/ รักโบราณ / ประดุจหนึ่งหอมหวานปานน้ำผึ้ง / ตอนที่ 4 ผู้ร่วมทางคนใหม่

공유

ตอนที่ 4 ผู้ร่วมทางคนใหม่

last update 최신 업데이트: 2024-12-13 20:20:26

ตอนที่ 4

ผู้ร่วมทางคนใหม่

            กว่าฝนจะหยุดตกลงมาก็เป็นเวลาเช้าวันใหม่แล้ว ขบวนเดินทางทั้งสองที่หยุดพักหลบฝนตั้งแต่เมื่อคืนต่างก็พากันเตรียมตัวที่จะออกเดินทางกันต่อแล้ว

             ยามนี้ท้องฟ้าปลอดโปร่งนัก ราวกับว่าเมื่อวานมิได้มีพายุฝนตกหนักมาก่อน ดั่งคำที่ว่าฟ้าหลังฝนย่อมงดงามเสมอ ท้องฟ้าเบื้องหน้าของนางในยามนี้งดงามมากจริง ๆ

            กลุ่มก้อนเมฆรวมตัวกันเป็นรูปร่างคล้ายกับปลาทองที่กำลังแหวกว่ายอยู่บนท้องฟ้า

            “เสี่ยวหนิง” นางเอ่ยเรียกสาวใช้คนสนิท ที่กำลังตรวจดูสิ่งของที่ถูกลำเรียงขึ้นไปยังรถม้าอย่างตั้งอกตั้งใจ

           “เจ้าคะ คุณหนู” นางขานรับคำคุณหนูของตนทันทีที่ได้ยินเสียงเรียก ก่อนจะเดินไปที่ทางด้านหน้าทางเข้าอารามที่คุณหนูของนางยืนอยู่

           “บ่าวมาแล้วเจ้าค่ะ คุณหนูมีสิ่งใดจะสั่งหรือเจ้าคะ”

            “เจ้าลองมองขึ้นไปบนท้องฟ้าดูสิ”

             สิ้นเสียงของคุณหนูที่เอ่ยออกมา เสี่ยวหนิงก็เงยหน้ามองขึ้นไปบนฟ้าทันที ก่อนจะร้องออกมาเสียงดังด้วยความดีใจ

           “บนท้องฟ้า เมฆปรากฏเป็นรูปปลาทอง เป็นมงคลนักเจ้าค่ะคุณหนู”

           “ข้ารู้แล้ว จึงได้เรียกให้เจ้ามองอย่างไรเล่า” นางเอ่ยขึ้นพลางยิ้มอย่างเอ็นดูสาวใช้ของนาง

            ไม่เพียงแค่หลิวซือนัวกับเสี่ยวหนิงเท่านั้นที่ได้เห็นเมฆมงคลนี้ เพราะเสียงดีใจและตื่นเต้นของเสี่ยวหนิงเมื่อครู่ทำเอาทุกคนที่อยู่ใกล้ ๆ บริเวณนั้นต่างก็เงยหน้าขึ้นไปมองเมฆมงคลบนท้องฟ้าเช่นเดียวกันหมด ไม่เว้นแม้กระทั่งคนในขบวนเดินทางอีกขบวนหนึ่ง ซึ่งแม้พวกเขาจะขึ้นม้าเตรียมออกเดินทางกันแล้วก็ยังแหงนหน้าขึ้นมองเมฆมงคลนี้เช่นเดียวกัน ก่อนที่จะพากันออกเดินทางทันที

            พวกเขาไม่ได้มีท่าทีหรือการส่งเสียงดังใด ๆ เช่นขบวนของพวกนาง เพียงแค่จากไปเงียบ ๆ   โดยไม่มีแม้แต่คำล่ำลาแม้สักครึ่งคำ

           หลังจากที่ขบวนพวกเขาออกไปได้ไม่นาน ขบวนของนางจึงได้ออกเดินทางต่อไปเช่นเดียวกัน

           นางและเสี่ยวหนิงนั่งอยู่ในรถม้าตลอดทางมีเพียงแค่แวะลงไปทานอาหารกลางวันและพักเหนื่อยกันเพียงเวลาสองก้านธูปเท่านั้นพวกนางก็พากันออกเดินทางต่อ จากที่เสี่ยวชิงบอกมาคืนนี้พวกนางน่าจะโชคดีมีโรงเตี้ยมให้เข้าพัก ไม่ต้องแวะพักในป่าหรือแถววัดร้างอีก

