"เจ้าค่ะคุณหนู"
ไป๋หลางรับคำก่อนจะเปิดผ้าม่านของรถม้าออก
"นี่เจ้าหยุดก่อน คุณหนูใหญ่ปวดหนัก"
คนขับรถม้าหยุดรถกะทันหัน ก่อนพยักหน้าให้ไป๋หลาง
"คุณหนูเจ้าคะ บ่าวสงสัยว่าคนขับรถม้าของจวนเป็นคนละคนกับตอนมาเจ้าค่ะ"
"เจ้าแน่ใจเหรอ"
ไป๋หลางพยักหน้าด้วยตาที่สั่นเทา หลิวลี่เซียนจึงเดินลงจากรถม้าแล้วพิจารณาชายคนดังกล่าวตรงหน้า จริงเหมือนที่ไป๋หลางบอกนาง ถ้าชายตรงหน้ามิใช่คนขับรถม้าของจวนตระกูลหลิวแล้วเป็นใครกัน?
"ที่นี่มิใช่ทางกลับจวนตระกูลหลิว เจ้าจะพาข้าไปที่ใด?"
หลิวลี่เซียนจ้องมองชายตรงหน้าด้วยแววตาเรียบเฉย ไม่ใช่ว่านางใจกล้าคิดจะต่อสู้กับชายตรงหน้า แต่นางแค่ต้องการรู้ว่าชายคนนี้เป็นคนของผู้ใดกัน
"คนขับรถม้าของจวนข้าไปไหน"
ชายตรงหน้ายังคงไม่ตอบอะไรทั้งสิ้น หลิวลี่เซียนเริ่มรู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาเล็กน้อย
หลิวลี่เซียนหันไปมองไป๋หลางก่อนจะล้วงหยกหญิงงามโชคดีออกมาจากแขนเสื้อของนาง ก่อนจะกระซิบกับไป๋หลางด้วยน้ำเสียงหนักแน่น
"ไป๋หลาง เจ้าตั้งสติแล้วฟังข้าให้ดีนะ"
"เจ้าค่ะคุณหนูใหญ่"
"เจ้าเอาหยกนี่ติดตัวไว้ ไปที่ศาลาร้องทุกข์บอกว่าต้องการพบกับท่านชุนหลาง บอกเขาว่าข้าหลิวลี่เซียนคุณหนูจวนตระกูลหลิวต้องการความช่วยเหลือด่วน เร็วเข้า!!"
จิ้นหมิงเป็นขันทีคนสนิทของฝ่าบาท การจะได้พบตัวเขาอาจจะทำให้ล่าช้า สู้ตามหาชุนหลางให้เจอก่อนจะเป็นการดีกว่า
"ตะ แต่บ่าว!!!"
"ไปสิ!!! ไม่ต้องห่วงข้า ถ้าเจ้าไม่รีบไปเจ้ากับข้าอาจไม่ได้กลับไปทั้งสองคน เราเป็นหญิงทั้งคู่สู้พวกมันไม่ได้แน่"
"ฮืออออ คุณหนูใหญ่"
"ไป!!!"
หลิวลี่เซียนผลักไป๋หลางให้วิ่งออกไป ชายบนรถม้าเห็นท่าไม่ดีจึงรีบลงมาตามไป๋หลาง
พลั่ก!! ตุ้บ
หลิวลี่เซียนยื่นเท้าของนางไปขัดขาของชายผู้นั้นจนล้มหน้าคะมำพื้น นางยิ้มออกมาเล็กน้อยก่อนจะมองไปที่ชายผู้นั้นที่ล้มไม่เป็นท่า
ชายชุดดำยังไม่ทันจะได้ยืนขึ้นด้วยซ้ำ หลิวลี่เซียนก็หยิบไม้ขนาดเหมาะมือฟาดกระหน่ำลงไปที่ศีรษะของชายคนดังกล่าวจนสลบเหมือด
หึ!!! รู้จักชิงชิงน้อยไปซะละ สมัยอยู่โลกอนาคตนางเคยตามไล่จับหลี่เย่กับภรรยาน้อย นางตีจนสองคนนั้นสลบไปสามวันสามคืน
แต่สุดท้ายนางก็พลาดให้กับเพื่อนสนิทของตัวเอง
หลิวลี่เซียนส่ายหน้าไปมาไล่ความคิดนี้ออกไป ถึงจะคิดก็ไม่สามารถกลับไปแก้ไขอะไรได้อีก เจ็บใจนักที่สองคนนั้นยังเสวยสุขอยู่!
