공유

ตอนที่ 11 เริ่มการค้นหา

last update 최신 업데이트: 2024-12-19 11:17:39

ตอนที่ 11

เริ่มการค้นหา

รอดมาจากความตายได้ถือเป็นปาฎิหาริย์ สำหรับเสี่ยวชิงและกู่หรูเป็นอย่างมาก กู่หรูยังจำเหตุการณ์ที่นางร่วมสู้เคียงบ่าเคียงไหล่ด้วยกันกับเสี่ยวชิงได้

วันนั้นนางและเขาในฐานะที่เป็นบ่าวยินยอมและเต็มใจอย่างยิ่งที่จะสละชีวิตเพื่อให้ผู้เป็นนายทั้งสองของตนหนีรอด

ทั้งเสี่ยวชิงและนางหมายจะตั้งตนเป็นดั่งเช่นกำแพงเหล็กกล้าที่ทนทาน พวกนางอดทนต่อสู้จนบาดแผลเต็มตัวแต่ก็ยังยืนหยัด เลือดไหลนองเต็มพื้นก็ยังคงกำดาบในมือเอาไว้แน่น ถึงแม้ว่าสุดท้ายพวกตนจะไม่สามารถยืนต้านพวกโจรเอาไว้ได้อีกแต่ก็ถือว่าถ่วงเวลาไปได้ไม่น้อยทีเดียว

อย่างน้อย ๆ ก็คงจะพอให้ผู้เป็นนายตนหนีไปได้ไกลพอสมควรแล้ว

คงจะเป็นเพราะสวรรค์เกิดเมตตาเห็นว่าพวกนางภักดีจึงยังไม่อยากให้ตาย หรือไม่ก็อาจเป็นเพราะพวกนางยังพอจะมีโชคดีเหลือติดตัวอยู่บ้าง จึงทำให้ในช่วงเวลาที่เกือบจะถือว่าเป็นช่วงเวลาสุดของชีวิต พี่ชายนางกู่เหอถึงได้ตามมาได้ทันพร้อมกับหน่วยลาดตระเวนของทางการที่ดูเหมือนว่าเป็นเสี่ยวหนิง สาวใช้ของคุณหนูหลิวเป็นผู้ตามให้มาช่วย

ยามที่ฟื้นขึ้นมาอีกครั้งหลังความตายจึงได้รู้ว่า ตอนนี้นางและเสี่ยวชิงถูกพามารักษาตัวที่หมู่บ้านที่อยู่ใกล้ ๆ กับเมืองเป่ยจู

บ้านของหัวหน้าหมู่บ้านคือที่ ๆ พวกตนรักษาตัวอยู่ในขณะนี้

"พี่ให้คนไปตามหมอแล้ว อีกเดี๋ยวหมอก็คงจะเข้ามาดูอาการของพวกเจ้า" กู่เหอพี่ชายของนางเอ่ยขึ้น ก่อนที่เขาจะเดินมาที่เตียงที่นางนอนรักษาตัวอยู่

"ข้านึกว่าตัวเองจะต้องตายซะแล้ว ข้ากระหายนัก พี่ช่วยรินน้ำให้ข้าหน่อยเถิด" นางร้องขอขึ้น หลังจากที่ให้พี่ชายตนช่วยประคองนางให้ลุกขึ้นนั่งได้แล้ว

"สวรรค์คงยังไม่อยากให้พวกเราตาย" เสี่ยวชิงเอ่ยขึ้นบ้าง เขาฟื้นก่อนนางเมื่อชั่วยามก่อน ที่ร่างกายเขามีแผลที่ถูกแทงทะลุตรงสีข้างที่ยังรู้สึกเจ็บหนักเป็นพิเศษ

"หรือไม่สวรรค์ก็คงไม่ต้อนรับพวกเรากระมัง" นางเอ่ยอย่างติดตลก ก่อนจะรับถ้วยน้ำในมือพี่ชายนางขึ้นมาดื่มด้วยความกระหาย

"พี่กู่ มีข่าวอะไรบ้างหรือไม่" เสี่ยวชิงเอ่ยถามต่อ หลังจากที่เขาฟื้นขึ้นมา สิ่งแรกที่ถามถึงก็คือข่าวของผู้เป็นนาย แต่กลับได้คำตอบที่ไม่อยากได้ยิน