          นี่ก็จวนจะเย็นมากแล้ว ไม่เกินหนึ่งชั่วยามฟ้าก็คงจะมืด ตามที่เสี่ยวชิงบอกพวกนางก็น่าจะไปถึงโรงเตี้ยมที่ว่าก่อนที่พระอาทิตย์จะลับขอบฟ้าไป

        “คุณหนูขอรับ ทางข้างหน้าดูเหมือนจะเป็นขบวนเดินทางที่พักอยู่กับเราเมื่อคืนขอรับ ดูเหมือนว่าพวกเขาจะมีปัญหาบางอย่าง” เสียงเสี่ยวชิงเอ่ยบอกนางผ่านจากช่องหน้าต่างของรถม้า

        “เช่นนั้น เจ้าก็เข้าไปดูพวกเขาหน่อยเถอะ พวกเราถือโอกาสพักสักเดี๋ยวก็แล้วกัน” นางเอ่ยขึ้นอย่างมีน้ำใจ

         ไม่นานรถม้าของหลิวซือนัวก็หยุดลง นางให้เสี่ยวหนิงประคองนางลงมาจากรถม้า ก่อนจะมองไปยังรถม้าของขบวนเดินทางอีกขบวนหนึ่งถึงได้เห็นว่า รถม้าของพวกเขานั้นมีปัญหา ล้อของรถม้าคันนั้นหลุดหายไปไหนก็ไม่ทราบ

          ดูเหมือนว่าจะไม่ใช่แค่เพียงรถม้าของพวกเขาเท่านั้นที่มีปัญหา ผู้ที่เคยโดยสารอยู่ภายในก็น่าจะเกิดปัญหาเช่นเดียวกัน ซึ่งนางรู้ดีว่าผู้ที่โดยสาร อยู่บนรถม้าก็คือบุรุษตาบอดผู้นั้นแน่นอน และเขาก็คงเป็นเหตุให้เวลานี่ทุกคนในขบวนเดินทางของเขาและของนางต่างพากันไปยืนมุมอยู่ที่ใต้ต้นไม้ใหญ่ จนไม่อาจเห็นชายตาบอดผู้นั้นได้ว่าเขาได้รับบาดเจ็บหรือไม่

           นางและสาวใช้คนสนิทแม้จะอยากรู้เหตุการณ์อยู่บ้างแต่ก็เลือกที่จะยืนรั้งอยู่ไกล ๆ เท่านั้น ไม่ได้พากันเดินเข้าไปมุงดูร่วมด้วยแต่อย่างไร

          “คุณหนูขอรับ คุณชายของพวกเขาได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะเพราะตกลงมาจากรถม้าขอรับ”  

           เป็นเสี่ยวชิงที่เข้ามารายงานนางหลังจากที่เมื่อครู่เขาได้เข้าไปดูอาการของคุณชายท่านนั้น อีกทั้งยังพาผู้ติดตามคนหนึ่งของขบวนข้าง ๆ กลับมาด้วยผู้หนึ่ง

          “คาราวะคุณหนู ข้าน้อยกู่เหอขอรับเป็นหัวหน้าขบวนเดินทางของคุณชายในครั้งนี้”

          “พวกท่านมีอะไรจะให้พวกข้าช่วยใช่หรือไม่ มีสิ่งใดก็รีบเอ่ยมาเถอะ” หลิวซือนัวเอ่ยถามขึ้น นางรู้ดีว่าอีกฝ่ายจะต้องมีสิ่งใดให้นางช่วยแน่ ๆ ถึงได้เข้ามาแนะนำตัวกับนาง ทั้งที่เมื่อคืนนี้ต่อให้จะนำชามาให้เล็ก ๆ น้อย ๆ เป็นน้ำใจแต่ก็ไม่ได้มีทีท่าว่าพวกเขาอยากจะแนะนำตัวหรือทำความรู้จักใด ๆ กับคนในขบวนของพวกนางเลย

