Beranda / รักโบราณ / ท่านอ๋องเจ้าขา...ข้ายอมแล้ว / ตอนที่10 ลองสู้ดูสักตั้ง

Share

ตอนที่10 ลองสู้ดูสักตั้ง

last update Terakhir Diperbarui: 2025-04-05 00:08:45

“อะแฮ่ม!” มู่เลี่ยงหรงกระแอม พร้อมก้าวเดินออกมาจากข้างต้นหลิว

“ว้าย...” นางตกใจหันมาทันที

ภาพที่เยี่ยนเย่วฉีเห็นคือบุรุษลึกลับในชุดคลุมสีดำหรูหรา เขาดูสูงส่งและเย็นชา ทว่าทันทีที่สบตาก็รู้สึกว่าหัวใจของตนเต้นระรัว สีแดงค่อย ๆ ไล่ฉาบไปบนใบหน้านวล นางรู้สึกขวยอายอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน 

“ขออภัยด้วยที่ทำให้คุณหนูท่านนี้ตกใจ” มู่เลี่ยงหรงยืนเอามือไพล่หลังไว้ ใบหน้าเรียบเฉยไม่แสดงอารมณ์ใด ๆ ดวงตาเข้มลึกจ้องมองสตรีเบื้องหน้า ริมฝีปากบางเหยียดตรง

“มิได้ ผู้น้อยต่างหากต้องขออภัยใต้เท้า เสียมารยาทแล้ว เป็นเพราะผู้น้อยไม่ทราบว่าท่านยืนพักผ่อนอยู่ตรงนี้” นางยอบกายลงขอขมาด้วยท่วงท่าอันอ่อนช้อย

“ไม่เป็นไร เราเองก็ได้เปิดหูเปิดตาแล้ว” มู่เลี่ยงหรงส่งยิ้มเย็นยะเยือก สีหน้าบ่งบอกว่าเขาได้ยินทุกอย่าง “คุณหนูท่านนี้คงลืมกระมังว่าเวลานี้เจ้ากำลังยืนอยู่ที่ใด”

ชายหนุ่มดูน่ากลัวขึ้นอีกหลายส่วน เมื่อรอยยิ้มในตอนแรกหายไป

“ใต้เท้าพูดเรื่องอันใด ผู้น้อยไม่เข้าใจเจ้าค่ะ” เยี่ยนเยว่ฉีปรายตาขึ้นสบกับบุรุษที่ยืนอยู่เบื้องหน้า คิ้วงามขมวดเล็กน้อย ในเมื่อไม่ได้ทำสิ่งใดผิดไยเขาต้องทำราวกับนางกระทำเรื่องไม่สมควร

“ข้าคงจะเสียดายหากหัวสวย ๆ ของเจ้าจะหลุดกระเด็น”

ตุ้บ! นางกับสาวใช้ทรุดตัวคุกเข่าลงทันที

ถึงแม้จะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เยี่ยนเยว่ฉีตัดสินใจอ่อนข้อลงก่อน หญิงสาวรู้สึกคิดถึงบิดาขึ้นมาทันที

เสียงดังขนาดนั้นคงเจ็บเข่าทีเดียวมู่เลี่ยงหรงขมวดคิ้วราวกับรู้สึกเจ็บแทน

สีหน้าของเยี่ยนเยว่ฉีซีดเผือด นางแหงนหน้าขึ้นมองเขา สบนัยน์ตาเข้มลึกนั้นด้วยคลางแคลงใจ ริมฝีปากสีแดงระเรื่อสั่นด้วยหวั่นใจ

ช่างน่าจูบ ความคิดอกุศลผ่านเข้ามาให้หัวของมู่เลี่ยงหรง ชายหนุ่มชะงักไปชั่วครู่ น่าอายสิ้นดี ให้ตายเถอะเขาไม่เคยเสียการควบคุมเช่นนี้

“ผู้น้อยไม่ทราบว่าใต้เท้ามีโทสะด้วยเรื่องใด” เยี่ยนเยว่ฉีพยายามถามหาต้นสายปลายเหตุ

“คุณหนูอย่าทำเป็นไขสือ เมื่อครู่เจ้าพูดเรื่องถวายตัวอยู่ไม่ใช่หรือ ซ้ำยังกล้าวิพากษ์วิจารณ์ฮ่องเต้เท่ากับลบหลู่เบื้องสูง โทษหนักสถานใดข้าคงไม่ต้องสาธยายกระมัง”

