Share

5. ลู่ทางหาเงิน (1)

last update Last Updated: 2025-06-23 20:40:24

“ท่านพี่ได้มูมู่มาได้อย่างไรหรือเจ้าคะ ทั้งยังไม่เสียเงินสักตำลึงเดียว” ซูเมิ่งเอ่ยถามสามีพลางวางชาและขนมเชาปิ้งที่แม่นมลี่ทำให้บุตรและสามี

“พี่ก็ทูลขอต่อฝ่าบาทมาอย่างไรเล่า กว่าจะได้เจ้ามูมู่มา พ่อเกือบหัวขาดเสียแล้ว” ลู่หวังเหล่ยเองยังตกใจกับความใจกล้าของตนที่กล้าทูลขอต่อฮ่องเต้เฉิงเจี้ยนกั๋ว ด้วยความที่บุตรสาวของเขาถามถึงลูกเสืออยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน พอเห็นว่ามีลูกเสืออยู่ตรงหน้าจึงได้พลั้งปากออกไป

“ห๊า!!! หัวขาดเยยหยือ…เยว่ชิง โอ๋ๆ ท่านพ่อนะเจ้าคะ” เยว่ชิงที่รับรู้ถึงความยากลำบากของบิดาจึงรีบเข้าไปกอดออดอ้อนให้บิดาชื่นใจ

“เจ้าคงต้องโอ๋ๆ พ่อให้มากเสียแล้ว” ผู้เป็นบิดาโอบกอดบุตรสาวเข้าแนบอกอย่างสุขใจ

“เรื่องราวเป็นอย่างไรเจ้าคะ เหตุใดถึงขั้นต้องทูลขอต่อฝ่าบาท”

“ในวันล่าสัตว์ องค์ชายรองเฉิงเจียงหยวนล่าเสือขาวตัวเมียมาได้ แต่เมื่อนำเสือตัวนั้นกลับมาที่ลานพิธีกลับพบว่ามีลูกเสือตัวน้อยถึงสองตัวที่เดินตามมา ฝ่าบาททรงคาดเดาว่าอาจจะเป็นลูกของเสือขาวที่ถูกล่า คราแรกฝ่าบาทจะสังหารเพื่อเซ่นไหว้เทพเจ้า แต่เป็นองค์ชายใหญ่เฉิงหลิวหยางที่ทูลขอเอาไว้ พระองค์จะนำไปเลี้ยง พ่อได้ยินเช่นนั้นจึงพลั้งปากทูลขอมาให้ลูกเลี้ยงหนึ่งตัว” เดิมทีสัตว์ที่ถูกล่าได้จะต้องนำไปเซ่นไหว้เทพเจ้าทั้งหมด แต่ทว่าองค์ชายให้กลับกล่าวว่าลูกเสือสองตัวนั้นมิได้ถูกล่ามา แต่พวกมันเพียงเดินตามแม่เสือมา ฮ่องเต้เจี้ยนกั๋วที่ตามใจโอรสองค์โตก็มิเอ่ยขัด ยอมยกให้องค์ชายใหญ่จัดการเรื่องนี้

“แล้วฝ่าบาทก็ยกให้อย่างนั้นหรือเจ้าคะ”

“มิได้ เป็นองค์ชายใหญ่ที่ยกให้ พอพระองค์รู้ว่าเป็นบุตรสาวที่อยากเลี้ยงลูกเสือ พระองค์จึงเลือกตัวผู้มาให้ ทั้งยังบอกว่าหากมันโตขึ้นจะได้ดูแลเยว่ชิงของเราได้” ลู่หวังเหล่ยยกยิ้มขึ้นมาเมื่อนึกถึงคำขององค์ชายใหญ่ ช่างรักหยกถนอมบุปผายิ่งนัก (ผู้ที่อ่อนโยนต่อสตรี)

“เยว่ชิงยักท่านพ่อที่สุด” เด็กน้อยถูไถแก้มกลมไปตามอกแกร่งของบิดา

“หึๆ ส่วนพวกเจ้าก็อย่าน้อยใจไป พ่อนำของฝากมาให้พวกเจ้าทุกคนเช่นกัน” ลู่หวังเหล่ยเอ่ยบอกบุตรชายทั้งสาม พลางโอบกอดบุตรสาวเอาไว้แน่น

“โถ่ ข้ามิได้น้อยใจเสียหน่อย ท่านพ่อก็พูดไป ผู้ใดจะน้อยใจเพียงเพราะเรื่องเท่านี้เล่า ชิ” หมิงยู่แสร้งทำท่าแง่งอน ท่าทางแตกต่างจากถ้อยคำที่พูดออกมาโดยสิ้นเชิง

“คิกๆ ขนาดว่าพี่รองไม่น้อยใจ ยังทำปากยื่นถึงเพียงนี้ หากพี่รองน้อยใจเห็นทีปากพี่รองคงเหมือนเป็ดไปแล้วกระมัง” คำพูดของลี่อินทำเอาทุกคนถึงกับหัวเราะร่าออกมา เสียงหัวเราะสนุกสนานของครอบครัวสกุลลู่ดังลั่นไปทั่วเรือน พูดคุยกันได้ไม่นานทุกคนก็แยกย้ายกันเข้านอน จะมีก็แต่เยว่ชิงที่บัดนี้กำลังนอนพูดคุยอยู่กับมูมู่ เยว่ชิงมีห้องนอนเป็นของตนเอง โดยมีแม่นมลี่รับหน้าที่มาดูแลและนอนเฝ้าเด็กน้อย

“อีกหนึ่งหนาว เจ้าคงโตพอจะสู้กับสุนัขได้แย้ว ถึงตอนนั้นกัดมันคืนไปเยยนะ” เด็กน้อยตัวกลมพูดกับลูกเสือของตนพลางลูบหัวมันเบาๆ เท่านี้เยว่ชิงก็เบาใจลงได้หนึ่งเรื่อง ต่อไปก็คงจะเป็นเรื่องที่พี่สามป่วย

“อีกเพียงสี่หนาว…จะทำอย่างไยดี” เยว่ชิงเกลียดเสียงของนางในตอนนี้เป็นที่สุด คำพูดที่ดูไม่ชัดถ้อยชัดคำยิ่งทำให้เยว่ชิงหงุดหงิด มันดูไม่เท่เอาเสียเลย ท่านพ่อ ท่านแม่ และพี่ชายมักบอกว่าการที่นางพูดไม่ชัดนั้นดูน่ารักน่าเอ็นดู แต่มิใช่สำหรับนาง เฮ้อออ เมื่อไรนางจะพูดชัดเสียทีนะ อยากโตเป็นผู้ใหญ่แล้วววว~

“นี่ มูมู่ เจ้ากินจุหยือไม่ หากกินจุข้าคงต้องรีบหาเงินแล้ว ข้ามิอยากให้ท่านพ่อ ท่านแม่ต้องเหนื่อยหาเงินมาเยี้ยงดูเจ้า เจ้าเป็นสัตว์เยี้ยงของข้า ข้าจะหาของกินมาให้เจ้าเองนะ”

แผลบๆ ไม่มีเสียงตอบรับของมูมู่ มีเพียงลิ้นเปียกๆ ที่เลียบนแขนเยว่ชิงคล้ายกับเป็นการตอบรับ

“จะหาเงินอย่างไยดี ข้าอายุเพียงสามหนาวเท่านั้น” เยว่ชิงเริ่มคิดหนัก หากว่านางโตกว่านี้คงจะสามารถทำงานได้ ชีวิตก่อนแม้นางจะเป็นถึงลูกสาวเจ้าพ่อคาสิโน แต่นางก็เคยไปทำงานพาร์ทไทม์อยู่บ้าง ถึงตอนนั้นจะทำไปเพราะอยากออกไปเที่ยวเล่นกับเพื่อนหลังเลิกงานก็เถอะ แต่การได้เงินจากน้ำพักน้ำแรงของตัวเองมันก็ภูมิใจไม่น้อยเลยทีเดียว แต่ตอนนี้คงไม่มีผู้ใดรับเด็กน้อยเข้าทำงานเป็นแน่

เช่นนี้จะหาเงินมาจากที่ใดได้อีกเล่า!

