Share

บทที่ 14

Author: หว่านชิงอิ๋น
ลั่วชิงยวนยืนอยู่กับที่โดยไม่ขยับ ฟู่เฉินหวนสาวเท้าสองสามก้าว จ้องมองนางด้วยความโกรธ "เจ้าเป็น

คนทำอย่างนั้นรึ?!"

ลั่วชิงยวนมองเขาอย่างสงบ พลางเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเยาะเย้ยถากถาง "ท่านเชื่อหม่อมฉันแล้วหรือเพคะ?"

คำที่นางพูดออกมาหมายถึงยอมรับมัน

ฟู่เฉินหวนรู้สึกโมโหเป็นอย่างมาก เขาดึงดาบยาวออกมาจากเอวขององครักษ์ส่วนพระองค์ พลางชี้ไปที่คอของลั่วชิงยวน และพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง "ข้าจะฆ่าเจ้า!"

ลั่วชิงยวนชูคอด้วยท่าทางเย็นชาและเย่อหยิ่ง "หากท่านอ๋องต้องการฆ่าก็ฆ่าเถิดเพคะ หลังจากที่ฆ่าหม่อมฉันแล้ว สิ่งล่อสายฟ้าในตำหนักอ๋องนี้ยังไม่ถูกถอนออกไป และพายุฝนฟ้าคะนองนี้จะกินเวลาอีกหลายวัน ตำหนักของท่านอ๋องจะกลายเป็นซากปรักหักพังเป็นแน่ อย่าได้คิดที่จะมีชีวิตอยู่ต่อแม้แต่คนเดียว!"

“เจ้า!” ฟู่เฉินหวนกำดาบยาวไว้ในมือ ก่อนจะกระอักเลือดออกมาเต็มปาก

เซียวชูพยุงฟู่เฉินหวนทันทีด้วยความตกใจ และเป็นกังวล "ท่านอ๋อง!"

“ท่านหมอกู้อยู่ที่ไหน! ท่านหมอกู้!” เซียวชูตะโกนทันที

องครักษ์นายหนึ่งตอบว่า "หมอกู้หมดสติหลังจากหนีออกมาจากกองไฟ!"

เห็นดังนั้นลั่วชิงยวนจึงก้าวไปข้างหน้า และคว้าข้อมือของฟู่เฉินหวนขึ้นมาเพื่อสัมผัสชีพจรของเขา

ดวงตาของฟู่เฉินหวนเปลี่ยนเป็นเย็นชา เขาผลักลั่วชิงยวนออกไปด้วยความโกรธ

“ท่านอ๋อง ท่านยังต้องการมีชีวิตอยู่หรือไม่? ” ลั่วชิงยวนขู่อย่างไม่เกรงกลัว

ฟู่เฉินหวนทำได้เพียงระงับความโกรธในใจ หยุดขยับตัว และปล่อยให้นางจับชีพจรสักพัก

ท่านหมอกู้เป็นลมหมดสติไปแล้ว ตอนนี้เขาทำได้เพียงปล่อยให้นางรักษาเขา ลั่วชิงยวนหัวเราะเย้ยหยันเขาในใจ อย่างน้อยเขาก็เชื่อมั่นในความสามารถของนาง และเชื่อเรื่องกู่ฉงกับสิ่งล่อสายฟ้า

แต่ทว่าเชื่อแล้วอย่างไร เขายังคงปกป้องรักษาคนรักของเขาเช่นเคย

ความไม่พอใจก่อตัวขึ้นในหัวใจของนางอีกครั้ง นางรู้ว่า นี่เป็นความไม่พอใจของเจ้าของร่างเดิม ความแค้นในตัวนางก็ยังไม่เหือดหายไป

แต่ถึงแม้ว่าจะไม่พอใจแล้วจะอย่างไรได้? ชายผู้นี้ไม่มีนางในหัวใจ

“ท่านอ๋องอาเจียนเป็นเลือดเพราะความโกรธ สงบสติอารมณ์ลงได้ ก็จะมิเป็นไรแล้วเพคะ แต่บาดแผลบนพระวรกายของท่านอ๋องนั้นถูกน้ำ จำเป็นต้องทำแผลใหม่อีกครั้ง มิฉะนั้นอาการบาดเจ็บจะยิ่งแย่ลง และท่านอาจสิ้นพระชนม์ได้” ลั่วชิงยวนพูดอย่างเย็นชา หลังจากจับชีพจรเสร็จ

