วธุกาอ้าปากน้อยๆ เมื่ออีกสองคนก็บ้าจี้ตามเขาไปด้วย เดินตามหลังสามีผ่านจุดบริการลงไปยังทางลงแพ หญิงสาวหันหลังกลับไปมองคนทั้งคู่ พบว่าพวกเขาพากันปิดปากหัวเราะอย่างขำขัน
“กลายเป็นตัวตลกไปเลยทั้งคุณและฉัน” มีบ่นลอยๆ อยู่ข้างหลังสามี
“มีแต่คนจะอิจฉาล่ะไม่ว่า”
“ใครเขาจะมาอิจฉาเรากันล่ะ ไม่มีหรอก”
“มีสิ ก็คนที่ยังไม่มีคู่ยังไงล่ะ เอามานี่” วิเนตย์เอื้อมมือมาดึงกระเป๋าเสื้อผ้าออกจากมือของภรรยา เมื่อเดินมาถึงบันไดไม้ที่วางพาดจากบนฝั่งไปยังบ้านพักบนแพ ซึ่งความชันของมันก็ทำให้เดินได้ลำบากอยู่ไม่น้อย เขาเกรงว่าภรรยาจะหิ้วกระเป๋าที่ใส่เสื้อผ้ามาค่อนข้างเยอะจะเดินผ่านจุดนี้ไม่สะดวก
“ขอบคุณค่ะ” วธุกามองเขาแล้วยิ้มพร้อมเอ่ยคำขอบคุณ
“กลัวจะพลัดตกน้ำไปให้ปลามันแทะเล่นต่างหาก”
“บ้า” ตวัดตามองค้อนเขาแล้วก้มลงไปมองด้านล่าง มีปลาสีสวยว่ายน้ำไปมาเหมือนทุกวัน
“เอ้า มัวแต่มองปลาอยู่นั่นแหละ เดินลงไปก่อนผมเลยคุณวาท ห้องพักเราอยู่ฝั่งซ้ายมือสุดเลย หลังสุดท้าย”
“หลังสุดท้าย!”
“ใช่จะได้สงบไม่มีใครรบกวนไงล่ะ”
“เดินขาลากเลยนะนั่นคุณวิเนตย์ ทำไมต้องไปพักเสียไกลผู้ไกลคนขนาดนั้นด้วย วันก่อนลูกค้าก็บ่นว่าให้คนแก่มาพักหลังนั้นได้ยังไง ฉันต้องเดือดร้อนเปลี่ยนห้องที่อยู่ใกล้ๆ กับบนฝั่งให้ด้วยความสงสารคนแก่” หญิงสาวชะเง้อคอมองห้องพักหลังสุดท้ายที่เขาว่า มันช่างอยู่ไกลแสนไกลเหลือเกิน
“ก็ตอนจองเขาไม่ได้บอกว่าเป็นคนแก่มาพักนี่ ศิรดาก็คงจัดไปตามลำดับ คุณก็เดินออกกำลังกายบ้างจะได้แข็งแรงยังไงล่ะ”
“งั้นคุณก็หิ้วกระเป๋าไปให้ถึงห้องเลยนะ ฉันคงไม่ไหวหรอก” ‘แกล้งซะเลย อยากเลือกห้องนั้นทำไม’
“ครับคุณเมียเดินไปได้แล้วครับ แบกอะไรมาด้วยนี่หนักชะมัด”
“ติดโน้ตบุ๊กมาเผื่อเบื่อๆ”
“โน้ตบุ๊ก! บ้าหรือเปล่าคุณวาทมาฮันนีมูนแต่เอาโน้ตบุ๊กมาด้วยกะจะมานั่งคุยกับเพื่อนบนโลกออนไลน์แล้วไม่สนใจผัวอย่างผมเลยใช่ไหม มือถือก็เอามายังจะพ่วงโน้ตบุ๊กมาอีกทำไม” เสียงบ่นเหมือนคนกำลังหงุดหงิดเป็นอย่างมาก
