“คุณ...” ฉันใช้นิ้วชี้สะกิดไหล่เขาเบา ๆ ร่างใหญ่นอนนิ่งไม่รู้สึกตัว
“คุณ ๆ” ฉันเรียกเขาเสียงดังขึ้น และมันก็ได้ผลเขาขยับตัวหันมาหาฉัน ต่อเถอะได้โปรด…
“อะไร นอนเถอะมีประชุม” ใครจะไปหลับลง คุณพระ แกล้งกันแบบนี้เป็นรอบที่สองแล้ว ฉันนอนข่มตา ทำยังไงก็ไม่หลับ นอนกระสับกระส่ายกว่าจะหลับได้ก็ปาไปเกือบเช้า
พอเจ็ดโมงฉันต้องตื่นมาเตรียมอาหารเช้าให้คุณชายอีก ง่วงก็ง่วง
ฉันทอดไข่ดาวกับไส้กรอกเสร็จ เขาก็เดินออกมาจากห้อง จะออกไปทำงานพอดี หมั่นไส้ชะมัด“จะกินได้มั้ย?” เขานั่งลงจ้องอาหารเช้าที่อยู่ตรงหน้า สลับกับมองมาที่ฉัน ฉันไม่ตอบเขา รีบเดินตึงตังเข้าไปนอนต่อในห้อง ไม่รู้ว่าจะโกรธจะงอนเขาทำไม
ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันฉันหลับไปนานเท่าไหร่ไม่รู้ ตื่นมาอีกทีก็เกือบเย็นแล้ว แหงล่ะไม่ได้นอนทั้งคืน ปวดหัวสุด ๆ
‘ตึง’ เสียงไลน์เด้งขึ้นมา
LINE | ตาหน้าเมื่อย
[ตาหน้าเมื่อย: เตรียมตัวห้าโมงจะออกไปข้างนอก]
ฉันอ่านไม่ตอบฟอร์มอยู่ แต่ลุกไปอาบน้ำแต่งตัวใส่ชุดใหม่ และไม่ลืมกระเป๋าใบใหม่ที่เพิ่งซื้อมาด้วย ยืนหมุนซ้ายขวาอยู่สักพัก ไม่อยากจะเชื่อจริง ๆ
ว่าตัวเองจะมีปัญญาใส่ของแพง ๆ พวกนี้ใกล้ห้าโมง ฉันออกมาจากห้องก็เจอพี่นพยืนอยู่
“อ่าวพี่นพ นึกว่าอยู่กับคุณเซ็น เขามาถึงแล้วเหรอคะ”
“คุณเซ็นขับรถไปเองครับ เห็นว่าใกล้จะถึงแล้ว เชิญคุณณีเวียเลยครับ”
พี่นพเดินนำไปกดลิฟต์ให้ สักพักลิฟต์ก็มาหยุดชั้นหนึ่ง ซึ่งเป็นห้าง จากนั้นพี่นพก็พาฉันเดินไปนั่งร้านกาแฟร้านหนึ่ง ซึ่งติด ๆ กับประตู แถมคอยยืนข้างหลังฉัน เป็นบอดี้การ์ดให้อีก รู้สึกสวยขึ้นมาทันที
“อ้าว ลูกสาว!” ฉันละสายตาจากจอมือถือ มองไปตามต้นเสียง ก็ต้องเจอกับบุคคลที่ขึ้นชื่อว่าฉันเกลียดที่สุดในโลก
“ใครลูกเธอ” แม่เลี้ยงหัวเราะคิกคัก กอดอกยืนมองฉันหัวจรดเท้า
“ปากดีเหมือนเดิมเลยนิ ไม่อด ๆ อยาก ๆ หรอกเหรอ หรือว่าไปขายตัวให้เสี่ยแก่ ๆ แถวนี้ ถึงมีกระเป๋าแพง ๆ ถือ มีลูกน้องคุม อิอิ”
เมื่อหล่อนพูดจาดูถูกฉันจบ แน่นอนทุกคนหันมามองฉันเป็นตาเดียว เสียงซุบซิบเริ่มเข้าหูฉัน จนฉันทนไม่ไหวลุกขึ้นยืนกอดอกจ้องหน้าหล่อนเขม็ง
“พี่นพ มีปืนมั้ย” ฉันหันไปพูดกับพี่นพเบา ๆ
