หน้าหลัก / รักโบราณ / ท่านอ๋องเจ้าขา...ข้ายอมแล้ว / ตอนที่9 พานพบสตรี...ผู้นำความยุ่งยากมาให้

แชร์

ตอนที่9 พานพบสตรี...ผู้นำความยุ่งยากมาให้

ผู้เขียน: มี่เยี่ยน
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-04-05 00:05:31

ปลายเหมันตฤดูอากาศอบอุ่นขึ้นเรื่อยๆ ดอกเหมยงดงามหลากสีในอุทยานหลวงบานสะพรั่ง แต่ยังคงเห็นน้ำแข็งจับค้างบนกิ่งก้านเปล่งประกายระยิบระยับ

ช่วงนี้ของปีวังหลวงจะมักจัดงานเลี้ยงเพื่อต้อนรับฤดูใบไม้ผลิที่กำลังจะมาเยือน ฮ่องเต้จะใช้โอกาสนี้ทรงมอบรางวัลแด่ขุนนางที่มีความดีความชอบ ส่วนขุนนางคนใดมีบุตรสาวโฉมงามแรกรุ่น ก็ล้วนพากันมาแสดงความสามารถต่อหน้าพระพักตร์ด้วยหวังว่าพวกนางจะถูกตาต้องใจฮ่องเต้ แล้วได้รับโอกาสแต่งตั้งเป็นพระสนม ในภายภาคหน้าหากนางโชคดีได้รับความโปรดปรานจากโอรสสวรรค์จนให้กำเนิดองค์ชาย ตระกูลของพวกเขาย่อมจะได้รับความมั่งคั่งและมั่นคงไปตลอดชีวิต

แต่หลายปีที่ผ่านมาไม่รู้ว่าฮ่องเต้มู่เหวินหลงทรงคิดอะไรอยู่  นอกจากจะไม่รับพระสนมเพิ่มแล้วกลับพระราชทานสมรสให้หนุ่มสาวไปหลายคู่ ทั้งขุนนาง ทายาทตระกูลใหญ่ กระทั่งเชื้อพระวงศ์ก็ไม่ได้รับการยกเว้น

ส่วนเชื้อพระวงศ์ที่ได้รับเกียรตินี้สองปีซ้อนคงไม่พ้นฉินอ๋อง ที่ได้ชายารองโฉมงามถึงสามนาง

เฉิงจื่อหรู บุตรสาวเสนาบดีกรมพระคลัง ลู่เหมยหลงและลู่เหมยหลิน บุตรสาวฝาแฝดของเจ้ากรมอาญา

อย่างไรก็ตามเรื่องนี้ทำร้ายจิตใจบรรดาคุณชายทั้งหลายอย่างมาก เพราะโฉมงามทั้งสามเป็นที่หมายปองของบุรุษในเมืองหลวง เมื่อพวกเขานึกภาพฉินอ๋องโอบซ้ายโอบขวาสตรีทั้งหมดในอ้อมแขนก็พากันเคียดแค้นระคนอิจฉา

มาปีนี้ ทุกคนก็อดใจรอชมความครึกครื้นแทบไม่ไหว ฮ่องเต้จะทรงจับคู่ให้ใครอีก บรรดาโต๊ะพนันถึงกับเอาเรื่องนี้มาเป็นหัวข้อในการเสี่ยงโชค และหัวข้ออันได้รับความนิยมสุดก็คือเรื่องฉินอ๋องจะได้พระชายาเอก หรือพระชายารองคนที่สี่หรือไม่

ว่ากันว่าวงเงินพนันสูงมากทีเดียว

แต่เหมือนฉินอ๋องจะยังคงนิ่งเฉย ทำเป็นลืมตาข้างหนึ่ง หลับตาข้างหนึ่ง มิฉะนั้นแล้วคนเหล่านี้คงไม่มีชีวิตอยู่รับทรัพย์ที่หามาได้