หลิวลี่เซียนยกเท้ากระทืบไปที่ลำตัวจนชายผู้นั้นตัวกระตุกอีกครั้ง
หึ! ขอข้าระบายอารมณ์กับเจ้าแทนละกัน
หลิวลี่เซียนกระโดดขึ้นหลังม้าก่อนจะควบม้ากลับไปยังทางเดิม
ป่านนี้ไป๋หลางน่าจะถึงศาลาร้องทุกข์แล้ว
ฟิ้ว! พรึ่บ
ฮี้!!!
อยู่ดีๆ ม้าที่นางขี่ก็เสียการควบคุม ลูกธนูปักเข้าที่ขาข้างขวาของมัน มันยกสองขาหน้าขึ้นจนสุด ทำให้หลิวลี่เซียนที่อยู่บนรถม้าร่วงตกลงมา
"โอ๊ย!!!"
หลิวลี่เซียนยกข้อศอกของนางขึ้นมาดู มีรอยแผลฟกช้ำเป็นวงกว้าง เอวของนางรู้สึกเคล็ดเล็กน้อย
"เจ้านี่เก่งกว่าที่ข้าคิดไว้ซะอีก"
หลิวลี่เซียนละสายตาจากบาดแผล นางเงยหน้าขึ้นไปมองเสียงที่คุ้นเคยเหมือนเคยได้ยินมาจากที่ไหน ก่อนที่นางจะมีสีหน้าตกใจระคนแปลกใจอยู่ไม่น้อย
องค์ชายรอง?
จ้าวเฟยหรงกระโดดลงจากหลังม้าเดินตรงมาที่หลิวลี่เซียน เขายื่นมือส่งไปให้นาง หลิวลี่เซียนมีสีหน้าเรียบเฉยก่อนจะค่อยๆ พยุงตัวเองลุกขึ้นยืน จ้าวเฟยหรงยกยิ้มที่มุมปากเล็กน้อย หญิงงามตรงหน้าช่างเย้ายวนใจยิ่งนัก
"พระองค์มาอยู่ที่นี่ได้อย่างไรเพคะ รึว่าชายชุดดำคนนั้น?"
"เจ้าฉลาดดีนี่"
องค์ชายรองยิ้มตาหยีอย่างอารมณ์ดี ทำให้ใบหน้าของเขาดูสว่างสดใสมีชีวิตชีวายิ่ง แต่ทว่าในสายตาของหลิวลี่เซียนมันช่างดูน่ารังเกียจหาสิ่งใดเปรียบ
องค์ชายรองก้าวเท้าเข้ามาหาหลิวลี่เซียนอย่างไม่รอช้า ในระหว่างที่นางกำลังก้าวขาถอยหนี เขาก็กระชากแขนนางเอาไว้และดึงเข้าหาตัวของเขา
หลิวลี่เซียนมีสีหน้าตกใจเล็กน้อย นางจ้องหน้าองค์ชายรองด้วยความหงุดหงิด แต่ทว่าฝ่ายตรงข้ามกลับยิ้มเยาะนางเหมือนกับต้องการจะบอกแก่นางว่า เจ้าจะทำอะไรได้ ข้าเป็นองค์ชายนะ
"พระองค์จะทรงทำอะไรหม่อมฉันเพคะ"
"ข้าต้องการตัวเจ้าไปอยู่ในตำหนักของข้า"
"พระองค์หมายความว่าอะไรเพคะ"
"ยอมเป็นชายาเอกของข้าเถอะ ข้าสัญญาจะทำให้เจ้ามีความสุขที่สุด"
หึ! มีความสุขกับผีละสิไม่ว่า เห็นนางเป็นคนโง่งมรึไงกัน เขาคงไม่รู้สินะว่านางเคยผ่านการมีครอบครัวในโลกอนาคตมาแล้ว คำพูดสวยหรูแต่วางกับดักเอาไว้มากมาย
"พระองค์อย่ามายุ่งกับหม่อมฉันเลยเพคะ หม่อมฉันไม่ได้ต้องการสิ่งที่พระองค์มีเลยแม้แต่น้อย"
"เจ้าอย่าเล่นตัวให้มันมากนัก ในใต้หล้านี้มีหญิงงามไม่รู้กี่ร้อยกี่พันคนปรารถนาจะได้เข้ามาอยู่ในตำหนักของข้า"
"ยกเว้นหม่อมฉันเพคะ!!!"