"หมายถึงข่าวของคุณชายด้วยใช่หรือไม่ พี่ชายคุณชายเล่ายามนี้คุณชายเป็นเช่นไรบ้าง บาดเจ็บหรือไม่" กู่หรูเอ่ยถามพี่ชายของนาง

"คุณชายเป็นเช่นไรข้างเองก็ไม่ทราบ จากที่ใช้กำลังค้นหามาตลอดหลายวันก็ไม่พบอะไรเลย" กู่เหอตอบ

"ข้านึกว่าพวกคุณชายปลอดภัยแล้วเสียอีก" นางเอ่ยขึ้นอย่างไม่เข้าใจนัก ครั้งแรกที่นางฟื้นขึ้นมาก็ได้รับการรักษา อีกทั้งพี่ชายของนางยังมาอยู่ตรงหน้าอีกด้วย นางจึงนึกว่าทุกอย่างเรียบร้อยปลอดภัยแล้ว

คิดไม่ถึงว่าตนจะคิดผิด จึงได้ร้อนรนถามขึ้นอย่างทันที

"ตอนที่ไปถึง ช่วยได้แค่เพียงพวกเจ้าที่เกือบจะหมดลมเท่านั้น ส่วนคุณชายและคุณหนูหลิวหายไปตอนนี้ยังตามหาไม่พบ"

"เช่นนั้นเป็นไปได้หรือไม่ว่าทั้งสองจะตาย..." กู่หรูเอ่ยขึ้นเสียงสั่น

ทั้งห้องในเวลานี้ตกอยู่ในความเงียบ จนกระทั่งเจ้าของร่างสูงผู้มีใบหน้าหล่อเหล่าดูเป็นมิตรอย่างยิ่ง ทว่ายามนี้กลับมีสีหน้าเคร่งขรึมแตกต่างจากยามปกติ

"น้องสาวข้า นางจะต้องยังมีชีวิตอยู่แน่"

บุรุษผู้ที่ก้าวเข้ามาในห้องหาใช่ใครที่ไหน แต่เขาคือ หลิวเค่อ หรือก็คือคุณชายใหญ่สกุลหลิวพี่ชายแท้ ๆ ของหลิวซือนัวนั่นเอง

"เป็นความผิดของข้าน้องเองขอรับ ข้าน้อยปกป้องคุณหนูได้ไม่ดี"

เสี่ยวชิงคุกเข่าลงกับพื้นพร้อมกับโขกศีรษะลงกับพื้นในทันที เมื่อเห็นว่าคุณชายใหญ่ของตนมาถึงแล้ว

เขารู้ดีว่า การที่ปล่อยให้คุณหนูหายไป อีกทั้งไม่รู้ว่าเป็นหรือตายเช่นนี้ถือเป็นความผิดมหันต์ ต่อให้คุณชายใหญ่ต้องการให้เขาตายเพื่อชดใช้ความผิด ตนก็จะยินดีทำตามอย่างไม่บิดพลิ้ว

"ลุกขึ้นเถิด เจ้าเจ็บหนักเอาการไม่ใช่หรือ"

"แต่ ข้าน้อย"

"ข้ารู้มาว่าเจ้ากับแม่นางกู่ต่างก็ช่วยกันต้านพวกโจรอย่างสุดกำลังจนเกือบจะไม่รอด เช่นนี้แล้วข้ายังจะถือโทษอะไรกับเจ้าได้" หลิวเค่อไม่ใช่ไม่รับรู้ความทุ่มเทให้การปกป้องน้องสาวของเขาของเสี่ยวชิง อีกทั้งรู้ดีว่าเสี่ยวชิงซื่อสัตย์และภักดีเสมอมา

ยิ่งจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้วเขาก็ยิ่งรู้ได้อย่างชัดเจนว่าที่ตนคิดนั้นไม่ผิด เสี่ยวชิงผู้นี้ภักดีถึงขั้นสละชีวิตให้ผู้เป็นนายได้ คนซื่อสัตย์เช่นนี้ตนจะลงโทษได้อย่างไร

"โชคดีที่ได้เจ้ากับเสี่ยวหนิง ไม่เช่นนั้นเรื่องคงจะเลวร้ายไปมากกว่านี้"