“เอ่อ มีครับ แต่ใจเย็น ๆ นะครับคุณณีเวีย ที่นี่ห้างคุณเซ็นครับ” พี่นพคอยเตือนสติฉันอยู่ตลอดเวลา
ฉันคิดว่า หากหล่อนยังปากพล่อยไม่เลิกฉันจะเอาปืนจากพี่นพนี่ล่ะ กรอกปากหล่อนซะ! เมื่อฉันถือไพ่เหนือกว่า ฉันจึงหันไปแสยะปากใส่แม่เลี้ยงอสรพิษมองหล่อนกลับ จากหัว... จรดเท้า
“นี่... คุณ อย่าคิดว่าคนอื่นเป็นเหมือนตัวเองสิคะ เอาเต้าไต่มาเป็นเมียน้อยพ่อฉัน จนแม่ฉันตรอมใจตาย ยังกล้าเนอะ มั่นหน้ามั่นโหนกมาดูถูกคนอื่น
ฉันจะบอกอะไรให้นะ อย่างน้อยฉันก็ไม่คิดแย่งผัวใคร!”‘เพี๊ยะ!’ หน้าฉันหันและชาไปข้างหนึ่งเพราะหล่อนตบหน้าฉันจัง ๆ โดยที่ฉันไม่ทันตั้งตัว
“ลาเต้ร้อนพร้อมแล้วค่ะ”
ในขณะนั้นพนักงานสาวสวยก็มาเสิร์ฟกาแฟพอดิบพอดี
‘ซ่า’
“กรี๊ด… ร้อน นังเด็กบ้า ฉันจะฆ่าแก” หล่อนดิ้นทุรนทุราย วิ่งมาบีบคอฉัน พี่นพรีบจับหล่อนแยกไปจากฉันทันที ตอนนี้หล่อนเหมือนคนเสียสติยังพยายามวิ่งมาบีบคอฉันอีกรอบ
“ถ้าคุณแตะต้องคนของผมอีก อย่าหาว่าผมไม่เตือน!” คุณเซ็นเดินมาจากไหนไม่รู้ ประกาศกร้าวเสียงดัง สายตานิ่ง ๆ ของเขา จ้องหน้าแม่เลี้ยงเขม็ง
หล่อนมองซ้ายขวาเหมือนกับว่าตัวเองจะถูกทุกคนรุม โดยเฉพาะสายตาคนในร้านที่มองหล่อนเป็นตาเดียว
“เหอะ คอยดูเถอะนังเด็กปากดี ฉันจะปอกลอกพ่อแกจนหมดตัว
ให้พ่อแกตรอมใจตายตามแม่แกไปอีกคน นังเด็กใจแตก” สารเลว! ฉันหันไปคว้าปืนที่พี่นพ ก่อนจะรีบวิ่งตามหล่อนออกไป วันนี้ต้องตายกันไปข้างนึง“หยุดณีเวีย” ฉันถูกคว้ามาโอบไว้แน่น ก่อนที่คุณเซ็นจะแย่งปืนออกไปจากมือ
“ปล่อยคุณ! คุณไม่รู้เหรอกว่ามันทำอะไรกับแม่ ทำอะไรกับฉันไว้ แล้วนี่จะทำพ่อฉันอีก!” ฉันดิ้นสุดแรง หวังจะหลุดจากอ้อมแขนแข็งแรงนี่ แต่ยิ่งดิ้นเขายิ่งกอดฉันแน่น
ร่างสูงอุ้มฉันเดินไปขึ้นรถสปอร์ตหรูของเขา ก่อนจะรีบบึ่งรถออกมา
“ฮือ ๆ” อยู่ ๆ น้ำตาฉันก็ไหลเป็นทาง ถึงใจจะโกรธพ่ออยู่ แต่ตอนนี้ฉันเป็นห่วงพ่อมาก เมื่อไหร่ผู้หญิงคนนี้จะไปพ้น ๆ สักที ฉันก้มมองมือถือทั้งน้ำตา
ใจอยากจะกดโทรหา แต่อีกใจกลับไม่กล้าพอ“ไม่ต้องเครียด” มือหนาเอื้อมมากุมมือฉันไว้ ฉันหันไปมองชายข้าง ๆ และน้ำตามากมายก็ไหลออกมาอีกระรอก
“คะคุณ... ฉันเป็นห่วงพ่อ” นิ้วยาวตบไฟเลี้ยวเข้าจอดในปั๊มน้ำมันก่อนจะหันมามองหน้าฉัน