“การทำสิ่งใดให้สำเร็จจะต้องเริ่มจากสิ่งที่เราสนใจหรือไม่ก็สิ่งที่เราถนัดก่อน แล้วจึงค่อยพัฒนาต่อยอดภายหลัง” คำพูดของคุณพ่อที่เฝ้าสอนเยว่ชิงดังขึ้นมาในหัว

แล้วนางถนัดสิ่งใดเล่า เค็นโด ยิงปืน ยิงธนู เกม ไพ่ คาสิโน…คาสิโน!

“การพนัน!” เยว่ชิงรีบตะครุบปากของตนเองทันที เมื่อเผลอส่งเสียงดังจนแม่นมลี่ขยับตัวไปมา

“ฟู่ว~” ดีที่แม่นมลี่ไม่ตื่นขึ้นมา ไม่อย่างนั้นนางจะต้องโดนดุเป็นแน่ มือเล็กป้อมลูกอกเบาๆ คล้ายกับต้องการปลอบใจตัวเอง

เยว่ชิงตั้งสติกลับมาคิดเรื่องการพนันต่อ ในชีวิตก่อนนางคลุกคลีกับการพนันมาหลายรูปแบบ เอ่ยได้ว่านางเติบโตมากับการพนันก็ว่าได้ แต่หากจะนำการพนันมาหาเงินในยุคนี้อาจจะเป็นไปได้ยาก เพราะดูเหมือนว่าการพนันในยุคนี้ยังคงผิดกฎหมายบ้านเมืองอยู่ อย่าว่าแต่ยุคนี้เลย แม้แต่ในชีวิตเดิมของนางยังมีเพียงไม่กี่ประเทศที่มีคาสิโนถูกกฎหมาย เช่นนี้แล้วคงจะใช้การพนันมาหาเงินไม่ได้

“เห้อออ ยุ่งยากเสียจริง” เยว่ชิงที่ถอดถอนหายใจอย่างปลงตก แต่จู่ๆ ตากลมเล็กก็เบิกกว้างขึ้น

ถ้าเป็นเกมเล่า เกมการแข่งขัน!

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • พอกันทีกับบทนางเอกแสนอาภัพ   100. บทเรียนจากมารดา (ตอนพิเศษ)

    “เสด็จพ่อ มิอยู่หรือเพคะ อื้ม” เสียงเล็กของเด็กหญิงวัยหกหนาวเอ่ยถามมารดาทั้งที่มือยังคงนำขนมเข้าปากน้อยๆ ไม่หยุด“ฉิเงอ๋อร์ เจ้าเรียบร้อยให้สมกับเป็นสตรีเสียบ้างเถิด” เยว่ชิงนำผ้ามาเช็ดปากให้บุตรสาวตัวน้อย ดูทีเถิดอันเอ๋อร์บุตรสาวของพี่ใหญ่กับเสี่ยวจูอายุเพียงสี่หนาวยังนั่งกินเรียบร้อยมิเลอะเทอะแม้แต่น้อย“มิจำเป็นเพคะ ท่านลุงรองเอ่ยว่ายามเสด็จแม่เด็กก็แก่นเซี้ยวเช่นฉิงเอ๋อร์” แม้จะถูกมารดาดุ แต่เด็กหญิงตัวน้อยกลับมาใส่ใจ เอาแต่กัดกินขนมด้วยท่าทีสบายอารมณ์“เสด็จแม่คงต้องทำใจเสียแล้วพ่ะย่ะค่ะ บุตรของผู้ใดย่อมเหมือนผู้นั้น ฉิงเอ๋อร์ย่อมซุกซนเหมือนเสด็จแม่ อันเอ๋อร์ย่อมเรียบร้อยเหนียมอายดั่งท่านป้าเผิงจู ส่วนอาหรานเองก็ปากเก่งเช่นท่านลุงรอง” อาหรานที่จางหย่งเอ่ยถึงคือ ลู่ห่าวหราน บุตรชายของพี่รองและพี่ฟางเอ๋อร์ที่อายุได้เพียงสี่หนาว แต่กลับช่างพูดช่างเจรจาดั่งพี่รองมิมีผิด“คิกๆ”“เสี่ยวจู เจ้าหัวเราะข้าหรือ”“มิได้เพคะพระชายา เพียงแต่หม่อมฉันนึกถึงยามที่พระชายาเป็นเด็ก ท่านหญิงมิมีสิ่งใดต่างจากพระชายาเลยเพคะ” เผิงจูยกมือปิดปากหัวเราะ ท่านหญิงช่างเหมือนพระชายาเหลือเกิน ส่วนท่านชายใหญ่ก็