"เสี่ยวหนิง น้องสาวของข้าน้อย นางปลอดภัยดีหรือขอรับ" เขารีบเอ่ยถามคุณชายใหญ่ถึงน้องสาวของตนทันที

"นางปลอดภัยดี ข้าให้นางพาคนของเราไปดูสถานที่เกิดเหตุเพื่อออกตามหานัวเอ้อร์ ไม่นานก็คงจะมาหาเจ้าที่นี่"

"โชคดีเสี่ยวหนิงนางไปเจอเข้ากับหน่วยลาดตระเวนพอดีจึงได้ขอความช่วยเหลือมาได้ทันเวลา" กู่เหอเอ่ยเสริมขึ้น

เขาจำได้ดีว่าตอนที่เห็นโรงเตี้ยมไหม้ต่อหน้าต่อตายามนั้นตนถึงขั้นนิ่งไปชั่วขณะทีเดียว เพราะว่าไปดูรถม้าที่เสียจึงไม่รู้ว่าเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น โชคดีที่หน่วยลาดตระเวนที่เสี่ยวหนิงตาม มาพบเข้ากับตนพอดี เรื่องราวทั้งหมดถึงได้กระจ่าง อีกทั้งพวกโจรยังถูกจัดการจนหมด บ้างถูกฆ่าตายบ้างก็ถูกจับไปขังคุกรอลงโทษ

"ทั้งหมดเป็นเพราะคุณหนูคิดได้รอบคอบขอรับ เสี่ยวหนิงนางทำตามคำสั่งของคุณหนูเท่านั้น"

เสี่ยวชิงเอ่ยบอกมาตามความจริง เขาคิดว่าเสี่ยวหนิงเองก็คงจะบอกความจริงคุณชายใหญ่ไปหมดแล้วเช่นกัน

ในเมื่อผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ทั้งสองคนได้สติแล้ว แผนการค้นหาจึงมี ความหวังเพิ่มมากขึ้น พวกเขาต่างมีจำนวนคนเป็นของตน

หลิวเค่อนำยอดฝีมือมาด้วยสามสิบคน

กู่เหอเองก็เรียกยอดฝีมือมาสามสิบคนเช่นกัน

จากกำลังคนที่มีรวมกับกำลังทหารที่ทางการส่งมาช่วยค้นหาอีกยี่สิบคนแล้วนั้น ถือว่าการค้นหาดูเหมือนจะไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไป หากช่วยกันค้นหาต่อไปอย่างไรจะต้องเจอเบาะแสของคนทั้งคู่แน่

จากคำสารภาพของ ลู่ข่ง หัวหน้าโจร พวกมันยืนยันว่าไม่ได้สังหารผู้ที่หายไปทั้งสองคนอย่างแน่นอน อีกทั้ง พวกนั้นหายไปพร้อมกับลูกน้องของมันให้รับหน้าที่ค้นหาคนทั้งคู่อีกด้วย

ลู่ข่งหัวหน้าโจรคาดว่าลูกน้องของตนอย่างไรก็น่าจะตามจับคนทั้งคู่ไม่ได้ ไม่เช่นนั้นลูกน้องของตนจะต้องรีบจับคนทั้งคู่มาเป็นตัวประกันเพื่อแลกตัวกับมันอย่างแน่นอน หลิวเค่อและทุกคนก็เชื่อว่าทั้งคู่จะต้องมีชีวิตรอด อย่างแน่นอน พวกเขาจะไม่หยุดค้นหาจนกว่าจะพบคนทั้งคู่อย่างแน่นอน

เพราะฉะนั้นไม่ว่าเวลาจะผ่านไปกี่วันกี่คืนทุกการค้นหาก็ยังคงดำเนินต่อไป

"เจ้ากำลังวาดสิ่งใดอยู่หรือ" อวี้หนานไห่เอ่ยถามขึ้น เมื่อได้ยินเสียงของพู่กันที่ขยับเบาๆ

"ลายปักผ้าน่ะ ที่ข้าวาดอยู่เป็นลายปักที่ข้าออกแบบเอง" นางตอบ มือก็ยังตวัดวาดลวดลายในหัวออกมาไม่หยุด

