‘แอดมินนิวนิวอยู่มั้ยค้าาา'
ฉันหยุดคิดเรื่องนั้น แล้วกลับไปเข้าโปรแกรมแต่งเสียงก่อนจะเปิดไมค์ตอบ "อยู่ค่ะ ว่าไง" 'รู้สึกว่ามีโรคจิตตามค่ะ ตอนนี้กลัวมากเราควรทำยังไงดีคะ แจ้งความดีมั้ย?' จะบอกว่าไงดีล่ะ...ฉันยังจะเอาตัวไม่รอดเลย ไม่รู้ไอ้แอค SOIL นั่นเป็นใคร ถึงจะได้มือถือมาทำลายหลักฐานที่มันจะแบล็คเมล์แล้ว แต่ฉันยังรู้สึกไม่ปลอดภัยอยู่ดี ไหนจะคุณแทนไทนั่นอีก โอ๊ยอยากจะกรี๊ดดังๆให้โลกแตก ไม่รู้ใครน่ากลัวกว่ากันแน่! "ถ้าไม่สบายใจก็แจ้งความเลยค่ะ และพยายามอย่าไปไหนมาไหนคนเดียวนะคะ" พอฉันตอบไปในไลฟ์กลับเงียบกริบ ทุกคนไม่มีใครพูดแม้กระทั่งหมอที่ประจำอยู่ในบอร์ด จนฉันตัดสินใจเรียกอีกครั้งเพื่อเช็คสัญญาณ "ฮัลโหล อยู่ไหมคะ?" 'งั้นแอดมินก็อย่าไปไหนมาไหนคนเดียวนะคะ...เป็นห่วง' ฉันกดปิดไมค์อีกครั้ง เสียงที่ตอบกลับมาเป็นเสียงผู้หญิงก็จริง แต่น้ำเสียงในโทนทุ้มต่ำทำให้รู้ได้เลยว่าคนคนนั้นก็ผ่านโปรแกรมแต่งเสียงมาเหมือนกัน ฉันจึงเลือกไม่ตอบรีบทักแชทส่วนตัวไปหาสมาชิกคนอื่น ก่อนที่จะบล็อกผู้ใช้รายนั้นไปเพืื่อตัดปัญหา ซึ่งสมาชิกที่อยู่ในเว็บไม่ว่าจะหมอจริงๆ หรือคนปรึกษาคนอื่นๆ เราต่างไม่รู้ว่าใครเป็นใคร หนึ่งปีที่ฉันสร้างเว็บไซต์นี้ขึ้นมา เราอยู่อย่างพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน แล้วไอ้เรื่องโรคจิตเนี่ยก็เป็นรายแรกที่ปั่นประสาทฉันขนาดนี้ ปกติถ้าเจอพวกบ้ากามตามวอแวในบอร์ด ฉันบล็อกก็จบเรื่อง KEE-DOCTOR : ไม่มีอะไรหรอก อย่าคิดมาก Admin : เมื่อวานมีผู้ชายคนนึงส่งรูปนิวนิวมา มันแฮ็กกล้องแม็คบุ๊คนิวนิว KEE-DOCTOR : ไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้ หรือไม่ก็เหมือนที่พูดไปเมื่อกี้คืออย่าพึ่งไปไหนมาไหนคนเดียว ครอบครัวนิวนิวรู้ไหมว่าเปิดเว็บไซต์นี้ Admin: ไม่มีใครรู้เลยน่ะสิ อยากปรึกษาพ่อแม่เหมือนกัน แต่กลัวท่านซักไซ้ถึงที่มาที่ไป KEE-DOCTOR : งั้นก็ไปแจ้งความไว้ก็ดี เป็นกำลังใจให้ อย่าคิดมากล่ะ Admin : ขอบคุณนะ KEE-DOCTOR: ครับผม