อุทยานหลวง

มู่เลี่ยงหรงเดินเข้ามาบริเวณหน้าสวนดอกเหมย วันนี้เขาสวมอาภรณ์ชั้นกลางสีแดงขลิบทอง ชุดตัวนอกเป็นผ้าไหมสีขาวปักชายเสื้อกับแขนเสื้อด้วยแถบผ้าฉลุลายสีฟ้า คาดเข็มขัด และห้อยหยกประดับล้ำค่า ทั้งยังสวมทับด้วยชุดคลุมชินอ๋องสีดำแขนกว้างปักลายมังกรกับพระจันทร์ในหมู่เมฆด้วยไหมทองคำเป็นชั้นสุดท้าย เกล้าผมครึ่งศีรษะครอบด้วยกว้านทองบอกบรรดาศักดิ์

เขามาถึงก่อนงานเลี้ยงจะเริ่ม ใบหน้าหล่อเหลากลับดูเคร่งขรึมเย็นชา รอบกายแผ่รัศมีสูงส่งและไอเย่อหยิ่งจนยากจะเข้าใกล้ และด้วยเบื่อหน่ายจะเสวนากับบรรดาขุนนางที่หวังเพียงประจบประแจง เขาจึงตัดสินใจเดินเลี่ยงออกจากบริเวณจัดงานไปยังสวนอีกด้านหนึ่งก่อน

มู่เลี่ยงหรงย่างเท้าไปตามทางเดินในอุทยานหลวง ในที่สุดก็หยุดยืนใต้ต้นหลิวใหญ่ริมสระน้ำอันเงียบสงบ เขานึกถึงเรื่องที่คุยกับถางซือเซินเมื่อหลายวันก่อน

‘ข้าจะหาพระชายาให้ท่านเองอย่างนั้นรึ’

เฮอะ ยุ่งยากเสียจริง ตำแหน่งฉินหวางเฟยของข้าสุดท้ายก็ต้องยกให้กับเหตุผลทางการเมือง

เสียงในหัวใจของอ๋องหนุ่มไม่ได้เงียบสงบเหมือนรอบข้าง

ในเมื่อไม่เคยพบสตรีนามเยี่ยนเยว่ฉีมาก่อนย่อมต้องเคลือบแคลงใจ แม้ข่าวที่ให้คนไปสืบมาจะยังไม่พบเรื่องในแง่ลบก็ตามที แต่เมืองหานจีอยู่ไกลหลายร้อยลี้ไม่มีทางที่เขาจะสืบรู้ทุกอย่างได้ภายในไม่กี่วัน

มู่เลี่ยงหรงถอนหายใจ แม้เขายินดีทำทุกอย่างเพื่อฮ่องเต้ แต่อีกใจหนึ่งก็หวังจะมอบตำแหน่งหวางเฟยให้สตรีที่พึงใจ...

‘ความรักหรือ คงมีแค่เพียงในโคลงกลอนของบัณฑิตผู้เพ้อฝัน’

คำพูดที่บอกกับอัครเสนาบดียังคงวนเวียนอยู่ในห้วงคำนึง ท่านอ๋องหนุ่มหัวเราะเบา ๆ

นั่นสินะ จะเป็นไปได้อย่างไรกัน เขาไม่เชื่ออีกแล้วว่าหลุมลึกแห่งรักจะมีอยู่จริง สตรีที่รายล้อมขณะนี้ล้วนต้องการเพียงผลประโยชน์ แม้แต่เขาเองก็แต่งงานเพื่อพระเชษฐาและความมั่นคงของบัลลังก์มังกร 

ข้าตื่นเต้นจะแย่แล้วซูจิ้ง

เสียงสตรีนางหนึ่งดังแว่วมาในโสต

ถึงแม้รูปร่างของมู่เลี่ยงหรงจะสูงโปร่งแลดูคล้ายบัณฑิตก็ตาม แต่แท้จริงเขาคือผู้ฝึกยุทธ์จึงได้ยินเสียงนางมาแต่ไกล