"เจ้าออกแบบลายปักผ้าเอง? เช่นนั้นก็แปลว่าเจ้าคงจะชื่นชอบการปักผ้าไม่น้อย"

"ข้าชอบปักผ้า และคิดว่ามันเป็นสิ่งที่ข้าถนัดมากที่สุดทีเดียว"

"เสียดายที่ข้าไม่สามารถมองเห็นมันได้" เขาเอ่ยอย่างเสียดาย น้ำเสียแฝงด้วยความผิดหวัง

มันคงจะดีไม่น้อยหากเขาสามารถมองเห็นสิ่งที่นางชอบได้ เขาอยากจะรู้นักว่าสิ่งใดกันที่วิเศษถึงขนาดที่ทำให้เมื่อนางเอ่ยถึงเมื่อครู่น้ำเสียงถึงได้เต็มไปด้วยความสุขขนาดนี้

"ถึงจะยังไม่สามารถมองเห็นได้ แต่ก็ยังสัมผัสได้อยู่นี่"

นางวางพู่กันในมือลง ก่อนจะหยิบผ้าเช็ดหน้าของนางออกมา ผ้าเช็ดหน้านี้มีลวดลายที่นางปักเองกับมือ โชคดีที่ตอนที่นางหนีพวกโจรและตกน้ำมันยังไม่หายไป

"ลองสัมผัสดูสิ" หลิวซือนัวเอ่ยขึ้นก่อนจะวางผ้าเช็ดหน้าของตนลงกับโต๊ะ และเอื้อมมือไปคว้ามือใหญ่ของเขาให้มาสัมผัสลายปักของนางดู

เจ้าของมือบางค่อย ๆ จับมือใหญ่ให้สัมผัสลายปักของนางอย่างช้า ๆ เริ่มจากก้านดอกโบตั๋นกระทั่งถึงแต่ละกลีบดอกของมันที่นางปัก

"ดอกโบตั๋นนี้ราวกับว่ามีชีวิต" เสียงของเขาถูกเปล่งออกมาในที่สุดเมื่อเขามั่นใจว่าที่ตนกำลังลูบอยู่นี้คือลายปักอะไร

"ยังมีอย่างอื่นด้วย" นางเอ่ยขึ้นอีกครั้ง ก่อนจะยกนิ้วของเขาให้ขยับขึ้นสูงไปที่ด้านบนดอกโบตั๋นอีกหน่อย

"ผีเสื้อ ฝูงผีเสื้อ"

"ใช่แล้ว ข้าปักเหล่าผีเสื้อที่กำลังบินอยู่เหนือดอกโบตั๋น พวกมันกำลังบินมาเพื่อหาหวังได้ดื่มด่ำความหวานของดอกโบตั๋นนี้"

แม้ดวงตาของเขาจะไม่สามารถมองเห็นได้ แต่ทุกการสัมผัสของปลายนิ้วกับหลงเหลือร่องรอยบางอย่างเอาไว้

ไม่ว่าจะเป็นความงามของดอกโบตั๋นและผีเสื้อที่นางปัก รอยปักของนางนี้ไม่เพียงถูกปักลายลงบนพื้นผ้าเช็ดหน้าเพียงเท่านั้น แต่กลับปักลงในส่วนลึกของหัวใจของเขาอีกด้วย

เพราะฉะนั้นเขาจึงรู้สึกว่าตนนั้น สามารถเข้าใจได้อย่างลึกซึ้งถึงความงามของมัน

"ลายบนผ้าเช็ดหน้านี้ ข้านำเอาสิ่งที่มองเห็นยามเมื่อก่อนหน้าฝนของปีที่ผ่านมา บังเอิญหันมองออกไปด้านนอกหน้าต่างแล้วเห็นภาพเช่นนี้พอดี จึงคิดจะเก็บความทรงจำอันสวยงามนี้เอาไว้บนลายปัก"

"เจ้ามักจะปักสิ่งที่ชื่นชอบเอาไว้เสมอหรือ"

