“สาวงามจากประเทศไทยล้วนแล้วแต่มีความงดงามทั้งนั้นเลยนะขอรับท่านฮาซีฟ”
ชีคดิลฮามจากรัฐกุมเบ สหายของฮาซีฟเอ่ยชื่นชมอย่างไม่ขาดปากถึงหญิงสาวที่ปรากฎกายอยู่บนเวที สายตาของชายหนุ่มทุกคู่ล้วนแล้วแต่จ้องไปที่ความงามที่อยู่เบื้องหน้า
“อืม” ฮาซีฟรู้สึกพึงพอใจเป็นอย่างมาก เมื่อเห็นถึงความงดงามของสาวงามแต่ละคน ชายหนุ่มหรี่ตาคมกริบปรายตามองไปที่หญิงสาวที่กำลังวาดลวดลายอยู่บนเวที ภายในกายของเขาร้อนรุ่มเพราะสตรีตรงหน้านั้น ปลุกกำหนัดความต้องการของบุรุษเพศขึ้นมาอย่างฉับพลัน...
“สาวงามนางคนนี้ถูกใจข้ายิ่งนัก...”
ชีคดิลฮามเอ่ยขึ้นทันที เมื่อสายตาของเขาจับจ้องไปยังสาวไทยคนสุดท้าย
“...” ฮาซีฟเงยหน้าขึ้น สายตาคมกริบมองไปยังเป้าหมายที่สหายของเขานั้นพูดถึง ดวงตาสีน้ำตาลเข้มวาบไหวเกิดความพึงพอใจกับความงดงามของสตรีตรงหน้าทันที ความร้อนในเรือนกายพลุ่งพล่านเมื่อเธอเดินเข้ามาใกล้ เขามองริมฝีปากบางที่เผยอน้อยๆ ยามที่หยุดมองผู้คน ภายในกายชายหนุ่มถูกกระตุ้นขึ้นอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ฮาซีฟจ้องลึกเข้าไปในดวงตาคู่สวยที่กำลังกวาดสายตามองมายังหน้าหน้าเวที ที่เขากำลังนั่งอยู่ ความร้อนผ่านวูบเข้ามาในกายกำยำทันที ความต้องการของบุรุษเพศถูกปลุกขึ้นมาจนอัดแน่นปวดหนึบ ไม่เคยมีสตรีนางใดที่ทำให้เขาใจเต้นแรงได้ขนาดนี้มาก่อน เขามองริมฝีปากบางที่อวบอิ่มนั้นตลอดเวลา อาร์!!! เขาอยากจะสัมผัสริมฝีปากนั้นดูสักที ว่าจะหอมหวานสักเพียงใด
“ท่านพี่...คงถูกใจนางจริงๆ นะขอรับ ถึงจ้องนางจนตาไม่กระพริบขนาดนั้น”
อิลยาสแซวพี่ชายที่กำลังตะลึงกับความงดงามตรงหน้า ‘นี่สตรีไทยงดงามถึงเพียงนี้เชียวหรือ’ภาพที่เห็นตรงหน้ามันทำให้เขาคลายสงสัย
“อืม...แล้วเจ้าล่ะอิลยาส...เจ้ามิสนใจบ้างเลยหรือ”
“ก็ดูน่าสนใจดีนะขอรับท่านพี่ แต่ข้าไม่ชอบหญิงต่างชาติขอรับ...”
“งั้นก็คงเป็นเรื่องดีของพี่สินะ”
[อีกด้านหนึ่ง]
“อุ้ย! ข้าวฟ่างเรียกเสียงแฟรซได้เยอะมาก...มีแต่คนมอง...ตื่นเต้นจังเลยอ่ะ”
“หนูว่าเจ้ต้องดันน้องใหม่สองคนนี้ดีกว่านะคะ ดูสิช่างภาพ ชีคหนุ่มหล่อมองกันตาเป็นมันเลยค่ะเจ้...โดยเฉพาะข้าวฟ่าง หนูว่าถ้าเจ้ดันนะ เจ้ไม่เหนื่อยเลยค่ะ ดูน้องแล้วมงน่าจะลงไม่ยากเลยค่ะเจ้”
“นั่นสิ…” กัญญาวีร์เห็นด้วยกับลูกน้อง เมื่อสายตาของเธอมองไปยังบนเวที เธอคงจะต้องหันมาสนใจเด็กใหม่คนนี้แล้วสินะ รินลดาคือเพชรแท้ที่ส่องประกายออกมาอย่างชัดเจนโดยไม่ต้องพยายามอะไรเลย
[อีกด้านหนึ่ง]
“สตรีไทยช่างงดงามเหลือเกิน...”