คำว่า "สิ้นพระชนม์" เต็มไปด้วยน้ำเสียงข่มขู่

ฟู่เฉินหวนรู้ว่านางกำลังขู่เขา แต่เขาทำได้เพียงรับฟังคำขู่ของนางเท่านั้น เขารู้ดีว่าอาการบาดเจ็บของเขามันร้ายแรงมาก

“หากท่านอ๋องทรงยอมให้หม่อมฉันรักษา เช่นนั้นเรามาพูดถึงเงื่อนไขกันตามลำพังเถิดเพคะ”

ดวงตาของฟู่เฉินหวนเคร่งขรึม สายตาไม่มีความโกรธ แต่ก็ยากที่จะหยั่งรู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ สายตานี้ทำให้คนรู้สึกเย็นยะเยือก

เขาพูดด้วยเสียงต่ำ "ห้องตำรา"

ลั่วชิงยวนไม่รีบที่จะรักษาอาการบาดเจ็บของฟู่เฉินหวน นางกลับไปอาบน้ำและเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อน หลังจากที่เปลี่ยนเสื้อผ้าที่แห้งสะอาดเรียบร้อยแล้ว นางถึงกลับมาที่ห้องตำรา

เซียวชูที่เฝ้าอยู่ข้างนอกประตู เมื่อเขาเห็นนางเดินมา ก็รีบผลักประตูเปิดออก

ห้องตำราล้อมรอบไปด้วยไม้จันทน์ เมื่อเดินเข้ามาก็สามารถทำให้รู้สึกสงบใจ

ลั่วชิงยวนสังเกตการตกแต่งห้องตำราโดยมิรู้ตัว เมื่อตรวจสอบจนแน่ใจแล้วว่าไม่มีสิ่งชั่วร้ายที่ส่งผลกระทบต่อฮวงจุ้ย ดูเหมือนว่า ห้องตำรานี้จะอยู่ภายใต้การดูแลอย่างเข้มงวด ไม่มีใครได้รับอนุญาตให้เข้าใกล้ห้องตำรานี้ ดังนั้นผู้ที่ต้องการที่จะทำร้ายฟู่เฉินหวนจึงมิสามารถเข้ามาทำอะไรในห้องนี้ได้

“เจ้ามองอะไรอยู่? ยังต้องหาอะไรอีก?” ฟู่เฉินหวนซึ่งนอนกึ่งนั่งอยู่บนเก้าอี้พูดขึ้นอย่างเงียบ ๆ

น้ำเสียงที่เย็นชามีการลองเชิง และการระวังแอบแฝงอยู่

"แน่นอนว่าหม่อมฉันกำลังตรวจดูว่าในห้องตำรานี้มีสิ่งล่อสายฟ้าหรือไม่ หากมีสายฟ้าผ่าลงมาที่นี่ ชีวิตของท่านอ๋องมิได้สำคัญ แต่หม่อมฉันยังมิอยากตายเพคะ" ลั่วชิงยวนพูดอย่างเย็นชา นางนั่งลงกับพื้น และเอื้อมมือไปปลดเสื้อผ้าของฟู่เฉินหวน

เขาเองก็เปลี่ยนเสื้อผ้าที่สะอาดแล้ว แม้ว่าข้างนอกฝนจะตกหนัก แต่อุณหภูมิในห้องตำรานั้นเย็นสบาย เมื่อลั่วชิงยวนปลดกระดุมเสื้อผ้าเขาและเปิดออก เขาก็รู้สึกขนลุกซู่ มือที่วางอยู่บนเก้าอี้คว้าที่จับแน่นโดยไม่รู้ตัว

ลั่วชิงยวนปลดผ้าก๊อซที่เปื้อนเลือดออก นางพูดขึ้นอย่างใจเย็น "หม่อมฉันมีเงื่อนไขในการรักษาบาดแผลของท่าน หม่อมฉันต้องการสิทธิ์ในการเข้าและออกห้องยาอย่างอิสระ หม่อมฉันต้องการสมุนไพร"

ฟู่เฉินหวนหลับตา และพยายามเพิกเฉยต่อสัมผัสของนาง แต่ปลายนิ้วที่เย็นเฉียบของนางมักจะลูบไล้ผ่านผิวของเขาราวกับขนนก ทำให้เขาสั่นสะท้านโดยไม่รู้ตัว

เขาขมวดคิ้ว และเสียงของเขาก็เย็นลงเล็กน้อย "เจ้าต้องการสมุนไพรไปทำอันใด?"