"ถ้าจะให้กล่าวล่ะก็ คงจะเป็นเช่นนั้น" นางตอบกลับพร้อมรอยยิ้ม

ปฏิเสธไม่ได้ว่า ลวดลายปักส่วนใหญ่ล้วนมาจากความทรงจำและสิ่งที่นางได้พบเห็น สิ่งเหล่านั้นล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งที่นางชื่นชอบและนางก็ชอบที่จะกักเก็บพวกมันเอาไว้ผ่านฝีเข็มและเส้นด้ายแต่ละเส้นของตัวเอง

เขาเริ่มคิดไปว่าจะมีสักวันหรือไม่ที่ตนจะสามารถเป็นหนึ่งในสิ่งที่นางอยากจะปักเอาไว้ หรือกลายไปเป็นหนึ่งในความชื่นชอบของนางได้หรือไม่

หากตอนนี้เขาขอให้นางทำเช่นนั้นจะกลายเป็นสิ่งที่สมควรหรือไม่กัน

อวี้หนานไห่อยากจะเอ่ยถามไปให้ชัดเจนในทันที ทว่ากับเลือกที่จะหยุดความคิดของเขาเอาไว้ก่อน เพราะยังกลัวที่จะได้รับคำตอบ

อีกทั้งคิดว่าสภาพของตัวเองในตอนนี้ที่ไม่รู้ว่าจะมีชีวิตอยู่ไปได้อีก สักกี่วัน เช่นนี้แล้วยิ่งไม่ควรจะคิดจะพูดอะไรที่ไม่ควรออกมาถึงจะดีที่สุด

สิ่งที่นางเผชิญอยู่ในตอนนี้ก็ไม่ใช่เรื่องน่ายินดีที่สุด การหนีตายไม่ ควรเป็นสิ่งที่นางควรจะจดจำเอาไว้เสียด้วยซ้ำ ยิ่งถ้าหากเขาต้องจบชีวิตลงจริงๆ ทางที่ดีที่สุดสำหรับนางก็คือการลืมทุกอย่างทุกเรื่องเลวร้ายรวมไปถึงการลืมเขา...

นางไม่ควรจดจำเขาเอาไว้ และนั้นจึงจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุด...

ดังนั้นเขาจึงไม่ควรร้องขอให้นางจดจำเขาเอาไว้ แต่ควรจะบอกให้นางลืมเขาเสียหากเวลานั้นมาถึงจริงๆ

이 책을 계속 무료로 읽어보세요.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요

최신 챕터

  • ประดุจหนึ่งหอมหวานปานน้ำผึ้ง    รวมตอนพิเศษ

    ตอนพิเศษ 1แม่สามีของข้านั้นดียิ่งนักเป็นเวลากว่าหนึ่งเดือนแล้วที่นางแต่งเข้ามาเป็นสะใภ้ใหญ่สกุลอวี้ อวี้หนานไห่มีน้องสาวอยู่หนึ่งคนชื่ออวี้จินเชียง จากที่อวี้หนานไห่เล่าให้ฟังก็คือ อวี้จินเชียงนั้นอยู่ที่บ้านเดิมกับท่านยายของพวกเขาตั้งแต่ยังเยาว์เพราะมีร่างกายที่ไม่ค่อยแข็งแรง อีกไม่นานอวี้หนานไห่ก็จะพานางไปเยี่ยมท่านตาท่านยายและน้องสาวของเขาเพราะว่าฮูหยินอวี้ไม่ใช่สิ เวลานี้นางควรจะเรียกว่าท่านแม่สามีถึงจะถูก เอ็นดูนางเป็นพิเศษดูแลต้อนรับนางเข้ามาเป็นอีกส่วนหนึ่งของครอบครัวอย่างอบอุ่น เหมือนกับว่านางเป็นบุตรสาวแท้ ๆ ไม่ใช่เป็นเพียงลูกสะใภ้ ซ้ำยังชอบให้ท้ายนางอยู่หลายเรื่อง ไม่ว่าจะยกเลิกไม่ต้องให้นางมาคารวะทุกเช้า ให้เปลี่ยนมาเป็นมาทานมือเช้าเป็นเพื่อนนางบ้างก็พอ ยิ่งเป็นเรื่องข้าวของเครื่องประดับหรืออาภรณ์ แน่นอนว่าอาภรณ์ใหม่ ๆ ของนางไม่มีวันขาดแคลนเพราะว่านางเป็นบุตรสาวจากสกุลที่เปิดร้านอาภรณ์ แต่ยิ่งนางมีเสื้อผ้ามากมายเท่าไหร่ ท่านแม่สามีก็ยิ่งจะยื่นเครื่องประดับจำนวนมากมาให้นาง ทั้งของที่ประมูลมา ของที่หาซื้อได้ตามร้านหรือว่าเครื่องประดับที่ต้องสั่งทำจนยามนี่นางมีเครื่องประดั