         “เช่นนั้นข้าน้อยขอเอ่ยตามตรงเลยนะขอรับ รถม้าเราไปต่อไม่ได้แล้วขอรับ อีกอย่างคุณชายของเราก็ยังได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะอีกด้วย แม้แผลจะไม่รุนแรงนักแต่ก็กระทบกระเทือนกับดวงตาที่รักษาอยู่ไม่น้อยทีเดียว หากให้ขึ้นม้าและขี่ไปเกรงว่าจะยิ่งกระทบกระเทือนมากขึ้น จึงอยากจะขอให้คุณชายของข้าน้อยโดยสารรถม้าของคุณหนูไปพร้อมกันกับท่านได้หรือไม่ เมื่อครู่ข้าถามพี่ชิงแล้วเห็นว่าจุดหมายของพวกท่านก็คือโรงเตี้ยมกลางป่าเช่นกัน” กู่เหอร่ายยาวออกมาทันที

           แน่นอนว่าเห็นคนเดือดร้อนอีกทั้งยังมาขอให้ช่วยเช่นนี้ นางไม่มีทางที่จะปฏิเสธไม่ช่วยแน่หากว่าตนพอจะช่วยเหลือได้

          “ข้ายินดีให้คุณชายของพวกท่านโดยสารไปกับข้าด้วย อีกเดี๋ยวข้าจะให้เสี่ยวหนิงจัดที่ในรถม้าเอาไว้ให้เขา อีกครู่หนึ่งท่านก็พาคุณชายท่านมาเถอะ”

          “ขอบคุณ ขอบคุณมากขอรับคุณหนู”

           รถม้าเคลื่อนตัวออกมาแล้ว ที่นั่งยาวฝั่งตรงข้ามกับที่นางนั่งอยู่ในเวลานี้ถูกจับจองด้วยบุรุษตาบอดผู้หนึ่ง ซึ่งในยามนี้เขามีผ้าผูกเอาไว้ที่ศีรษะและมีผ้าสีดำผูกเอาไว้ที่ตา ร่างสูงนอนอยู่อีกฝั่งอย่างนิ่งเฉย นางไม่รู้ว่ายามนี้เขาหลับหรือว่าตื่นอยู่กันแน่ แต่หากมองจากการที่เขาไม่ได้ขยับตัวเลยตั้งแต่ถูกพาขึ้นรถม้ามา เป็นไปได้มากว่าเขาอาจจะกำลังหลับอยู่

           เพราะผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้นผู้นี้มีปัญหาด้านสายตา แน่นอนว่าม่านและหน้าต่างของรถม้าย่อมต้องถูกปิดจนสนิทเพื่อไม่ให้มีแสงรอดเข้ามามากจนเป็นปัญหา แน่นอนว่าเมื่อหน้าต่างถูกปิดสนิทลมและอากาศภายนอกย่อมไม่สามารถผ่านเข้ามาได้เช่นกัน

          เพื่อกันไม่ให้ภายในรถม้าอบอ้าวจนเกินไป นางจำต้องให้เสี่ยวหนิงเปลี่ยนไปขี่ม้ากับเสี่ยวชิงแทน ในรถม้ายามนี้จึงมีเพียงแค่นางและบุรุษตาบอดแปลกหน้าที่ไม่รู้ว่ายามนี้เขาหลับอยู่หรือไม่เท่านั้น

          รถเคลื่อนตัวมาเลื่อย ๆ  จนกระทั้งเวลาผ่านไปเท่าไหร่นางเองก็ไม่แน่ใจ ทว่าอยู่ ๆ ร่างของบุรุษที่อยู่ตรงข้ามกับฝั่งที่นั่งของนางนั้น อยู่ๆเขาก็เริ่มขยับตัว เขายังคงนอนอยู่เช่นเดิมมีเพียงมือของเขาเท่านั้นที่ยามนางมองไปกลับกำลังกำแน่นคล้ายว่ากำลังอดทนต่ออะไรสักอย่างอยู่