“เบาๆ หน่อยสิคุณ นี่หลังห้องแขกนะ” วธุกาทำหน้าเครียดหลังจากเดินผ่านหลังห้องลูกค้าบนแพ ซึ่งวิเนตย์ธาราต้องการมอบความเป็นส่วนตัวให้ลูกค้า โดยการสร้างทางเดินเอาไว้ด้านหลัง ส่วนด้านหน้าเป็นระเบียงบนแพของแต่ละห้อง มีเปลผูกกับเสาและเตียงไม้ไว้สำหรับลูกค้าได้พักผ่อน โดยที่จะไม่มีใครสามารถเดินผ่านหน้าห้องของแต่ละห้องได้ เว้นเสียแต่ห้องไหนที่จะมีบันไดขึ้นลงจากน้ำ ซึ่งเอาไว้สำหรับคนที่ลอยคอมาจากต้นน้ำจะได้กลับเข้าบนแพได้ แต่ขากลับก็ยังต้องเดินตรงทางเดินด้านหลังเหมือนทุกคน
“มีเมียบ้าๆ แบบคุณนี่ผมปวดหัวชะมัด” วิเนตย์บ่นไประหว่างเดินตามหลังภรรยา วธุกาลอบยิ้มอย่างชอบใจที่ทำให้เขาหัวเสียได้ ผ่านไปสักพักก็มาถึงห้องพักบนแพที่มีราคาแพงที่สุดในรีสอร์ตแห่งนี้ ซึ่งมีอยู่ด้วยกันทั้งหมดเพียงห้าห้องเท่านั้น
“กุญแจอยู่ในกระเป๋ากางเกงคุณช่วยล้วงหน่อยได้ไหม” ชายหนุ่มทำท่าเหมือนตัวเองกำลังถือกระเป๋าทั้งสองข้างไม่มีมือจะล้วงกระเป๋ากางเกง
“บ้าหรือเปล่าคุณวิเนตย์ คุณก็วางกระเป๋าลงสิเรื่องง่ายๆ ทำให้มันยุ่งยากไปได้ แปลกคน” หญิงสาวพูดแล้วก็ยืนกอดอกรอคอยการเปิดประตูของสามี
“นิดหน่อยก็ช่วยกันไม่ได้เลยนะคุณวาท” คนถูกรู้ทันปล่อยกระเป๋าในมือลงพื้นดังตุบ!
“ว้าย ลูกแม่พังหมดแล้วมั้งนั่น วางเบาๆ หน่อยไม่ได้เหรอคุณ”
“อ้อ ลืมว่ามีโน้ตบุ๊กด้วย” คราวนี้วิเนตย์ดูจะสะใจนิดๆ เขาไขกุญแจแล้วเสียบแถบแม่เหล็กเข้าที่ไฟในห้องก็สว่างขึ้นในทันที หันหลังกลับไปมองภรรยาซึ่งก้มลงหิ้วกระเป๋าของตัวเองขึ้นมากอดไว้แนบอก เดินเข้ามาภายในห้อง เหมือนกับกลัวว่าเจ้าสิ่งที่อยู่ในนั้นจะถูกเขากระทำรุนแรงเหมือนเมื่อครู่นี้ ชายหนุ่มอดที่จะหัวเราะในท่าทีของภรรยาไม่ได้ เดินไปหิ้วกระเป๋าของตัวเองเข้ามาบ้าง
สภาพห้องของที่นี่ก็สมกับเป็นห้องสวีตราคาแสนแพง เตียงนอนขนาดเจ็ดฟุตสีขาวสะอาดสะอ้าน มีโซฟาเบดตัวใหญ่อยู่ปลายเตียง มีโต๊ะไม้ยาวสำหรับวางโทรทัศน์ขนาด 52 นิ้ว ภายในห้องน้ำก็มีอ่างสำหรับคู่รักไว้แช่น้ำอุ่น อันนี้ค่อยน่าสนใจหน่อยเพราะมีเหมือนบ้านหลังใหญ่เลย หน้าห้องก็เป็นประตูบานเลื่อนมีผ้าม่านยาวสีขาวที่ถูกรวบเอาไว้ทั้งสองข้าง วิวจากข้างในมองออกไปก็เห็นแม่น้ำสีเขียวมรกตตัดกับต้นไม้หนาตามองสูงก็เป็นท้องฟ้าสีสดใส อากาศของวันนี้ช่างดีงามจริงๆ
ชื่นชมความงามของห้องกับบรรยากาศเสร็จแล้ว วธุกาก็เดินมาจัดการกับเสื้อผ้าที่อยู่ในกระเป๋าของตัวเอง หญิงสาวหยิบโน้ตบุ๊กออกจากกระเป๋าเสื้อผ้าอย่างระมัดระวัง มันมีขนาดเล็กเลยสามารถใส่เข้ากระเป๋าฟองน้ำอันเล็ก และเข้ามาอยู่ในกระเป๋าใบนี้ได้ไม่ยาก