  • ประดุจหนึ่งหอมหวานปานน้ำผึ้ง    ตอนที่ 45 คำนับฟ้าดิน (จบ)

    ตอนที่ 45คำนับฟ้าดิน"หนึ่ง คำนับฟ้าดิน""สอง คำนับบิดามารดา""สาม สามีภรรยาคำนับกันและกัน"หลังจากเสร็จพิธีแล้วเจ้าสาวก็ถูกส่งตัวเข้าหอ ด้านเจ้าบ่าวก็ถูกรั้งตัวเอาไว้ในงานเลี้ยงมงคล เพื่อให้แขกที่มาร่วมงานดื่มอวยพร เป็นธรรมเนียมปกติที่ในงานมงคลเช่นนี้เจ้าบ่าวจะต้องถูกมอมเหล้าจากแขกผู้มีเกียรติทั้งหลายรวมไปถึงญาติมิตรต่าง ๆ ที่มาร่วมงานอวี้หนานไห่ไม่ยอมให้ตนต้องตกเป็นเป้าให้ผู้อื่นมอมเหล้านานเกินไป เข้าทักทายแขกที่มาร่วมงานอยู่เกือบหนึ่งชั่วยามก็แอบปลีกตัวออกมาแล้วคืนเข้าหอเวลามีค่าแค่ไหน ไม่ต้องให้ผู้ใดต้องมาบอกเขาก็รู้ดี ทันทีที่เข้าได้ก้าวเข้ามาในเรือนหอของตน บนเตียงก็พบกับภรรยา ใช่แล้วหลิวซือนัวภรรยาของเขา และนางจะเป็นของเขาอย่างสมบูรณ์หลังจากคืนนี้ไป"อวี้หนานไห่เป็นเจ้าหรือ" เจ้าสาวของเขาซึ่งนั่งคลุมหน้าตัวตรงอยู่บนเตียงเอ่ยถามขึ้น"เป็นข้าเองภรรยารัก เจ้าควรเรียกข้าว่าท่านพี่ได้แล้ว" เขาเอ่ยก่อนจะก้าวเข้าไปหานาง และใช้ไม้ตวัดผ้าคลุมหน้าเจ้าสาวสีแดงสดออกจากศีรษะของนางยามเมื่อผ้าคลุมหน้าเจ้าสาวถูกเปิดออกแล้ว ความงดงามที่แสนตราตรึงในใจเขาก็ปรากฏขึ้น ใบหน้าของนางในเวลานี้ค่อน

  • ประดุจหนึ่งหอมหวานปานน้ำผึ้ง    ตอนที่ 44 ความจริงใจของข้า

    ตอนที่ 44ความจริงใจของข้า"ดู ๆ ข้าก็คิดอยู่ว่าคุณหนูหลิวเหมือนใคร นางเหมือนฮูหยินหลิวนี่เอง ไม่ไหวหน้าผู้อื่นเช่นนี้ไม่มีผิด""ข้าน่ะหรือไม่ไว้หน้า พวกเจ้าต่างหากที่ไม่ไว้หน้ากันก่อน" ฮูหยินหลิวตอกกลับทันที แม่สื่อพวกนี้นางทนพูดดีด้วยอีกไม่ได้แล้ว"ฮูหยิน ท่านใจเย็นก่อนนะเจ้าคะ" สาวใช้คนสนิทของฮูหยินหลิวรีบเข้ามาห้ามผู้เป็นนายตน เมื่อเห็นว่าสถานการณ์เริ่มจะย่ำแย่ลงไปทุกทีแล้ว"จะให้ข้าใจเย็นได้อย่าง...." ยังไม่ทันที่นางจะได้เอ่ยจบประโยค ผู้เฝ้าประตูคนหนึ่งก็รีบร้อนวิ่งเข้าเหมือนมีเรื่องสำคัญอะไรสักอย่างเสียก่อน"ฮูหยิน ฮูหยินขอรับ""มีอะไร เกิดอะไรขึ้น ถึงได้รีบร้อนขนาดนี้" นางเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงไม่ค่อยจะดีนัก เพราะเรื่องตรงหน้ายังไม่ทันได้สะสางก็ดูท่าว่าจะมีเรื่องใหม่เข้ามาแทรกเสียแล้ว"มีขบวน มีขบวน...ใหญ่ ขบวนใหญ่" อาจจะเป็นเพราะวิ่งมาด้วยความเร็ว ซ้ำยังตื่นเต้นจึงทำให้บ่าวชายผู้นี้พูดออกมาไม่รู้ความจนฮูหยินหลิวต้องเอ่ยถามซ้ำหลายรอบ"ขบวน ขบวนอะไร ขบวนอะไรใหญ่กันแน่""เหมือนว่าจะเป็นขบวนสินสอดสินะ" แม่สื่อคนที่หนึ่งผู้ขึ้น บ่าวชายที่มาแจ้งข่าวก็พยักหน้าเป็นเชิงตอบรับว่าใช่"คงเป็