ด็อกเตอร์กีเป็นผู้ชายหรอกเหรอ? นึกว่าเป็นผู้หญิงซะอีก ฉันปิดแม็คบุ๊คแล้วล้มตัวนอนมองเพดาน การใช้ชีวิตหลังจากนี้ต้องระมัดระวังแล้วล่ะ ทำไมคนอย่างนิวนิวผู้สดใสซาบซ่าต้องมาเจอเรื่องแบบนี้ด้วยนะ ไอ้ SOIL ไอ้หัวเห็ด! ฉันจะสาบแกร๊! "ทำไมสภาพเป็นแบบนั้น" ฉันยังไม่ตอบพ่อ เลื่อนเก้าอี้นั่งหน้าบูดบึ้ง จนแม่ที่เพิ่งเดินออกมาจากในครัวถามขึ้นมาต่อ "นิวยอร์ก เป็นอะไรลูก?" "นอนไม่ค่อยหลับค่ะแม่" "ทะเลาะกับแฟน?" พอแม่ถามแบบนั้นพ่อฉันก็วางแก้วกาแฟลงทันที ก่อนที่จะจ้องหน้าฉันด้วยสายตาคาดคั้น และคาดโทษ "เปล่าค่ะหนูยังไม่มีแฟน คือว่า..." "ไม่มีก็ดี เป็นเด็กเป็นเล็กไม่ต้องไปยุ่งกับผู้ชาย" บุรุษอาวุโสหัวโต๊ะพูดตัดขึ้นมา และจากนั้นก็ทำเมินหยิบหนังสือพิมพ์ขึ้นมาอ่าน ส่วนแม่เริ่มก้มกินมื้อเช้าของท่าน ไม่มีใครถามฉันสักคำว่าฉันจะพูดอะไร จนฉันตัดสินใจถามเรื่องอื่นนั่นก็คือเรื่องพี่ชายของตัวเอง "พี่โซลไปไหนคะ" "ไปบินกลับมะรืน แล้วลูกล่ะงานที่บริษัทเป็นไงบ้าง โอเคใช่มั้ย?" "โอเคค่ะ สนุกดี" "งั้นวันนี้แม่ขอติดรถไปด้วยนะ ต้องไปสำนักงานสายการบิน เกิดเรื่องอีกแล้ว" ฉันพยักหน้าเบาๆ แล้วหยิบส้อมจิ้มไข่ดาวตัวเองจนแตก ตอนนี้ที่นั่งร่วมโต๊ะมีพ่อกับแม่แค่สองคน งั้นถือโอกาสแนะนำให้รู้จักเลยแล้วกัน พ่อฉันเป็นกัปตันชื่อ'ต้นไม้' ส่วนแม่เป็นคณะกรรมการสอบวินัยสายการบินเวลฟายชื่อ 'เจแปน' แต่เมื่อก่อนเป็นแอร์โฮสเตสนะ ท่านสวยใสซาบซ่าเหมือนฉันเลย แต่ดันไปซวยเจอพ่อ และได้ทายาทอสูรอย่างพี่ชายฉันที่ชื่อ 'โซล' ก็เลยหยุดบินไปทำงานที่สำนักงานแทน บ้านฉันไม่ได้รวยร้อยล้านพันล้านหรอก แต่ให้ตายยังไงก็ไม่มีวันลำบาก เนื่องจากบริษัทมาสเตอร์มอนสเตอร์เป็นบริษัทใหญ่ของครอบครัวพ่อฉัน มีหุ้นปันผลมาให้ท่านก้อนโตทุกปี พอกินข้าวเสร็จ สาววัยทำงานอย่างฉันก็ควงแขนแม่ออกจากบ้านขับรถมินิคันน้อยของตัวเองไปบริษัท แต่เมื่อลับตาพ่อขับเข้าถนนใหญ่เท่านั้น คนข้างๆที่อัดอั้นตันใจมานานก็แตะแขนฉันเปิดประเด็นทันที "นิวยอร์ก อย่าไปฟังพ่อมากนะลูก" "คะ เรื่องอะไรแม่?" "เรื่องผู้ชายไง" ฉันหรี่เสียงวิทยุลง จนแม่พูดต่อด้วยสีหน้าเหนื่อยใจ "อายุยี่สิบหกแล้ว มีแฟนได้แล้ว รักใครชอบใครก็คบๆไปเถอะ แม่อยากให้นิวยอร์กมีคนดูแลนะลูก" "หนูดูแลตัวเองได้ค่ะ" "แล้ว...