          ในรถม้ายามนี้มีเพียงนางและเขา หลิวซือนัวจึงอดไม่ได้ที่จะลุกขึ้นไปดูอาการของเขา  อย่างน้อย ๆ หากเขามีอาการอะไรผิดปกตินางก็ยังสามารถเรียกคนของเขามาดูอาการได้ทันท่วงที

          นางคุกเข่าลงกับพื้นรถม้าเบื้องหน้าที่มีร่างสูงใหญ่นอนอยู่  เมื่อนางเข้ามาใกล้เขาจึงได้เห็นได้อย่างชัดเจนว่าใบหน้าและตามร่างกายของเขาเริ่มมีเหงื่อออกเป็นจำนวนมาก ริมฝีปากที่เริ่มซีดเซียวของเขาเริ่มถูกเจ้าตัวขบกัดเอาไว้คล้ายกับว่ากำลังอดทนอดกลั้นต่อความเจ็บปวดอยู่

           “ท่าน ท่าน เป็นอะไรหรือไม่” นางเอ่ยถามเขา ทว่าเจ้าของร่างผอมแห้งก็ ไม่ได้ตอบกลับนางมา นางไม่แน่ใจว่ายามนี้เขายังได้ยินสิ่งที่นางเอ่ยถามออกไปชัดเจนหรือไม่ จึงได้เลือกที่จะเอื้อมมือไปจับมือใหญ่ของเขาเอาไว้แทน   

           ยามที่ได้สัมผัสมือของเขานางจึงรับรู้ได้ว่ามือของเขานั้นร้อนราวกับ ไฟทีเดียว เวลานี้เองนางจึงไม่อาจมองดูเขาอย่างเฉย ๆ ได้อีก หลิวซือนัวตะโกนสั่งให้ขบวนเดินทางหยุดทันที

          “หยุดรถเดี๋ยวนี้!!! กู่เหอรีบตามกู่เหอมาเร็วเข้า!!!”

          สิ้นเสียงตะโกนของนางรถม้าก็หยุดลงแทบจะในทันที ไม่นานกู่เหอก็เข้ามาในรถม้าตามที่นางเรียก

          “คุณชายของเจ้า อยู่ๆ ก็ตัวร้อนขึ้นมา ทั้งยังดูทรมานมากทีเดียวรีบเข้ามาดูเร็วเข้าเถิด” นางเอ่ยพลางจะขยับตัวหลบให้กู่เหอเข้ามาดูอาการของคุณชายของเขาได้อย่างถนัด ทว่ายามที่นางจะลุกขึ้นหลีกทางนั้น มือของนางกับถูกเจ้าของมือใหญ่กุมเอาไว้แน่ไม่ยอมปล่อย ยิ่งนางออกแรงดึงมือของตัวเองออกก็ยิ่งรู้สึกว่าถูกกุมเอาไว้แน่ยิ่งขึ้นกว่าเดิม

         “ไม่ต้องสนใจข้า รีบดูอาการเขาเร็วเข้าเถิด” ในเมื่อเขาไม่ยอมปล่อยมือนางออก หลิวซือนัวจึงทำได้แค่ปล่อยเลยตามเลยไปก่อน  

         “พิษที่ดวงตาของคุณชายกำเริบขอรับ เพียงแค่กินยานี้ไม่นานอาการก็จะทุเลาลง” กู่เหอรีบเร่งนำยาเม็ดในมือตนป้อนให้คุณชายทันที เมื่อเห็นว่าคุณชายของตนนั้นกุมมือของคุณหนูตรงหน้าไม่ยอมปล่อย   

         “เช่นนั้นก็เร่งเดินทางต่อเถอะ คุณชายของเจ้าควรได้พักผ่อนดี ๆ โดยเร็ว”

        “ข้าน้อยทราบแล้วขอรับ อีกอย่าง…ข้าน้อยต้องขออภัยแทนคุณชายด้วยเรื่องที่กุมมือของคุณหนูเช่นนี้…”

        กู่เหอเอ่ยออกมาอย่างรู้สึกผิดแทนผู้เป็นนายของตนซึ่งยามนี้ยังไม่รู้สึกตัว แต่กลับสร้างความผิดขึ้นโดยไม่รู้ตัว