เสียงของชายหนุ่มคนหนึ่งดังขึ้น
“...” คาริสมองไปยังบนเวที เมื่อมีเสียงฮือฮาดังขึ้น เรียกความสนใจให้เขาจับจ้องไปยังเป้าหมายที่กำลังถูกพูดถึง สิ่งที่เขาเห็นนั้นมันทำให้ตะลึงทันใด ภาพของหญิงสาวที่งดงามดังภาพวาดในเทพนิยาย เธอสะกดทุกสายตาให้จับจ้องไปที่เธอรวมทั้งเขาด้วยคือหนึ่งในนั้น คาริสรีบสอดสายตามองหาพี่ชายของเขาทันที และเขาก็พบว่าพี่ชายเขานั้นมองสตรีที่อยู่เบื้องหน้าอย่างตกตะลึงด้วยเช่นกัน
“ท่านมิสนใจหรือขอรับ...ข้าเห็นว่าพี่ชายของท่านดูน่าจะสนใจสตรีสาวชาวไทยเป็นพิเศษนะขอรับ”
เสียงชายหนุ่มคนเดิมกระซิบถามคาริส
“นางไม่ใช่คนประเทศของเรา นางเป็นนางแบบที่ทางทีมงามจัดมาเพื่อเป็นทูตแห่งเอเชีย...”
คาริสพูดตอบกลับ แต่สายตาของเขายังหยุดนิ่งไปยังร่างอรชร ผิวนางช่างเนียนละเอียดดุจแพรไหม ดวงตาคมดุดุจเหยี่ยวกวาดไปทั่วเรือนร่างอวบอิ่ม ก่อนที่สายตาคู่นั้นจะหยุดอยู่ที่อกอวบคู่งามนั้นอย่างจงใจ ความพลุ่งพล่านอย่างไม่เคยเป็นมาก่อนเกิดขึ้นในเรือนกายกำยำ ชีคหนุ่มหลับตานิ่งเพื่อระงับอารมณ์ร้อนในตัวเขาทันที ‘เขายังขนาดนี้ แล้วท่านพี่ฮาซีฟจะขนาดไหนกัน’
[ด้านฮาซีฟ]
“ได้ขอรับนาย”
ยามินลูกน้องคนสนิทรับคำสั่งจากผู้เป็นนาย พร้อมกับเดินออกไปยังด้านหลังเวทีการจัดงาน
สิบนาทีต่อมา...
“นายท่านขอรับ...เอ่อ...ทางโน้นปฏิเสธขอรับ”
ยามินได้รับภารกิจจากผู้เป็นนาย คือการเชื้อเชิญสาวงามสองคนไปร่วมรับประทานอาหารที่คฤหาสน์หลังใหญ่ต่อจากงานนี้ โดยเขาได้เสนอค่าตอบแทนในราคาที่สูงลิบลิ่ว แต่กลับถูกปฏิเสธ
“ทำไม!” เสียงทุ้มเริ่มเข้มขึ้นอย่างไม่สบอารมณ์เท่าไหร่ สายตาคมจ้องไปยังสาวงามที่กำลังเดินจากไป หลังจากการแสดงนั้นจบลง ฮาซีฟรู้สึกหน้าชาขึ้นมาทันที ที่เขาถูกปฏิเสธ
“นางบอกว่าไม่สะดวกขอรับ คือนางเสร็จจากงานนี้อีกสามวันก็จะกลับประเทศของนางแล้วขอรับ”
ยามินกำลังมองผู้เป็นนายของตัวเองที่กำลังเริ่มมีโทสะ เพราะนายฮาซีฟไม่เคยโดนปฏิเสธเลยสักครั้ง
“เจ้าได้เสนอเงินไปหรือไม่ยามิน!”