คุยกับใครอยู่รึเปล่า?" ฉันส่ายหน้า "มีใครมาจีบรึเปล่า" ฉันส่ายหน้าอีกครั้ง "หรือลูกจีบใครบ้างมั้ย?" ฉันส่ายหน้ารัวกว่าเดิม แล้วหลังจากนั้นแม่ก็ถอนหายใจเฮือก หันไปชมนกชมไม้ข้างถนน "แม่อยากให้เราเป็นฝั่งเป็นฝาก่อนโซลซะอีก จะได้สบายใจ หายห่วง" ฉันยิ้มตอบขณะที่มือตบไฟเลี้ยวจอดรถที่หน้าสำนักงาน "ถ้าจะมีก็มีเองค่ะแม่ นี่ๆถึงสำนักงานแล้ว วันนี้สอบวินัยนักบินเหรอคะ?" แม่หยิบกระเป๋าสะพายคล้องแขนแล้วรวบแฟ้มเอกสารมากอดแนบอก "เปล่า แอร์โฮสเตสน่ะ เมื่อวันก่อนเจอผู้โดยสารโรคจิตลวนลาม แล้วแอร์ก็ตกใจยกถังน้ำแข็งทุบหัวผู้โดยสารเข้าให้ เรื่องใหญ่เลย" โรคจิตอีกแล้วเหรอ? เหอะ...ทำไมนิวนิวเจอแต่คำนี้หลอกหลอนนะ "ก็...ไม่ผิดนี่คะ ป้องกันตัว" "ใช่ไม่ผิด แต่ตามกฎต้องมีการสืบสวน แม่ไปนะคะลูก ตั้งใจทำงานและหาแฟนมาไหว้แม่เร็วๆนะ" แม่ยกมือโอบแก้มฉันแล้วส่งยิ้มหวานๆมาให้ ฉันจึงโน้มไปหอมแก้มท่านฟอดใหญ่เป็นของแถม "เฮ้ออออ หอมแก้มแม่นี่ชื่นใจจริงๆ" "เดี๋ยวได้หอมแก้มหนุ่มก็ลืมแก้มแม่แล้ว" ฉันส่ายหน้าด้วยรอยยิ้ม "ไม่ลืมค่ะ แม่จะกลับเองมั้ยคะหรือให้หนูมารับ" "แม่กลับเองดีกว่าบ้านเราอยู่ตรงนี้เอง นิวยอร์กทำงานเถอะลูก ไม่ต้องห่วงแม่" ฉันยิ้มแล้วโบกมือบ้ายบาย และเมื่อแม่ลงจากรถเดินเข้าสำนักงานไป ฉันก็เปิดไฟเลี้ยวเตรียมออกรถตามองกระจกมองหลัง และกระจกข้างอย่างระมัดระวัง พอเห็นว่ามีรถโรลส์รอยส์มาชะลอข้างหลังก็รีบออกรถทันที ใจคิดว่ารถหรูคันนั้นจะเข้าสำนักงาน แต่ไม่ใช่! อยู่ๆรถคันนั้นก็เร่งเครื่องตามฉันมา และตอนนี้ก็มาจอดติดไฟแดงเทียบฉันแล้ว กระจกฝั่งคนขับใสแจ๋วรู้ว่าคนขับรถแต่งตัวดีมียูนิฟอร์ม แต่ด้านหลังมันมืดสนิทจนฉันแทบมองไม่ออกว่ามีคนนั่งอยู่ แปลกๆ ทะแม่งๆ แล้วนั่นไฟแดงเกือบร้อยห้าสิบวิ แม่เจ้า... ทำไมมันนานจัง ตอนนี้ฉันมือเปียกไปด้วยเหงื่อ นั่งคอแข็งมองตรง แต่หางตาเจ้ากรรมก็ดันเหลือบไปเห็นคนขับรถมองมาที่ฉันเป็นระยะๆ ซึ่งพอไฟเขียวเท่านั้นแหละ ฉันก็รีบเหยียบคันเร่งออกรถตีออกห่าง แต่รถคันนั้นก็ยังพยายามไม่ลดละ มันขับตามทุกเลน ฉันปาดใครมันปาดด้วย ฉันแซงใครมันแซงด้วย จนไปถึงบริษัทก็ยังเลี้ยวตามอีก ฉันรีบจอดรถที่ช่องจอดของผู้บริหาร ก่อนที่จะคว้ากระเป๋าสะพายสีชมพูปุกปุยลงจากรถ และวิ่งผ่านรถคันนั้นที่ชะลอจอดตามไปหายาม "สวัสดีครับคุณนิวยอร์ก" ยามทักทายอย่างอารมณ์ดี และฉันก็รีบยิ้มหวานตอบ พยายามไม่สนใจรถโรลส์รอยซ์คันนั้นที่จอดอยู่ แต่หารู้ไม่ว่าหัวใจเต้นแรงมือไม้สั่นไปหมดแล้ว ฉันกลัวจริงๆนะ...ใครก็ได้ช่วยที! "จะ...เจ้โบอิ้งมารึยังคะ" "มาแล้วครับ เอ่อ...คุณนิวยอร์กเป็นอะไรรึเปล่า?" เมื่อพี่ยามเห็นว่าฉันอยู่ไม่นิ่ง เขาก็เดินมาถามใกล้ๆ ด้วยน้ำเสียงที่เบาลง "เอ่อ รถคันนั้นเหมือนจะตามหนูมาเลยค่ะ" ฉันบอกยามขณะที่ปากยังพยายามยิ้มให้เขา เพราะไม่อยากให้รถคันนั้นสงสัย จนสุดท้ายพี่ยามรับบทเป็นฮีโร่ เขาพยักหน้ารับรู้แล้วเดินไปเคาะกระจกรถคันนั้นอย่างรวดเร็ว ฉันจึงฉวยโอกาสนี้รีบสาวเท้ากึ่งเดินกึ่งวิ่งเข้าไปในตัวอาคาร ก่อนจะจ๊ะเอ๋กับพี่แพรที่ยืนคัดจดหมายที่ฝ่ายประชาสัมพันธ์ แล้วเบรคเอี๊ยดดด! "วิ่งมาจากไหนคะคุณนิวยอร์ก" "มีรถขับตามหนูมาค่ะพี่แพร" "คะ รถอะไรคะ?" "รถคันข้างนอกที่ยามคุยอยู่ ขับตามหนูมาค่ะ รถหรูๆรถโลส์รอยด์" พี่แพรชะเง้อมอง แต่เธอไม่สนใจที่จะออกไปดูเลย กลับเดินยิ้มมาหาฉันแล้วส่งแค่จดหมายซองสีน้ำตาลให้ "จดหมายของคุณนิวยอร์กค่ะ" "ขอบคุณค่ะ" ฉันรับจดหมายมาแล้วหันไปมองรถคันนั้นอีกครั้ง ก่อนจะเดินไปกดลิฟต์ขึ้นห้องทำงานปกติ วันนี้ฉันไม่ได้พกแม็คบุ๊คมา เพราะต้องการจะหยุดเล่นเว็บสักพัก และทำงานหนักๆให้ลืมเรื่องที่เกิดขึ้น แต่เมื่อหย่อนก้นลงที่เก้าทำงาน หยิบคัตเตอร์กรีดซองเอกสาร สิ่งที่ดึงออกมาลื่นๆ ก็ทำให้ฉันรีบโยนมันลงบนโต๊ะ พรึบ! และเบะหน้ามองอย่างรังเกียจ มือสองข้างสั่นเทาน้ำตาคลอเบ้า ฉันลุกขึ้นถอยออกไปมองไกลๆ และหายใจหอบหนักเหมือนคนจะเป็นลม ใช่มันคือรูปถ่ายฉัน... เป็นรูปเดียวกันกับที่แอค SOIL เคยส่งมา! แถมมีข้อความเขียนด้วยปากกาสีแดงในเชิงคุกคามอีกว่า... 