        “เขาป่วย ข้าเข้าใจได้ ไม่ได้ถือสาหรือถือโกรธอันใดหรอก เร่งเดินทางต่อเถอะ”

         ผู้ติดตามหนุ่มได้ยินเช่นนั้นก็โล่งใจเป็นอย่างมาก เตรียมตัวที่จะลงจากรถม้าเพื่อขึ้นม้าเร่งเดินทางต่อ

        “อีกอย่าง ฝากบอกเสี่ยวหนิงด้วยว่าข้าไม่เป็นอะไร นางไม่ต้องลงจากม้าเข้ามาดูข้าหรอก” หลิวซือนัวไม่ลืมที่จะฝากคำพูดไปยังสาวใช้คนสนิทของนางที่นางคิดว่าเมื่อกู่เหอลงรถไปแล้ว คนต่อมาที่จะรีบร้อนเข้ามาก็คงไม่พ้นเสี่ยวหนิงเป็นแน่ และหากนางเข้ามาเห็นว่านางถูกบุรุษไม่ได้สติกุมมือเอาไว้แน่นเช่นนี้เสี่ยวหนิงจะต้องโวยวายขึ้นมาแน่ ๆ

         หากเป็นอย่างนั้นย่อมจะเป็นปัญหาทำให้การเดินทางล่าช้าลงอีก เพราะฉะนั้นไม่ให้เสี่ยวหนิงเข้ามาเห็นเลยจะดีเสียกว่า อีกอย่างมือหนาที่กุมมือนางเอาไว้อีกไม่นานก็คงจะปล่อยมือนางไปเองหลังจากที่ยาที่กู่เหอให้เขาทานไปเมื่อครู่ออกฤทธิ์แล้ว

이 책을 계속 무료로 읽어보세요.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요

최신 챕터

  • ประดุจหนึ่งหอมหวานปานน้ำผึ้ง    รวมตอนพิเศษ

    ตอนพิเศษ 1แม่สามีของข้านั้นดียิ่งนักเป็นเวลากว่าหนึ่งเดือนแล้วที่นางแต่งเข้ามาเป็นสะใภ้ใหญ่สกุลอวี้ อวี้หนานไห่มีน้องสาวอยู่หนึ่งคนชื่ออวี้จินเชียง จากที่อวี้หนานไห่เล่าให้ฟังก็คือ อวี้จินเชียงนั้นอยู่ที่บ้านเดิมกับท่านยายของพวกเขาตั้งแต่ยังเยาว์เพราะมีร่างกายที่ไม่ค่อยแข็งแรง อีกไม่นานอวี้หนานไห่ก็จะพานางไปเยี่ยมท่านตาท่านยายและน้องสาวของเขาเพราะว่าฮูหยินอวี้ไม่ใช่สิ เวลานี้นางควรจะเรียกว่าท่านแม่สามีถึงจะถูก เอ็นดูนางเป็นพิเศษดูแลต้อนรับนางเข้ามาเป็นอีกส่วนหนึ่งของครอบครัวอย่างอบอุ่น เหมือนกับว่านางเป็นบุตรสาวแท้ ๆ ไม่ใช่เป็นเพียงลูกสะใภ้ ซ้ำยังชอบให้ท้ายนางอยู่หลายเรื่อง ไม่ว่าจะยกเลิกไม่ต้องให้นางมาคารวะทุกเช้า ให้เปลี่ยนมาเป็นมาทานมือเช้าเป็นเพื่อนนางบ้างก็พอ ยิ่งเป็นเรื่องข้าวของเครื่องประดับหรืออาภรณ์ แน่นอนว่าอาภรณ์ใหม่ ๆ ของนางไม่มีวันขาดแคลนเพราะว่านางเป็นบุตรสาวจากสกุลที่เปิดร้านอาภรณ์ แต่ยิ่งนางมีเสื้อผ้ามากมายเท่าไหร่ ท่านแม่สามีก็ยิ่งจะยื่นเครื่องประดับจำนวนมากมาให้นาง ทั้งของที่ประมูลมา ของที่หาซื้อได้ตามร้านหรือว่าเครื่องประดับที่ต้องสั่งทำจนยามนี่นางมีเครื่องประดั