"หากข้าต้องการ เจ้าไม่มีทางปฏิเสธ!!!"
ไอ้บ้าเอ๊ย!!! อยากเตะผ่าหมากไอ้หมอนี่จังเลยแฮะ!!! เอาแต่ใจยิ่งนัก ไร้เหตุผลสิ้นดี หลิวลี่เซียนพยายามสะบัดแขนให้หลุดจากการเกาะกุมขององค์ชายรอง แต่ทว่าเขายิ่งจับนางแน่นเข้าไปอีก และยังใช้มืออีกข้างมาบีบแก้มนางไว้อีกด้วย
"หม่อมฉันเจ็บเพคะ!!!"
"หึ!!"
ศาลาร้องทุกข์
ไป๋หลางที่วิ่งมาอย่างเหนื่อยหอบ นางหยุดพักหายใจก่อนที่จะรวบรวมสติและเดินเข้าไปทหารรักษาการณ์
"แม่นางต้องการพบใครรึ"
"ข้ามาหาท่านชุนหลาง"
"มีธุระอันใด"
"คุณหนูของข้ากำลังเดือดร้อน นางให้ข้ามาหาท่านชุนหลางที่นี่เจ้าค่ะ นางยังให้หยกนี้แก่ข้ามาด้วย!!!"
"ทหารรักษาการณ์มองหน้าไป๋หลางคราหนึ่ง ก่อนจะทำหน้าครุ่นคิด ในระหว่างนั้นเองก็มีเสียงควบม้าดังมาทิศทางที่นางยืนอยู่
"มีเรื่องอะไรกัน แล้วนั่น!!"
ชุนหลางที่กำลังกลับจากการลาดตระเวน มองหยกในมือของไป๋หลาง เขาจำได้ทันทีว่านั่นคือตราสัญลักษณ์ประจำพระองค์ขององค์รัชทายาท
เขารีบก้าวเข้าไปหาไป๋หลางที่ตอนนี้น้ำตานองหน้า ยืนตัวสั่นด้วยความกลัว
"เจ้าได้หยกนี้มาจากที่ใดแม่นาง"
"ใต้เท้าเจ้าคะ ฮืออ ช่วยคุณหนูใหญ่ด้วยเจ้าค่ะ ฮือ"
ชุนหลางรู้ได้ทันทีว่าแม่นางน้อยตรงหน้าเขาคนนี้คือคนรับใช้ของหลิวลี่เซียน
"เจ้ารอข้าอยู่ที่นี่ อีกเดี๋ยวข้าจะพาคนไปช่วยคุณหนูของเจ้า"
"ขอบพระคุณใต้เท้ายิ่งนักเจ้าค่ะ ฮือ"
"พวกเจ้าคอยดูแลนางให้ดีจนกว่าข้าจะกลับมา!!"