“อยู่ในรถนะ เดี๋ยวผมมา”
--- น้ำหวาน --- ฉันคลอดลูกมาเกือบปีแล้ว ตอนนี้ลูก ๆ สามคนกำลังนั่งเล่นสนุกสนานกับเพื่อน ๆ ในคอกเด็กขนาดใหญ่ ในนั้นมี... เวียร์ ซินน์ ไออุ่น นาวา นาวิน และน้ำปั่น วันนี้เรานัดทานข้าวและมีปาร์ตี้เล็ก ๆ กันที่บ้านแตงโม เหล่าแม่ ๆ อย่างเรานั่งคุยกัน และมองดูลูกตัวเองเป็นระยะ “แง...” ไออุ่นร้องไห้ เมื่อนาวินดึงของเล่นออกจากมือ แตงโมหัวเราะ เบา ๆ แล้วเดินไปอุ้มลูกมานั่งตัก “เบา ๆ นะลูกเดี๋ยวโดนน้อง” และปรามน้องไออุ่นไปด้วย เพราะกลัวโดนน้องอีกคนที่อยู่ในท้อง ใช่ค่ะ แตงโมท้องอีกแล้ว! ท้องได้สามเดือนแล้ว ส่วนณีเวียกับฉันขอบาย เราขอพักก่อน ผ่าคลอดมา ยังเสียวท้องอยู่เลย อย่างอื่นก็ยังเสียวอยู่นะ ว่างก็กินกับสามี ว่างบ่อยก็กินบ่อย เฮ้อ... มันเป็นความสุขของชีวิตอีกอย่างหนึ่งจริง ๆ สามีสูตินารีแพทย์ของฉัน เดินไปอุ้มน้ำปั่นที่คอก ก่อนจะเดินยิ้มมาหาฉัน มองยังไงก็หล่อคุณพ่อคนนี้ “น้ำปั่น น้ำหนักขึ้นหรือเปล่าลูก” คุณพ่อสูตินารีแพทย์แซวลูกสาวคนเล็ก ลูกสาวตอบไม่ได้ ได้แต่ยิ้มและหัวเราะให้ผู้เป็นพ่อ แถมยังใช้แก้มป่อง ๆ ซบคลอเคลียพ่อของเขาอีก น้ำปั่นติดหมอนายหนักมาก! สงสัยคนที่ได้ยินเ
ฉันหันหาคุณพ่อคุณแม่ทันที “คุณพ่อคุณแม่ขับรถช้าเหมือนเต่า” หมอเท็นเดินตามฉัน และบอกมาหน้านิ่ง ๆ “โอ้ย! ปวดท้อง... ปวด! ไม่ไหวแล้ว!” ฉันกรีดร้อง! ทำไม ฉันไม่มีสามีวิ่งตามจับมือเหมือนชาวบ้านเขาเนี่ย ให้ตาย! มีแค่น้องสามีที่เหมือนมาแต่วิญญาณ ฮือ ๆ ไม่นานฉันก็ถูกเข็นเข้ามาในห้องคลอดแล้ว! ฉันหอบเหนื่อยเหงื่อท่วมตัว และถูกพามาห้องนึง ก่อนที่พยาบาลจะตรวจอะไรต่าง ๆ นา ๆ เร็ว ๆ เถอะ! ฉันจะตายแล้ว! “พยาบาลฉันจะตายแล้วค่ะ ตามหมอ ตามหมอด่วน” ฉันส่ายหน้าไปมา ปวดท้องหน่วงมาก แขนสองข้างสั่นแทบจะไม่มีแรงแล้ว ลูกสามคน สามคนเลยนะเว้ย! “ค่ะ คุณน้ำหวาน เดี๋ยวให้ยาแก้ปวดก่อนนะคะ ตอนนี้ห้องผ่าตัดยังไม่พร้อมค่ะ” ยังไม่พร้อม! รอให้ฉันตายก่อนใช่ไหม! “หะ! หวานจะตายก่อนไหม ไม่ผ่าก็ได้ คลอดธรรมชาติเลย หวานพร้อม ฮือ ๆ หวานทนไม่ได้แน่ ๆ” ฉันกุมท้องกรีดร้องบนเตียง “ไม่ได้ค่ะ คุณน้ำหวานมีทารกในครรภ์สามคน คุณน้ำหวานอาจจะช็อกได้ อดทนหน่อยนะคะ” อดทน! ใครจะไปทนได้!