  • ประดุจหนึ่งหอมหวานปานน้ำผึ้ง    ตอนที่ 45 คำนับฟ้าดิน (จบ)

    ตอนที่ 45คำนับฟ้าดิน"หนึ่ง คำนับฟ้าดิน""สอง คำนับบิดามารดา""สาม สามีภรรยาคำนับกันและกัน"หลังจากเสร็จพิธีแล้วเจ้าสาวก็ถูกส่งตัวเข้าหอ ด้านเจ้าบ่าวก็ถูกรั้งตัวเอาไว้ในงานเลี้ยงมงคล เพื่อให้แขกที่มาร่วมงานดื่มอวยพร เป็นธรรมเนียมปกติที่ในงานมงคลเช่นนี้เจ้าบ่าวจะต้องถูกมอมเหล้าจากแขกผู้มีเกียรติทั้งหลายรวมไปถึงญาติมิตรต่าง ๆ ที่มาร่วมงานอวี้หนานไห่ไม่ยอมให้ตนต้องตกเป็นเป้าให้ผู้อื่นมอมเหล้านานเกินไป เข้าทักทายแขกที่มาร่วมงานอยู่เกือบหนึ่งชั่วยามก็แอบปลีกตัวออกมาแล้วคืนเข้าหอเวลามีค่าแค่ไหน ไม่ต้องให้ผู้ใดต้องมาบอกเขาก็รู้ดี ทันทีที่เข้าได้ก้าวเข้ามาในเรือนหอของตน บนเตียงก็พบกับภรรยา ใช่แล้วหลิวซือนัวภรรยาของเขา และนางจะเป็นของเขาอย่างสมบูรณ์หลังจากคืนนี้ไป"อวี้หนานไห่เป็นเจ้าหรือ" เจ้าสาวของเขาซึ่งนั่งคลุมหน้าตัวตรงอยู่บนเตียงเอ่ยถามขึ้น"เป็นข้าเองภรรยารัก เจ้าควรเรียกข้าว่าท่านพี่ได้แล้ว" เขาเอ่ยก่อนจะก้าวเข้าไปหานาง และใช้ไม้ตวัดผ้าคลุมหน้าเจ้าสาวสีแดงสดออกจากศีรษะของนางยามเมื่อผ้าคลุมหน้าเจ้าสาวถูกเปิดออกแล้ว ความงดงามที่แสนตราตรึงในใจเขาก็ปรากฏขึ้น ใบหน้าของนางในเวลานี้ค่อน

  • ประดุจหนึ่งหอมหวานปานน้ำผึ้ง    ตอนที่ 44 ความจริงใจของข้า

    ตอนที่ 44ความจริงใจของข้า"ดู ๆ ข้าก็คิดอยู่ว่าคุณหนูหลิวเหมือนใคร นางเหมือนฮูหยินหลิวนี่เอง ไม่ไหวหน้าผู้อื่นเช่นนี้ไม่มีผิด""ข้าน่ะหรือไม่ไว้หน้า พวกเจ้าต่างหากที่ไม่ไว้หน้ากันก่อน" ฮูหยินหลิวตอกกลับทันที แม่สื่อพวกนี้นางทนพูดดีด้วยอีกไม่ได้แล้ว"ฮูหยิน ท่านใจเย็นก่อนนะเจ้าคะ" สาวใช้คนสนิทของฮูหยินหลิวรีบเข้ามาห้ามผู้เป็นนายตน เมื่อเห็นว่าสถานการณ์เริ่มจะย่ำแย่ลงไปทุกทีแล้ว"จะให้ข้าใจเย็นได้อย่าง...." ยังไม่ทันที่นางจะได้เอ่ยจบประโยค ผู้เฝ้าประตูคนหนึ่งก็รีบร้อนวิ่งเข้าเหมือนมีเรื่องสำคัญอะไรสักอย่างเสียก่อน"ฮูหยิน ฮูหยินขอรับ""มีอะไร เกิดอะไรขึ้น ถึงได้รีบร้อนขนาดนี้" นางเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงไม่ค่อยจะดีนัก เพราะเรื่องตรงหน้ายังไม่ทันได้สะสางก็ดูท่าว่าจะมีเรื่องใหม่เข้ามาแทรกเสียแล้ว"มีขบวน มีขบวน...ใหญ่ ขบวนใหญ่" อาจจะเป็นเพราะวิ่งมาด้วยความเร็ว ซ้ำยังตื่นเต้นจึงทำให้บ่าวชายผู้นี้พูดออกมาไม่รู้ความจนฮูหยินหลิวต้องเอ่ยถามซ้ำหลายรอบ"ขบวน ขบวนอะไร ขบวนอะไรใหญ่กันแน่""เหมือนว่าจะเป็นขบวนสินสอดสินะ" แม่สื่อคนที่หนึ่งผู้ขึ้น บ่าวชายที่มาแจ้งข่าวก็พยักหน้าเป็นเชิงตอบรับว่าใช่"คงเป็

