@เคียงดาวแมนชั่น
แก้มหวานเดินเข้ามาทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟาด้วยสมองที่หนักอึ้งเพราะคิดไม่ตกตอนนี้เธอไม่รู้ว่าควรเชื่อน้องสาวหรือไม่ เธอเริ่มไม่แน่ใจแล้วว่าน้องสาวที่เธอดูแลมาตั้งแต่อายุ 12ปีเป็นคนยังไงกันแน่
ดวงตากลมโตสอดส่องมองหาน้องสาวทั่วห้องเพื่อเรียกมาถามไถ่เรื่องเงินสองล้านแต่ก็ไร้เงามือเล็กล้วงไปหยิบโทรศัพท์ในกระเป๋าสะพายข้างเพื่อโทรหาน้องสาว ทว่าไม่ทันจะได้กดโทรออกน้องสาวก็เปิดประตูเข้ามา
“ไปเซเว่นมาค่ะ” แก้วตารีบชูถุงขนมให้พี่สาวดูด้วยความเร็วเมื่อเห็นสายตาดุดันที่พี่สาวมองมายังเธอ
“เรื่องเงินสองล้านแก้วไม่รู้เรื่องจริงๆเหรอ” หญิงสาวพยักรับก่อนถามไถ่ถึงเรื่องที่ค้างคาใจอยู่ดวงตากลมโตมองไปที่น้องสาวอย่างจับพิรุธ
“แก้วไม่รู้เรื่องจริงๆค่ะ” แก้วตาเดินมาหย่อนสะโพกนั่งข้างผู้เป็นพี่สาวแล้วพูดขึ้นด้วยสีหน้าเคร่งเครียดไม่ได้แสดงท่าทางที่เป็นพิรุธใดๆ
“แต่ทางนั้นยืนยันหนักแน่นว่าแก้วโทรไปขอเบิกค่าเลี้ยงดูล่วงหน้าเขามีหลักฐานสลิปการโอนเงินเข้าบัญชีที่เป็นชื่อแก้มนะ”
“เป็นไปไม่ได้แก้วไม่เคยโทร” แก้วตายังคงยืนยันเสียงหนักแน่นเธอนิ่งเงียบไปสักพักก่อนเปล่งเสียงพูดอีกครั้งเมื่อฉุกคิดขึ้นได้ “หรือว่าจะเป็นพี่ลูกหมี”
“พี่ลูกหมีคือใคร” แก้มหวานขมวดคิ้วถามน้องสาวด้วยความสงสัย
“พี่ลูกหมีคือพี่สาวของเพื่อนคนที่พาแก้วไปเซ็นสัญญาไม่แน่เขาอาจจะเป็นคนโทรไป”
“ถ้าเป็นแบบนั้นแล้วพี่สาวเพื่อนมีบัญชีธนาคารแก้วได้ยังไง”
“วันนั้นหลังจากเซ็นสัญญาเสร็จพี่ลูกหมีก็พาแก้วไปเปิดบัญชีใหม่”
“แล้วตอนนี้สมุดบัญชีกับบัตรเอทีเอ็มอยู่ไหน”
“อยู่ที่พี่ลูกหมีค่ะ”
“ทำไมถึงไปอยู่ที่เขา”
“วันนั้นหลังจากเปิดบัญชีเสร็จพี่ลูกหมีก็ขอสมุดบัญชีกับบัตรเอทีเอ็มจากแก้วแล้วรีบเดินออกไปเลย แก้วถามเพื่อนเพื่อนก็บอกว่าพี่สาวเขารีบเอาหน้าสมุดบัญชีไปถ่ายเอกสารส่งให้ผู้ว่าจ้างจะเอากลับมาคืนทีหลัง”
แก้มหวานถึงกับถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ดวงตากลมโตมองหน้าน้องสาวด้วยแววตาอ่อนใจเธอไม่รู้ว่าควรโทษน้องสาวหรือตัวเองดีที่เลี้ยงดูประคบประงอมจนน้องสาวอ่อนต่อโลกไม่ทันเล่ห์เหลี่ยมคนอื่น