ฉันนั่งมองหมวยน้อยกับณีเวีย ก็อดยิ้มตามไม่ได้ แตงโมคลอดธรรมชาติ! ไม่อยากจะเชื่อ ฉันหน่ะสิ สามคนในท้อง หากคลอดธรรมชาติฉันอาจจะขาดใจตายก่อน ตอนนี้ฉันท้องได้เจ็ดเดือนแล้ว ไม่ต้องถามว่าท้องใหญ่แค่ไหน มันใหญ่จนฉันเดินไม่ไหวเลยล่ะ ฮ่องกงถูกแคนเซิลถาวร ไม่มีกำหนดไป แต่ได้หุ้นห้าสิบเปอร์เซ็นต์กับเบนซ์เอสคลาสเป็นของขวัญแต่งงานนะจ๊ะ ฉันนั่งคุยกับเพื่อนสักพัก เพื่อรอสามีออกเวร สลับไปห้องแตงโมบ้าง ห้องณีเวียบ้าง ณีเวียเจ็บแผลคุณเซ็นจึงเป็นคนเลี้ยงลูก วุ่นวายจนต้องเอางานมาทำที่โรงพยาบาล เห็นแล้วน่ารักดี แต่ก็แอบขำ ‘ก๊อก ก๊อก ก๊อก’ หมอนายเปิดประตูเข้ามา เดินมาตรวจแผลณีเวีย “อย่าหัวเราะดังนะ ระวังแผลฉีก” ณีเวียตกใจเอามือปิดปากทันที “ค่ะ อิอิ จะพยายาม” หมอนายยิ้ม แล้วเดินกลับมาหาฉัน เขานั่งลง เอามือสองข้างโอบท้องฉันไว้ “ไงครับ ลูกพ่อ” เท่านั้นล่ะ! ตุบ ๆ ฉันหลับตาปี๋ ฉันจุก! ลูกถีบหนักมาก รวมพลังเป็นหนึ่งเดียวทันที เมื่อได้ยินเสียงพ่อเขา “โอ้ย เบา ๆ ลูก แม่จุกแล้ว” ฉันลูบท้องปราม ณีเวี
ฉันอยากจะบ้า อยากจะบ้าจริง ๆ ฉันทรมานมากตอนนี้ “ใช่สิสามชั่วโมงผ่าไม่ได้ แตงโมกินเยอะไหม” หมอนายถามฉันอีกครั้ง พลางยกนาฬิกาข้อมือดู… “เรื่อย ๆ ค่ะ คุยไปกินไป ฮือ ๆ” ฉันหลับตาปี๋ ปวดทรมานไปหมด “งั้นประมาณ หกชั่วโมง ไม่เป็นไรเดี๋ยวให้ยาแก้ปวดก่อน” ฮือ ๆ หกชั่วโมง กับยาแก้ปวด โอ้ย! แล้วมันหายปวดเป็นปลิดทิ้งมั้ยล่ะ! “หมอคะ เร็วกว่านี้ไม่ได้เหรอ” ไออุ่นเริ่มถีบท้องฉันรัวแล้ว โอ้ยลูก! อย่าซน ใจเย็น ๆ ลูกแม่ปวด “ไม่ได้จริง ๆ ปกติ ต้องงดข้าวงดน้ำหนึ่งวันเต็ม ๆ” “หมอ แตง... โอ้ย ๆ แตงแจ้งตั้งแต่ฝากครรภ์แล้ว ฮือ ๆ ว่าจะผ่า ไม่คลอดธรรมชาติเด็ดขาด” หมอนายเดินมาใกล้ ๆ ฉัน “ทำไม คลอดธรรมชาติมันปลอดภัยกว่านะ แผลหายเร็วด้วยเจ็บแป๊บเดียว ปวดขนาดนี้ลองเบ่งดูก่อนไหม” ฉันกุมท้องนอนร้องไห้ ในใจนึกโกรธสามี ทำไมฉันต้องมาทรมานคนเดียวด้วย อิตาเอส! “หมอ... ฮือ ๆ ขอยาแก้ปวดก่อนค่ะ ๆ ด่วน” ฉันถูกเข็นไปอีกห้อง และได้ยาแก้ปวดเรียบร้อย อาการทุเลาลง แต่ถามว่ายังปวดไหม ปวดสิ! “พยาบาล