  • ประดุจหนึ่งหอมหวานปานน้ำผึ้ง    ตอนที่ 43 สู่ขอ

    ตอนที่ 43สู่ขออาจจะเป็นเพราะเดินทางไกลมาหลายวัน และก็ไม่ได้นอนพักดี ๆ มาตลอดทาง วันนี้หลิวซือนัวเลยตื่นสายกว่าปกติถึงหนึ่งชั่วยามด้วยกัน กว่าที่จะแต่งตัวหวีผมเสร็จก็กินเวลาช่วงเช้าไปไม่น้อยแล้ว"คุณหนูเจ้าค่ะ ฮูหยินใหญ่ให้บ่าวมาแจ้งท่านว่า หากคุณหนูแต่งตัวเสร็จเรียบร้อยแล้วให้คุณหนูไปพบฮูหยินใหญ่ที่โถงรับรองด้วยเจ้าค่ะ""ได้ข้าทราบแล้ว เจ้ากลับไปแจ้งท่านแม่นะว่าประเดี๋ยวข้าแต่งตัวเสร็จแล้วจะรีบเข้าไปหาท่าน""เจ้าค่ะคุณหนู"สาวใช้ที่ท่านแม่ให้มาแจ้งข่าวนางจากกลับไปแล้ว เวลานี้จึงเหลือเพียงแค่นาง เสี่ยวหนิง และสาวใช้ในเรือนอีกคนหนึ่งซึ่งกำลังช่วยพวกนางเลือกเครื่องประดับที่จะใส่ในวันนี้อยู่"เสี่ยวหนิง เจ้าว่าเหตุใดท่านแม่ถึงได้ให้คนมาตามข้าไปที่ห้องโถงใหญ่ จะมีแขกสำคัญมาหรือไงนะ""บ่าวคิดว่าไม่น่าจะมีแขกนะเจ้าค่ะ ตั้งแต่เช้าไม่เห็นว่าในโรงครัวคึกคักเลย" ผู้เป็นสาวใช้เอ่ยออกมาตามที่นางคิด เพราะถ้าหากในจวนมีแขกสำคัญ ปกติแล้วในครัวก็มักจะคึกคักเป็นพิเศษเพราะต้องมีการเตรียมอาหารเอาไว้รับรองแขก"เช่นนั้นแล้วท่านแม่จะเรียกให้ข้าไปพบที่ห้องโถงทำไมกัน" หลิวซือนัวเอ่ยขึ้นอย่างข้องใจคงมีแต่รีบ