ชุนหลางรีบควบม้าตรงดิ่งไปที่วังหลวงทันทีอย่างไม่รอช้า
ตำหนักองค์รัชทายาท
ชุนหลางรีบเข้าเฝ้าจ้าวจิ้งเทียนอย่างไม่รอช้า หลังจากที่เขาได้รับฟังเรื่องราวจากชุนหลาง สีหน้าของจ้าวจิ้งเทียนไม่สู้ดีนัก
"ทำเช่นไรดีพ่ะย่ะค่ะ"
"เตรียมคนให้พร้อม ไม่ต้องมากจนน่าสงสัย พาสาวใช้ของลี่เซียนมาเจอข้าที่ศาลานัดพบ"
"พ่ะย่ะค่ะ"
ชุนหลางควบม้าออกจากวังหลวงตรงไปรับไป๋หลางมาพบกับจ้าวจิ้งเทียน เขายังคงปลอมตัวเป็นเพียงขันทีธรรมดา ไป๋หลางเองก็ไม่มีเวลามาสนใจสิ่งใดตอนนี้ นางห่วงคุณหนูของนางยิ่งนัก
"ชายที่ขี่รถม้าของจวนเจ้าใส่ชุดดำงั้นหรือ"
"เจ้าค่ะ"
ชุดดำ? ทหารลับของจ้าวเฟยหรง
จ้าวจิ้งเทียนมีสีหน้าเย็นชาขึ้น ถ้าเป็นเช่นที่เขาคิดไว้ตอนนี้หลิวลี่เซียนกำลังเจอภัยพิบัติที่น่าโสมมที่สุด
ทหารลับรักษาพระองค์นั้น จัดไว้สำหรับองค์ชายทุกพระองค์ มีเพียงไม่กี่คนที่รู้เรื่องนี้ จ้าวจิ้งเทียนสั่งคนสืบจนทราบว่าจ้าวเฟยหรงมีพลทหารลับชื่อว่าอินทรีดำ
ส่วนจ้าวจิ้งเทียนพลทหารลับของเขานั้น เป็นสิ่งที่จ้าวเฟยหรงตามหามาตลอด แต่ไม่สำเร็จเพราะพลทหารลับของจ้าวจิ้งเทียนนั้น เขาให้ทหารเหล่านั้นแสร้งปลอมตัวเป็นบัณฑิตบ้าง ชายขี้เมาตามท้องตลาด รึแม้กระทั่งพ่อค้าเถ้าแก่ร้านค้า เรื่องราวของจ้าวเฟยหรงจึงไม่สามารถละจากสายตาเขาไปได้
แต่ครั้งนี้เขาพลาดสิ่งใดไปกันแน่!!!
หลิวลี่เซียนค่อยๆ ลืมตาขึ้นมา ความรู้สึกอ่อนเพลียและเหนื่อยล้าถาโถมเข้าใส่ร่างกายของนางอย่างตั้งรับเอาไว้แทบไม่ทัน"ดื่มน้ำก่อนนะคะ คุณหนู"หลิวลี่เซียนหันไปมองก่อนจะพบเข้ากับเลขาหวัง เลขาประจำตัวของนางที่เพิ่งจ้างเข้ามาทำงานให้เมื่อห้าปีก่อนเดี๋ยวนะ!! นี่มันเรื่องอะไรกัน?หลิวลี่เซียนยกแก้วน้ำขึ้นมาดื่มด้วยความหิวกระหาย ก่อนจะมองสังเกตไปโดยรอบ ก็พบว่าตอนนี้ตนเองกำลังใส่ชุดของโรงพยาบาลอยู่นี่มันเกิดอะไรขึ้น? นางย้อนกลับมาร่างเดิมเช่นนั้นหรือ?หลิวลี่เซียนยกมือขึ้นบีบหว่างคิ้วที่ปวดหนึบขึ้นมาเสียดื้อๆ ความคิดมากมายประเดประดังเข้ามาในหัวของนางอย่างไม่จบไม่สิ้น"คุณหนูชิงชิงคะ อีกเดี๋ยวคุณหมอคงจะมาแล้วค่ะ""เลขาหวัง""คะคุณหนู?""ข้า เอ่อ ฉันหลับไปนานเท่าไร แล้วที่ผ่านมาเกิดอะไรขึ้นบ้าง?"