“เรียนใต้เท้า ท่านคงเข้าใจผิดแล้ว ผู้น้อยมิได้กล่าวถึงฮ่องเต้แม้แต่ครึ่งคำ” เยี่ยนเยว่ฉีอธิบายอย่างใจเย็น พอจะเข้าใจสถานการณ์ตอนนี้แล้ว

“อย่าได้พูดเป็นอันขาดว่าข้ากำลังปรักปรำเจ้า” มู่เลี่ยงหรงจ้องหน้านางเขม็ง เขาพยายามรักษาท่าทีเอาไว้อย่างสุดความสามารถ ด้วยนัยน์ตาดอกท้อนั้นช่างหวานล้ำนัก ท่าทีนุ่มนวลและเยือกเย็นนั่นอีกเล่า นางไม่เหมือนสตรีใดที่เขาเคยพานพบมาก่อนเลย

“มิได้ เพียงแต่ใต้เท้าคงเข้าใจผู้น้อยผิดไป เช่นนี้แล้วท่านพอจะเมตตาปล่อยพวกเราสองคนไปได้หรือไม่” เยี่ยนเยว่ฉีอ้อนวอนเสียงเครือ ในดวงตาคู่สวยเริ่มหยาดเยิ้มไปด้วยหยดน้ำตา หากใครเห็นท่าทางน่าสงสารนี้เข้าคงแทบจะรีบก้มลงไปประคองนางแล้วปลอบโยน

ที่หญิงสาวต้องคุกเข่าขอความเห็นใจเพราะโทษของการล่วงเกินเบื้องสูงคือตาย หากสิ่งนี้จะเกิดกับนางเพียงผู้เดียวก็คงไม่เป็นไร แต่ตอนนี้มีซูจิ้งอยู่ด้วย แล้วยังครอบครัวของนางอีก คงพลอยเดือดร้อนจากเพลิงพิโรธของฮ่องเต้ไปด้วย และที่สำคัญเนื้อคู่ที่นางว่าก็ไม่ได้หมายความถึงโอรสสวรรค์เสียหน่อย บุรุษผู้นี้กำลังเข้าใจผิดอย่างใหญ่หลวง

มู่เลี่ยงหรงยังคงทำหน้าถมึงทึงราวกับไม่มีความเห็นอกเห็นใจแม้แต่น้อย ความจริงไม่ใช่เขาไม่เชื่อ ด้วยเมื่อครู่นางก็ไม่ได้เอ่ยออกมาตรง ๆ คุณหนูผู้นี้กิริยามารยาทดีย่อมต้องรู้กาลเทศะอยู่บ้าง แต่ในหัวใจยังอยากรั้งให้สตรีผู้นี้อยู่ต่ออีกสักเล็กน้อย ถึงแม้จะดูใจร้ายและต้องกลายเป็นคนไม่มีเหตุผลเช่นนี้ก็ตาม

เยี่ยนเยว่ฉีเห็นบุรุษในชุดสีดำยังคงไม่อ่อนข้อ และไม่มีทีท่าจะปล่อยตนเองไป แต่ผู้ฉลาดต้องรู้จักเอาตัวรอด ในเมื่อนางเป็นหญิงสาวที่งดงามเหนือสตรีทั่วไปอยู่บ้าง คงไม่ยากหากตนเองจะแสดงความอ่อนแอออกมา ใต้เท้าท่านนี้ก็เป็นบุรุษผู้หนึ่งมีหรือจะต้านทานเสน่ห์ของตนเองได้

นางจะลองสู้ดูสักตั้ง

“ผู้น้อยบริสุทธิ์ ไม่เคยคิดล่วงเกินฮ่องเต้แม้สักน้อย ขอใต้เท้าโปรดไตร่ตรองด้วย”

“งั้นเจ้าพูดถึงผู้ใดกันเล่า”

“ผู้น้อย…ก็ไม่ทราบเจ้าค่ะ” นางจะตอบได้อย่างไร ด้วยไม่กระจ่างใจว่าเนื้อคู่ที่พี่ชายบอกนั้นชื่อแซ่อะไร “ผู้น้อยไม่รู้จริง ๆ ว่าชายที่เป็นคู่หมายคือผู้ใดเจ้าค่ะ”