“แก้วขอโทษที่สร้างปัญหาให้พี่” แก้วตาใบหน้าสลดลงเมื่อเห็นสีหน้าเคร่งเครียดของผู้เป็นพี่สาวความรู้สึกผิดถาโถมเข้ามาถ้าไม่ใช่เพราะเธอถือดีทำอะไรโดยไม่ปรึกษาพี่สาวเรื่องคงไม่บานปลายมาถึงขั้นนี้ ท่าทางของแก้วตาทำให้คนเป็นพี่สาวอย่างแก้มหวานอดสงสารไม่ได้มือเล็กเอื้อมไปรั้งตัวน้องสาวเข้ามากอดเชิงปลอบประโลม “ไม่เป็นไรเราค่อยๆหาทางแก้ปัญหากัน”
“ แก้วรู้ไหมบ้านเพื่อนอยู่ไหน” เธอสวมกอดน้องสาวนานนับนาทีก่อนผละกอดออกแล้วพูดขึ้นอีกครั้ง คนโดนถามพยักหน้าแทนคำตอบ
“งั้นพาพี่ไปหน่อยตอนนี้เลย”
“ได้ค่ะ” สิ้นสุดคำพูดน้องสาวแก้มหวานก็คว้ากระเป๋าขึ้นมาสะพายแล้วพากันเดินออกไปขึ้นรถแท็กซี่ทันทีเธอรู้สึกร้อนรนใจมากจนรอให้ทีพรุ่งนี้ไม่ไหว ทว่าเธอแทบจะล้มทั้งยืนเมื่อเดินทางมาถึงบ้านเพื่อนสาวแก้วตาแต่กลับพบว่าบ้านหลังนี้ติดป้ายประกาศขายด่วนสอบถามคนในละแวกนั้นเขาก็บอกว่าเจ้าของบ้านย้ายไปอยู่ต่างประเทศแล้ว
“จะทำยังไงกันดีคะพี่แก้ม”
“พรุ่งนี้ไปแจ้งความกันเราจะปล่อยให้คนเลวๆแบบนี้ลอยนวลไม่ได้พวกเขาต้องกลับมารับผิดชอบเรื่องนี้”
“หากแจ้งความตำรวจก็รู้สิคะว่าแก้วเป็นเด็กเสี่ยหรืออาจเป็นข่าวด้วยซ้ำไปพี่แก้มก็รู้ว่าเดี่ยวนี้โซเชียลมันแรงเรื่องนิดหน่อยก็เป็นข่าวถ้าแบบนั้นเพื่อนแก้วก็ต้องรู้แล้วแก้วจะเอาหน้าไปไว้ไหนอย่าแจ้งความเลยนะพี่แก้ม” แก้วตาร้องห้ามพี่สาวทันทีเธอรู้ดีว่าตัวเองเห็นแก่ตัวที่พูดออกไปแบบนั้นแต่เธอรับไม่ได้จริงๆเพียงแค่คิดว่าเรื่องนี้หลุดออกไปทุกคนที่เคยมองว่าเธอใสซื่อเป็นเด็กดีคงพากันนินทาดูถูกเหยียดหยาม
“อืม” แก้มหวานเพียงพยักหน้ารับก่อนโอบไหล่น้องสาวเดินออกไปเรียกรถแท็กซี่หน้าหมู่บ้านเดินทางกลับห้องพักด้วยสมองหนักอึ้งเพราะคิดไม่ตกว่าจะเอายังไงต่อดีสิ่งที่ทำได้ตอนนี้คงต้องโทรไปคุยกับเจ้านายของเจนภพเองเผื่อเขาจะเห็นใจยอมหย่อนๆให้ได้บ้าง
วันต่อมา
ร่างบางในชุดนักศึกษานั่งมองเบอร์โทรศัพท์ของเจ้านายเจนภพที่เธอเพิ่งโทรไปขอจากเขาเมื่อกี้ด้วยความรู้สึกกังวล เธอนั่งทำใจอยู่สักพักก่อนจะกดโทรออกถือสายรอเพียงไม่นานปลายก็กดรับ
(สวัสดีครับกวินท์พูดสายครับ)
แก้มหวานประหม่าเล็กน้อยเมื่อได้ยินน้ำเสียงของคนปลายสายจากที่ฟังดูเขาน่าจะอายุไม่เยอะเท่าไรต่างจากที่คิดไว้ เธอสลัดความคิดออกจากหัวแล้วเอ่ยแนะนำตัว (สวัสดีค่ะคุณกวินท์ฉันแก้มหวานพี่สาวแก้วตาค่ะ)
(ครับ..)
(คุณคงรู้เรื่องจากคุณเจนภพบ้างแล้วใช่ไหมคะ)
(ครับ..)
(งั้นคุณคงรู้ใช่ไหมคะว่าน้องสาวฉันโดนเพื่อนหลอกสวมรอยแล้วเชิดเงินสองล้านหนี)
(ครับ..)