“ก็ต้องนำมารักษาอาการบาดเจ็บสิเพคะ! ท่านคิดว่าที่หม่อมฉันวิ่งชนกำแพงเป็นการแสดงให้ท่านดูแค่นั้นจริง ๆ รึ?” หากมัวแต่ยืดเยื้อไม่รักษาล่ะก็ ผลกระทบที่ตามมาของการชนกำแพงอาจจะรักษาไม่หาย

ฟู่เฉินหวนยกเปลือกตาขึ้นเล็กน้อย เขาชำเลืองมองนาง ดวงตาสีเข้มและลึกของเขามองนางอย่างเงียบ ๆ

เมื่อมองไปที่ท่าทางจริงจัง และการเคลื่อนไหวที่เรียบร้อยของนาง เขาก็ยิ่งขมวดคิ้วมากขึ้น ช่างไม่เหมือนลั่วชิงยวนที่เขารู้จักจริง ๆ

“ก็ได้ แต่เจ้าต้องตอบคำถามข้าสองสามข้อ”

ลั่วชิงยวนพยักหน้าขณะเย็บแผล

ฟู่เฉินหวนถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา "สิ่งล่อสายฟ้ามีจริงหรือ?"

“แน่นอนว่ามีจริง คืนนี้ท่านอ๋องก็เห็นแล้วมิใช่หรือเพคะ?”

"เจ้ามีทักษะทางการแพทย์จริงหรือ?"

“หากไม่จริง ท่านอ๋องจะทรงอนุญาตให้หม่อมฉันรักษาท่านหรือไม่เพคะ?”

ดวงตาของฟู่เฉินหวนเคร่งขรึม และเสียงของเขาก็เย็นชา "แล้วเจ้าคือลั่วชิงยวนจริงหรือ?"

ลั่วชิงยวนชะงัก นางสบตากับเขานิ่ง "มิเช่นนั้นหม่อมฉันคือใครหรือเพคะ?"

ฟู่เฉินหวนหรี่ตาลงเล็กน้อย ดวงตาของเขาลึกล้ำ "แต่สายตาที่เจ้ามองข้า ไม่มีความรักอยู่เลย"

นั่นแตกต่างจากสายตาที่นางใช้มองเขาก่อนที่จะปลิดชีพตนเองโดยสิ้นเชิง

การเปลี่ยนแปลงนี้ราวกับมีคนสองคน

ดวงตาของลั่วชิงยวนมีแต่ความเย็นชา ก่อนจะตะคอกกลับเบา ๆ "ท่านอ๋องทรงปฏิบัติต่อหม่อมฉันเช่นนั้น หม่อมฉันจะยอมแพ้ความรู้สึกที่มีต่อท่านมิได้หรือไร? ใครบอกว่าคนคนหนึ่งจะรักคนอื่นโดยไม่มีเงื่อนไขตลอดไปกัน"

ฟู่เฉินหวนขมวดคิ้ว มันก็สมเหตุสมผลแล้ว ดังนั้นเขาจึงปัดความสงสัยเหล่านี้ทิ้ง

จากนั้นก็พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา "สมุนไพรที่เจ้าอยากได้ ข้าสามารถให้เจ้าได้ แต่เจ้าไม่สามารถเข้าออกห้องยาได้โดยไม่ได้รับการอนุญาต"

เขายังคงระวังลั่วชิงยวน เพราะอย่างไรเสีย นางก็เป็นคนของฟู่อวิ๋นโจว หากนางใช้โอกาสนี้ทำอะไรกับยาเหล่านั้น คงเกิดปัญหาแน่

"ย่อมได้เพคะ ให้สมุนไพรกับหม่อมฉันก็พอ" ลั่วชิงยวนได้ยินเสียงที่หนักแน่นของเขา จึงต้องถอยหลังหนึ่งก้าว