  • พอกันทีกับบทนางเอกแสนอาภัพ   99. ขอบคุณ

    “ปล่อยอาหย่งกับฉิงเอ๋อร์ไว้กับเหล่าองค์ชายจะดีหรือเพคะ เยว่ชิงกลัวว่าเจ้าก้อนของเราจะไปทำให้เหล่าองค์ชายลำบากเอาได้” บุตรชายและบุตรสาวของนางนั้นแม้จะเลี้ยงไม่ยาก ทว่าเอาแต่ใจตนเองเป็นที่หนึ่ง อยากร้องก็ร้อง อยากหยุดก็หยุด ชอบเล่นสนุกจนบางครั้งทำให้ขันทีฟ่งหรานถึงกับเหนื่อยหอบลมแทบจับ นางเกรงว่าเจ้าก้อนทั้งสองของนางจะทำให้เหล่าองค์ชายปวดหัวเอาได้“ฮ่าๆ มิได้ห่วงเจ้าก้อนหรอกหรือ” หลิวหยางพาเยว่ชิงควบม้าออกมาห่างจากเมืองหลวงพอควร เพื่อพาร่างบางไปยังสถานที่หนึ่ง ที่เขาได้ตระเตรียมเอาไว้นานแล้ว“เจ้าก้อนทั้งสองของเรา หากว่ามีพี่สามอยู่ เยว่ชิงก็มิห่วงอันใดแล้วเพคะ ทั้งเหล่าองค์ชายเองก็เอ็นดูอาหย่งและฉิงเอ๋อร์ของเราถึงเพียงนั้น จะต้องห่วงอันใดอีกเล่า…ว่าแต่ท่านพี่จะพาเยว่ชิงไปที่ใดหรือเพคะ” นัยน์ตาสดใสมองไปรอบข้างอยู่นาน แต่ก็มิคุ้นกับที่ทางเหล่านี้สักเท่าใด“พี่พาเจ้าออกมาเที่ยวเล่นอย่างไรเล่า จะได้มิน้อยใจ หาว่าพี่สนใจแต่บุตรมิสนใจมารดา”“โถ่~ เรื่องเพียงเท่านี้ ผู้ใดจะน้อยใจเล่าเพคะ” แขนเล็กถูกยกขึ้นกอดอก ดวงหน้างดงามเชิดขึ้นดั่งถือดี เพื่อกลบเกลื่อนความเขินอายที่ถูกสวามีจับได้ว่าแอบน้อย

  • พอกันทีกับบทนางเอกแสนอาภัพ   98. พบปะเสด็จอา (3)

    “อู้ๆ คิก เจี่ยมๆ”“โอ้ ฉิงเอ๋อร์ของลุงวาดภาพได้งดงามยิ่ง หากอาหย่งก็กลับมาแล้ว เราเอาไปอวดเขาดีหรือไม่ หืม” หมิงยู่ว่า พลางนำผ้าเช็ดหน้าออกมาเช็ดคราบสีที่ติดใบหน้าหลานสาวตัวน้อยออก อีกสองเดือนข้างหน้าก็จะถึงฤกษ์แต่งของเขากับฟางเอ๋อร์แล้ว ถึงครานั้นเขาจะรีบมีบุตรให้ทันใช้ เดิมทีมีการกำหนดฤกษ์แต่งก่อนหน้านี้ แต่ทว่าพี่ชายของฟางเอ๋อร์ออกเรือไปส่งสินค้าต่างแคว้นมิอาจมาร่วมงานได้ พวกเขาจึงเลื่อนออกไป เพราะอยากให้ครอบครัวอยู่กันพร้อมหน้าในวันสำคัญ“คารวะองค์ชายทั้งห้าพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมพาอาหย่งไปเปลี่ยนอาภรณ์ตัวใหม่มาแล้ว รับรองว่ากลิ่นหอมฉุย” ลี่อินอุ้มจางหย่งเข้ามาในศาลาที่เหล่าองค์ชายนั่งอยู่ รอยยิ้มหวานหยดของคุณชายรองลู่ทำเอาใครบางคนถึงกับหันมองมิวางตา จนเหล่าพี่น้องจับสังเกตได้“เชิญคุณชายรองและคุณชายสามลู่ตามสบาย ถือว่าพวกข้ามาพักผ่อนดั่งครอบครัวทั่วไป ใช่หรือไม่น้องสี่” จ้านฉือที่เห็นว่าน้องชายยังมิละสายตาจากใบหน้างามจึงได้เอ่ยเรียกสติ“พ่ะย่ะค่ะเสด็จพี่ คุณชายลู่พาอาหย่งมานั่งเถิด” เมื่อองค์ชายสี่เอ่ยเรียกคุณชายลู่ ทำให้ทั้งลี่อินและหมิงยู่ชะงักมองหน้ากัน เพราะมิรู้ว่าองค์ชายเอ่ยเรี