เธอรู้สึกหัวเสียเป็นอย่างมากที่คนปลายสายเอาแต่พูดอยู่คำเดียวไม่มีความคิดเห็นแถมน้ำเสียงยังไร้ความรู้สึกอีกเหมือนคนตายด้าน เธอพยายามผ่อนลมหายใจเข้าออกเบาๆระงับอารมณ์เอาไว้ก่อนเปล่งเสียงถามด้วยความไม่พอใจ (คุณจะไม่พูดอะไรหน่อยเหรอคะ)
(ให้พูดอะไรนั้นมันเป็นปัญหาของคุณกับน้องสาวไม่ใช่ปัญหาของผม)
“...” ทว่าประโยคตอบกลับของคนปลายสายทำให้เธอถึงกับสะอึกเริ่มสัมผัสได้ถึงความร้ายกาจของเขาและเธอไม่อยากเสวนากับคนประเภทนี้นานๆเลยรีบบอกจุดประสงค์ของตัวเองไป (ฉันขอยกเลิกสัญญาของน้องสาวค่ะ)
(โอนเงินสองล้านคืนให้ผมสัญญาจึงจะถูกยกเลิก)
(ทำไมพวกฉันต้องคืนคนที่เอาไปไม่ใช่น้องสาวฉันสักหน่อยอยากได้คืนก็ไปตามจากสองพี่น้องนั้นสิคะ)
(ไม่เกี่ยวได้ยังไงในสัญญาเป็นชื่อและลายเซ็นของน้องสาวคุณ บัญชีธนาคารก็เป็นข้อมูลของน้องสาวคุณหากผมแจ้งความฐานฉ้อโกงคุณคงรู้ดีว่าผลจะออกมาเป็นยังไง)
(นี่คุณขู่ฉันเหรอคะ)
(ผมทำจริง..ผมมีทางเลือกให้คุณสามทาง หนึ่งหาเงินมาคืนผมภายในสองวัน สองให้น้องสาวคุณทำงานตามสัญญา สาม....)
(ข้อสามอะไรคะคุณเงียบทำไม) เสียงหวานเปล่งถามคนปลายสายด้วยความสงสัยเมื่อจู่ๆเขาก็เงียบไปทั้งที่ยังพูดไม่จบ
(คุณมาทำงานแทนน้องสาว)
ประโยคสุดท้ายจากปลายสายทำให้คนฟังถึงกับอ้าปากเหว่อ ทว่าไม่ทันที่เธอจะได้ตอบอะไรกลับปลายสายก็ตัดสายทิ้งไป
“คิดว่าใหญ่มาจากไหนอยากทำอะไรก็ทำ..เผด็จการ” แก้มหวานกรอกตามองบนพ่นลมหายใจหนักๆออกมาด้วยความรู้สึกโมโหเธอไม่เคยเจอใครที่ทำตัวลึกลับ เผด็จการแบบนี้มาก่อนเลยจริงๆ
“เป็นอะไรแก้มหน้านิ่วคิ้วขมวดเชียว”
“ก็เรื่องแก้วนั้นแหละ”
“มีอะไรเหรอ” มิราเลิกคิ้วถามด้วยความสงสัย คนโดนถามถอนหายใจออกมาอย่างเซ็งๆก่อนเล่าเรื่องทั้งหมดให้เพื่อนสาวฟัง
“...” มิราถึงกับหนักใจแทนเมื่อได้ฟังเรื่องราวทั้งหมดถ้าแค่เงินล้านครึ่งล้านเธอก็พอช่วยเพื่อนสาวได้อยู่หรอกแต่เงินเป็นสองล้านเธอก็จนปัญญาเช่นกันทำได้แค่ให้กำลังใจแทน
“เอาน่าสู้ๆ อย่าเครียดขึ้นห้องเรียนกันเถอะได้ยินว่าวันนี้มีอาจารย์ใหม่มาเป็นที่ปรึกษาแทนอาจารย์กนกวรรณด้วยนะไปดูกัน” เธอตบบ่าเพื่อนสาวเบาๆเชิงให้กำลังใจก่อนจะดึงมือเพื่อนสาวให้ลุกเดินตามขึ้นไปยังห้องเรียน