“ไม่รู้รึ แก้ตัวง่ายเสียจริง สงสัยข้าคงต้องส่งตัวเจ้าไปให้กรมอาญาไต่สวนกระมัง” มู่เลี่ยงหรงปั้นหน้าเคร่งขรึม เขาหันหลังให้กับนางอย่างไม่แยแสต่อคำอ้อนวอน

“ใต้เท้า ได้โปรดไว้ชีวิตด้วย ผู้น้อยไม่มีทางใจกล้าลบหลู่ฮ่องเต้อย่างแน่นอน อย่าส่งพวกเราเข้ากรมอาญาเลยนะเจ้าคะ” นางแสดงอาการหวาดกลัว ตัวสั่นเทาเป็นลูกนก “หากใต้เท้าละเว้นพวกเราในครั้งนี้ ผู้น้อยยินดีจะตอบแทนท่านทุกอย่าง” นางยื่นข้อเสนอให้บุรุษผู้หล่อเหลาตรงหน้าหวังว่าเขาจะอ่อนไหวบ้าง

“ยินดีตอบแทนข้า...ทุกอย่างเลยงั้นรึ” มู่เลี่ยงหรงผินหน้ากลับมามองสตรีในชุดสีชมพู

“เจ้าค่ะ ทุกอย่างเลย” เยี่ยนเยว่ฉีโล่งอกเมื่อเห็นชายหนุ่มมีท่าทีอ่อนลง นางลอบยิ้มในใจ บุรุษผู้ใดเจอลูกอ้อนของสตรีมีหรือจะไม่ลังเล

“เจ้าจะไม่เสียใจแน่นะ” เขาย้ำถามแล้วหันกายกลับมา

“ไม่เสียใจเจ้าค่ะ” นางรีบพยักหน้ารับทันที จนปิ่นปักผมลายดอกโบตั๋นสั่นไหวน้อย ๆ นัยน์ตาดอกท้อปรากฏแววแห่งความหวัง

“ถ้าอย่างนั้น จงบอกชื่อแซ่ของเจ้ามา” มู่เลี่ยงหรงแสร้งทำเสียงขึงขัง

ข้าจะได้รู้เสียทีว่าเจ้าเป็นใครสาวน้อย

“ข้าน้อยแซ่เยี่ยน นามเยว่ฉี”

มู่เลี่ยงหรงขมวดคิ้ว ที่แท้นางคือว่าที่หวางเฟยของเขา สวรรค์กำลังเล่นตลกอะไรกันนี่ ช่างบังเอิญเหลือเกิน

“ดี เยี่ยนเยว่ฉี จงจำเอาไว้ว่าเจ้าติดค้างข้าแล้ว”

“ข้าเยี่ยนเยว่ฉี ติดค้างใต้เท้า...เอ่อ”

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • ท่านอ๋องเจ้าขา...ข้ายอมแล้ว   ตอนที่101 เรากลับกันเถิด

    ส่วนฮองเฮานั่งจิบชาด้วยสีหน้าอันเรียบเฉย ทำประหนึ่งว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับตน ทั้งที่ในใจลอบตำหนิแม่สามีที่พูดจาเอาแต่ใจ โดยไม่สนพระทัยสักนิดว่าเรื่องนี้ควรพูดออกมาตอนนี้หรือไม่ หากมู่เลี่ยงหรงต้องการจะให้จ้าวกุ้ยอินมาเป็นเป็นหวางเฟยแล้วละก็ คงไม่รอให้ไทเฮาเสนอมู่เลี่ยงหรงหยุดรอชายาที่หน้าตำหนัก ความจริงตนไม่ได้ตั้งใจจะทิ้งนางไว้ที่ตรงนั้น แต่ด้วยกำลังบังเกิดโทสะจึงต้องรีบจากมาก่อนเรื่องราวจะแย่ลง เพียงไม่นานนักเยี่ยนเยว่ฉีก็เดินออกมาจากประตูตำหนัก หญิงสาวมองผู้เป็นสามีอย่างเข้าอกเข้าใจ“ท่านอ๋องเรากลับกันเถิด”“อ้ายเฟย ข้าไม่ได้ตั้งใจจะทิ้งเจ้า”“วางใจเถิด หวางเฟยของท่านเป็นคนที่มีเหตุผล” เยี่ยนเยว่ฉียิ้มหยอกเย้าหวังให้เขาสบายใจ“ข้าไม่มีทางรับใครเข้าจวนอีก” เขารีบอธิบาย เพราะกลัวว่าเยี่ยนเยว่ฉีจะเข้าใจผิด“ดูพูดเข้า หากเป็นพระราชโองการ หรือพระเสาวนีย์อย่างไรท่านก็ขัดมิได้อยู่”“เสด็จพี่มีรับสั่งจะไม่บังคับข้าอีก”“แต่ไทเฮาไม่ได้ทรงรับปากท่านอ๋องนี่”“เป็นดั่งเจ้าว่า แต่ถ้าเสด็จแม่ยังคงดื้อดึง เรื่องนี้คนที่จะเสียใจที่สุดคงจะเป็นจ้าวกุ้ยอิน”“หากนางได้แต่งกับท่านสมใจ จะมีแต่ความ

