Home / รักโบราณ / มารเร้นกายดับแสงดารา / ตอนที่ 56 ยกโทษให้พ่อเถอะ

Share

ตอนที่ 56 ยกโทษให้พ่อเถอะ

last update Last Updated: 2025-05-23 20:59:00

สองอาทิตย์ต่อมา

สมุนจอมมารทั้งสามล้อมวงก้มมองเจ้าถ่านด้วยความสงสัยว่านกน้อยตัวนี้เป็นมารปีศาจเผ่าพันธุ์ใดกันแน่

“ผ่านมานานถึงเพียงนี้ เหตุใดบาดแผลจึงยังไม่หายหรือว่าถูกพลังร้ายกาจของผู้ใดมา” เฉินซือหยางขมวดคิ้วเป็นปมนึกสงสัยเพราะจับตามองอยู่นานแล้ว

“พลังเทพอาจจะรักษาไม่ได้เพราะเป็นนกที่มาจากภพมารแต่ถึงอย่างไรพลังของนายน้อยก็ไม่ได้ผลอีก ข้าว่าเจ้าถ่านนี่มีอะไรแปลก ๆ” หลิวอิงอิงวิเคราะห์ตามความรูสึกของตัวเอง มือข้างหนึ่งเอื้อมมาจับปีกที่เป็นแผล

จิ๊บ จิ๊บ จิ๊บ จิ๊บ

“เฮอะ ดูสิ ข้าว่ามันบ่นเจ้าใหญ่เลย” โจวเหวินหลงพูดบ้าง คนที่มีสติดีที่สุดอย่างเขาจึงนึกเรื่องบางอย่างออกพลันจ้องมองดวงตาของนกน้อยอีกครั้งหนึ่ง

“...” สหายที่เหลือไม่เข้าใจว่าเขากำลังคิดจะทำอะไร

ทว่า สายตาและสีหน้าโจวเหวินหลงกลับทำให้เข้าใจได้ในทันทีจึงอุทานพร้อมกันว่า “นายท่านหรือขอรับ”

จิ๊บ จิ๊บ จิ๊บ จิ๊บ

โจวเหวินหลงรีบสะบัดเจ้าถ่านพลางขยับหนีในทันที เหตุการณ์นั้นอยู่ในสายตาของสวีลู่ชิงพอดิบพอดีจึงคิดว่าเจ้านกน้อยถูกสมุนจอมมารกลั่นแกล้ง

“พวกเจ้าทำอะไรเจ้าถ่าน” นางโพล่งถามสีหน้าตระหนกที่เห็นนกตัวเล็ก ๆ ถูกเหวี่ยงอย่างแรงเพราะความตกใจจนนอนหงายท้องอยู่บนพื้น

“ข้าเปล่าสักหน่อย” เขาปฏิเสธทันควัน

“ข้าเห็นหมดแล้ว เหตุใดจึงกล้าทำไม่รู้ไม่ชี้” นางส่ายหน้าแล้วค่อย ๆ โอบมืออุ้มเจ้าถ่านขึ้นมาด้วยความอ่อนโยน เลือดตรงปีกไหลย้อยราวกับแผลเปิด

จิ๊บ

นกน้อยมีแรงส่งเสียงเพียงเท่านั้น ทำท่าอ่อนเพลียบาดเจ็บให้นางนึกสงสาร

หลิวอิงอิงกระซิบกับสหายที่เหลือด้วยความมั่นใจเต็มร้อย “เจ้าเล่ห์เพียงนี้ ไม่ใช่ใครที่ไหนหรอก”

“อือ” คนที่เหลือพยักหน้าเห็นด้วยก่อนจะพูดว่า “เมื่อครู่ข้าตกใจไปหน่อย ไม่ได้ตั้งใจทำให้มัน... เอ่อ นายท่... เอ่อเจ้าถ่านบาดเจ็บ รบกวนท่านช่วยดูแลได้หรือไม่ขอรับ”

สวีลู่ชิงนิ่วหน้าเล็กน้อยแต่ไม่ได้พูดอะไรต่อก่อนจะพานกตัวกระจิริดไปรักษาแผลที่บ้านเล็กของตนเอง สายตาของนางดูเป็นห่วงเป็นใยและกังวลที่บาดแผลของมันไม่หายสักที