หลายเดือนต่อมาอ๊วกกก! เสียงอาเจียนดังเล็ดออกมาจากห้องน้ำภายในห้องนอนของแก้มหวานกับกวินท์ เจ้าของเสียงอาเจียนหาใช่หญิงสาวไม่แต่กลับเป็นชายหนุ่มที่ยืนอาเจียนหน้าอ่างล้างหน้าจนหมดไส้หมดพุงเขามีอาการแบบนี้มา 2วันติดๆ แล้วก็ไม่ทราบสาเหตุเหมือนกันว่าเป็นเพราะอะไร"พี่กวินท์เป็นอะไรมากไหมคะ แก้มว่าไปหาหมอดีกว่าพี่เป็นแบบนี้มา 2-3วันแล้วนะ" แก้มหวานเดินเข้าไปลูบหลังให้แฟนหนุ่มเบาๆ พร้อมถามไถ่ด้วยความเป็นห่วงเมื่อเห็นสีหน้าซีดเผือดของเขาผ่านกระจกกวินท์ใช้มือกรอกน้ำล้างปากก่อนแหงนหน้าขึ้นสูดลมหายใจเข้าปอดเฮือกใหญ่ระบายอาการคลื่นไส้ในอกแล้วหันไปพูดกับแฟนสาวด้วยใบหน้าอิดโรย "ก็ดีเหมือนกันครับ""ค่ะ" ใบหน้าสวยเพียงพยักรับน้อยๆ มือเล็กเอื้อมไปจับแขนแกร่งไว้แล้วประคองเขาเดินออกจากห้องน้ำพาไปนั่งลงริมเตียงจากนั้นจึงเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้าหยิบเสื้อออกมายื่นให้เขาเปลี่ยน "นี่ค่ะเสื้อ""ขอบคุณครับ" กวินท์รับเสื้อจากมือแฟนสาวมาวางลงข้างตัวแล้วสอดมือเข้าไปรั้งเอวคอดกิ่วของร่างบางที่ยืนตรงหน้าเข้ามาแนบชิดทำให้ตอนนี้ใบหน้าของเขาอยู่ระดับหน้าท้องแบนราบพอดี ก่อนเขาจะแหงนหน้าขึ้นมองใบหน้าแฟนสาวพลางนึกขอบคุณใน
"พี่ยังไม่ตอบแก้มเลยนะคะรู้ได้ยังไงว่าแก้มอยู่ที่นี่" แก้มหวานหันไปถามอาจารย์หนุ่มอีกครั้งขณะกำลังเดินไปหาน้องสาวกับเพื่อนริมชายหาดหลังจากเปลี่ยนเสื้อผ้าจนเป็นที่พอใจของอาจารย์หนุ่มแล้วเธอยังคงคาใจอยู่อยากจะรู้ว่าเขาตามหาเธอถูกได้ยังไง"ผมก็หลอกถามจากเพื่อนคุณยังไงละ" กวินท์ตอบหน้าระรื่นก่อนยกยิ้มมุมปากเขาก็แค่ส่งไลน์ไปหาเพื่อนของหญิงสาวบอกให้ทั้งสองเอาโปรเจคมาให้เขาดู แต่เพื่อนของเธอบอกว่าไม่สะดวกเพราะมาเที่ยวพัทยาเขาเลยได้รู้แล้วแสร้งตีเนียนถามข้อมูลไปเรื่อยๆ จนรู้ว่าเธอพักอยู่รีสอร์ทนี้"พี่นี่มันจริงๆ เลย" เธอถึงกับกรอกตามองบนถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่กับความเจ้าเล่ห์ของเขา ทว่าอีกคนกลับหัวเราะร่าออกมาอย่างอารมณ์ดีพร้อมยื่นมือไปโอบไหล่มน "ผัวคุณฉลาดไหมละ""เจ้าเล่ห์สิไม่ว่า หลอกล่อเก่ง แผนเยอะ""ก็บอกแล้วไงว่าผมเจ้าเล่ห์กับเด็กดื้ออย่างคุณคนเดียว""เพราะพี่เจ้าเล่ห์ไงแก้มก็เลยต้องดื้อ กับคนอื่นแก้มเชื่อฟังจะตาย""ผมต้องดีใจไหมที่คุณดื้อกับผมคนเดียว""ต้องดีใจสิคะ""ระวังจะโดนผมลากขึ้นไปกำราบบนเตียงนะเด็กดื้อ""คนบ้าชอบพูดจาทะลึ่งอยู่เรื่อย""ผมพูดจริงทำจริงไม่ได้ทะลึ่ง" "พอเลยไม่พูดเ