เลขาหวังขมวดคิ้วมอง 'จ้าวชิงชิง' ด้วยแววตาสงสัย แต่ก็ยอมเอ่ยปากเล่าให้เธอฟังทุกเรื่องเลขาหวังเล่าว่า คุณพ่อของจ้าวชิงชิงโทรมาหาเลขาหวังกลางดึกให้รีบพาตำรวจมาที่บ้านโดยด่วนที่สุด เธอเองก็ไม่เข้าใจว่าเพราะอะไรท่านประธานจึงให้เรียกตำรวจเข้าไปในเวลาดึกดื่นเช่นนี้แต่เมื่อเธอไปถึงก็พบว่าหลี่เย่สามีของจ้าว
ภายในคุกหลวงที่มืดมิดไร้ซึ่งแสงไฟส่องสว่าง ปรากฏร่างของเหมยฮวาชิงที่นอนดิ้นทุรนทุรายอยู่บนพื้นที่มีหนูตัวน้อยใหญ่ไต่ยั้วเยี้ยไปมาอย่างน่าขนลุก"ได้เวลาดื่มยาพิษแล้ว"เสียงผู้คุมคุกหลวงที่นางได้ยิน ราวกับเสียงแห่งขุมนรกกำลังเรียกร้องหานาง นางไม่อาจจะยอมรับได้เลยว่า สุดท้ายแล้วนางต้องมาตกตายด้วยยาพิษที่ตนเองเป็นคนสร้างมันขึ้นมาด้วยมือของนางเองหลังจากเหมยฮองเฮาตายจากไปแล้ว ก็มีคำสั่งให้ประหารคนตระกูลเหมยจนสิ้นซาก ไม่เหลือรอดแม้เพียงคนเดียว บ่าวไพร่ถูกโบยจนตกตายไปตามกัน ป้ายคำสั่งทหารนับแสนนายที่เคยอยู่ในมือของท่านพ่อก็ถูกยึดคืนสู่ราชสำนักไปหมด จ้าวจิ้งเทียนช่างโหดร้ายยิ่งนัก เขาถอนรากถอนโคนตระกูลเหมยจนสิ้นซากไร้การได้ลืมตาอ้าปากอีกครั้งจวนตระกูลเหมยถูกยึดเป็นสมบัติคลังหลวง ตระกูลเหมยที่เคยโอ่อ่าใหญ่โต อำนาจบารมีล้นฟ้า ไม่มีผู้ใดกล้าต่อกรด้วย สุดท้ายแล้วกลับหายสาบสูญตายจากไปอย่างไม่เหลือรอดแม้แต่คนเดียวเหมยฮวาชิงถูกกรอกยาพิษทุกวัน วันละสามมื้อ หลิวลี่เซียนช่างจิตใจอำมหิตจนน่าหวาดกลัวเหมยฮวาชิงดิ้นทุรนทุราย ดวงตาเบิกโพลงกระอักเลือดออกมาคำโต ช่วงชีวิตสุดท้ายของนางนั้น นางนึกหวนย้อนไปถึง
รัชศกจิ้งเทียนปีที่หนึ่งหลิวลี่เซียนกำลังนั่งอยู่ที่หน้ากระจกมองดูตนเองถูกเหล่านางกำนัลจัดแต่งอาภรณ์ให้ด้วยความใส่ใจ นางยกยิ้มมุมปากมองดูสตรีที่สูงส่งตรงหน้าด้วยสายตาพอใจ นี่ใช่นางจริงหรือ? ราวกับฝันไปเสียจริงๆ"ได้เวลาแล้วเพคะฮองเฮา"หลิวลี่เซียนพยักหน้าก่อนจะมองไป๋หลางด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน ไป๋หลางนั้นได้เลื่อนขั้นเป็นนางกำนัลคนสนิทของหลิวลี่เซียนคอยรับใช้อยู่ข้างกายนางหลิวลี่เซียนนั่งอยู่บนเกี้ยว มองดูเหล่าขันทีนางกำนัลหมอบกราบทำความเคารพนางด้วยสายตาอ่อนโยนมีเมตตา