'ผมชอบแอดมินนิวนิว อยากมีเซ็กส์กับแอดมิน' และสิ่งที่ทุเรศน่าสะอิดสะเอียดที่สุดคือมีถุงยางอนามัยที่ใช้แล้วผูกน้ำขาวขุ่นไว้เต็มถุง ฉันทำหน้าเหยเกจะอ้วกให้ได้ ใจอยากจะเรียกแม่บ้านมาหยิบทิ้งซะตอนนี้ แต่พอคิดไปคิดมาก็กลัวเป็นขี้ปากชาวบ้านอีก ทำกันขนาดนี้ฉันชักจะไม่ไหวแล้วนะ! รถที่ขับตามฉันมามันเป็นหรูหลายสิบล้าน ถ้าเดาไม่ผิดต้องเป็นคุณแทนไทแน่ๆ เขาคือโรคจิต ยังไงเขาก็คือไอ้ SOIL! ไม่อย่างนั้นเขาจะตามฉันทำไม แถมมือถือก็ไม่ปฏิเสธ จับได้เหมือนคนเป็นใบ้ ยังไงก็คือเขาแน่นอน 'ครืนนน ครืนนนน' ฉันสะดุ้ง มองไปที่มือถือในกระเป๋าปุกปุยน้ำตาคลอเบ้า ก่อนที่จะตัดสินใจรวบรวมความกล้า และเอื้อมไปหยิบมันออกมาเปิดดูข้อความใจเต้นรัว 099-55423xx | Message 'ชอบของขวัญผมไหมครับ ที่รัก / SOIL '"ใครคือคนที่ทำร้ายเด็กชายคนนั้นครับ?"คำถามของแทนคุณทำให้ฉันกับคุณแทนไทมองหน้ากันโดยไม่ได้นัดหมาย จนลูกถามต่อ"สุดท้ายตัวร้ายเป็นยังไงครับ?"ค่ะ เราไม่สามารถบอกได้เลยว่าเด็กชายในนิทานได้จบชีวิตตัวร้ายในเรื่องด้วยมือของเขาเอง ลูกยังเด็ก เขาไม่ควรรับรู้เรื่องแบบนี้ อีกอย่างเขายังไม่เข้าใจชีวิตของผู้ใหญ่ดี"เด็กชายคนนั้นให้อภัยเขาค่ะ" ฉันตอบแทนสามี แต่ทำให้แทนขวัญถอนหายใจเฮือกอย่างเบื่อหน่าย"เฮ้อ... ให้อภัยง่ายจัง""ให้อภัยก็ดีแล้ว ยายบอกว่าโตขึ้นต้องรู้จักรับผิด และรู้จักให้อภัยคนอื่น"ฉันนอนฟังเงียบๆ แยกออกเลยว่าทัศนคติของลูกทั้งสองคนเป็นยังไง แทนทิวหลับปุ๋ยแล้วคนนี้ไม่นับ แต่แทนคุณแทนขวัญต่างกันมาก แทนคุณเหมือนพ่อก็จริง แต่เขายังมีความใจดีอ่อนโยนแทนขวัญยังดูเป็นคนเด็ดขาดมากกว่าอีกซึ่งพอลูกพูดแบบนั้นสามีฉันก็เงียบไปเลย เขานอนมองเพดานราวกับตกอยู่ในภวังค์อะไรบางอย่าง ซึ่งฉันก็ไม่กล้าถามด้วยว่าคิดอะไรอยู่จนรุ่งเช้าวันต่อมา ขณะที่ฉันนั่งให้นมลูกอยู่ที่ริมกระจก คุณแทนไทก็เดินมานั่งกับฉัน"วันนี้ไม่ไปไหนเหรอคะ?" ฉันถามเขา แต่สายตามาเฟียลูกสามจ้องไปที่ลูกชายคนเล็กที่เข้าเต้าฉันอยู่"ไม่