กวินท์ยืนจับจ้องแผ่นหลังร่างบางในชุดบิกินี่ด้วยแววตาดุดัน ใช้ลิ้นดันกระพุงแก้มอย่างไม่สบอารมณ์เขารู้สึกหัวเสีย และโกรธเอามากๆ แต่ก็พยายามระงับอารมณ์เอาไว้ไม่ให้ตัวเองขาดสติใช้อารมณ์เข้านำเหมือนในคืนนั้นอีก เขาผ่อนลมหายใจแล้วเดินอ้อมไปยืนข้างหน้าร่างบางที่ยืนนิ่งไม่ไหวติงก้มหน้ามองดิน คิ้วเข้มถึงกับขมวดชนกันเป็นปมเมื่อเห็นหน้าอกหน้าใจที่ล้นทะลักออกมานอกบรา ไหนจะหน้าท้องขาวเนียนเรียวขาสวยนั้นอีก บิกินี่ทูพีชเผยให้เห็นส่วนเว้าส่วนโค้งสัดส่วนทุกอย่างชัดเจนไปหมดผู้ชายคนใดได้เห็นก็คงคิดดีไม่ได้"ทำไมใส่ชุดแบบนี้มันโป็มากรู้ไหม" เขาอดที่จะเอ็ดหญิงสาวไม่ได้อยากจะจับเธอตีก้นให้เข็ดหลาบว่าไม่ควรแต่งตัวแบบนี้อีกแต่ก็ต้องข่มอารมณ์ไว้ ก่อนถอดเสื้อแจ็กเก็ตมาห่อตัวเธอจนมิดชิด"ว๊าย!" แก้มหวานที่ยืนมองการกระทำของอาจารย์หนุ่มอย่างงงๆ ร้องอุทานด้วยความตกใจในตอนที่เขาจับตัวเธอขึ้นอุ้มพาดบ่าจนหัวห้อยโต่งเตงไม่แคร์สายตาคนที่เดินผ่านไปมา หรือสายตาน้องสาวกับเพื่อนสาวของเธอที่ยืนอ้าปากค้างมองด้วยความงุนงงสักนิด"คุณกวินท์ปล่อยแก้มลงนะคนมองหมดแล้ว" เสียงหวานเปล่งออกจากริมฝีปากเอิบอิ่มเบาๆ ด้วยความอับอายเธอไม
"พี่แก้มดีขึ้นแล้วเหรอคะ" เสียงของแก้วตาทำให้แก้มหวานที่ยืนทอดสายตามองทะเลด้วยใจเหม่อลอยสะดุ้งหลุดออกจากภวังค์ความคิด ก่อนปรับสีหน้าให้เป็นปกติแล้วหันกลับไประบายยิ้มตอบน้องสาว "พี่ดีขึ้นแล้ว""งั้นไปหาอะไรกินกันเถอะเริ่มหิวแล้วอะ" มิราเอ่ยชวนทันทีเมื่อเห็นสีหน้าเพื่อนสาวสดชื่นขึ้นกว่าก่อนหน้านี้พร้อมใช้มือลูบวนไปมาบนท้อง "งั้นก็ไปหาอะไรกินกัน" หญิงสาวได้แต่ส่ายหน้าไปมาให้กับการท่าทางของเพื่อนสาวก่อนเดินไปโอบไหล่เพื่อนสาวกับน้องสาวแล้วเดินพาออกจากห้อง@ร้านอาหารทั้งสามคนเลือกมาทานอาหารทะเลร้านใกล้ๆ กับรีสอร์ทที่เดินเลียบชายหาดมาเพียง 200เมตรก็ถึงเพราะได้ชื่นชมบรรยากาศระหว่างเดินมาด้วย เมื่อได้ออกมาพปปะผู้คนข้างนอกได้ชื่นชมกับบรรยากาศริมทะเลก็ทำให้แก้มหวานรู้สึกดี และผ่อนคลายมากขึ้นลืมเรื่องอาจารย์หนุ่มไปชั่วขณะหลังจากทานอาหารเสร็จทั้งสามคนก็พากันตะเวนเที่ยวทั่วเมืองพัทยาจนค่ำจึงกลับห้องมาพักผ่อน"พรุ่งนี้เล่นน้ำกันไหม" มิราเอ่ยขึ้นหลังจากเดินมาหย่อนสะโพกนั่งลงบนโซฟาในห้องแล้ว "ไปสิคะพี่มิรา" แก้วตาตอบตกลงอย่างไม่รอช้าก่อนหันไปพูดกับพี่สาวต่อ "มาทะเลทั้งทีไม่ได้เล่นน้ำก็เหมือนมาไม่ถ