แต่ในขณะที่คิดจะเดินหลบออกไปก็อดหันไปมองทางต้นเสียงมิได้ ทันใดนั้นร่างหยุดเคลื่อนไหวอย่างกะทันหัน บุรุษผู้สูงศักดิ์ยืนนิ่งเป็นรูปปั้นหิน นัยน์ตาเรียวดุจเหยี่ยวเบิกขยายขึ้นอย่างไม่รู้ตัว

ผู้ที่มาเป็นสตรีแปลกหน้าในชุดกระโปรงสีชมพู เนื้อผ้าแนบลำตัวแสดงให้เห็นสัดส่วนสวยงาม นางเยื้องกรายมาทางที่เขายืนอยู่อย่างช้า ๆ ด้านหลังมีสาวใช้หน้าตาจิ้มลิ้มกึ่งเดินกึ่งวิ่งตามมา

ดวงตาคมกริบมองภาพนางได้อย่างชัดเจน ผิวขาวราวหิมะ โฉมหน้าสะดุดตา ร่างสูงระหง เอวองค์เต็มทุกสัดส่วน สตรีผู้นี้ช่างงดงามหมดจดราวสวรรค์สร้าง ถ้าจะบอกว่ากำลังชื่นชมเทพธิดาอยู่ก็คงไม่เกินไปนัก

ทว่าโฉมสะคราญเบื้องหน้าไม่ใช่สตรีในตระกูลใหญ่ที่เขาเคยพบเจอมาก่อน ภายใต้รูปลักษณ์สะกดวิญญาณบุรุษนั้นจะมีอะไรซ่อนอยู่หรือไม่หนอ

ยิ่งเห็นนางถนัดชัดขึ้นเท่าใด มู่เลี่ยงหรงรู้สึกว่าหัวใจยิ่งเต้นระรัว ความร้อนสายหนึ่งแผ่ซ่านไปทั่วกาย

นี่เขากำลังตื่นเต้น…ตื่นเต้นเพราะสตรีตรงหน้าหรือ

เพียงรู้สึกลึก ๆ ว่านางช่างแตกต่างและน่าสนใจ

แต่ก่อนที่นางจะสังเกตเห็น บุรุษในชุดผ้าไหมสีดำตัดสินใจก้าวถอยหลังกลับไปหลบใต้ต้นหลิว กระทั่งสตรีผู้นั้นเดินใกล้เข้ามาแล้วหยุดลงตรงข้างต้นหลิวอีกฝั่งหนึ่ง

ยามนี้ทั้งสองมีเพียงลำต้นของไม้ใหญ่บดบังอีกฝ่ายเอาไว้จากการมองเห็น

“คุณหนู กลับเข้างานเถิดเจ้าค่ะ” สาวใช้เอ่ยเตือนนายหญิง

“ขอเวลาทำใจอีกสักหน่อย ข้าต้องทำการแสดงต่อหน้าพระพักตร์เชียวนะ”

“คุณหนูของบ่าวเก่งที่สุด ฮ่องเต้จะต้องทรงชื่นชมอย่างแน่นอน”

“ข้ามิได้ต้องการเช่นนั้นเสียหน่อย”

“ทำไมเล่าเจ้าคะ”

“เหตุผลจะเป็นอะไรก็ช่างเถิด ขอเพียงไม่ทำให้ท่านพ่ออับอายก็พอแล้ว”

“คุณหนู ท่านมีอะไรไม่สบายใจหรือ บอกบ่าวมาเถิดเจ้าค่ะ”

“ข้า...ก็แค่...ไม่อยากแต่งงานกับใครก็ไม่รู้” เยี่ยนเยว่ฉีอ่อนเสียงลงด้วยคิดถึงคำที่พี่ชายคนรองบอกกล่าว นางจะได้พบพานกับบุรุษที่เป็นเนื้อคู่ เขาเป็นหนึ่งในบรรดาราชนิกุล

แต่เขาจะรักนางหรือไม่เล่า

“ซูจิ้ง ท่านพ่อกับท่านพี่ไม่ได้บอกอะไรกับข้ามาก ข้ากลัวเหลือเกิน กลัวว่าอาจต้องแต่งงานกับชายแก่ สุดท้ายต้องถูกทอดทิ้งอยู่ในเรือนหลังเพียงลำพังอย่างน่าอนาถ”

ได้ยินดังนั้น ท่านอ๋องหนุ่มคิ้วกระตุก หรือบิดาของนางหมายถวายตัวบุตรสาวให้ฮ่องเต้

‘สามหาวยิ่งนักไม่กลัวตายหรืออย่างไร’

ก่อนที่สตรีผู้นั้นจะพูดมากไปกว่านี้แล้วหัวสวย ๆ จะอยู่ไม่ติดร่าง พระอนุชาของฮ่องเต้เช่นเขาคงต้องสั่งสอนสตรีนางนี้ให้รู้จักสงบปากสงบคำเสียแล้ว

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ท่านอ๋องเจ้าขา...ข้ายอมแล้ว   ตอนที่101 เรากลับกันเถิด

    ส่วนฮองเฮานั่งจิบชาด้วยสีหน้าอันเรียบเฉย ทำประหนึ่งว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับตน ทั้งที่ในใจลอบตำหนิแม่สามีที่พูดจาเอาแต่ใจ โดยไม่สนพระทัยสักนิดว่าเรื่องนี้ควรพูดออกมาตอนนี้หรือไม่ หากมู่เลี่ยงหรงต้องการจะให้จ้าวกุ้ยอินมาเป็นเป็นหวางเฟยแล้วละก็ คงไม่รอให้ไทเฮาเสนอมู่เลี่ยงหรงหยุดรอชายาที่หน้าตำหนัก ความจริงตนไม่ได้ตั้งใจจะทิ้งนางไว้ที่ตรงนั้น แต่ด้วยกำลังบังเกิดโทสะจึงต้องรีบจากมาก่อนเรื่องราวจะแย่ลง เพียงไม่นานนักเยี่ยนเยว่ฉีก็เดินออกมาจากประตูตำหนัก หญิงสาวมองผู้เป็นสามีอย่างเข้าอกเข้าใจ“ท่านอ๋องเรากลับกันเถิด”“อ้ายเฟย ข้าไม่ได้ตั้งใจจะทิ้งเจ้า”“วางใจเถิด หวางเฟยของท่านเป็นคนที่มีเหตุผล” เยี่ยนเยว่ฉียิ้มหยอกเย้าหวังให้เขาสบายใจ“ข้าไม่มีทางรับใครเข้าจวนอีก” เขารีบอธิบาย เพราะกลัวว่าเยี่ยนเยว่ฉีจะเข้าใจผิด“ดูพูดเข้า หากเป็นพระราชโองการ หรือพระเสาวนีย์อย่างไรท่านก็ขัดมิได้อยู่”“เสด็จพี่มีรับสั่งจะไม่บังคับข้าอีก”“แต่ไทเฮาไม่ได้ทรงรับปากท่านอ๋องนี่”“เป็นดั่งเจ้าว่า แต่ถ้าเสด็จแม่ยังคงดื้อดึง เรื่องนี้คนที่จะเสียใจที่สุดคงจะเป็นจ้าวกุ้ยอิน”“หากนางได้แต่งกับท่านสมใจ จะมีแต่ความ