“เอาละคุณเมียครับ ช่วยทำหน้าที่ด้วยการเก็บเสื้อผ้าใส่ตู้ให้ผมด้วยนะครับ” วิเนตย์บอกคนที่ยืนก้มๆ เงยๆ หน้าตู้เสื้อผ้า วธุกาชะงักเล็กน้อยก่อนจะลงมือนำเสื้อแขวนใส่ตู้ต่อ
“ทำไมฉันต้องทำด้วยล่ะ”
“ก็มันหน้าที่ของคุณไม่ใช่เหรอ”
“ฉันว่าต่างคนต่างทำดีไหม”
“ถ้าเป็นเมียผมเขาก็คงทำให้” มือที่กำลังจะหยิบเสื้อในกระเป๋าขึ้นใส่ไม้แขวนเสื้อถึงกับชะงักงันแล้วหันหลังกลับไปมองคนที่นอนเอกเขนกอยู่บนเตียง เหมือนวิเนตย์จะรู้ตัวว่าได้หลุดปากอะไรออกไป สีหน้าของเขาแลดูเครียดขึ้นมานิดๆ
“ใช่สิ ฉันมันไม่ใช่เมียจริงๆ ของคุณนี่ งั้นก็คงไม่ผิดหากฉันจะไม่แขวนเสื้อใส่ตู้ให้คุณ” พูดแล้วก็ปิดตู้เสื้อผ้าลง ก้าวเท้าเร็วๆ ผ่านประตูบานเลื่อนไประเบียงหน้าห้อง
ประตูบานเลื่อนที่เปิดกว้างไว้ทำให้หญิงสาวยังอยู่ในสายตาของผู้เป็นสามี วิเนตย์นอนกึ่งนั่งอยู่บนเตียงมือก็กดรีโมตเลื่อนหาช่องรายการที่ตนเองไม่ได้สนใจอยากจะดูเลยสักนิด แต่ก็ต้องเปิดโทรทัศน์เพื่อให้บรรยากาศภายในห้องไม่เงียบจนเกินไป มองไปหน้าห้องพักอีกทีภรรยาคนสวยก็เอาตัวเองไปนอนอยู่บนเปลญวนเสียแล้ว
“จะหลับลงเหรอคุณวาท เรามาฮันนีมูนนะ” เขาเอ่ยลอยๆ ทว่าเสียงดังพอจะให้คนด้านนอกได้ยินด้วย คนบนเปลไม่ตอบอะไรออกมากลับปิดตาหนีเขาเสียดื้อๆ
“คุณวาทเข้ามาคุยกันก่อนดีไหม เราต้องอยู่ที่นี่ทั้งวันทั้งคืนเลยนะ คุณจะหนีหน้าผมเป็นเด็กๆ แบบนั้นไม่ได้”
“ฉันอยากอาบแดดตอนสายๆ”
“เชื่อตายล่ะ เข้ามาเถอะ เร็ว! อย่าให้ต้องออกไปอุ้มนะ” คราวนี้เปลที่ส่ายไปมาถึงกับหยุดกึก เพราะวธุกาใช้เท้าวางบนพื้นก้าวลงจากเปลอย่างขัดใจ
“มีอะไรจะคุยกับฉัน” หญิงสาวไปยืนตรงหน้าของสามีด้วยสีหน้าบึ้งตึง
“มาให้ผมกอดหน่อยสิ”
“ฮะ! ผีเข้าหรือเปล่าคุณวิเนตย์ บ้าหรือเปล่าจู่ๆ ก็จะมาขอกอดกันดื้อๆ แบบนี้” คนเป็นสามีไม่ตอบกลับลุกขึ้นนั่งแล้วเดินไปปิดม่านเข้าหากัน โดยเปิดไว้เพียงประตูบานเลื่อนเท่านั้น
“คุณวิเนตย์ยังเช้าอยู่นะ” ไม่แปลกที่วธุกาจะคิดแบบนี้ ก็ท่าทีของเขาดูชอบกลทำไมต้องปิดม่านตอนสายๆ อย่างนี้ด้วย
“คุณคิดไปถึงไหนคุณวาท ผมจะกอดคุณผมต้องโชว์ชาวบ้านชาวช่องเขาด้วยรึไง เผื่อมีใครโผล่หน้ามาเล่นน้ำตอนเช้าก็เห็นเข้าพอดีน่ะสิ ผมอยากมีความเป็นส่วนตัวเหมือนกันนะ”