  • ท่านอ๋องเจ้าขา...ข้ายอมแล้ว   ตอนที่100 ในที่สุด

    ในที่สุดรถม้าก็แล่นมาถึงจุดจอดรถม้าของวังหลวงซิ่นเฉิงขานเรียกผู้เป็นนาย ส่วนซูจิ้งก็จัดการวางขั้นบันไดข้างรถม้า ทั้งสองต่างทำหน้าที่ของตนเองโดยไม่มองหน้า ไม่พูดไม่จากันแม้แต่ครึ่งคำ ทั้งที่ต้องเดินเคียงกันไปตลอดทางเป็นองครักษ์หนุ่มที่รู้สึกเหมือนจะทนไม่ไหว คิดว่ายังไงก็ต้องหาทางคุยกับซูจิ้งให้รู้เรื่องรู้ราว อย่างไรเสียตอนนี้ก็อยู่จวนเดียวกัน หากนางเป็นอนุบ่าวของเยี่ยนจิ้นหลิงจริง เหตุใดจึงตามหวางเฟยมาเล่า เขาจะต้องถามความให้กระจ่าง หากแม้ไม่มีวาสนาต่อกันก็ยินดีจะล่าถอย ไม่ใช่เดาสุ่มเอาเองเช่นนี้ เมื่อตกลงใจได้เขาก็ผ่อนคลายลงหลายส่วน‘คืนนี้ล่ะ ซาลาเปาน้อย ข้าจะต้องรู้ความจริงให้จงได้’มู่เลี่ยงหรงต้องพาเยี่ยนเยว่ฉีไปถวายพระพรไทเฮา หนทางจากจุดจอดรถม้าไม่ใกล้เลย ซ้ำไทเฮายังเลือกเวลาให้ทั้งสองมาเข้าเฝ้ายามตะวันตรงศีรษะ ที่น่าแปลกคือไม่มีเกี้ยวสำหรับสตรีมารับ กว่าจะถึงตำหนักของพระนาง ฉินอ๋องกับหวางเฟยต้องเดินเท้าเป็นเวลาราวหนึ่งก้านธูปเมื่อทั้งสองถึงที่หมายก็เห็นกูกูสูงวัยผู้หนึ่งยืนรออยู่หน้าประตูตำหนัก ครั้นนางเห็นมู่เลี่ยงหรงก็รีบเข้ามาต้อนรับทันที จากนั้นจึงเดินนำบุคคลทั้งคู่เข้าส