“เสนอเพิ่มไปอีกสองเท่าขอรับนาย แต่ทางผู้จัดการปฏิเสธทุกทางขอรับ”
“งั้น!” ชีคหนุ่มกระซิบบอกลูกน้องคนสนิททำการบางอย่าง
“คืนนี้หรือขอรับ!” ยามินตกใจกับสิ่งที่นายของเขาสั่ง
“ข้าจะไปรอที่บ้าน หวังว่าเจ้าคงไม่ทำให้ข้าต้องผิดหวังนะยามิน...ถ้าทำเรื่องนี้ไม่สำเร็จ เจ้าก็ไม่ต้องมาให้ข้าเห็นหน้าเจ้าอีกต่อไป!”
“ขอรับ”
ยามินรับคำผู้เป็นนาย สิ่งที่นายให้เขาทำนั้น ถูกเดิมพันด้วยชีวิตของเขาเลยหรือนี่!
[อีกฝั่งหนึ่ง]
“เก่งมาก! ทุกคนทำได้เยี่ยมมากเลยนะคะ น้องโมนาสวยสะพรึง! คนมองหนูและสนใจกันใหญ่เลยนะคะ”
กัญญาวีร์พูดเอาใจเบอร์หนึ่ง จริงๆ แล้วบุคคลที่ทุกคนสนใจ ถึงขั้นติดต่อเป็นการส่วนตัวนั้นคือ รินลดาและธาริกาต่างหาก กัญญาวีร์ไม่อยากให้เรื่องนี้เกิดปัญหาขึ้นในทีม จึงปฏิเสธเรื่องนั้นไป แค่ค่าตัวแต่ละคนที่ได้รับก็เพียงพอแล้ว เธอไม่อยากให้เด็กของเธอรับงานแบบนั้น และเธอคิดว่าเด็กสองคนนี้ก็น่าจะปฏิเสธเช่นกัน
“เหรอคะเจ้...โมนาปวดตากับแสงแฟลซที่ส่องมาที่โมนามากๆ เลยนะคะเจ้ ทำงานแปปเดียวได้เงินหลักล้าน โมนาชอบจังเลยค่ะ”
“ก่อนหน้านี้เธอไม่ได้พูดแบบนี้นะโมนา ถ้าฉันจำไม่ผิด”
“แหม...เธอนี่ก็ไม่เบาเหมือนกันนะปราง...อิจฉาฉันหรือไง เฝ้าแต่แขวะฉันตลอด!”
อริสาหันไปตะคอกเสียงใส่เพื่อนอริขาประจำ
กดหัวใจ คอมเมนท์ = หนึ่งกำลังใจนะคะ ฝากกดติดตาม เพิ่มเข้าชั้น และรับแจ้งเตือนตอนใหม่ เรื่องใหม่ค่ะ
[เมืองไบยาร์...ประเทศซาเลวีเนียร์] “ข้าจะส่งคนไปรับครอบครัวของเจ้าในวันพรุ่งนี้...เจ้าได้นัดหมายครอบครัวของเจ้าไว้หรือไม่โมนา”ฮาซีฟมองร่างอวบอิ่มที่กำลังเลือกเครื่องประดับเพชรนิลจินดา กับเหล่าบรรดาสาวใช้ที่ล้อมหน้าล้อมหลัง “ค่ะ...โมนาได้โทรไปบอกเรียบร้อยแล้วค่ะ...ที่รักคะ...โมนา อยากจะขออะไรคุณหน่อยได้ไหมคะ” “อืม...ได้สิ” “ถ้าโมนาต้องอยู่ที่นี่กับคุณตลอดไป โมนาอยากจะขอให้พ่อแม่ของโมนามาอยู่ด้วยกับโมนาที่นี่ได้มั้ยคะ” “ได้สิ...