  • ท่านอ๋องเจ้าขา...ข้ายอมแล้ว   ตอนที่100 ในที่สุด

    ในที่สุดรถม้าก็แล่นมาถึงจุดจอดรถม้าของวังหลวงซิ่นเฉิงขานเรียกผู้เป็นนาย ส่วนซูจิ้งก็จัดการวางขั้นบันไดข้างรถม้า ทั้งสองต่างทำหน้าที่ของตนเองโดยไม่มองหน้า ไม่พูดไม่จากันแม้แต่ครึ่งคำ ทั้งที่ต้องเดินเคียงกันไปตลอดทางเป็นองครักษ์หนุ่มที่รู้สึกเหมือนจะทนไม่ไหว คิดว่ายังไงก็ต้องหาทางคุยกับซูจิ้งให้รู้เรื่องรู้ราว อย่างไรเสียตอนนี้ก็อยู่จวนเดียวกัน หากนางเป็นอนุบ่าวของเยี่ยนจิ้นหลิงจริง เหตุใดจึงตามหวางเฟยมาเล่า เขาจะต้องถามความให้กระจ่าง หากแม้ไม่มีวาสนาต่อกันก็ยินดีจะล่าถอย ไม่ใช่เดาสุ่มเอาเองเช่นนี้ เมื่อตกลงใจได้เขาก็ผ่อนคลายลงหลายส่วน‘คืนนี้ล่ะ ซาลาเปาน้อย ข้าจะต้องรู้ความจริงให้จงได้’มู่เลี่ยงหรงต้องพาเยี่ยนเยว่ฉีไปถวายพระพรไทเฮา หนทางจากจุดจอดรถม้าไม่ใกล้เลย ซ้ำไทเฮายังเลือกเวลาให้ทั้งสองมาเข้าเฝ้ายามตะวันตรงศีรษะ ที่น่าแปลกคือไม่มีเกี้ยวสำหรับสตรีมารับ กว่าจะถึงตำหนักของพระนาง ฉินอ๋องกับหวางเฟยต้องเดินเท้าเป็นเวลาราวหนึ่งก้านธูปเมื่อทั้งสองถึงที่หมายก็เห็นกูกูสูงวัยผู้หนึ่งยืนรออยู่หน้าประตูตำหนัก ครั้นนางเห็นมู่เลี่ยงหรงก็รีบเข้ามาต้อนรับทันที จากนั้นจึงเดินนำบุคคลทั้งคู่เข้าส

  • ท่านอ๋องเจ้าขา...ข้ายอมแล้ว   ตอนที่99 นึกชื่นชม

    พ่อบ้านใหญ่รับคำแล้วจัดการสั่งงานลูกน้องอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง ท่วงท่าและน้ำเสียงแฝงไว้ด้วยพลัง เยี่ยนเยว่ฉีเห็นดังนั้นก็นึกชื่นชม มิน่าเล่า ท่านอ๋องถึงวางใจคนหนุ่มผู้นี้ให้รับผิดชอบเรื่องน้อยใหญ่ในจวน ดูท่าทางนางคงไม่ต้องเหนื่อยยากอย่างที่คิดมู่เลี่ยงหรงให้พ่อบ้านใหญ่กับมามาทั้งสี่ถอยออกไปได้ ก่อนถอนหายใจออกมาทีหนึ่ง แล้วส่งเสียงเรียกออกไป“พวกเจ้าเข้ามาคารวะน้ำชาหวางเฟยเถิด”พอสิ้นเสียงคำสั่ง สตรีโฉมงามสามนางก็เดินนำหน้าหญิงสาวอีกสิบกว่าคนเข้ามาภายในห้องโถง เยี่ยนเยว่ฉีมองไปยังพระชายารองทั้งสามที่ยืนอยู่เบื้องหน้าด้วยท่าทีสงบที่สุด ถึงแม้จะรู้สึกตกอกตกใจอยู่บ้างกับจำนวนสตรีที่ถวายตัวให้มู่เลี่ยงหรงแต่มิได้มีตำแหน่งอย่างเป็นทางการ‘บัดซบ! เยอะขนาดนี้เชียว’เยี่ยนเยว่ฉีตั้งใจเอาไว้ว่าหากพวกนางไม่ได้แสดงตัวเป็นปรปักษ์ ตนเองก็จะไม่กระทำการรุนแรงใด ๆ ทั้งสิ้นมู่เลี่ยงหรงแนะนำชายารองทั้งสามด้วยท่าทางที่เป็นธรรมชาติ ไม่มีอาการกังวลหรือตกประหม่าให้เห็น แต่ภายในใจกลับก็รู้สึกหนักอึ้งเพราะเกรงว่าเยี่ยนเยว่ฉีจะยังรับเรื่องฮูหยินอีกสิบเอ็ดคนไม่ได้ แต่เมื่อเห็นว่านางยังคงยิ้มละไม ไม่มีอาการกระอั