“จะมีใครมาเห็นได้ยังไง เราอยู่ต้นน้ำห้องแรกของรีสอร์ต”
“ก็อาจจะเป็นรีสอร์ตของเพื่อนคุณก็ได้ เผื่อลอยคอเลยแล้วหลุดมานี่”
ตอนที่ : 61 แวมสกาว ดวงใจของพ่อแม่ (จบ)23แวมสกาว ดวงใจของพ่อแม่ แวมสกาวสาวน้อยในวัยสี่ขวบกลายเป็นขวัญใจของทุกคน เด็กน้อยโตขึ้นมากับการเลี้ยงดูที่ดีจนเกินเหตุ หรือว่าเป็นที่ตัวเด็กเองที่ชอบการรับประทานอาหารเป็นที่สุดก็ไม่รู้ จึงทำให้กลายเป็นเด็กตัวอ้วนปุ๊กลุกเกินกว่าปกติ วธุกาเองก็ตัดสินใจเปลี่ยนสรรพนามแทนตัวเองว่าวาทตามความต้องการของสามี ในขณะเดียวกันก็เรียกเขาสั้นๆ ว่าคุณเนตย์เหมือนกัน วันนี้วธุกาได้พาลูกสาวไปเยี่ยมเยียนนนท์นทีตั้งแต่ช่วงสายแล้ว เที่ยงนี้วิเนตย์จึงต้องอยู่บ้านเพียงลำพัง หลังรับประทานอาหารเที่ยงเสร็จเขาก็เดินเข้าไปในห้องรับแขก เพื่อที่จะเอนหลังตรงโซฟา แต่แล้วสายตาของชายหนุ่มก็มองไปเห็นสมุดเล่มหนึ่งวางเอาไว้บนโต๊ะในห้องร
ตอนที่ : 60 ปล่อยวาง 3 วธุกาเปลี่ยนชุดเป็นบิกินีสีแดงเพลิง เป็นชุดเดียวกับที่เคยใส่ตอนฮันนีมูนครั้งแรก ส่วนสามีของเธอก็เดินไปปิดม่านตรงหน้าบ้านพักไม่ให้คนข้างนอกมองผ่านเข้ามาได้ ปิดไฟตรงหน้าบ้านให้เหลือเพียงโคมสลัวๆ แสงนวลตา ในบ้านหากลูกร้องก็สามารถได้ยินเสียงได้เช่นเดียวกัน เมื่อพร้อมเสร็จสรรพทุกสิ่งอย่าง ภรรยาคนงามก็เดินลงไปแช่ตัวอยู่ในสระว่ายน้ำขนาดเล็ก มีน้ำผลไม้วางไว้บนขอบสระพร้อมกับแก้วเครื่องดื่มของสามี มองเห็นเขาเดินเข้าไปเปลี่ยนเป็นกางเกงว่ายน้ำตัวจิ๋วแล้วหัวใจของภรรยาอย่างเธอก็เต้นแรง “กินเบียร์ก่อนไหมคุณวิเนตย์ มีของว่างด้วยนะคะ” พยายามเบี่ยงความสนใจไปที่เครื่องดื่มและของว่าง แต่ดูเหมือนจะไม่ได้ผลเอาเสียเลย เพราะเขาเดินลงสระว่ายน้ำและตรงดิ่งมาหาเธอในทันที
ตอนที่ : 59 ปล่อยวาง 2 “อยากไหม จูบน่ะ” เจอคำถามจี้ใจดำกับสายตาประกายหยาดเยิ้ม วธุกาเลยต้องก้มหน้าลงต่ำจนปากนุ่มแตะกับริมฝีปากหนาของสามี เพียงเท่านั้นท้ายทอยของเธอก็ถูกเขารั้งเอาไว้แน่น แล้วแทรกชิวหาอุ่นซ่านเข้าหาอย่างรวดเร็ว จูบของเขาช่างหอมหวานละมุนละไม อ่อนนุ่มนาบเนิบตามความปรารถนา เนิ่นนานพอสมควรก่อนที่ทั้งคู่จะผละออกจากกัน ริมฝีปากของวธุกามันวับจนเขาต้องยกมือขึ้นเช็ดป้ายให้“หวานมากคุณวาท”“ปากคนนะคะไม่ใช่น้ำตาล” “เอางี้ดีไหมคุณวาท ครั้งนี้ถือว่าเรามาฮันนีมูนกันรอบสองดีไหม บรรยากาศให้ด้วยดูสิท้องฟ้าสีสวย ทะเลก็แสนงาม มีหาดทรายสีขาวนวลพร้อมกับสระว่ายน้ำส่วนตัว ให้นึกถึงวันที่เราฮันนีมูนกันคุณว่าไหม” “จะดีเหรอคะ” 