  • พอกันทีกับบทนางเอกแสนอาภัพ   97. พบปะเสด็จอา (2)

    “ข้าฝากเจ้าพวกเจ้าด้วย มิถึงสองชั่วยามข้าก็กลับมาแล้ว หากว่ามีสิ่งใดก็เรียกฟ่งหราน หรือไม่ก็ขอคุณชายสามลู่ช่วยได้” ในยามเว่ย (13:00 – 14.59 น.) หลิวหยางตั้งใจจะออกไปที่หนึ่งกับเยว่ชิงตามลำพัง ทั้งบรรดาน้องชายอยากออกมาสังสรรค์กันที่จวนอ๋องของเขา เขาจึงใช้โอกาสนี้ขอให้น้องชายมาช่วยอยู่เป็นเพื่อนเล่นกับบุตรทั้งสองเดิมทีเฉินกงและเผิงจูคิดจะตามไปด้วย แต่เขาคิดว่าควรจะให้เฉินกงได้พักเสียบ้าง จึงให้คู่บ่าวสาวที่พึ่งจะตบแต่งกันไปเมื่อสามเดือนก่อนได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกันบ้าง เฉิงกงจึงพาเผิงจูออกไปอารามเพื่อขอบุตร“เสด็จพี่ใหญ่ไว้ใจข้าได้ ข้าน่ะเลี้ยงเด็กมามาก เพียงแค่หลานสองคนจะยากสักเท่าใดกันเชียว” องค์ชายห้าเฉิงเฟยฟาตบอกตนเองอย่างมั่นอกมั่นใจ“หึ เด็กที่เจ้าเลี้ยงมิใช่เด็กทารกนะเจ้าห้า” องค์ชายสี่ส่ายหัวอย่างเอือมระอา เด็กที่น้องชายเขาว่าคงมิพ้นสาวงามในหอนางโลมเป็นแน่เหล่าองค์ชายต่างหัวเราะออกมาเมื่อรู้ว่าองค์ชายสี่หมายถึงเรื่องใด เว้นก็แต่ผู้ที่ถูกว่าอย่างองค์ชายห้า“เอาเถิดๆ บุตรของข้าเลี้ยงง่าย มิทำให้พวกเจ้าหนักใจเป็นแน่ ถือเสียว่าออกมาพักผ่อนนอกวังเสียบ้าง” หลิวหยางว่าพลางก้มลงจุมพิตบุตร

  • พอกันทีกับบทนางเอกแสนอาภัพ   96. พบปะเสด็จอา (1)

