ทวี หรือ เอ อายุสิบสอง เข้าเรียนม.1ที่โรงเรียนกินนอนชายล้วนแห่งหนึ่งที่จังหวัดชลบุรี เป็นโรงเรียนคริสเตียนเชิงเขา ในโรงเรียนมีโบสถ์คริสต์นิกายโรมันคาทอลิกที่มีรูปแบบสถาปัตยกรรมเรเนซองส์ ซึ่งภายในประดับไปด้วยกระจกสีจากฝรั่งเศสและอิตาลี และนอกจากนี้ภายในยังมีประติมากรรมปูนปั้นที่ทำมาจากหินอ่อนและเพดานโค้งที่ตกแต่งอย่างวิจิตร ในห้องนอนได้สี่คน สนับสนุนโดยเงินประกันชีวิตก้อนใหญ่ของบิดา
ถือเป็นลูกคุณหนูทีเดียว สำหรับหอนอนนี้มีสี่ชั้นแต่ละชั้นมีหกห้องใหญ่ ห้องน้ำแยก ในห้องแต่ละห้องแบ่งสี่มุมด้านซ้ายของเตียงมีตู้เก็บเสื้อผ้าแบบบานเลื่อน ด้านขวาข้างเตียงเป็นโต๊ะอ่านหนังสือพร้อมโคมไฟ
ด้วยความเรียบร้อยน่ารักผิวขาวหน้าหวานผิดผู้ชาย ก็เลยมีรุ่นพี่ชวนเข้าแกงค์เจ็ดนางฟ้าตั้งแต่ปีแรก เป็นเรื่องปกติของกลุ่มกระเทยที่จะต้องรวมตัวกันเพื่อไม่ให้โดน เด็กหนุ่มทะโมนรังแก แกงค์เจ็ดนางฟ้า พวกเรามี7คน เวลาเดินต้องมาแบบหน้ากระดาน กอดกระเป๋าใบแบนแนบอก เอในฐานะน้องเล็กของกลุ่มก็เลยได้ติดกิ๊บชมพูน่ารัก มีคาแรคเตอร์ทั้งกลุ่มเดินไปไหนก็ไม่พ้นเสียงเป่าปากวี๊ดวิ้วจะหนุ่มในโรงเรียน (นึกภาพการเดินแบบหน้ากระดานของทีมในหนังอมาเกดอน)
เวลากินข้าวก็จะมีโต๊ะพิเศษของเหล่านางฟ้าหัวเกรียน ซึ่งจะมีขนมนมเนยที่หนุ่มแวะเวียนมาฝาก
ไม่ใช่เพราะสวยอย่างเดียวแต่แกงค์นี้มักมีจุดเด่นด้านการเรียนและกิจกรรมเด่น ใครอยากลอกการบ้านหรือติวพิเศษก็จะมาวนเวียนแถวโต๊ะนี้
ในกลุ่มสาวสวยหัวเกรียนนี้ ไล่ลำดับตั้งแต่ม 1 จนถึงม 6 โดยมีหัวหน้านางฟ้า และนางฟ้าสำรองโต๊ะนี้จึงไม่ได้มีคนแค่ 7 คนแต่แทบจะเป็นการรวมกลุ่ม ของเหล่ากระเทยในโรงเรียน รุ่นพี่ก็จะสอนเทคนิค ให้นางฟ้ารุ่นน้อง ก่อนจะจบการศึกษาออกไปว่าจะเป็นเทคนิคด้านการเรียน ศัลยกรรม เทคฮอร์โมน การแสดงออกต่างๆ รวมทั้งเรื่องอย่างว่าบนเตียงด้วย
นี่คือชีวิตที่มีความสุขของเอ วันจันทร์ถึงพฤหัส
อ้าวแล้วศุกร์เสาร์อาทิตย์ล่ะ ก็เป็นวันแสนเศร้าน่ะสิ โดยเฉพาะวันศุกร์ รถยนต์คันแล้วคันเล่า จอดหน้าประตูรับเด็กขึ้นแล้วก็ขับออกไป
Master ครูผู้ดูแลหอนอนบอกกับเอว่า แม่ของเธอ ฝากฉันดูแลเธอไว้ที่โรงเรียน
แม่ไม่เคยโทรมาหาโดยตรง หรือเรียกง่ายๆว่า 6 ปีของชีวิตมัธยม ถ้าไม่มีเรื่องไม่เคยได้ยินเสียงแม่ แม่ไม่เคยมาเยี่ยมแม้แต่ครั้งเดียว พี่แป้งพี่ชายคนเดียวมาเยี่ยมปีละครั้งสองครั้ง ตอนมาเที่ยวทะเลพัทยากับเพื่อน เป็นการลักลอบแอบมาหาโดยไม่ให้เพื่อนรู้ด้วยซ้ำ เขาก็ไม่อยากให้ใครรู้ว่าน้องชายเป็นกระเทย