  • ท่านอ๋องเจ้าขา...ข้ายอมแล้ว   ตอนที่98 ชิงหรูไม่ได้ถวายตัวให้ข้า

    “อ้ายเฟย สี่คนนี้คือนางกำนัลที่ข้าคัดสรรมาให้ ข้ารับรองว่าพวกนางทำงานดีและมีความรอบรู้ หากเจ้าต้องการทราบเรื่องใดในจวน พวกนางสามารถแนะนำจัดหาให้เจ้าได้ทั้งหมด โดยเฉพาะชิงหรู นางดูแลห้องข้างของข้ามาหลายปี”เยี่ยนเยว่ฉีหรี่นัยน์ตามองชิงหรูอย่างเสียมิได้ พอเห็นก็จำได้ทันทีว่าหญิงสาวผู้นี้คือนางกำนัลที่เตรียมน้ำอุ่นมาให้เมื่อคืน นางหน้าตาสะสวย นัยน์ตาหวานฉ่ำดูยั่วยวน ผิวพรรณนวลเนียนเปล่งปลั่ง รูปร่างงามระหงสมส่วน มีเสน่ห์ดึงดูดใจบุรุษมากทีเดียวมู่เลี่ยงหรงที่ลอบสังเกตอยู่พบว่าเยี่ยนเยว่ฉีกำลังกินน้ำส้มอยู่ เขากลั้วหัวเราะเบา ๆ จนนางต้องหันมาค้อนผู้เป็นสามีทีหนึ่ง“ชิงหรูไม่ได้ถวายตัวให้ข้า”“ข้ายังไม่ได้ว่าอันใดท่านเสียหน่อย” หวางเฟยบ่นพึมพำเมื่อถูกจับได้“ก็ข้าอยากบอกเจ้านี่” ฉินอ๋องไม่ต้องการทำให้พระชายาคนงามต้องรู้สึกเสียหน้าจึงพูดแก้เก้อให้เสร็จสรรพ“เยว่ฉีทราบแล้ว” นางพอใจที่ท่านอ๋องไว้หน้าตนมู่เลี่ยงหรงยิ้มกว้าง ก่อนจะหันไปสั่งนางกำนัลทั้งหลายให้ปรนนิบัติผลัดเปลี่ยนอาภรณ์ของหวางเฟย เหล่านางกำนัลรีบทำตามประสงค์ของเจ้านาย เยี่ยนเยว่ฉียอมรับว่าผู้ที่มู่เลี่ยงหรงคัดสรรค์มาให้นางนั้นทำ