“เจ้าถูกผู้ใดทำร้ายมาหรือ” นางถามไถ่ตามประสาพยายามคิดหาวิธีรักษามันให้หายดี

จิ๊บ จิ๊บ จิ๊บ

เสียงร้องของมันดูผิวเผินเหมือนพูดโต้ตอบทั่วไปไม่ได้ความอันใด แต่คนที่รู้ความหมายเพียงคนเดียวอย่างอีนั่วกลับทำหน้ามุ่ยส่งกระแสจิตไปถึงบิดาที่กำลังเล่นละคร

“ยังไม่ถึงพันปีเลย เหตุใดท่านพ่อจึงฟื้นขึ้นมาได้เร็วเพียงนี้”

“ข้ากลับมาหาเจ้ากับนาง ทำไมถึงไม่ดีใจเล่า” เสียงกงจื่อเย่ถามบุตรชายด้วยความสงสัย “ยังโกรธข้าอยู่หรือ”

“เฮอะ” อีนั่วทำเสียงฮึดฮัดไม่พอใจ

“พ่อขอโทษ” เขาเอ่ยกับมารน้อยแผ่วเบาเพราะรู้ตัวว่าทำผิดไป ครั้งนั้นทำให้อีนั่วตกใจจนวิญญาณกระเด็นหายแถมพรากแม่ลูกจากกันนานหลายปี

แม้จะถูกบุตรชายปิดบังไม่ยอมให้เจอสวีลู่ชิงเป็นร้อยปี ทิ้งเขาไว้ในสุสานเทพเซียน ทั้ง ๆ ที่รู้ว่านางอยู่ที่ใดแต่กงจื่อเย่ไม่นึกโกรธอันใดเลยคิดว่าเขาสมควรโดนกระทำกลับบ้าง

หากครั้งนี้ต้องง้อมารน้อยอีกสักพันปีคงต้องยอมให้เป็นเช่นนั้นจึงบอกเขาไปว่า “อีนั่ว เจ้าฟังข้าให้ดี ถึงแม้ว่าข้าจะกลับมาได้แต่เวลานี้ไม่มีพลังใด ๆ ทั้งสิ้น ปกป้องเจ้าไม่ได้ ดูแลมารดาเจ้าก็ไม่ได้ เป็นเพียงเงาไร้ตัวตน ทำได้แค่แปลงกายเป็นนกตัวเล็กนิดเดียว นึกอยากเอ่ยปากพูดกับนางยังทำไม่ได้เลย เจ้ายอมให้ข้าสักเรื่องได้หรือไม่”

“...”

“กว่าข้าจะกลับมาได้คงใช้เวลานานนัก แค่อยากอยู่ข้างเจ้ากับนาง”

“ท่านพ่อกำลังคิดหลอกล่อข้าหรืออย่างไร จอมมารไร้ใจรับรู้ความรู้สึกเช่นนั้นได้แล้วหรือ” อีนั่วจ้องดวงตาสีม่วงแดงของอีกฝ่ายไม่วางคอยจับพิรุธเพราะยังคงไม่ไว้ใจคำพูดของเขา

ทว่า นกน้อยทำทีหลบสายตาราวกับโดนจับได้ว่าปิดบังอะไรไว้อยู่แต่ยังทำหน้านิ่งไม่รู้ไม่ชี้ แล้วบอกให้อีนั่วมั่นใจอยู่หนึ่งอย่าง

“ต้นไม้แห่งชีวิตกำลังงอกงามอยู่ในแก่นวิญญาณของเจ้า ความรู้สึกครึ่งหนึ่งเป็นของข้า อีกครึ่งเป็นของมารดาเจ้า เจ้าเองก็รับรู้ไม่ใช่หรือว่าข้าคิดอย่างไรกับนาง เวลานั้นจึงยอมบอกให้ข้ารู้ว่านางอยู่ที่ใด” มุมปากของนกน้อยยกขึ้นเหมือนตนเองพูดได้มีเหตุผล

ท่าทีของมารน้อยโอนอ่อนลง เขารู้ดีว่ากงจื่อเย่รู้สึกเช่นไรจึงได้ขอให้ช่วยแต่ก็อดไม่สบอารมณ์เพราะเรื่องในอดีตอยู่ดีจึงไม่ยอมยกโทษให้อีกฝ่ายเสียที