ข้าคิดว่าก็ดีเหมือนกัน เจ้าจะได้ไม่กังวลเป็นห่วงพ่อกับแม่ของเจ้า เรื่องเล็กน้อยแค่นี้ไม่ได้เป็นปัญหากับข้าเลย บ้านออกกว้างขวางใหญ่โต มีห้องเป็นร้อยๆ ห้อง มีบ่าวรับใช้มากมาย และอีกอย่างท่านพ่อกับท่านแม่ของข้าก็พึงใจเจ้าอยู่ไม่น้อย ที่รู้ว่าเจ้าอาจจะตั้งครรภ์ลูกของข้าในไม่ช้า”ฮาซีฟมองหญิงสาวอันเป็นที่รัก ถึงแม้เธออาจไม่ใช่คนที่เขาเลือกตั้งแต่แรก แต่เมื่อเขาได้สัมผัสทุกอย่างจากเธอแล้ว เธอเหมาะสมกับเขาอย่างที่สุด ทั้งบทรักร้อนแรงทุกค่ำคืน เธอคนนี้สนองให้เขาโดยไม่ขาดตกบกพร่อง โดยไม่ต้องพึ่งสตรีสาวงามคนอื่นเลย เธอร้อน
ความกระสันเข้าครอบงำร่างงาม เมื่อริมฝีปากหนาไล้ลงมาจนถึงเนินอกสวย มือของเขาปลดชุดนอนนุ่มลื่นของเธอออกพร้อมกับปลายลิ้นสากกำลังลากไล้ตามมา มืออีกข้างหนึ่งดึงชุดของเธอพ้นออกจากร่างของเธออย่างรวดเร็ว ร่างอวบอิ่มปรากฎแก่สายตาของชีคหนุ่ม เขาจับจ้องไปที่อกอวบใหญ่ที่มีลูกเชอรี่สีแดงสดปรากฏอยู่ตรงกลาง“เจ้าสวยเหลือเกิน...ข้าอยากกินเจ้าทุกวันเลยรู้ไหม”สายตาคมเข้มจับจ้องไปที่เรือนร่างขาวโพลนที่สะท้อนแสงไฟบนหัวเตียงสาดส่องร่างงามอรชร ราวกับต้องมนต์สะกด “อุ้ย! คุณปิดไฟสิคะ...ฉันอายนะ”ธาริกายกมือขึ้นมาปิดอกอวบของเธอ แต่ทว่าก็ยังไม่ทันกับมือหนาที่มาคว้ามือของเธอออก สายตาคมจ้องอย่างไม่กระพริบราวกับไม่เคยเห็นมาก่อน “ข้าอยากเห็นเจ้าทั้งตัว เจ้าไม่ต้องอาย ข้าคือสามีของเจ้า ข้าจะแต่งงานกับเจ้า เจ้าจงเชื่อใจข้าเถิด...”พูดจบปากร้อนของชายหนุ่มก็ฉกลงมาที่ปลายถันสีชมพูสด ลิ้นสากลากไล้วนเม็ดทับทิมระเรื่อที่แข็งชัน ดุนดัน ดูดเม้มเข้าไปในปากอย่างหิวกระหาย “อาร์...” ร่างบางเอ่ยครางอย่างรัญจวนในสัมผัส เสียงเต้นของหัวใจของเธอถี่รัว มือบางคว้าร่างหนาเอาไว้ “อื้ม...” ปลายลิ้
[อีกด้านหนึ่ง...]บรรยากาศยามเย็นบนโต๊ะรับประทานอาหารมื้อค่ำ... “ทาน-ได้มั้ย-พ่อหนุ่ม”เสียงของหญิงสาววัยกลางคนกำลังสนทนาด้วยภาษามือกับลูกเขยชาวต่างชาติ ที่กำลังรับประทานอาหารอย่างเอร็ดอร่อย ท่ามกลางสายตาหลายคู่ที่กำลังจ้องมอง เพื่อคอยลุ้นผล “ขะ-ขอรับ” อิลยาสส่งสัญญาณเพื่อบอกให้อีกฝ่ายรับรู้ว่าเขาเข้าใจประโยคคำถามนั้น “แม่คะ...