นางพันแผลของฟู่เฉินหวนเรียบร้อยแล้ว

ขณะนั้นเองฟู่เฉินหวนก็พูดขึ้นอีกครั้ง "นอกจากนี้ จงอย่าพุ่งเป้าไปที่ลั่วเยวี่ยอิงอีก"

ลั่วชิงยวนประหลาดใจ มองเขาอย่างตะลึงก่อนจะลุกขึ้นยืน และพูดด้วยความโกรธ "่ท่านทั้งสองจะอยู่ด้วยกัน หรือทำอะไรมันก็ไม่ใช่เรื่องของหม่อมฉัน! ตราบใดที่นางไม่มายั่วยุหม่อมฉัน ก็ต่างคนต่างอยู่ มิต้องมาเกี่ยวข้องกัน! แต่ถ้านางทำร้ายหม่อมฉันซ้ำแล้วซ้ำเล่า จะให้หม่อมฉันยอมทนนั้น ย่อมเป็นไปมิได้!”

นางคิดว่าคำพูดเหล่านี้จะทำให้ฟู่เฉินหวนโกรธนางอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ฟู่เฉินหวนมิได้โกรธ ดวงตาของเขาลึกและสงบนิ่ง ไม่มีคลื่นแม้แต่น้อย

น้ำเสียงเรียบเอ่ยขึ้น "ข้ามิได้ขอความเห็นจากเจ้า"

"แต่นี่คือคำสั่ง"

เขาเงยหน้าขึ้นและมองตรงไปที่นาง เสียงทุ้มและเย็นชาของเขาค่อนข้างอันตราย

"เช่นนั้นก็ดูแลคนของท่านให้ดี!" หลังจากพูดจบ ลั่วชิงยวนก็หันหลังกลับและจากไป

จู่ ๆ นางก็นึกอะไรขึ้นมาได้ นางชะงัก หันกลับมาอีกครั้งและพูดว่า "นางรับใช้นามว่าจือเฉาที่หลังเรือน หม่อมฉันต้องการตัวนางเพคะ"

ฟู่เฉินหวนเอนตัวลงบนเก้าอี้และพูดด้วยเสียงทุ้มว่า "กำจัดสิ่งล่อสายฟ้า"

นี่คือเงื่อนไข

ลั่วชิงยวนตกลงอย่างง่ายดาย "ย่อมได้เพคะ"

Continue to read this book for free
Scan code to download App
Comments (2)
goodnovel comment avatar
ppp
เขียนได้ดีเนื้อเรื่องสนุกน่าติดตามค่ะ
goodnovel comment avatar
Piyapattra Samungkun
ชิงยวนไม่ควรช่วยเฉินหวนจะเป็นจะตายก็ช่างสิให้มันตายไปเลยช่วยแล้วไม่ขอบคุณแถมโดนด่าโดนทำร้ายร่างกายอ๋องโง่ๆลำเอียงหลับหูหลับตาเข้าข้างแต่นางมารร้ายที่เอาแต่ตีหน้าเศร้าเล่าความเท็จให้ท่านอ๋องสงสารแล้วสั่งลงโทษชิงยวนๆนางทำอะไรก็ผิดถึงทำความดีช่วยชีวิตก็ไม่ซาบซึ้งไม่ขอบคุณมีแต่ความโกรธเชอะอ๋องโง่ใจดำ
VIEW ALL COMMENTS