เสียงดนตรีบรรเลงขับขาน ช่างฟังแล้วให้ความรู้สึกตื้นตันในใจเหลือคณานางกับจ้าวจิ้งเทียนอภิเษกสมรสกันเมื่อสองเดือนก่อน หลังจากที่ไท่ซังหวงทรงสละราชสมบัติ จ้าวจิ้งเทียนจึงแต่งตั้งนางขึ้นเป็นฮองเฮาหลิวฮองเฮาสวมชุดสีแดงปักลายหงส์คู่มังกร แถบเซี๊ยะเพ่ยปักลายหงส์พิลาสคู่ มงกุฎหงส์เป็นรูปแบบดั้งเดิมของราชวงศ์ต้าโจว มีหงส์รำแพนคู่หนึ่งตัว ด้านข้างคือหงส์พิลาสข้างละหนึ่งตัว ประดับด้วยทับทิมและอัญมณี ส่งเสริมให้พระนางดูงามสง่าและน่าเกรงขามยิ่งนัก ใบหน้าที่งดงามดูทรงอำนาจชวนมอง ทำให้ผู้ที่ได้พบเห็นไม่สามารถละสายตาจากนางไปได้ฮ่องเต้จ้
หลิวลี่ซือจ้องมองร่างอันไร้ซึ่งลมหายใจของเหมยฮองเฮาเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะใช้ผ้าปิดบังใบหน้า แล้วเดินก้มหน้าก้มตาออกมาจากคุกหลวงโดยไร้ซึ่งพิรุธใดๆ นางเดินไปอย่างไม่รีบไม่ร้อน ชื่นชมบรรยากาศภายในวังหลวงยามค่ำคืนอย่างสงบเยือกเย็นคืนนี้พระจันทร์ช่างงดงามเหลือเกิน ท่านแม่เจ้าคะ ป่านนี้ท่านคงกำลังชื่นชมข้ากับท่านพี่ลี่เซียนอยู่บนสรวงสวรรค์ใช่หรือไม่?รุ่งเช้าข่าวการตายอย่างปริศนาของเหมยฮองเฮาก็เป็นที่โจษจันกันไปทั่วทั้งวังหลวง สภาพศพช่างน่าเวทนาและน่าขยะแขยงไปในคราเดียวกัน อดีตฮองเฮาพระองค์นี้ช่างอายุสั้นยิ่งนัก เพิ่งจะได้เสวยความสุขอยู่ในตำแหน่งที่สูงสุดได้ไม่นาน ก็ร่วงตกลงมาสู่ความตายเบื้องล่างอย่างน่าอนาถในที่เกิดเหตุพบผ้าคลุมผืนหนึ่งปักตัวอักษรฮวาชิงเอาไว้ คาดว่าน่าจะเป็นของฆาตกรที่ใช้ฆ่าอดีตฮองเฮา ผู้คุมคุกหลวงถูกสอบสวนอย่างหนัก เขาให้การว่ามีนางกำนัลของตำหนักพระชายารององค์รัชทายาทมาขอพบกับอดีตฮองเฮา บอกว่าพระชายารองให้นำสิ่งของมามอบให้อดีตฮองเฮา หลังจากที่นางกำนัลผู้นั้นเดินออกมา อดีตฮองเฮาก็กลายเป็นศพไปเสียแล้ว กว่าจะทราบว่านางตายก็เกือบจะรุ่งสางของอีกวันเหมยฮวาชิงถูกควบคุมตัวมา