แม่ลืมลูกสาวคนนี้ไปแล้วเหรอคะ”ธาริกาอดไม่ได้ที่จะแซะ ตอนนี้ทั้งบ้านกำลังเห่อลูกเขยกันยกใหญ่จนลืมเธอคนนี้จนหมดสิ้น “พี่นับดาวพูดเหมือนตัวเองอิจฉาเลยครับ”ภัคพลน้องชายคนรองเอ่ยแซวพี่สาว “อะไรเต้...พี่ไม่ได้อิจฉาซะหน่อย ก็แค่เตือนคนบางคนก็เท่านั้น ได้ลูกเขยลืมลูกสาวตัวเองซะงั้น” “พ่อว่าที่น้องพูดก็ถูกนะนับดาว ลูกทำไมต้องคอยต่อว่าเขานัก พ่อก็เห็นว่าเขาไม่เคยโต้แย้งอะไรลูกเลยสักครั้ง ลูกต้องปรับตัวนะนับดาว เราเป็นเมียเค้า ก็ต้องคอยเอาใจสามี” “พ่อก็อีกคน...สรุปไม่มีใครอยู่ข้างนับดาวเลยสิคะเนี่ย” “เมย์ไงคะพี่นับดาว จะอยู่ข้างพี่เองค่ะ”เมวิกาน้องสาววัยสิบหกปีเอ่ยขึ้นอย่างเอาใจ “พ
“อ๊ะ!” ร่างบางสะท้านตกใจกับสัมผัสนั้น ปากหนาทำงานอย่างหนัก ความเสียวซ่านก่อวนทั่วร่างบาง มือเล็กขยุ้มกลุ่มผมเอาไว้แน่น เมื่อความซาบซ่านเล่นงานร่างงามราวกับผีเสื้อนับล้านบินวนตรงช่องท้องของเธอ รินลดารู้สึกราวกับว่าร่างของเธอกำลังล่องลอยไปในอากาศ “ข้ารักเจ้า เจ้าต้องเป็นของข้าแต่เพียงผู้เดียว อื้ม...”เสียงทุ้มแหบพร่าครางกระเส่า บทรักเริ่มทวีความรุนแรงขึ้นตามลำดับ มือหนาแยกเรียวขาสวยออกจากกัน แก่นกายใหญ่ผงาดตั้งชันปวดหนึบ ร่างกำยำแทรกเข้าหาร่างบาง กดดุ้นใหญ่ไล้ไปมากับร่องกุหลาบสวยที่มีน้ำหวานเคลือบชื้นแฉะเต็มร่องรู “อ๊ะ! คุณ! อ๊าร์!!”ความเสียวซ่านเล่นงานร่างบางอย่างหนักจนทำให้ร่างของเธอเบียดเด้งโหนกนูนเข้าหาแท่งร้อนอย่างอัตโนมัติ ใบหน้าสวยแดงกล่ำเพราะความก๋ากั่นของตัวเอง รินลดาต้องการเขา เธออยากให้เขาเข้าไปอยู่ในร่างกายเธอ “โอวว์ เจ้า! ช่างร้อนแรงนัก!! อ่าร์!!!” เสียงครางของชายหนุ่มมาพร้อมกับแท่งใหญ่โตกดดันเข้ากับช่องทางรักของเธอ เอวหนาเด้งเข้า เพื่อดันดุ้นใหญ่ให้ลึกจนสุดลำ! ความคับแน่นโอบรัดแท่งร้อนจนร่างกำยำสั่นเทา! “อาร์...อื้อ...”ความเสียวซ