"แทนขวัญทำไมทำแบบนี้" ฉันจะเดินไปหวดลูกแต่สามีดึงแขนไว้และพยักหน้าบอกให้นั่งลง ซึ่งไม่นานบอดี้การ์ดก็พาองศามา แขนเด็กน้อยเป็นรอยฟันเลยค่ะ ฉันที่เป็นแม่คนเหมือนกันเห็นแล้วปวดใจจริงๆ"ทำไมกัดพี่" คุณแทนไทถามลูกเสียงเข้ม "ก็นิสัยไม่ดีนี่คะ""แล้วรู้รึเปล่าว่าที่เราคือทำนิสัยไม่ดีกว่า""..." ตัวแสบให้คำตอบไม่ได้"ขอโทษเดี๋ยวนี้" แทนขวัญมองพ่อตาปริบๆ "พ่อสั่งให้ขอโทษพี่เดี๋ยวนี้!" "มะ แม่ขา" พอโดนพ่อตวาดลูกสาวสุดที่รักของคุณแทนไทก็หันมาเบ้ปากร้องกับฉัน ฉันมองนิ่งๆถึงจะปวดหัวใจกับเสียงร้องสะอื้นของลูกก็ตาม แต่นาทีนี้ต้องทนแล้วล่ะค่ะ"ขอโทษพี่องศานะแทนขวัญ" ฉันบอกลูกเบาๆ "แม่...ฮือฮึก หนูไม่รักพ่อแล้ว หนูรักแม่คนเดียว""แม่รู้ แต่หนูผิดนะลูก ไม่ใช้กำลังนะ" ในที่สุดฉันก็ทนไม่ไหวลุกขึ้นเดินไปหาลูกอีกคน จนแทนขวัญโผมากอดขาฉันแล้วร้องไห้งอแง คุณแทนไทถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย สอดมือล้วงกระเป๋ากางเกงมองไปที่ครอบครัวองศา"ขอโทษแทนลูกสาวด้วย" "ไม่เป็นไรๆ เด็กเล่นกัน" คุณลีอองตอบกลับมาท่าทางสบาย แต่ขณะนั้นองศาเงยขึ้นบอกพ่อของเขา"ผมโดนหมากัดครับป๊า" จ้า ตัวแสบแทนขวัญผละออกจากฉันมองหน้าองศาตาเ
"บอกตรงๆนะวาววา ตอนนี้ฉันเป็นห่วงเธอเหมือนเธอเป็นลูกอีกคนเลย ฉันอยากให้เธอสมหวังกับความรัก กล้าเดินหน้าสักที อย่าปิดกั้นตัวเองเลยนะพี่อัทธ์เขาขอเธอเป็นแฟนบ้างมั้ย? หรือไม่เคย"วาววาทำหน้าละห้อย แววตาซุกซนกำลังมีน้ำตาเอ่อเต็มสองตา"เขาไม่ได้ขอเป็นแฟน" "อ้าว แสดงว่าเขาก็แค่สนุกกับเธอเหมือนเดิมเหรอ ไม่ได้นะ ฉันไม่ยอม""เปล่า แต่เขาขอฉันแต่งงาน" ฉันจ้องหน้าวาววาเพราะจบคำว่า 'แต่งงาน' น้ำตาหยดใสที่ค้างในตาก็หยดเผาะลงมาทันที ฉันจึงเอื้อมไปจับมือเธอปลอบ"ฉันพยายามคิดแล้ว แต่ฉันกลัวการแต่งงานมากเลย เพราะไอ้บ้านั่นมันฆ่าฉันทั้งเป็น ทุกวันที่อยู่ด้วยกันฉันคิดมาตลอดว่าจะฆ่ามันด้วยวิธีไหน