ฉันยืนมองณีเวียและคุณเซ็น ยิ้มกันมีความสุข ก็อดยิ้มตามไม่ได้เลย ลูก ๆ พวกเขาน่ารักมาก น่ารักจริง ๆ เยี่ยมเพื่อนและหลาน ๆ เสร็จ ฉันกับตาเอสก็ออกมาจากโรงพยาบาล ระหว่างอยู่ในรถฉันก็คิดวนเวียนอยู่เรื่องเดียว จะเจ็บแค่ไหนนะ! ณีเวียบอกกับฉันว่าตอนปวดท้องคลอด มันปวดมาก ปวดเหมือนจะตาย ตุบ ๆ นั่นไง พอนึกถึงเรื่องนี้ ลูกสาวตัวดีของฉันก็ดิ้นใหญ่ ฉันลูบท้องเบา ๆ จนสามีเอื้อมมือมาลูบด้วย “ลูกสาวพ่อ พร้อมหรือยัง” ถามแม่บ้างเถอะ! กลัวชะมัด “ฉันยังไม่พร้อม! อย่าเพิ่งสิ” ตาเอสหัวเราะเบา ๆ ก่อนจะยกมือขึ้นมาหยิกแก้มฉัน “หมวยเธอมันพลังช้างอยู่แล้ว เบ่งเลยสะใจ” “นายลองไปนอนเบ่งดูไหมล่ะตาบ้า!” เขาหัวเราะชอบใจ หน้ากวน ๆ หันมายักคิ้วให้ฉัน “หรือจะผ่าก่อน… จะได้ไม่ต้องเจ็บสองทาง” ฉันหันไปมองเขาทันที เจ็บสองทางงั้นเหรอ “ถ้าถึงกำหนดคลอดก็คลอดเลยสิ ถ้าไม่ปวดก่อน” เอ๊ะก็ดีเหมือนกัน ว่าแต่สามีกวน ๆ ของฉัน ทำไมรู้ดีนัก “รู้ดีนะ” เขายักคิ้วยิ้มกริ่ม
23.56 ฉันเดินเข้าออกห้องน้ำเป็นว่าเล่น สามีนักธุรกิจของฉัน เขายังคงนั่งทำงานที่ห้องทำงานอีกฝั่ง ส่วนฉันตอนนี้ไม่มั่นใจเลยจริง ๆ ว่าตัวเองท้องเสีย หรือจะคลอด ทำไมปวดท้องแบบนี้ ฉันค่อย ๆ จับผนังหวังประคองตัวเองเปิดประตู อยากไปอยู่ใกล้ ๆ คุณเซ็นให้อุ่นใจ แต่ซ่า... นะ น้ำอะไร ฉันไม่ได้ฉี่ราดนะ หรือมันจะเป็น... เป็นน้ำคล่ำ! “กรี๊ด...” ฉันจับประตูกรี๊ดลั่น ดังทั้งเพนท์เฮ้าส์ จนสามีวิ่งออกมาจากห้องทำงาน “เป็นอะไร! เห้ย…” คุณเซ็นวิ่งมาประคองฉันทันที ตอนนี้ฉันเหงื่อท่วมตัว อาการปวดท้องหน่วงมันเริ่มหนักขึ้น หนักจนฉันพรรณนาออกมาไม่ได้! “ไม่ไหว ปวดท้องแล้ว ปวดแล้ว! ฮือ!” ฉันบีบมือเขาแน่น น้ำตาไหลออกมาอาบแก้ม คุณเซ็นรีบโทรหาคนขับรถ และโรงพยาบาลทันที “ผมเซ็นดิณภัทร! ณีเวียภรรยาผม เธอปวดท้องครับ หมอเจ้าไข้ หมอนาย ขอบคุณครับ” เขารีบวางสายแล้วโทรอีกครั้ง “นพเตรียมรถด่วน!” โอ้ย! อะไรนักหนา พาฉันไปโรงพยาบาลเดี๋ยวนี้! ไม่ไหวแล้ว! “คุณ ไปโร