ตอนที่ : 58 ปล่อยวาง22ปล่อยวาง สองเดือนหลังจากนั้นวธุกาก็ได้รับข่าวร้าย บิดาของเธอได้เสียชีวิตลงด้วยโรคหัวใจวายเฉียบพลัน ซึ่งไม่ได้มีการแจ้งอาการป่วยของท่านมาก่อนหน้านี้ แต่มีโทรศัพท์มาที่บ้านยายนวลน้อยในวันที่ท่านเสียไปแล้ว นางอารตีบ่นแล้วบ่นอีกเพราะบิดาของวธุกาไม่เคยติดต่อมาถามไถ่ข่าวคราวลูกสาวเลย แต่พอเสียชีวิตลงฝ่ายภรรยาใหม่ก็โทรศัพท์มาบอกเสียอย่างนั้น “ไม่ตายก็ไม่โทรมานะคะคุณแม่ นึกว่าลืมเบอร์โทรไปแล้วที่ไหนได้... แสดงว่าตั้งใจทอดทิ้งยัยวาทชัดๆ” “เขาเป็นพ่อลูกกัน แกก็จะอะไรนักหนายัยตี”&
ตอนที่ : 57 ผลผลิตจากการขโมย 2 “มิน่าล่ะ ผมก็สงสัยทำไมคืนนั้นเมียผมถึงได้เร่าร้อนนักนะ รุกผมทั้งคืนเลย ที่ไหนได้ก็มีแผนอันพิลึกพิลั่นแบบนี้นี่เอง” เขาโคลงตัวไปมาเบาๆ พร้อมกับขำในเรื่องที่เกิดขึ้นในอดีต “ก็ต้องโทษคุณนั่นแหละที่ไม่ยอมมีลูกกับฉันเอง ก็เลยต้องใช้เล่ห์กลอุบายกันบ้าง มีเท่าไหร่ก็งัดใส่ทั้งหมด ดูซิ เคยอ่อยใครที่ไหนล่ะ แล้วยังจะทำเรื่องแบบนั้นอีก ไม่ด้านพอทำไม่ได้นะนั่น” หญิงสาวประชดประชันตัวเองไปพร้อม ดันตัวออกห่างเพียงเล็กน้อยเพื่อที่จะได้มองสบสายตากับเขาได้ถนัด “ผมขอเดานะว่าความคิดนี้คุณนนท์นทีต้องมีส่วนร่วมด้วยใช่ไหม ลำพังคุณคงไม่คิดได้ประหลาดขนาดนี้” “ก็พูดไปนั่น ความจริงฉันตั้งใจจะไปขออสุจิที่โรงพยาบาล แต่นนท์เขาแนะ
ตอนที่ : 56 ผลผลิตจากการขโมย21ผลผลิตจากการขโมย เสียงร้องไห้กระซิกๆ ของคนที่อยู่หลังโต๊ะตรงจุดบริการ ทำให้วธุกาต้องชะโงกหน้าเข้าไปมองด้วยความสงสัย พบประชาสัมพันธ์สาวสวยของวิเนตย์ธารารีสอร์ตกำกระดาษทิชชูเพื่อซับคราบน้ำตาอยู่ ท่าทางเหมือนคนกำลังเสียอกเสียใจอย่างรุนแรง “ดาเป็นอะไร ร้องไห้ทำไม” วธุการีบเข้าไปถามไถ่ด้วยความเป็นห่วง ตั้งแต่รู้จักศิรดามาหญิงสาวก็ร่าเริงแจ่มใสอยู่เสมอ “ฮะ...ฮึก ฮือ คุณวาท ฮือๆ” คนร้องเงยหน้าขึ้นมามองแล้วสะอื้นฮักๆ อย่างน่าสงสาร ยิ่งสร้างความประหลาดใจให้แก่อีกคน “แล้วกัน ยิ่งร้องใหญ่เ