“บาดแผลนั่น จะหายเมื่อใดหรือ” เขาเอ่ยถามด้วยความสงสัยแม้จะรู้ว่าไม่เป็นอันตรายก็ตาม

“...” จอมมารตอบไม่ได้เพราะถ้าเขาหายดีขึ้นมา ไม่รู้ว่าสวีลู่ชิงจะทำอย่างไรกับเขาต่อไป

“ไม่เห็นต้องทนเจ็บเลยก็ได้นี่ หากท่านพ่ออยากอยู่ที่นี่ต่อไป ท่านแม่คงไม่ว่าอันใดอยู่แล้ว”

กงจื่อเย่หูผึ่งทันทีที่ได้ยินบุตรชายเอ่ยปากเช่นนั้น แอบอมยิ้มในใจเพราะอย่างน้อยอีกฝ่ายก็ยอมลดกำแพงลงบ้าง

ขณะที่สองพ่อลูกกำลังพูดคุยกันเพียงลำพัง เสียงเรียกของสวีลู่ชิงดังขึ้น “เจ้าถ่าน”

ดวงตาสีม่วงแดงเบิกโตด้วยความตกใจคิดไม่ถึงว่านางกรีดปลายนิ้วของตนเองต่อหน้าเขา

จิ๊บ จิ๊บ จิ๊บ จิ๊บ

คำพูดที่เปล่งออกมาจากใจกลายเป็นเพียงเสียงนกร้องแต่ถึงอย่างนั้นกลับทำให้สวีลู่ชิงพอจะคาดเดาได้ว่าเจ้าถ่านพูดอะไร

“พลังของข้าอาจจะรักษาเจ้าไม่หาย แต่ถ้าเป็นเลือดของข้าน่าจะใช้ได้” นางยื่นนิ้วชี้มาใกล้เขากลิ่นหอมหวานโชยแตะจมูกจอมมารจำแลง “ดื่มเสีย บาดแผลของเจ้าอาจจะหายดีก็เป็นได้”

กงจื่อเย่จึงจำใจต้องทำตามที่นางบอกอย่างเคร่งครัด บาดแผลที่ไม่รู้ว่าควรจะต้องหายดีเมื่อใด เห็นทีอาจจะต้องรีบหายโดยเร็ววันเพราะไม่เช่นนั้นนางคงทำเหมือนอย่างเดิม

ทันทีที่สัมผัสกับเลือดเทพดารา แววตาของเขาเคลิบเคลิ้มราวกับหลงอยู่ในภวังค์ ไม่เคยสังเกตมาก่อนเลยว่าเลือดเนื้อของเทพเซียนจะน่าพิศมัยถึงเพียงนี้

เมื่อก่อนรับรู้เพียงแต่ว่าสิ่งเหล่านี้ช่วยดับกระหายได้ ครั้งนี้เข้าใจแล้วว่าเหตุใดพวกมารปีศาจจึงจ้องจะจับผู้คนในแดนสวรรค์กินนัก

พลันสายตาเหลือบมองไปยังเทพวายุที่กำลังนั่งสมาธิอยู่เพียงลำพังก่อนจะได้ยินเสียงกระแอมไอจากอีนั่ว

“ข้ารู้น่า” เขาบอกบุตรชายด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม “ช่วยบอกมารดาของเจ้าทีว่าคราวหลังอย่าทำร้ายตนเองอีกได้หรือไม่”

“ถ้าท่านพ่อไม่รีบหาย ข้าจะจัดการท่านพ่อเอง” เขามองค้อนบิดาราวกับตั้งตนเป็นศัตรูกัน “แล้วก็ห้ามยุ่งกับท่านลุงของข้าด้วย”

กงจื่อเย่ส่ายหน้าถอนหายใจเฮือกใหญ่ ส่งกระแสจิตกลับมาหาเขา “อีนั่ว เจ้ายังเห็นข้าเป็นบิดาของเจ้าอยู่หรือไม่ ชักจะน้อยใจเสียแล้ว”

“...”