ในชีวิตวี๊ดว๊ายบังหน้านั้น ในใจก็ระทมทุกข์นัก
ภัทรดนัย จิตอารีย์ ตัวอักษรเขียนอย่างลวกๆเป็นชื่อนามสกุลติดลงบน แผ่นพลาสติก สายรัดข้อมือ ไกรสรเทวบุตรเดินวนไปวนมา อยู่ข้างเตียงในห้องฉุกเฉิน คนที่ทำให้แม่เล็กต้องมานอนอยู่ตรงนี้คือฉันเอง ตอนที่ฉันอ่านว่าจะต้องมารับวิญญาณฉันก็ลืมนึกไป ว่านี่คือแม่เล็กด้วยการงานรัดตัว เวรกรรมทำงานของมันเสมอไม่มีอะไรบังเอิญ ฉันนี่แหละ ต้นเหตุ ถ้าฉันไม่แปลงสารแม่เล็กก็ไม่กินยา เขาพึมพำพร่ำบ่นในใจเท้าก็เดินวนไปเวียนมาที่นี่มันโรงพยาบาล เหล่านายนิรยบาลเดินขวักไขว่ ทุกคนก็ล้วนแปลกใจเมื่อเห็นหัวหน้างานมาเดินวนเวียนอยู่ข้างเตียง ใครคนหนึ่งในห้องฉุกเฉิน พวกเค้าแอบกระซิบกระซาบกัน เบาๆเมียเก่า!แทนที่พญายมราชจะไม่ได้ยิน เสียงนั้นกับตรงมาเต็มหูกระแทกหัวใจ บ้าเอ้ย นาทีนี้มันไม่ใช่ความใคร่พิศวาสใดๆแล้วมันคือศักดิ์ศรี เราผู้เป็นนายแห่งผี จะไม่ให้เมียเก่าเราตายได้ไหมจะเปลี่ยภพภูมิให้เค้าได้ไหม ทำยังไงดีControl ผีได้แต่ Control คนเป็นไม่ได้ โธ่เอ๊ย แย่ที่สุดโมโหจนอยากจะเอาหมัดต่อยหน้าตัวเอง ยังไม่ทันจะได้ทำจริงๆก็มีหญิงวัยกลางคนในชุดทหาร เต็มยศ แหวกม่านพุ่งพรวดเข้ามา"โบว์ลูกรัก แม่ขอโทษ ขอโทษกับทุกสิ่งทุกอย่างที่แม
ไกรเทวบุตรหลุดจากสมาธิ คืนร่างเป็นพญายมราช ร่างที่จำแลงแปลงกายไว้นั้นเพื่อจะให้กลมกลืนกับเด็กผู้ชาย วัยรุ่นในโรงเรียนนี้ก็หายไป ด้วยความตกใจที่เห็นแม่เล็กใน ชาตินี้ ด้วยความที่จะต้องติดตามจึงกระโดดข้ามรั้วโดยไม่ได้คิดว่าจะมีใครอยู่ตรงนั้นแม่เล็ก ต่อไปนี้จะเรียกว่าโบว์ ใบหน้าหมองคล้ำ เดินกอดอกสับเท้าอย่างว่องไวให้พ้นดงอโศก ไกรสรเทวบุตรแล่นลิ่วไล่ตาม แต่จังหวะแว๊บนึงก็เห็นคนสองคนซ่อนอยู่ เมื่อหันไปมอง มันก็เหมือนเห็นญาติอีก ใครกันนะ ไว้ก่อน ถ้าอยู่ที่นี่เดี๋ยวก็รู้ว่าใคร ได้แต่ยิ้มมุมปาก แล้วรีบตาม โบว์ไปก่อนที่จะคลาดสายตาโบว์หรือแม่เล็กในชาตินี้ เกิดเป็น เพศชาย แต่ข้างในหัวใจเป็นสตรี รู้ตัวว่าเป็นแบบนี้ตั้งแต่ 6 ขวบ แม่เป็นทหาร พ่อเป็นช่างรับเหมาก่อสร้าง ทุกคนแอนตี้ ความผิดเพศของเขา เมื่อพอรู้ความดีและอายุเข้าเกณฑ์เขาก็ถูกส่งมาอยู่ที่นี่ตั้งแต่ชั้นอนุบาล ตอนเขาเกิดแม่มียศเพียงนายสิบ ต่อมา เป็นที่เมตตาเอ็นดูของนายทหารชั้นผู้ใหญ่ยศคงขึ้นเรื่อยๆมา ปัจจุบันแม่มียศถึงพันเอก ทำงาน ควบคุมด้านการเงิน อยู่ในกองบัญชาการ เป็นคนมี ลูกน้องเยอะและลักษณะนิสัย ระเบียบวินัยเป๊ะ และแค้นใจมากที่ลูกไม่ ไ