    กว่าเจ็ดเดือนที่หลิวหยางและเยว่ชิงแทบจะมิอยู่ห่างบุตรทั้งสอง โดยเฉพาะหลิวหยางที่ถึงขั้นหอบงานมาทำด้วยยามที่บุตรหลับ“บู้ๆ เอิ้ก แอ๊!” เสียงทารกน้อยวัยเจ็ดเดือนกำลังนอนสนทนากันอยู่บนเตียงสองคนเบาๆ ทั้งจางหย่งและอ้ายฉิงเป็นเด็กเลี้ยงง่าย มีร้องไห้งอแงตามประสาเด็กบ้าง แต่เมื่อได้ดื่มนมจากอกมารดาก็หยุดงอแงทันใด เพราะเหตุนี้ทารกน้อยทั้งสองจึงได้อ้วนท้วมสมบูรณ์ ประกอบกับผิวที่ขาวราวหิมะ ทำให้ผู้เป็นบิดามารดาและข้ารับใช้ในจวนอ๋องต่างเอ็นดูท่านชาย ท่านหญิงเป็นที่สุด“หึๆ ฉิงเอ๋อร์กับอาหย่งพูดคุยเรื่องใดกันอยู่หรือ ให้พ่อพูดคุยด้วยได้หรือไม่ หืม” หลิวหยางยื่นหน้าเข้าไปจุมพิตแก้มกลมของบุตรทั้งสองคนละทีให้หายคิดถึง เขาพึ่งจะกลับมาจากการประชุมในท้องพระโรงจึงได้ตรงกลับจวนทันที แต่ก็มิทันได้ทานมื้อเช้ากับชายาและบุตรอยู่ดี ร่างสูงจึงรีบทานอาหารและผลัดเปลี่ยนอาภรณ์ก่อนเข้ามาหาเยว่ชิงและบุตรทั้งสอง“ท่านพี่” เยว่ชิงเมื่อเห็นว่าสวามีหอมแก้มบุตร จึงได้ยื่นแก้มของตนเองให้สวามีได้หอมบ้าง ตั้งแต่มีบุตร ดูเหมือนว่าท่านอ๋องจะมิสนใจเยว่ชิงแล้ว เมื่อก่อนกลับมาจากการทำงานจะต้องมาหานางเป็นคนแรก แต่บัดนี้กลับมุ่ง

  • พอกันทีกับบทนางเอกแสนอาภัพ   95. เจ้าก้อนตัวน้อย

    “โอ๊ยยย ฮื่อ! เหตุใดจึงเจ็บเช่นนี้ ฮึก ท่านแม่ช่วยเยว่ชิงที” เสียงกรีดร้องของเยว่ชิงทำให้ผู้เป็นสวามีนั่งไม่ติด ร่างสูงเดินไปมาอยู่หน้าห้องอย่างร้อนรน เยว่ชิงมิใช่สตรีที่อ่อนแอ แต่บัดนี้นางกลับกรีดร้องออกมา ย่อมตีความได้ว่านางกำลังลำบากอยู่เป็นแน่“ท่านอ๋องนั่งลงก่อนเถิดพ่ะย่ะค่ะ มารดาของพระชายาเข้าไปอยู่ด้วยเช่นนี้ พระชายาย่อมอุ่นใจแล้ว” ลู่หวังเหล่ยและครอบครัวสกุลลู่กำลังเตรียมตัวเข้านอน แต่กลับมีทหารองครักษ์ของฮ่องเต้มาแจ้งข่าวถึงหน้าเรือน พวกเขาจึงได้รีบกลับมาที่จวนอ๋องอีกครั้ง“ท่านพ่อตา เยว่ชิงจะไม่เป็นอันใดใช่หรือไม่” ใบหน้าคมของชินอ๋องแคว้นเฉิงซีดเผือด ยิ่งได้ยินเสียงครวญครางด้วยความเจ็บปวดดังลอดออกมาเช่นนี้ ยิ่งทำให้เขาขลาดกลัวมากขึ้น“พระชายาจะปลอดภัยพ่ะย่ะค่ะ”“เจ้าอย่าได้วิตกไปหลิวหยาง สตรีคลอดลูกก็เป็นเช่นนี้ รอไม่นานบุตรของเจ้าก็จะคลอดแล้ว” ฮ่องเต้เจี้ยนกั๋วเข้ามาโอบบ่าของโอรส บีบเคล้นบ่าแกร่งเบาๆ ให้หลิวหยางได้คลายกังวลลงบ้าง“อื้ออออ กรี๊ดดดดดด”อุแว้! อุแว้! อุแว้!“นั่นอย่างไร ได้ยินหรือไม่ ฮ่าๆ ข้าได้หลานชายหรือหลานสาว!” ฮ่องเต้เจี้ยนกั๋วหัวเราะออกมาเสียงดัง เสียงทร

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status