ้น เสียงกรีดร้องในยามค่ำคืนที่ดังไปทั่ววังหลัง ทำให้เกิดความโกลาหลอยู่ไม่น้อย ตอนที่ทหารเข้าไปภายในตำหนักก็ไม่พบสิ่งใดที่ผิดแปลก

  • ข้าทะลุมิติมา ได้สามีไร้ค่าคนหนึ่ง   เหมยลี่ทำดีมาก

    กุ้ยเฟยยิ้มหวานมองฮองเฮาที่เดินเข้ามาอย่างรู้งาน ดวงตาของนางไม่ต่างจากฮองเฮาที่มองจ้องกันไปมาอย่างแข็งกร้าว“พี่สาว วันนี้ท่านลำบากเดินมาหาข้าถึงตำหนักได้เลยรึ” กุ้ยเฟยลุกขึ้นทำความเคารพก่อนจะยกที่นั่งประธานให้ฮองเฮาไปนั่งแทนตน“หึหึ เปิ่นกงเห็นว่ามีเรื่องน่าสนุกที่ตำหนักของเจ้า จึงได้เดินมาร่วมชมด้วย อ๊ะ...ฮูหยินหลี่เจ้ามาทำอันใดที่นี่” กุ้ยเฟยกลอกตาอย่างเบื่อหน่าย การแสดงของฮองเฮาช่างน่าขันนัก“กุ้ยเฟยต้องการให้หม่อมฉันทำฉลองพระองค์ถวายสักสองสามชุด มิใช่ว่าหม่อมฉันจะไม่เต็มใจทำให้ เพียงแต่จำต้องเดินทางกลับไปซานตงก่อนเพคะ” หว่านหนิงได้ทีนางก็เอ่ยฟ้องเรื่องราวออกมาจนหมด“หึหึ ฮูหยินหลี่เจ้ามิต้องกังวลใจ น้องสาวข้านางรอได้ จริงหรือไม่” ฮองเฮาหันไปถามกุ้ยเฟย“จริงเพคะ” นางกัดฟันพูดออกมา ผู้ใดจะกล้าบอกว่าไม่จริงเล่า ยิ่งตอนนี้ฮองเฮาและบุตรของพระองค์กำลังได้รับความโปรดปรานอย่างหาที่สุดมิได้หากกุ้ยเฟยหาเรื่องฮองเฮาในยามนี้ไม่เท่ากับว่าโง่เขลาเกินไปหรอกรึ“เห็นหรือไม่ น้องสาวข้าช่างรู้ความนัก เจ้ากลับไปเตรียมตัวเถิด ไว้เดินทางเข้าเมืองหลวงเมื่อใด ค่อยเข้ามาพบกุ้ยเฟยก็ยังมิสาย”หว่านหนิงทำค

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status