  • ประดุจหนึ่งหอมหวานปานน้ำผึ้ง    ตอนที่ 43 สู่ขอ

    ตอนที่ 43สู่ขออาจจะเป็นเพราะเดินทางไกลมาหลายวัน และก็ไม่ได้นอนพักดี ๆ มาตลอดทาง วันนี้หลิวซือนัวเลยตื่นสายกว่าปกติถึงหนึ่งชั่วยามด้วยกัน กว่าที่จะแต่งตัวหวีผมเสร็จก็กินเวลาช่วงเช้าไปไม่น้อยแล้ว"คุณหนูเจ้าค่ะ ฮูหยินใหญ่ให้บ่าวมาแจ้งท่านว่า หากคุณหนูแต่งตัวเสร็จเรียบร้อยแล้วให้คุณหนูไปพบฮูหยินใหญ่ที่โถงรับรองด้วยเจ้าค่ะ""ได้ข้าทราบแล้ว เจ้ากลับไปแจ้งท่านแม่นะว่าประเดี๋ยวข้าแต่งตัวเสร็จแล้วจะรีบเข้าไปหาท่าน""เจ้าค่ะคุณหนู"สาวใช้ที่ท่านแม่ให้มาแจ้งข่าวนางจากกลับไปแล้ว เวลานี้จึงเหลือเพียงแค่นาง เสี่ยวหนิง และสาวใช้ในเรือนอีกคนหนึ่งซึ่งกำลังช่วยพวกนางเลือกเครื่องประดับที่จะใส่ในวันนี้อยู่"เสี่ยวหนิง เจ้าว่าเหตุใดท่านแม่ถึงได้ให้คนมาตามข้าไปที่ห้องโถงใหญ่ จะมีแขกสำคัญมาหรือไงนะ""บ่าวคิดว่าไม่น่าจะมีแขกนะเจ้าค่ะ ตั้งแต่เช้าไม่เห็นว่าในโรงครัวคึกคักเลย" ผู้เป็นสาวใช้เอ่ยออกมาตามที่นางคิด เพราะถ้าหากในจวนมีแขกสำคัญ ปกติแล้วในครัวก็มักจะคึกคักเป็นพิเศษเพราะต้องมีการเตรียมอาหารเอาไว้รับรองแขก"เช่นนั้นแล้วท่านแม่จะเรียกให้ข้าไปพบที่ห้องโถงทำไมกัน" หลิวซือนัวเอ่ยขึ้นอย่างข้องใจคงมีแต่รีบ