  • ประดุจหนึ่งหอมหวานปานน้ำผึ้ง    ตอนที่ 42 จาก

    ตอนที่ 42จากอีกเพียงวันเท่านั้นนางก็จะต้องเดินทางกลับเมืองเป่ยโจวแล้ว ตามกำหนดการเดินทางกลับที่ท่านแม่ของนางได้กำหนดเอาไว้ พี่ใหญ่ของนางหลิงเค่อกับพี่สะใภ้ฉือหนานเองก็จะเดินทางไปส่งนางกลับจวนและถือโอกาสให้พี่ฉือหนานได้กลับไปเยี่ยมบ้านเดิมด้วย หลังจากวันนั้นที่อวี้หนานไห่และนางได้เปิดเผยความรู้สึกของตัวเอง ความสัมพันธ์ของพวกนางก็มีสถานะเป็นคนรักของกันและกันอย่างเปิดเผย แต่เปิดเผยที่ว่านี้ก็จะมีแค่คนในครอบครัวของพวกนางเท่านั้นที่รู้ ส่วนคนนอกนางและอวี้หนานไห่ก็ไม่ได้สนใจว่าคนเหล่านั้นจะคิดจะพูดถึงพวกนางอย่างไรมีบางครั้งที่นางและอวี้หนานไห่ออกไปเดินเล่นที่ตลาดด้วยกันบ้างก็ไปรับประทานอาหารร่วมกันที่ร้านอาหารต่าง ๆ ในเมือง หลายครั้งก็มีข่าวลือตามมาบ้างทว่าส่วนใหญ่จะลือไปทางที่พวกนางเป็นสหายกันเสียมากกว่า ไม่มีการลือหรือการพูดไปถึงเรื่องเชิงชู้สาวใด ๆ ทั้งสิ้นแน่นอนว่าเรื่องลือเช่นนี้ไม่ถือเป็นผลเสียกับนาง หนำซ้ำยังถือว่าเป็นผลดีต่อร้านสกุลอาภรณ์สกุลหลิวไม่น้อยเช่นกัน เพราะผู้ใดที่อยากสนิทสนมกับหมู่ตึกอวี้ฟางก็จะต้องเข้าหาร้านอาภรณ์สกุลหลิวซึ่งลือกันว่าเป็นสหายกับหมู่ตึกอวี้ฟางเพื่อทำต

  • ประดุจหนึ่งหอมหวานปานน้ำผึ้ง    ตอนที่ 41 รัก

    ตอนที่ 41รัก"ที่ห้องโถงใหญ่เอะอะอะไรกัน เหตุใดถึงได้เสียงดังมาถึงนี่ เจ้าไปดูหน่อยเถอะ" ฉือหนานเอ่ยขึ้น ก่อนจะสั่งให้สาวใช้คนสนิทของนางออกไปดูว่าเกิดอะไรขึ้นในวันมงคลเช่นนี้นอกจากฉือหนานแล้วในห้องรับรองขนาดเล็กซึ่งอยู่ติดกับห้องโถงใหญ่ก็มีหลิวซือนัวน้องสามีของนาง และก็ฉือฮั่วลูกพี่ลูกน้องของนางที่มาเยี่ยมนางจากบ้านเกิดเมื่อสองวันก่อนใครจะคิดเล่าว่าการมาที่นี่ของฉือฮั่วซึ่งอ่อนวัยกว่านางเกือบสี่ปีจะทำให้นางได้เจอกับรักแรกพบที่นี่ หนำซ้ำยังถูกสู่ขออย่างรวดเร็วราวกับฟ้าผ่า นางและผู้เป็นสามีที่ถือเป็นญาติสนิทจึงต้องรับหน้าที่เป็นผู้ใหญ่ของฉือฮั่วแทนบิดามารดาของนางที่ไว้ใจฝากฝังบุตรสาวเอาไว้ด้วยเพราะเชื่อมั่นและไว้ใจนางกับสามีด้วยเพราะว่าทั้งฝ่ายสู่ขอและฝ่ายถูกสู่ขอต่างก็มีใจต่อกัน การตัดสินใจจริงเป็นไปอย่างดี ทุกฝ่ายตกลงปลงใจที่จะปลูกเรือนร่วมกันวันนี้แค่แลกหนังสือสินสอดเสร็จสิ้นก็หาวันดีจัดงานแต่งได้เลย ด้านหลิวซือนัวยามนี้นางกำลังวุ่นวายอยู่กับการเลือกผ้าไหมสีแดงเพื่อตัดชุดแต่งงานให้กับฉือฮั่ว สำหรับฉือฮั่วนั้นนางก็เห็นเป็นสหายมาเนิ่นนาน ซ้ำเมื่อพี่ฉือหนานแต่งเข้ามาจวนสกุลหลิวแล้

더보기
좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status