“เอาเถอะ ข้ารับปากว่าจะรีบหายบาดเจ็บแล้วก็ไม่กินท่านลุงของเจ้า” อีนั่วเหมือนได้ยินเสียงหัวเราะเล็กน้อยผ่านกระแสจิตจึงนึกว่าบิดาเจ้าเล่ห์คงคิดอะไรอยู่เป็นแน่แต่ปล่อยผ่านเพราะอย่างไรอีกฝ่ายก็สัญญาเอาไว้แล้ว

“เจ้าถ่าน ให้ข้าดูแผลได้หรือไม่” สวีลู่ชิงเอ่ยปากก่อนจับปีกนกน้อยกางสยายออก “บาดแผลเหมือนค่อย ๆ สมาน เจ้ายังเจ็บอยู่หรือไม่”

แววตาสีฟ้าแสนอ่อนโยนทำให้เขานึกถึงคืนวันเก่า ๆ ที่ได้อยู่ร่วมกันจนเกือบกลายร่างเป็นเงาดำเพื่อโอบกอดนางโดยไม่รู้ตัว เอ่ยพึมพำในใจ คืนนี้ยังมีเวลา

กลางดึกคืนนั้น

เขาวางอุบายให้อีนั่วหลับลึกแล้วสลับร่างเป็นเงามืดร่างเดิมของตนเองนอนลงข้าง ๆ สวีลู่ชิง ปลายจมูกสูดดมกลิ่นหอมจากเรือนผมสีขาวของนาง

สายตามองลำคอเรียวตรงหน้าพลางเลียริมฝีปากตนเองนึกอยากลิ้มรสเลือดของนางอีกครั้งก่อนจะก้มหน้าลงมาประทับริมฝีปากตรงลำคอของนาง

เรียวลิ้นตวัดไล้ดูดเม้มอย่างคนหิวกระหายแต่ยับยั้งชั่งใจตัวเองไว้อยู่

“อือ...” สวีลู่ชิงรู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างแปลกไปในความฝันครั้งนี้ นางมองเห็นใบหน้าเลือนรางของใครบางคนปรากฏขึ้นมา สัมผัสที่เขากอดรัดคุ้นเคยยิ่งนัก ทว่ายิ่งรู้สึกต้องการอ้อมกอดนั้นมากเท่าใดอีกใจก็อยากผลักไสออกไปมากเท่านั้น

แต่ถึงอย่างนั้นแล้ว ลึก ๆ นางกลับโหยหาคนผู้นั้นโดยไม่รู้ตัวจึงเอื้อมแขนกอดเขากลับไป

จอมมารยิ้มกว้างหยุดสัมผัสต้นคอเรียวแล้วจุมพิตหน้าผากของเทพดาราอย่างอ่อนโยน กระซิบเหมือนอย่างเคย “ยกโทษให้ข้าได้หรือไม่”

“อยากกลับมาหาเจ้าโดยเร็ว ข้าควรทำเช่นไรดี”

“อ้อมกอดของเจ้าอบอุ่นยิ่งนัก เหตุใดข้าจึงรู้สึกตัวช้าเยี่ยงนี้”

“ข้ารักเจ้า”

ทันทีที่ได้ยินคำนั้น สวีลู่ชิงซบใบหน้าเข้าอ้อมแขนของเขา ความรู้สึกท่วมท้นทำให้ต้นไม้แห่งชีวิตในแก่นวิญญาณจอมมารเบ่งบานทีละช่ออย่างช้า ๆ

“หากได้ยินคำบอกรักจากเจ้าอีกครั้ง ต้นไม้ในใจข้าคงจะผลิดอกสะพรั่งไม่มีร่วงโรย”

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 87 มารเร้นกายเคียงแสงดารา (ตอนจบ)