Latest chapter

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1545

    ทั้งสองฝ่ายต่างชักกระบี่ออกมา จ้องมองหน้ากันด้วยความเป็นศัตรูลั่วชิงยวนเห็นว่าพวกเขากำลังจะต่อสู้แย่งชิงตำแหน่งแม่ทัพคนต่อไปแต่นางไม่มีเวลาให้เสียไปอีกแล้ว“แม่ทัพจี้ ข้ามีธุระอื่น เรื่องที่นี่ข้าขอฝากท่านไว้ ไม่มีปัญหาใช่หรือไม่?”ลั่วชิงยวนถามจี้เฉียนตอบตกลงโดยมิลังเล “ไม่มีปัญหา!”จากนั้นลั่วชิงยวนก็พาโฉวสือชีและหุ่นเชิดสองตัวรีบออกจากจวนตระกูลฉีไปวังเหิงมองแผ่นหลังของลั่วชิงยวนที่ออกไปอย่างโกรธเคือง “จับตัวพวกนั้นมา! อย่าให้ออกไปได้!”ในขณะที่วังเหิงเงื้อกระบี่ฟาดฟัน จี้เฉียนก็รีบพุ่งเข้าไปขวางวังเหิงไว้ทั้งสองฝ่ายเข้าสู่การต่อสู้อย่างดุเดือดในทันทีส่วนพวกลั่วชิงยวนนั้นฉวยโอกาสช่วงชุลมุนหนีออกไปมิไกลนัก จูลั่วและสือโท่วกำลังพาคนมาสมทบสือโท่วถามด้วยความร้อนใจ “คุณหนูเล่า? คุณหนูใหญ่อยู่ที่ใด?”ลั่วชิงยวนขมวดคิ้ว “ฉีอวี้มิได้อยู่ที่นั่น”“ขบวนเจ้าสาวที่เราเห็นบนถนนก่อนหน้านี้น่าจะเป็นฉีอวี้!”การที่ใช้ฉีอวี้ข่มขู่ลั่วชิงยวนให้มาติดกับดักเป็นเพียงกลลวงเท่านั้นประการแรกคือ เพื่อถ่วงเวลา ประการที่สองคือ เพื่อสังหารลั่วชิงยวน“สือโท่ว เจ้าไปหาที่ปลอดภัย จัดการสอ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1544

    ลั่วชิงยวนจ้องมองนายท่านฉีด้วยสายตาคมกริบพลางกำกระบี่ในมือแน่น ในดวงตาฉายแววมุ่งสังหาร“จะรอดชีวิตไปได้หรือไม่มิใช่ท่านเป็นคนตัดสิน!”กล่าวจบ ลั่วชิงยวนก็มองโฉวสือชี “ไปมัดสองคนนี้ไว้”“อย่าให้พวกเขาลุกขึ้นยืนได้”โฉวสือชีพยักหน้า เขารีบไปหาเชือกแล้วจับหุ่นเชิดสองตัวที่ยังดิ้นรนอยู่บนพื้นมัดไว้แน่นลั่วชิงยวนเงื้อกระบี่พุ่งเข้าใส่นายท่านฉีอย่างดุร้ายน่าเกรงขามนายท่านฉีรีบลงมือโต้กลับ เข้าต่อสู้กับลั่วชิงยวนขณะนั้นเอง เสียงฝีเท้าดุดันก็ดังมาจากภายนอกในวินาทีต่อมา จวนตระกูลฉีก็ถูกล้อมไว้ทั้งหมดประตูใหญ่ก็ถูกถีบเปิดออกโฉวสือชีเพิ่งมัดหุ่นเชิดทั้งสองเสร็จ เขาเงยหน้าขึ้นพร้อมกำกระบี่แน่นด้วยท่าทางตื่นตัวเห็นบุรุษสวมเกราะนำผู้คนเดินเข้ามาด้วยท่าทางดุดันนายท่านฉีปัดฝ่ามือของลั่วชิงยวนออก แล้วกล่าวอย่างสงบ “แม่ทัพจี้ ในที่สุดเจ้าก็มาถึงแล้ว”“ใครก็ได้ จับสตรีผู้นี้ให้ข้า!”นายท่านฉีออกคำสั่งทว่าแม่ทัพจี้กลับไพล่มือไว้ด้านหลังพลางยกยิ้มโดยมิได้สั่งการ ไม่มีผู้ใดสนใจนายท่านฉีเลย“จี้เฉียน! ลงมือสิ!” นายท่านฉีตวาดด้วยความโกรธทว่าจี้เฉียนกลับโบกมือ ทหารที่อยู่ด้านหลังก็วิ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1543