เหมือนตกนรกอ่ะนิวยอร์ก""อื้ม ฉันเข้าใจ""เธอโชคดีมาก เธอรู้ไหมว่าผู้หญิงหลายคนผิดหวังกับการมีครอบครัวเพราะมีผัวเป็นตัวเฮีย" เรื่องนี้จริง ผู้หญิงเวลาจะฝากชีวิตกับใครคาดหวังเต็มร้อยทั้งนั้น การแต่งงานไม่ใช่เรื่องเล่นๆ "แล้วถ้าเธอยังยื้อเป็นเพื่อนนอนกันแบบนี้ต่อไป เกิดมีคนแย่งพี่อัทธ์ไปล่ะจะทำยังไง วาววาถ้าชอบใครก็ลุยเลย ชีวิตคนเราไม่แน่นอน เวลาก็เดินหน้าเรื่อยๆ อย่าจมปลักกับอดีตเลยนะ"วาววาจับมือฉันทันที "เธอ
"ตกใจอะไร?" คุณแทนไทถาม และฉันก็รีบนั่งลงทันทีเพราะไม่อยากให้แฟนขายหน้า"ปะ เปล่าค่ะ ป๊ะป๋าไม่ได้บอกหนูเรื่องนี้""มันคือธุรกิจ" "ใช่ครับ คุณแทนไทกำลังจับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์อยู่ และตอนนี้มูลค่าของที่ดินตรงนั้นก็สูงขึ้นทุกปี" เพนส์เฮาส์ห้องเดียวก็สามร้อยล้านถ้าซื้อทั้งตึกกี่บาท ตอนนั้นฉันคิดไม่ออกเลยว่าจะทำยังไงต่อ จะห้ามสามีก็ไม่ได้ เขาคุยเรื่องการซื้อขายอย่างจริงจัง และทุกอย่างก็เป็นไปตามที่เขาต้องการ ฉันนั่งเงียบไม่ออกความเห็นอะไรทั้งนั้น จนเราแยกจากคุณเกรย์ขับรถไปรับลูกที่บ้านพ่อแม่คุณแทนไทก็อธิบายให้ฉันฟัง วันนี้เราลงทุนไปหมื่นล้าน... อีกไม่นานได้กลับมาสองหมื่นล้านแน่ๆ เขาอยากซื้อให้มันเพิ่มมูลค่า และยกมันให้ลูกทั้งสามของเราแถมย้ำให้ฉันเข้าใจด้วยนะ ว่าอสังหาริมทรัพย์มันไม่ใช่ของที่ซื้อสูญเปล่า แต่มันคือเงินต่อเงิน ยอมค่ะ ฉันไม่เคยขัดอะไรคุณแทนไทได้สักครั้งเพราะผู้ชายคนนี้ฉลาดมาก ถึงจะตัดสินใจเร็วแต่ก็มีความรอบคอบคิดถึงผลลัพธ์ก่อนเสมอบ้านวรพงศ์กุล"ทำไมมารับหนูช้า เชอะ!" แทนขวัญขึ้นรถมาก็บ่นทันที แถมยังทำหน้าบึ้งตึงใส่พ่อแม่อีกด้วย"รู้รึเปล่าว่ากำลังจะมีน้อง" คุณแทนไทถามลู
"อ่ะได้ แต่แค่คืนเดียวเท่านั้นนะ" พอพ่อรับปากพี่โซลเท่านั้นแหละ คุณสามีกับพี่ชายก็ลุกขึ้นจับมือกันทันที สองคนนี้ญาติดีและสนิทกันกว่าที่ฉันคิด คงเป็นเพราะตอนที่เกิดเรื่องที่อังกฤษบวกกับเวลาที่ล่วงเลยมาหลายปี คุณแทนไทเขาได้พิสูจน์ให้พี่ชายฉันเห็นหมดแล้ว"เอ้อ แล้วที่แพลนไว้อยากได้ลูกสาวหรือลูกชายล่ะแทนไท" แม่ฉันถาม รู้นะว่าอยากหลีกเลี่ยงเรื่องใต้สะดือน่ะ"ได้ทั้งหมดครับ" ฉันยิ้มกว้างกับคำตอบสามี พอมีเจ้าตัวแสบแทนขวัญก็เปิดใจรับลูกสาวเลยนะป๊ะป๋า"ถ้าได้แฝดอีกคู่ คงสนุกสนานกันแน่ๆเลยค่ะ" "แล้วใบผักไม่สนใจลูกแฝดบ้างเหรอ?" พอโดนพ่อถามกลับพี่ใบผักก็ยิ้มเขินๆ"แหะๆ ทางนี้ก็ได้หมดเหมือนกันค่ะ แฝดก็ได้ เดี่ยวก็ดี" พี่โซลลุกขึ้นทันที"งั้นไปทำเลย""เดี๋ยวๆ กินข้าวเสร็จก่อนโซล ลูกคนนี้จริงๆเลยนะ" ร่างสูงนั่งลงตามเดิมแล้วหันไปยิ้มกับภรรยาอย่างน่ารัก เรียกเสียงหัวเราะให้กับพ่อแม่จนต้องกุมท้องกันเลยทีเดียว ส่วนเด็กๆที่เงียบไปไม่ได้ไปไหนหรอกค่ะคงหิวกันมาก แทนขวัญ แทนคุณ ซีลีนตั้งใจกินข้าวของตัวเองอย่างเอร็ดอร่อย มีบ้างที่ฉันแกะกุ้งและตักเนื้อปลาให้ อะไรที่ลูกอยากกินหาให้หมด ไอ้ต้าวเด็กแฝดกำลังโต
หลายวันต่อมา...กลับจากจันทบุรีเราไม่สามารถที่จะนำเครื่องขึ้นบินได้เลย เครื่องต้องมีการตรวจเช็ค มีการขออนุญาตสนามบิน และคนที่เป็นนักบินต้องทำเรื่องอะไรอีกก็ไม่รู้วุ่นวายไปหมด ซึ่งเรื่องนี้คุณแทนไทไหว้วานให้พี่เมฆกับพ่อฉันเป็นคนจัดการส่วนเขารีบเคลียร์งานที่ค้างไว้เพื่อไปพักผ่อนกับลูกและครอบครัวฉัน ทริปภูเก็ตนี้เราไปทั้งครอบครัวค่ะ รวมถึงพี่โซลด้วย ไม่มีอะไรแฮปปี้และสุขสบายเท่านี้อีกแล้วเครื่องบินส่วนตัวมีพ่อและพี่ชายเป็นคนขับที่สำคัญบนเครื่องหรูหรามาก โซฟายาวกว้าง มีบาร์ชั้นวางไวน์ บอกเลยว่าตอนที่ฉันขึ้นมาแล้วหย่อนก้นนั่ง ฉันไม่เสียดายเงินหลายร้อยล้านที่เสียไปเลย หนึ่งชั่วโมงเครื่องก็แลนด์ดิ้งที่ภูเก็ต พี่ใบผักเคยทำงานเป็นบัตเลอร์ดูแลความสะดวกต่างๆ มีความเชี่ยวชาญจึงอาสาจองห้องพัก และทุกๆอย่างให้หมดแล้ว เป็นบ้านพูลวิลล่าหลังใหญ่สามหลังติด มาถึงแทนขวัญก็ดี๊ด๊าดีใจมาก เธอชวนลูกพี่ลูกน้องอย่างซีลีนเปลี่ยนชุดว่ายน้ำบิกินีลายเปลือกหอย และวิ่งลงไปนอนกลิ้งบนทรายเหมือนหมูเกยตื้น ก็พุงน้อยๆล้ำออกมาซะขนาดนั้นไม่ให้ฉันว่าเป็นหมูได้ยังไง แต่ไม่ต้องห่วงว่าลูกจะวิ่งลงน้ำหรอกนะ เพราะทันทีที่แทน