    จอมมารพาสวีลู่ชิงกลับมายังดินแดนสุญญตาที่เวลานี้แปรเปลี่ยนกลายเป็นบ้านของเราอย่างที่เขาพูด ที่รกร้างกว้างใหญ่แต่เดิมไม่มีอะไรอยู่ข้างในนั้นเลย กลับมาครั้งนี้สวีลู่ชิงได้เห็นว่าเรือนไม้หลังใหญ่สองชั้นลอยโดดเด่นอยู่ใจกลาง ดอกจื่อเถิงสีม่วงขาวเลื้อยประดับห้อยระย้าสวยงามยิ่งนักพื้นน้ำโดยรอบสะท้อนแสงอาทิตย์ยามเช้าระยิบระยับ และหากท้องฟ้าสดใสถูกแทนที่ด้วยจันทรา ผืนฟ้าก็จะเต็มไปด้วยละอองดาวกงจื่อเย่เนรมิตสรรพสิ่งขึ้นมาเพื่อรอต้อนรับนางกลับมายังที่ที่เป็นบ้านของเราดินแดนตรงกลางระหว่างภพมารกับภพสวรรค์ บ้านที่พวกเขาจะได้อยู่ร่วมกันชั่วนิรันดร์“อีนั่ว ข้าฝากให้เจ้าดูแลไข่ใบนั้นให้ดี ยังจำได้หรือไม่” จอมมารถามบุตรชายเพราะเห็นเขามักจะพาลี่เซียนเที่ยวเล่นกับเทพ

  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 86 สายใยรักประสาน

    นับตั้งแต่การจากไปของบุตรสาวสวีลู่ชิงตกอยู่ในความเศร้าสร้อย ความรู้สึกของนางในเวลานี้เหมือนกระตุ้นความทรงจำบางอย่างที่หลงลืมไปแล้ว สัมผัสได้เพียงว่าครั้งหนึ่งนางคงเคยสูญเสียลูกไปในช่วงเวลานี้กงจื่อเย่คอยอยู่เคียงข้างและดูแลนางไม่ให้ขาดตกบกพร่อง ทำหน้าที่สามีเป็นอย่างดีเพื่อให้นางข้ามผ่านความเจ็บปวดครั้งนี้ไปให้ได้หญิงสาวเอนศีรษะพิงไหล่กว้างของคนข้างกาย เอ่ยพึมพำว่า “ลูกสาวของเราคงจะสุขสบายดีอยู่ที่ไหนสักแห่งใช่หรือไม่”สามีของนางจึงตอบอย่างมั่นใจ “อืม ลูกสาวของเรากำลังเล่นสนุกสนานกับเพื่อนใหม่ของนาง ไม่มีเรื่องใดให้เจ้าต้องกังวลเลยลู่ชิง”รอยยิ้มบางปรากฏบนใบหน้าของหญิงสาว “เจ้าช่างสรรหาคำปลอบใจได้แปลกยิ่งนัก ลี่เซียนกำลังเล่น

  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 85 เคราะห์หนัก

    เก้าเดือนต่อมาเด็กครึ่งมารคนที่สองได้ฤกษ์ถือกำเนิด เด็กหญิงตัวน้อยมีดวงตาสีม่วงแดงเหมือนบิดา เรือนผมสีขาวคล้ายมารดา หน้าตาน่ารักน่าชังยิ่งนักสวีลู่ชิงมองหน้าลูกสาวพลางนึกถึงอีนั่วจึงเอ่ยปากบอกสามีที่นั่งอยู่ข้างกัน “เจ้าเคยอยากรู้ว่าลูกสาวของเราจะหน้าตาเหมือนผู้ใดใช่หรือไม่”“อืม” กงจื่อเย่ยิ้มกว้าง“นางหน้าตาเหมือนเจ้าไม่มีผิด” สวีลู่ชิงไล้แก้มเด็กน้อยด้วยความเอ็นดูทันใดนั้นจึงได้ยินเสียงคุ้นเคยร้องเรียกนางจากหน้าบ้าน สวีลู่ชิงเดินไปดูลาดเลาจึงได้เห็นคนที่ไม่คาดคิดว่าจะได้พบเจออีกครั้ง“ท่านแม่” อีนั่ววิ่งเข้ามากอดนางด้วยความคิดถึงเพราะถูกกักบริเวณจึง

