“...” คนเป็นสามีไม่กล้าแม้แต่จะเอ่ยแย้ง เขาเองก็ชิงชังหมิงหาน เขาเกลียดพ่อของมัน น้องชายต่างแม่ที่ทำให้แม่เขาต้องเจ็บปวดทุกครั้งที่มองหน้ามันแย่งพ่อไปจากแม่เขาไม่พอ มันยังไปแย่งผู้หญิงที่เขาถูกใจมาเป็นเมียของมันอีก แม่ของหมิงหานเป็นคนสวยจนผู้ชายต่างหมู่บ้านอย่างเขายังต้องแวะเวียนไปแอบมองเธอบ่อย ๆ ใ
“หมายความว่ายังไงนะพ่อ ไอ้หมิงหานมันพูดแบบนั้นเลยหรอ นี่มันจะมากเกินไปแล้ว นี่พ่อเชียวนะ พ่อเป็นปู่ของมัน มันกล้าพูดแบบนี้ได้ยังไง” ชายชราเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้คนในบ้านฟังด้วยความโมโห เขาไม่อยากจะเล่าเลยจริง ๆ แต่เพราะเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับทุกคนในบ้าน อย่างไรก็ต้องช่วยกันแก้ไขปัญหา“ก็พูดไปแล้ว ที
“ผมไม่อยากจะพูดจาแรง ๆ กับปู่หรอกนะครับ แต่ว่ากลับบ้านของตัวเองไปเถอะ ที่นี่ไม่ใช่บ้านของผมด้วยซ้ำ ปู่ก็น่าจะรู้ ว่าผมออกมาตัวเปล่า ทุกอย่างที่มีอยู่ในตอนนี้ก็ของเซียนอวี่ทั้งนั้น ผมไม่ได้มีสิทธิ์อะไรเลยแม้แต่อย่างเดียว อาหารที่กินทุกวันนี้ก็เงินที่มาจากการทำงานของเซียนอวี่ ผมน่ะ ไม่มีอะไรเป็นของตัว
“แกยังจำปู่คนนี้ได้อีกหรอ คืออะไรครับ ไม่ใช่ว่าเป็นปู่หรอกหรอครับที่ทำหนังสือตัดขาดผม ตอนที่ผมกำลังนอนไม่ได้สติ อาการเป็นตายเท่ากัน ตอนนั้นไม่ใช่ว่าปู่หรอครับที่พยักหน้าอนุญาต”เขาไม่คิดจะไว้หน้าชายชราตรงหน้าอีกต่อไป บุญคุณหรือสายสัมพันธ์ที่เคยรั้งเขาเอาไว้เมื่อเก่าก่อนมันได้ขาดไปพร้อมกับหนังสือตัดข
แม้ว่าเรื่องที่ทั้งสองคนเป็นสามีภรรยากันจะแปลกไปสักหน่อย แต่หากเด็ก ๆ พากันไปในทิศทางที่ดีมันก็ไม่ใช่ปัญหาอะไรของพวกเขาที่เป็นคนนอกอยู่แล้ว แถมสองคนนี้ท่าทางจะพากันเรียนอีก ถือว่าวิสัยทัศน์กว้างไกลไม่น้อยเลย เขาชอบเด็กที่ใฝ่เรียนแบบนี้มาก ๆ ไม่อย่างนั้นคงไม่มาเปิดร้านหนังสือและเครื่องเขียนแบบนี้หรอก
เรื่องของซ่งหนิงหนิงกลายเป็นเพียงฝุ่นผงในชีวิตของเซียนอวี่ ตอนนี้เรื่องสำคัญที่สุดของเธอก็คือการสอนหนังสือให้กับหมิงหาน เธอต้องค่อย ๆ พยายามปูพื้นฐานที่สำคัญ ๆ ให้เขาไปทีละน้อยดีหน่อยที่หมิงหานพอจะอ่านออกเขียนได้ ไม่ถือว่าแย่มากจนกู่ไม่กลับ แต่ถึงอย่างนั้นก็ทำได้แค่อ่านออกเขียนได้กับการคิดเลขง่าย ๆ