  • ท่านอ๋องเจ้าขา...ข้ายอมแล้ว   ตอนที่99 นึกชื่นชม

    พ่อบ้านใหญ่รับคำแล้วจัดการสั่งงานลูกน้องอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง ท่วงท่าและน้ำเสียงแฝงไว้ด้วยพลัง เยี่ยนเยว่ฉีเห็นดังนั้นก็นึกชื่นชม มิน่าเล่า ท่านอ๋องถึงวางใจคนหนุ่มผู้นี้ให้รับผิดชอบเรื่องน้อยใหญ่ในจวน ดูท่าทางนางคงไม่ต้องเหนื่อยยากอย่างที่คิดมู่เลี่ยงหรงให้พ่อบ้านใหญ่กับมามาทั้งสี่ถอยออกไปได้ ก่อนถอนหายใจออกมาทีหนึ่ง แล้วส่งเสียงเรียกออกไป“พวกเจ้าเข้ามาคารวะน้ำชาหวางเฟยเถิด”พอสิ้นเสียงคำสั่ง สตรีโฉมงามสามนางก็เดินนำหน้าหญิงสาวอีกสิบกว่าคนเข้ามาภายในห้องโถง เยี่ยนเยว่ฉีมองไปยังพระชายารองทั้งสามที่ยืนอยู่เบื้องหน้าด้วยท่าทีสงบที่สุด ถึงแม้จะรู้สึกตกอกตกใจอยู่บ้างกับจำนวนสตรีที่ถวายตัวให้มู่เลี่ยงหรงแต่มิได้มีตำแหน่งอย่างเป็นทางการ‘บัดซบ! เยอะขนาดนี้เชียว’เยี่ยนเยว่ฉีตั้งใจเอาไว้ว่าหากพวกนางไม่ได้แสดงตัวเป็นปรปักษ์ ตนเองก็จะไม่กระทำการรุนแรงใด ๆ ทั้งสิ้นมู่เลี่ยงหรงแนะนำชายารองทั้งสามด้วยท่าทางที่เป็นธรรมชาติ ไม่มีอาการกังวลหรือตกประหม่าให้เห็น แต่ภายในใจกลับก็รู้สึกหนักอึ้งเพราะเกรงว่าเยี่ยนเยว่ฉีจะยังรับเรื่องฮูหยินอีกสิบเอ็ดคนไม่ได้ แต่เมื่อเห็นว่านางยังคงยิ้มละไม ไม่มีอาการกระอั

  • ท่านอ๋องเจ้าขา...ข้ายอมแล้ว   ตอนที่98 ชิงหรูไม่ได้ถวายตัวให้ข้า

    “อ้ายเฟย สี่คนนี้คือนางกำนัลที่ข้าคัดสรรมาให้ ข้ารับรองว่าพวกนางทำงานดีและมีความรอบรู้ หากเจ้าต้องการทราบเรื่องใดในจวน พวกนางสามารถแนะนำจัดหาให้เจ้าได้ทั้งหมด โดยเฉพาะชิงหรู นางดูแลห้องข้างของข้ามาหลายปี”เยี่ยนเยว่ฉีหรี่นัยน์ตามองชิงหรูอย่างเสียมิได้ พอเห็นก็จำได้ทันทีว่าหญิงสาวผู้นี้คือนางกำนัลที่เตรียมน้ำอุ่นมาให้เมื่อคืน นางหน้าตาสะสวย นัยน์ตาหวานฉ่ำดูยั่วยวน ผิวพรรณนวลเนียนเปล่งปลั่ง รูปร่างงามระหงสมส่วน มีเสน่ห์ดึงดูดใจบุรุษมากทีเดียวมู่เลี่ยงหรงที่ลอบสังเกตอยู่พบว่าเยี่ยนเยว่ฉีกำลังกินน้ำส้มอยู่ เขากลั้วหัวเราะเบา ๆ จนนางต้องหันมาค้อนผู้เป็นสามีทีหนึ่ง“ชิงหรูไม่ได้ถวายตัวให้ข้า”“ข้ายังไม่ได้ว่าอันใดท่านเสียหน่อย” หวางเฟยบ่นพึมพำเมื่อถูกจับได้“ก็ข้าอยากบอกเจ้านี่” ฉินอ๋องไม่ต้องการทำให้พระชายาคนงามต้องรู้สึกเสียหน้าจึงพูดแก้เก้อให้เสร็จสรรพ“เยว่ฉีทราบแล้ว” นางพอใจที่ท่านอ๋องไว้หน้าตนมู่เลี่ยงหรงยิ้มกว้าง ก่อนจะหันไปสั่งนางกำนัลทั้งหลายให้ปรนนิบัติผลัดเปลี่ยนอาภรณ์ของหวางเฟย เหล่านางกำนัลรีบทำตามประสงค์ของเจ้านาย เยี่ยนเยว่ฉียอมรับว่าผู้ที่มู่เลี่ยงหรงคัดสรรค์มาให้นางนั้นทำ