  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 84 คำนับฟ้าดิน

    สามเดือนต่อมาระหว่างที่สวีลู่ชิงกำลังเก็บผักกาดอยู่ในสวนข้างบ้าน นางได้ยินเสียงกุบกับดังมาแต่ไกลผิดวิสัยการเดินทางของคนในหมู่บ้านแห่งนี้จึงรีบออกมาดูใบหน้าของใครบางคนทำให้นางดีใจยิ่งนัก รีบตะโกนบอกใต้เท้าสวีและฮูหยินที่พักผ่อนอยู่ข้างในได้รู้ว่า “ท่านพี่กลับมาแล้วเจ้าค่ะ”ทุกคนออกมายืนรอรับคุณชายสวีหน้าบ้าน ส่วนกงจื่อเย่เดินมากอดเอวคุณหนูเอาไว้เหมือนอย่างเคยครั้นได้เห็นบุตรชายคนโตใกล้ ๆ ใต้เท้าสวีและฮูหยินจึงได้เห็นว่าร่างกายของเขามีแต่รอยแผลเต็มไปหมด เลือดสีแดงแห้งติดเกราะและเสื้อผ้าทว่า คุณชายสวีไม่ได้กังวลเรื่องนั้นแม้แต่น้อย “ท่านพ่อ ท่านแม่ ลู่ชิง” เขาเอ่ยเรียกทั้งสามคนสีหน้าระรื่น “ข้าล้างมลทินให้สกุลสวีได้สำเร็จแล้วขอรับ”

  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 83 บิดาเจ้าน่ากลัวยิ่งนัก

    แม้จอมมารจะคิดหลายอย่างอยู่ในหัวแต่เวลานี้ยังไม่ใช่จังหวะที่ดีนักเพราะเขาต้องใช้โอกาสนี้พาสวีลู่ชิงหนีจากหอเยว่ส่างก่อนที่จะถูกใครจับได้ใครหลายคนคงคิดว่าพวกเขาใช้เวลาอยู่ร่วมกันทั้งคืน กว่าจะรู้ตัวว่านักโทษกบฏแอบหนีออกไปกับแขกที่ไม่เห็นหน้าค่าตาก็คงทิ้งห่างจากพวกเขาไปหลายชั่วยามแล้ว“หนีอย่างนั้นหรือ” นางเอ่ยถามให้แน่ใจ ความกังวลถาโถมเข้ามาไม่หยุดเพราะเกรงว่าทุกคนจะมีอันตรายไปด้วย“เชื่อใจข้าหรือไม่” กงจื่อเย่ถามแต่เพียงเท่านั้น แววตาของเขาจริงจังเสียจนนางไม่นึกสงสัยอันใดอีกจึงกุมมือเขาไว้แน่นแล้วหนีไปด้านหลังด้วยกันทาสหนุ่มฝืนตัวเองเร่งรีบไปให้ถึงจุดที่เขาผูกม้าเอาไว้ ขาข้างที่เคยบาดเจ็บสร้างความทรมานให้เขาอย่างยิ่งแม้จะผ่านมานานมากแล้วก็ตาม

  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 82 ขัดขวางเนื้อคู่

    สองเดือนต่อมาอีนั่วมาหาสวีลู่ชิงอย่างเช่นเคย ก่อนเข้าไปยังห้องรับรองก็นั่งดูหลิวอิงอิงดีดพิณ ขับร้องเพลงเสียงก้องกังวานด้วยความรื่นเริงใจจนกระทั่งมองเห็นบุรุษผู้หนึ่งในคำทำนายโชคชะตาของมารดาเจ้าตัวตะลึงงันไม่คิดว่ามนุษย์อย่างเขาจะดูมีรัศมีเหมือนเทพสวรรค์ พลันกวาดตามองรอบตัวต้องตกใจยิ่งกว่าเดิมเมื่อได้เห็นรอยยิ้มเยือกเย็นจากเทพชั้นสูง ผู้มีดวงตาสีฟ้า ผมขาวเหมือนผู้เป็นมารดาหากแต่อีนั่วยังทำใจดีสู้เสือคิดว่านั่นคือบิดาที่แปลงกายมาจึงยิ้มตอบกลับไปทักทายเทพวายุหายตัววับมาอยู่ข้างเขาในทันทีจนสมุนปีศาจแข็งทื่อเพราะรู้ว่าคนตรงหน้าคือสวีต้าเฟิงตัวจริง หลิวอิงอิงที่นั่งอยู่ตรงกลางลานแสดงถึงกับดีดเพลงพิณเพี้ยนไปสองจังหวะคิดจะหนีหายเอาตัวรอดก่อนผู้ใดแต่ถูกแส้บ่วงของเทพวายุตวัดรัดตัวนางเอาไว้

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status