"จังหวะนรก"หมายถึง เรื่องราวเลวร้ายที่เกิดอย่าง พอดิบพอดี เหมือนอย่างเช่น นายชัช กับอุณา ที่ดันโดนสังหารแบบจังหวะนรก ตายพร้อมกันทันที โดยไม่มีโอกาสสั่งลาด้วยกระสุนนัดเดียว"เวลานรก" หมายถึงเหตุการณ์เลวร้าย ที่ดันดำเนินไปอย่างเนิบช้า เพราะทุกอย่างในนรกช้า เวลาก็ช้ากว่า เมื่อเทียบกับเวลาของภพ มนุษย์ถึง 1 ปีต่อ 1 วัน ถ้าทีมงานนายนิรยบาล ที่มารับดวงวิญญาณ เกิดลืมของกลับไปที่นรกเพื่อไปเอาแล้วกลับมา ยังภพมนุษย์ ก็เพียงแค่ชั่วพริบตาเดียว ในนรก ส่วนของการลงทัณฑ์ มืดดำหม่นหมอง เต็มไปด้วยมูกเลือด ความสยดสยองเกินบรรยาย ไม่ว่าจะเป็นเครื่องมือสำหรับฑัณฑ์ทรมาน หรือขุมนรกต่างๆ ก็ล้วนแต่ ไม่จรรโลงใจ พาให้เศร้าหมอง สูญเสียแรงบันดาลใจ และความสุข ซึ่งเป็นส่วนที่จะเอาไว้ลงโทษผู้ที่มีความผิดบาปอยู่แล้ว สำหรับนายนิรยบาล ถ้าได้รับเวรมารับวิญญาณบนโลก หรือได้เวลาพักผ่อน ก็มักจะขึ้นมา ผ่อนคลายกัน มักมีคำพูดในภพนรกว่า เทวดาเดินดิน มีต้นแบบมาจาก เทวดาผู้คุมเหล่านี้นี่เองที่มีรูปร่างงดงาม จะเนรมิตสิ่งใดก็ได้ ไม่จำเป็นต้องซื้อหาดังนั้นทีมงานที่ไปรับวิญญาณจึงชอบอ้อยอิ่งเที่ยวเล่น อยู่ที่เมืองมนุษย์ ถ้าเห็นใครงดงา
ถ้าความถึงวันก่อนที่ชัชเทวบุตรจะอุบัติมา 1 วัน เวลานรกพญายมราชไกรสรเทวบุตร ได้สำรวจร่างกายของตนเองและพบว่ารัศมีนั้นเปล่งแสงเรืองรองอย่างอัศจรรย์ มากกว่าทุกวัน ทุกคืนที่ผ่านมา เขาจึง อนุมานว่า เขาใกล้จะเปลี่ยนภพภูมิแล้ว เป็นข่าวดีอย่างที่สุด มองนาฬิกาทรายที่ใกล้มือ อีก 1 ชั่วโมงจะถึงเวลาดื่มน้ำทองแดงทันใดนั้นจึงเรียกดอกปาริชาติให้ผุดขึ้นมาบนมือ แล้วสูดดมกลิ่นย้อนรำลึกถึงชาติต่างๆครั้งเป็นมนุษย์ ครอบครัวของเรา ตั้งแต่ครั้งเราเป็นนายไกร ยังช่วยใครไม่หมดนะ เขาค่อยๆไล่เรียงแม่คนโต เกิดใหม่ เป็นฮิปโปที่แอฟริกา เราไปแนะนำให้ถือศีล 5 จนแม่คนโตตายแล้วไปเกิดเป็นมนุษย์อีกครั้ง ตอนนี้ก็อายุ 50 กว่าแล้ว บวชเป็นชีตลอดชีวิต น่าจะได้ขึ้นสวรรค์แน่ แม่กลาง น่าจะเหนือกว่าเราเพราะตอนใช้ชีวิตร่วมกัน กับเรา เป็นคนทำดีมีศีลธรรมชอบทำโรงทาน ตายแล้วไปเกิดบนสวรรค์ ชั้นดาวดึงส์ มีวิมานอยู่ใกล้กับ พระเขี้ยวแก้วจุฑามณี ดีกว่าเราเสียอีกภาพหนึ่งปรากฏขึ้นในความทรงจำ ภรรยาคนเล็ก ด้วยการงานแห่งพระยายมราชที่รัดตัวทำให้ลืมไปแล้วตายแล้ว ผ่านไปหลายร้อยวันแล้วสินะ ถ้าเป็นมนุษย์ก็คง เป็นร้อยปี แม่คนเล็กอยู่ที่ไหนแล้ว เขารำ