@คอนโดมิรา"ฮึก ฮื่อ" เสียงสะอื้นไห้ดังระงมเบาๆ ภายในห้องนอนของคอนโดมิราแก้มหวานเลือกหนีอาจารย์หนุ่มมาหลบที่คอนโดเพื่อนสาวเพราะคิดว่าเขาคงไม่รู้แน่นอน เธอปล่อยให้น้ำตาแห่งความเสียใจ และผิดหวังหลั่งไหลออกมาเพื่อชะล้างความรู้สึกแย่ให้หมดไป และหลังจากนั้นเธอจะเริ่มต้นใหม่"คนปากเสียมาว่าแก้มแบบนั้นได้ไง แก้มไม่ชอบคุณแล้ว" ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหนที่เธอนอนร้องไห้อยู่อย่างนั้นจนรู้สึกดีขึ้นจึงหยัดกายลุกขึ้นนั่งแล้วยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาออกจากพวงแก้มลวกๆ ดวงตากลมโตฉายแววเด็ดเดี่ยวขึ้นในทันตาเมื่อสิ้นเสียงงึมงำ ก่อนจะลุกลงจากเตียงเดินเข้าไปล้างหน้าล้างตาในห้องน้ำแล้วเดินกลับมาหย่อนสะโพกนั่งริมเตียง มือเล็กเอื้อมไปหยิบโทรศัพท์ในกระเป๋าสะพายข้างออกมาเปิดเครื่องหลังจากที่เธอปิดเครื่องหนีอาจารย์หนุ่มก่อนหน้านี้เพื่อโทรบอกน้องสาว ทว่าเพียงแค่เปิดเครื่องเท่านั้นข้อความพยายามติดต่อจากเขาก็เด้งเข้ามาในมือถือระรัวเกือบสิบข้อความแต่เธอหาได้สนใจไม่กลับปัดข้อความเขาทิ้งแล้วต่อสายหาน้องสาว ถือสายรอไม่นานปลายสายก็กดรับ(ว่าไงคะพี่แก้ม)(คืนนี้พี่นอนห้องพี่มิรานะแก้ว)(ค่ะ..เมื่อกี้เจ้านายพี่เขามาตามหาพี่
"แก้มหวาน!" กวินท์เดินปรี่ไปหาหญิงสาวที่กำลังยืนคุยกับผู้ชายหน้าระรื่นด้วยอารมณ์เดือดดาล มือหนาเอื้อมไปจับแขนเล็กแล้วกระชากให้ออกห่างเตชินเจ้านายเก่าของเธออย่างแรงจนเธอเซถลาปะทะลำตัวของเขาเต็มๆปึก!"อ๊ะ..คุณกวินท์" แก้มหวานเบ้หน้าออกมาด้วยความเจ็บ ก่อนแหงนมองหน้าอาจารย์หนุ่มด้วยความรู้สึกตกใจเล็กน้อย ทว่าเธอก็ต้องลอบกลืนน้ำลายเหนี่ยวๆ ลงลำคออึกใหญ่เมื่อเห็นสีหน้าแดงก่ำ และแววตาเกรี้ยวกราดของเขาที่จับจ้องเธอราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ "คุณฟังแก้มก่อนได้ไหม""โอ๊ย! แก้มเจ็บนะ" เธอพยายามข่มไม่ให้ตัวเองตื่นกลัวกับท่าทางเกรี้ยวกราดของร่างสูงตรงหน้า ก่อนเปล่งเสียงพูดเพืื่ออธิบายให้เขาเข้าใจ ทว่าเธอก็ต้องร้องท้วงด้วยความรู้สึกเจ็บพร้อมใช้อีกมือแกะมือหนาออกในตอนที่มือหนาออกแรงบีบแขนของเธอแรงๆ ราวกับจะให้มันแหลกคามือยังไงยังงั้น แต่แรงอันน้อยนิดของเธอหาได้ทำให้มือหนาขยับเขยื้อนออกจากแขนเธอสักนิดไม่ "ผมคนเดียวมันไม่ถึงใจใช่ไหมถึงได้ระริกระรี้กับผู้ชายคนอื่นอีก" กวินท์โกรธและหึงจนหน้ามืดตามัวไม่รับรู้อะไรอีกแล้ว เขาใช้ลิ้นดันกระพุ้งแก้มจับจ้องหน้าเธอสลับกับชายหนุ่มอย่างไม่สบอารมณ์ ก่อนพรั่งพรูคำ