จ้าวเฟยหรงมองเหมยฮองเฮาด้วยแววตาเย็นเยียบ บุตรชายหัวแก้วหัวแหวนที่เขารักยิ่ง นางถึงกับกล้ามาวางยาพิษเชียวหรือ ช่างบังอาจเทียมฟ้ายิ่งนัก!!!"นังคนสารเลว!!!""หึ!! ไม่ใช่แค่บุตรชายของเจ้านะ แม้แต่แม่ของเจ้าก็ถูกข้าวางยาพิษมานานเสียจนร่างกายอ่อนแอ อีกไม่นานนางคงจะไปสู่ปรโลกอย่างเป็นสุขพร้อมกับบุตรชายของเจ้า ฮ่าาๆๆๆ""นังคนสารเลว สุดท้ายเจ้าก็หลุดปากออกมาทั้งหมดว่าเจ้าเป็นคนทำ!!!""แล้วอย่างไรเล่า!! ข้าเป็นคนทำเรื่องทั้งหมดด้วยตนเอง คนในตระกูลข้าไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง"จ้าวจิ้งเทียนส่งเสียงเฮอะในลำคอ ใครเชื่อนางก็บ้าเต็มทนแล้ว เขามองนางด้วยสายตาดูแคลนก่อนจะเอ่ยปากกับนาง"คนในตระกูลของเจ้าจะมีส่วนรู้เห็นในความเลวของเจ้าหรือไม่นั้น ข้าจะเป็นคนสืบหาเอง!!!"จางอิงอิงมองเหมยฮองเฮาก่อนจะยกยิ้มเจ้าเล่ห์ที่มุมปาก นางค่อยๆ ย่องไปทางด้านหลังของเหมยฮองเฮาด้วยฝีเท้าที่เบาเป็นอย่างยิ่ง ก่อนจะใช้เข็มเงินอาบยาพิษแทงเข้าไปที่ต้นคอของเหมยฮองเฮาฉึก!!!"อ๊าาาา"หลิวลี่เซียนอาศัยช่วงเวลาชุลมุนนี้ กระทุ้งศอกไปที่ปลายคางของเหมยฮองเฮาอย่างแรงจนนางมึนงง เซถลาใบหน้าบิดเบี้ยวด้วยความทรมาน"จับนางไว้!!!"เหล่าทหารจับ
หลิวลี่เซียนยื่นมือไปทุบประตู หวังจะร้องขอความช่วยเหลือ แต่กลับพบว่ามันร้อนเสียจนนางต้องรีบชักมือกลับ ควันสีขาวภายในห้องยิ่งพวยพุ่งมากขึ้นจนนางรู้สึกจุกแน่นที่จมูกและเริ่มหายใจไม่ออก นางถอยหลังออกมาทรุดตัวลงนั่ง สติเริ่มรางเลือนลงไปทุกขณะ"ชิงชิง"หลิวลี่เซียนพยายามประคองสติและเงยหน้าไปมอง ร่างของนางถูกจ้าวจิ้งเทียนช้อนตัวอุ้มขึ้นมาไว้ในอ้อมอก ก่อนที่เขาพานางพุ่งทะยานออกมาจากเรือนที่ไฟกำลังไหม้ลุกโหม"แค่ก แค่ก""เป็นอย่างไรบ้าง"หลิวลี่เซียนพยักหน้าน้อยๆ นางเองรู้สึกดีขึ้นไม่น้อยที่ได้ออกมาจากควันสีขาวที่ลอยคลุ้งเช่นนั้น"ท่านมาได้อย่างไร""ข้ารู้สังหรณ์ในใจว่าจะเกิดเหตุการณ์ไม่ดีกับเจ้าก่อนถึงวันแต่งงานของเรา ข้าคาดเดาไว้ไม่ผิดเลย พวกมันลงมือรวดเร็วยิ่งนัก""ลี่เซียน เจ้าไม่เป็นอะไรนะ""ท่านพี่ ข้าปลอดภัยดีเจ้าค่ะ ซินฮวาเล่า""นางสำลักควันจนหมดสติ หมอหลวงกำลังดูอาการอยู่""เหตุใดไฟจึงไหม้ได้เจ้าคะ""คาดว่าเหมยฮองเฮาคงจะลงมือแล้ว สายสืบภายในของข้าที่แฝงอยู่ในตำหนักนางถูกนางสังหารจนสิ้นไปเสียแล้ว"หลิวลี่เซียนใจหล่นวูบ นางมองจ้าวฝูหมิงด้วยสายตาเป็นกังวล จ้าวฝูหมิงรับรู้ในความกังวลของน