  • ประดุจหนึ่งหอมหวานปานน้ำผึ้ง    ตอนที่ 42 จาก

    ตอนที่ 42จากอีกเพียงวันเท่านั้นนางก็จะต้องเดินทางกลับเมืองเป่ยโจวแล้ว ตามกำหนดการเดินทางกลับที่ท่านแม่ของนางได้กำหนดเอาไว้ พี่ใหญ่ของนางหลิงเค่อกับพี่สะใภ้ฉือหนานเองก็จะเดินทางไปส่งนางกลับจวนและถือโอกาสให้พี่ฉือหนานได้กลับไปเยี่ยมบ้านเดิมด้วย หลังจากวันนั้นที่อวี้หนานไห่และนางได้เปิดเผยความรู้สึกของตัวเอง ความสัมพันธ์ของพวกนางก็มีสถานะเป็นคนรักของกันและกันอย่างเปิดเผย แต่เปิดเผยที่ว่านี้ก็จะมีแค่คนในครอบครัวของพวกนางเท่านั้นที่รู้ ส่วนคนนอกนางและอวี้หนานไห่ก็ไม่ได้สนใจว่าคนเหล่านั้นจะคิดจะพูดถึงพวกนางอย่างไรมีบางครั้งที่นางและอวี้หนานไห่ออกไปเดินเล่นที่ตลาดด้วยกันบ้างก็ไปรับประทานอาหารร่วมกันที่ร้านอาหารต่าง ๆ ในเมือง หลายครั้งก็มีข่าวลือตามมาบ้างทว่าส่วนใหญ่จะลือไปทางที่พวกนางเป็นสหายกันเสียมากกว่า ไม่มีการลือหรือการพูดไปถึงเรื่องเชิงชู้สาวใด ๆ ทั้งสิ้นแน่นอนว่าเรื่องลือเช่นนี้ไม่ถือเป็นผลเสียกับนาง หนำซ้ำยังถือว่าเป็นผลดีต่อร้านสกุลอาภรณ์สกุลหลิวไม่น้อยเช่นกัน เพราะผู้ใดที่อยากสนิทสนมกับหมู่ตึกอวี้ฟางก็จะต้องเข้าหาร้านอาภรณ์สกุลหลิวซึ่งลือกันว่าเป็นสหายกับหมู่ตึกอวี้ฟางเพื่อทำต

  • ประดุจหนึ่งหอมหวานปานน้ำผึ้ง    ตอนที่ 41 รัก

    ตอนที่ 41รัก"ที่ห้องโถงใหญ่เอะอะอะไรกัน เหตุใดถึงได้เสียงดังมาถึงนี่ เจ้าไปดูหน่อยเถอะ" ฉือหนานเอ่ยขึ้น ก่อนจะสั่งให้สาวใช้คนสนิทของนางออกไปดูว่าเกิดอะไรขึ้นในวันมงคลเช่นนี้นอกจากฉือหนานแล้วในห้องรับรองขนาดเล็กซึ่งอยู่ติดกับห้องโถงใหญ่ก็มีหลิวซือนัวน้องสามีของนาง และก็ฉือฮั่วลูกพี่ลูกน้องของนางที่มาเยี่ยมนางจากบ้านเกิดเมื่อสองวันก่อนใครจะคิดเล่าว่าการมาที่นี่ของฉือฮั่วซึ่งอ่อนวัยกว่านางเกือบสี่ปีจะทำให้นางได้เจอกับรักแรกพบที่นี่ หนำซ้ำยังถูกสู่ขออย่างรวดเร็วราวกับฟ้าผ่า นางและผู้เป็นสามีที่ถือเป็นญาติสนิทจึงต้องรับหน้าที่เป็นผู้ใหญ่ของฉือฮั่วแทนบิดามารดาของนางที่ไว้ใจฝากฝังบุตรสาวเอาไว้ด้วยเพราะเชื่อมั่นและไว้ใจนางกับสามีด้วยเพราะว่าทั้งฝ่ายสู่ขอและฝ่ายถูกสู่ขอต่างก็มีใจต่อกัน การตัดสินใจจริงเป็นไปอย่างดี ทุกฝ่ายตกลงปลงใจที่จะปลูกเรือนร่วมกันวันนี้แค่แลกหนังสือสินสอดเสร็จสิ้นก็หาวันดีจัดงานแต่งได้เลย ด้านหลิวซือนัวยามนี้นางกำลังวุ่นวายอยู่กับการเลือกผ้าไหมสีแดงเพื่อตัดชุดแต่งงานให้กับฉือฮั่ว สำหรับฉือฮั่วนั้นนางก็เห็นเป็นสหายมาเนิ่นนาน ซ้ำเมื่อพี่ฉือหนานแต่งเข้ามาจวนสกุลหลิวแล้

더보기
좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status