  • ท่านอ๋องเจ้าขา...ข้ายอมแล้ว   ตอนที่97 แย่แล้วคุณหนูของข้า

    อ๋องหนุ่มฝืนลุกจากเตียงด้วยอารมณ์ขุ่นมัว เขาคว้าชุดคลุมเอามาใส่อย่างลวก ๆ ก่อนจะเปล่งเสียงเรียกสาวใช้คนสนิทของนางให้มาช่วยจัดการเรื่องวุ่นวายของสตรี เยี่ยนเยว่ฉีมองตามร่างสูงที่เพิ่งเดินออกจากห้องนอนไปซูจิ้งเข้ามาภายในห้องหอ นางยอบกายคำนับฉินอ๋องที่ทำหน้าถมึงทึงอยู่บนเก้าอี้ยาวริมหน้าต่างที่ห้องชั้นนอก เขาไม่พูดอะไรเพียงแต่โบกมือเป็นสัญญาณให้นางเข้าไปหาเยี่ยนเยว่ฉีในห้องนอนซูจิ้งเดินผ่านกองชุดวิวาห์ที่ถูกฉีกขาดกระจัดกระจายอยู่บนพื้นก็อดรู้สึกตกใจไม่ได้ หรือว่าฉินอ๋องทำรุนแรงกับนายหญิงของตน‘แย่แล้วคุณหนูของข้า’ สตรีร่างเล็กแทบจะวิ่งเข้าไปที่หน้าเตียง ภาพที่เห็นคือเยี่ยนเยว่ฉีนั่งเอาผ้าห่มปิดร่างกายที่เปลือยเปล่าเอาไว้ มีคราบน้ำตาอาบบนแก้ม แต่ไม่ปรากฏร่องรอยความเสียใจแม้แต่น้อย“คุณหนู ไม่ใช่สิ หวางเฟยเป็นอันใดไปเพคะ”“เรื่องสุดวิสัยของสตรี” เยี่ยนเยว่ฉีเอ่ยเสียงเย็นคำตอบของเยี่ยนเยว่ฉีทำให้ซูจิ้งโล่งอก มิน่าเล่าฉินอ๋องถึงได้ทำหน้าถมึงทึงเช่นนั้น มีเนื้ออยู่ตรงหน้าแต่กลับกินไม่ได้ ช่างน่าเห็นใจเหลือเกิน“เช่นนั้นลงมาจากเตียงก่อนเพคะ ซูจิ้งจะได้ปรนนิบัติท่านเปลี่ยนเสื้อผ้าเอง”“อืม”

  • ท่านอ๋องเจ้าขา...ข้ายอมแล้ว   ตอนที่96 แทบจะไม่เหลืออาภรณ์ติดกาย

    แม้แทบจะไม่เหลืออาภรณ์ติดกาย ทว่าเยี่ยนเยว่ฉีกลับร้อนรุ่มมากขึ้นกว่าเดิมเมื่อถูกกระตุ้นเพลิงในกาย เพื่อให้เขากับนางแนบสนิทใกล้ชิดยิ่งขึ้น มู่เลี่ยงหรงจึงขยับร่างบางให้หันหน้าเข้าหาตน และด้วยการบังคับขยับนี้เยี่ยนเยว่ฉีจึงต้องตวัดขาเรียวยาวโอบรอบสะโพกสอบของเขาเอาไว้ แล้วคล้องแขนกับลำคอเพื่อเป็นหลักยึด ฝ่ามือร้อนของบุรุษลูบไล้ไปทั่วแผ่นหลังนวลเนียน เมื่อพบกับปมเล็ก ๆ ที่ผูกไว้ก็กระตุกออกอย่างเบามือ อุปสรรคสุดท้ายถูกกำจัดจนสิ้น เหลือเพียงร่างเปลือยเปล่าของเทพธิดาแสนสวยในอ้อมกอดแสงจากเทียนมงคลคู่สีแดงวูบไหว อาบไล้ไปบนผิวขาวเนียนละเอียดดุจกระเบื้องเคลือบ ยิ่งทำให้เยี่ยนเยว่ฉีงดงามราวรูปสลักอันไร้รอยตำหนิ ช่างสูงค่าคู่ควรให้ทะนุถนอม‘วิเศษยิ่งนัก ยอดรักของข้า’ดวงตาลากไล้สำรวจเทพธิดาในอ้อมกอด ยิ่งมองยิ่งพบว่าเรือนกายของนางช่างสมบูรณ์แบบ เต็มไปด้วยเสน่ห์น่าหลงใหลทุกสัดส่วน ร่างระหงยั่วยวนน่าสัมผัสไปทุกตารางนิ้ว ไม่ว่ามือจะลูบไล้ไปตรงที่ใด ผิวกายขาวผ่องดุจแสงจันทร์กระจ่างก็เรียบลื่นนุ่มละมุนมือ มู่เลี่ยงหรงแทบลืมหายใจเมื่อแลเห็นปทุมถันอวบอิ่มเต็มตา ยอดสีหวานชูชันท้าทายให้ครอบครองยิ่งนัก ชายห

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status