“แต่งงานกันหรือ? แล้วเขาจะอยู่บ้านของเราได้มั้ยนับดาว เขาทำงานอะไร?”อดุลย์มองว่าที่ลูกเขยอย่างพินิจพิจารณาตั้งแต่หัวจรดเท้า “เขามีธุรกิจอยู่ที่ประเทศเขาค่ะพ่อ” “ธุรกิจอะไรช่วยขยายความให้พ่อฟังหน่อย” “น่าจะเยอะค่ะพ่อ นับดาวพูดตรงๆ นะคะ เขารวยระดับมหาเศรษฐีพันล้านหมื่นล้านเลยค่ะพ่อ บ้านของเขาก็เป็นปราสาทคฤหาสน์มีคนรับใช้เป็นร้อยค่ะ นับดาวก็อธิบายไม่ถูกค่ะ แต่ประมาณนี้แหละค่ะ” “แล้วเขาจะมาอยู่บ้านหลังเล็กๆ ของเราได้เหรอนับดาว ครอบครัวเราพ่อแม่ และน้องอีกสามคน พ่อว่าเขาจะอึดอัดเอานะ” “นับดาวก็ไม่ทราบค่ะพ่อ ถ้าเขาอยากอยู่กับนับดาวจริงๆ เขาก็คงจะซื้อบ้านอยู่ที่นี่ค่ะ เขาจะซื้อคฤหาสน์ยังได้เลย พ่อไม่ต้องห่วงเขาหรอก นับดาวบอกเขาแล้วว่าไม่ต้องมา เขาก็ไม่เชื่อยังดื้อดึงที่จะมาอีก”ธาริกาหันไปทำตาเขียวใส่ชีคหนุ่ม ถ้าไม่ใช่เพราะเขา เรื่องวุ่นวายเหล่านี้คงไม่เกิดขึ้นแน่นอน และเธอก็คงไม่ต้องยุ่งยากมาอธิบายพ่อกับแม่เธออีก “ลูกจะพูดแบบนั้นได้ยังไง...นับดาว แม่ว่าเขาต้องชอบลูกมากเลยแหละ ถึงได้ตามมาขนาดนี้ คนนี้เป็นน้องชายคนเล็ก และคนกลางก็เป
“ฉันจะบอกแม่ฉันยังไงดีคะ?”รินลดาหันไปถามเขา เธอรู้สึกเก้อเขินเป็นอย่างมากที่จะต้องบอกความเป็นจริงกับแม่ของเธอ “ก็บอกว่าข้าเป็นสามีของเจ้า กำลังจะแต่งงานกับเจ้าสิ” “แล้วแม่ฉันจะไม่ตกใจเหรอคะ” “ข้าว...ลูกพูดอะไรกัน จะบอกแม่ได้หรือยังว่าพ่อหนุ่มนี่เป็นใคร และไหนจะคนที่ยืนคุมข้างนอกนั่นอีก บอกแม่มาเดี๋ยวนี้นะ” “เอ่อ...แม่ฟังข้าวให้จบก่อนนะคะ...คือว่าคุณคนนี้ชื่อ คาริสค่ะแม่...เขา...เอ่อ...เขาเป็นแฟนของข้าวค่ะแม่ และเขาจะมาสู่ขอข้าวกับแม่ เราจะแต่งงานกันค่ะ” “อะไรนะ! แฟนของข้าว! และจะแต่งงานกัน! ข้าวไปเจอเขายังไง และทำไมแม่ไม่เคยรู้เลย...โอย...นี่แม่งงไปหมดแล้วข้าว”วรีรัตน์ยกมือทาบอกราวกับจะเป็นลมหมดสติลงตรงนั้น “คือ...คุณคาริสเป็นเจ้าของงานที่จ้างข้าวกับนับดาวไปทำงานค่ะแม่...และ...เอ่อ...เขาชอบข้าว ก็เลยตามข้าวมา และจะมาขอข้าวแต่งงานค่ะแม่”รินลดาจำเป็นต้องกุเรื่องของเขากับเธอ ถ้าแม่รู้ว่าเกิดเหตุการณ์ที่เธอโดนลักพาตัวไปล่ะก็ คงต้องเป็นเรื่องใหญ่อีกแน่นอน “ข้าวไปทำงานยังไม่ถึงเดือนเลยด้วยซ้ำ ไปชอบกันตอนไหนลูก...มันเร็