  • ท่านอ๋องเจ้าขา...ข้ายอมแล้ว   ตอนที่97 แย่แล้วคุณหนูของข้า

    อ๋องหนุ่มฝืนลุกจากเตียงด้วยอารมณ์ขุ่นมัว เขาคว้าชุดคลุมเอามาใส่อย่างลวก ๆ ก่อนจะเปล่งเสียงเรียกสาวใช้คนสนิทของนางให้มาช่วยจัดการเรื่องวุ่นวายของสตรี เยี่ยนเยว่ฉีมองตามร่างสูงที่เพิ่งเดินออกจากห้องนอนไปซูจิ้งเข้ามาภายในห้องหอ นางยอบกายคำนับฉินอ๋องที่ทำหน้าถมึงทึงอยู่บนเก้าอี้ยาวริมหน้าต่างที่ห้องชั้นนอก เขาไม่พูดอะไรเพียงแต่โบกมือเป็นสัญญาณให้นางเข้าไปหาเยี่ยนเยว่ฉีในห้องนอนซูจิ้งเดินผ่านกองชุดวิวาห์ที่ถูกฉีกขาดกระจัดกระจายอยู่บนพื้นก็อดรู้สึกตกใจไม่ได้ หรือว่าฉินอ๋องทำรุนแรงกับนายหญิงของตน‘แย่แล้วคุณหนูของข้า’ สตรีร่างเล็กแทบจะวิ่งเข้าไปที่หน้าเตียง ภาพที่เห็นคือเยี่ยนเยว่ฉีนั่งเอาผ้าห่มปิดร่างกายที่เปลือยเปล่าเอาไว้ มีคราบน้ำตาอาบบนแก้ม แต่ไม่ปรากฏร่องรอยความเสียใจแม้แต่น้อย“คุณหนู ไม่ใช่สิ หวางเฟยเป็นอันใดไปเพคะ”“เรื่องสุดวิสัยของสตรี” เยี่ยนเยว่ฉีเอ่ยเสียงเย็นคำตอบของเยี่ยนเยว่ฉีทำให้ซูจิ้งโล่งอก มิน่าเล่าฉินอ๋องถึงได้ทำหน้าถมึงทึงเช่นนั้น มีเนื้ออยู่ตรงหน้าแต่กลับกินไม่ได้ ช่างน่าเห็นใจเหลือเกิน“เช่นนั้นลงมาจากเตียงก่อนเพคะ ซูจิ้งจะได้ปรนนิบัติท่านเปลี่ยนเสื้อผ้าเอง”“อืม”

  • ท่านอ๋องเจ้าขา...ข้ายอมแล้ว   ตอนที่96 แทบจะไม่เหลืออาภรณ์ติดกาย

    แม้แทบจะไม่เหลืออาภรณ์ติดกาย ทว่าเยี่ยนเยว่ฉีกลับร้อนรุ่มมากขึ้นกว่าเดิมเมื่อถูกกระตุ้นเพลิงในกาย เพื่อให้เขากับนางแนบสนิทใกล้ชิดยิ่งขึ้น มู่เลี่ยงหรงจึงขยับร่างบางให้หันหน้าเข้าหาตน และด้วยการบังคับขยับนี้เยี่ยนเยว่ฉีจึงต้องตวัดขาเรียวยาวโอบรอบสะโพกสอบของเขาเอาไว้ แล้วคล้องแขนกับลำคอเพื่อเป็นหลักยึด ฝ่ามือร้อนของบุรุษลูบไล้ไปทั่วแผ่นหลังนวลเนียน เมื่อพบกับปมเล็ก ๆ ที่ผูกไว้ก็กระตุกออกอย่างเบามือ อุปสรรคสุดท้ายถูกกำจัดจนสิ้น เหลือเพียงร่างเปลือยเปล่าของเทพธิดาแสนสวยในอ้อมกอดแสงจากเทียนมงคลคู่สีแดงวูบไหว อาบไล้ไปบนผิวขาวเนียนละเอียดดุจกระเบื้องเคลือบ ยิ่งทำให้เยี่ยนเยว่ฉีงดงามราวรูปสลักอันไร้รอยตำหนิ ช่างสูงค่าคู่ควรให้ทะนุถนอม‘วิเศษยิ่งนัก ยอดรักของข้า’ดวงตาลากไล้สำรวจเทพธิดาในอ้อมกอด ยิ่งมองยิ่งพบว่าเรือนกายของนางช่างสมบูรณ์แบบ เต็มไปด้วยเสน่ห์น่าหลงใหลทุกสัดส่วน ร่างระหงยั่วยวนน่าสัมผัสไปทุกตารางนิ้ว ไม่ว่ามือจะลูบไล้ไปตรงที่ใด ผิวกายขาวผ่องดุจแสงจันทร์กระจ่างก็เรียบลื่นนุ่มละมุนมือ มู่เลี่ยงหรงแทบลืมหายใจเมื่อแลเห็นปทุมถันอวบอิ่มเต็มตา ยอดสีหวานชูชันท้าทายให้ครอบครองยิ่งนัก ชายห

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status