ย้อนเวลากลับไปไกรสรเทวบุตร หรือเทวบิดร ของ ชัชเทวบุตร ตำแหน่ง ณ ขณะนั้นคือพญายมราช ผ่านวันคืนนับอสงไขย ในตำแหน่งนี้ 1 วันในนรกคือ 1 ปีในเมืองมนุษย์ เวลาของที่นี่มันเดินช้าช้ามากๆ เหล่าดวงวิญญาณ ต่อคิวกันให้เขาได้ตัดสินความ จนไม่มีเวลาได้คิดอย่างอื่น แต่หลายครั้งที่มีโอกาสเขาก็จะ เรียกดอกปาริชาติมาดม เพื่อให้ระลึกได้ว่า ทำไมถึงมาอยู่ตรงนี้ตำแหน่งพญายมราชไม่ใช่ตำแหน่ง ที่ต้องผ่านการเลือกสรร หรือตั้งขึ้นมา โดยผู้ใดผู้หนึ่ง แต่อุบัติเกิดขึ้นตามกรรมของผู้นั้น การที่เขาทำงานอยู่ตรงนี้เป็นระยะเวลานานมาก เป็นเพราะว่าไม่มีใครที่กรรมสัมพันธ์กัน และทำบุญ สร้างบาปเท่าเทียมกัน ตอนอยู่ในภพมนุษย์ ที่จะมาแทนเขาได้พอดี ระยะเวลาใน ตำแหน่งนี้ จึงนานกว่า ยมราชคนก่อนหน้าเขา ซึ่งแม้ถ้าเขาเองก็จำไม่ได้แล้ว ว่าเทวบิดรของเขาคือใคร ถ้าไม่เรียกดอกปาริชาติมาดม งานของเขายุ่งมาก และช่วงพักเบรคก็ต้องดื่มน้ำทองแดง ในบางทีเขาก็ลืมไปแล้วด้วยซ้ำว่าเขาทำบาปอะไรมาเวรกรรมนั้นมีวิถีที่ประหลาดมหัศจรรย์มาก สามารถชั่งตวงวัด สิ่งที่จะเกิดขึ้นในถัดเวลาไป ไม่มีอะไรเกิดขึ้นโดยบังเอิญเลย ทุกอย่างเป็นเพราะว่า การกระทำที่ทำไว้แล้
เมื่อเปิดประตูเข้าไปมีเสียงผู้ชายกรีดร้อง แบบสาวแตกในขณะที่พี่แป๊ดก็ร้องเหมือนกันโอ๊ย...อกอีแป้นแล่นลึกเข้าตึกใน แกโวยเสร็จก็หุ่งพรวดเข้าไปข้างในทันใดนั้นเอง ยังไม่ทันที่อีก 2 คนจะโผล่หน้าตามเข้าไปในห้อง รวมทั้งชัดเทวบุตรที่ต่อคิวเป็นคนที่ 4 ด้วย ทั้ง 3 ก็ต้องผงะออกมา เพราะประตูถูกเปิดสวนทาง สาวผมบลอนด์ยาว จะใส่ชุดแซกสั้นที่ดูไม่ค่อยจะเรียบร้อยเท่าไหร่ เอามือขวาปิดปาก มือซ้ายดึงชายกระโปรง แล้ววิ่งพรวดพราดสวนไปทันที. เสียงรองเท้าส้นสูงดังก้องไปทั่วบริเวณเมื่อพี่เรียมแทรกตัวเข้าไปได้ เอก็ตามไปติดๆ สิ่งที่เห็นคือ ผู้จัดการ นั่งอยู่ที่โต๊ะทำงานตัวใหญ่ ด้านหลังโต๊ะทำงาน เป็นกระจกสูง มองเห็นวิวของเมืองพัทยาทั้งเมืองรวมทั้งโค้งชายหาดแสนสวย ผู้จัดการ เป็นชายไหล่กว้างตัวสูงเกือบ 2 เมตร ในชุดสูทหันหลัง และ มองเห็นภาพสะท้อนออกมาจากกระจกใส ทำท่าเหมือนกำลังใส่เข็มขัด ทั้ง 3 คนพี่แป๊ดเรียมและเอ ยืนเรียงกันหน้าโต๊ะเหมือนนักเรียนโดนครูฝ่ายปกครองเรียกมาทำโทษ พี่แป๊ดแก้มแดงไปจนถึงหู ส่วนพี่เรียมทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ เอก็เก้ๆกังๆ ชัชเทวบุตรลอยเลื่อนขึ้นไปนั่งบนโซฟา รอดูการแสดงอย่างใจจดใจจ่อ"เอาเงินมาส่