    “เช่นนั้นฉีอวี้ก็ยังมีชีวิตอยู่!”ลั่วชิงยวนขมวดคิ้วครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ในใจพลันเกิดข้อสันนิษฐานหนึ่งขึ้นมาจากนั้นทั้งสองก็ลุกขึ้น รีบไปดูคนที่อยู่ในโลงศพในขณะที่เปิดโลงศพ ลั่วชิงยวนก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกเป็นบิดาของฉีอวี้ เจ้าเมืองฉีเพิ่งจะถอนหายใจอย่างโล่งอก จู่ ๆ คนในโลงศพก็ลืมตาขึ้นมา แล้วยื่นมือทั้งสองข้างออกมาบีบคอของลั่วชิงยวนทันใดนั้นก็พุ่งกระโดดออกมาจากโลงศพลั่วชิงยวนถูกบีบคอจนถอยกรูดออกไป ก่อนจะถูกอีกฝ่ายใช้แรงมหาศาลกระแทกเข้ากับกำแพงเต็มแรงเมื่อมองเจ้าเมืองฉีที่อยู่ตรงหน้า ปรากฏว่าดวงตาของเขาแดงก่ำขุ่นมัว เต็มไปด้วยโทสะ ไร้ซึ่งสติสัมปชัญญะโดยเฉพาะที่คอของเขา มีรอยเย็บปะติดปะต่อกัน แสดงว่าหัวนี้ถูกเย็บติดกลับไปเขามิใช่มนุษย์แล้วมือที่บีบคอของนางนั้นออกแรงมาก ลั่วชิงยวนใกล้จะหายใจมิออกแล้วส่วนโฉวสือชีก็ประสบสถานการณ์เดียวกัน บัดนี้ทั้งสองถูกบีบคอติดกำแพงจึงดิ้นมิหลุดในเวลานั้นเอง นายท่านฉีก็ปรากฏตัวขึ้นอีกครั้งเขาเดินเข้ามาอย่างสง่าผ่าเผยพร้อมกับหัวเราะเยาะ “ลั่วชิงยวน พวกเจ้ามิได้มาช่วยฉีอวี้หรอกรึ หากพวกเจ้ากล้าสังหารบิดามารดาของฉีอวี้ ข้าจะดูว่

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1542

    ด้วยการปิดล้อมของผู้คนมากมายถึงเพียงนี้ วันนี้ลั่วชิงยวนย่อมต้องตายเป็นแน่!ทว่าสิ่งที่นายท่านฉีและฮูหยินฉีคาดมิถึงคือ กระบี่เพลิงรักในมือของลั่วชิงยวนนั้นทรงพลังยิ่งนักเมื่อลูกธนูนับหมื่นพุ่งเข้ามา ลั่วชิงยวนก็กวาดกระบี่เพลิงรักในมือออกไปฟันลูกธนูนับมิถ้วนขาดสะบั้นทันใดปราณกระบี่สั่นสะเทือนทำให้ลูกธนูที่พุ่งมาสะท้อนกลับไปมีผู้คนล้มลงด้วยคมธนูในทุกทิศทางโฉวสือชีปกป้องฉีอวี้ไว้ทั้งกายเมื่อฮูหยินฉีเห็นภาพนั้นก็ตกใจมาก แล้วตวาดว่า “พวกไร้ค่า!”“นำธนูมา!”ฮูหยินฉีหยิบธนูขึ้นมา แล้วเล็งไปที่ลั่วชิงยวนทันใดนั้น ลูกธนูก็พุ่งเข้ามาโฉวสือชีอุทาน “ระวัง!”สายตาของลั่วชิงยวนเปลี่ยนเป็นเย็นชา นางหันกายวูบหนึ่ง คมธนูในดวงตาพลันขยายใหญ่ขึ้นนัยน์ตาของลั่วชิงยวนเย็นชา ร่างกายเปี่ยมจิตสังหาร ชักกระบี่ฟันออกไปอย่างแรงนางคว้าปลายคมธนูไว้ แล้วหันกายโยนกลับไป พลังโจมตีอันดุดันพุ่งตรงเข้าใส่ฮูหยินฉีฮูหยินฉีกำลังจะยิงลูกธนูดอกที่สอง แต่ถูกคมธนูที่หักแล้วปักเข้าที่ไหล่อย่างแรงร่างกายทรงตัวมิอยู่ พลันถอยหลังไปหลายก้าว“ฮูหยิน!” นายท่านฉีตกใจ รีบเข้าไปประคองฮูหยินฉี“ฆ่านาง! จัดการ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1541

    “หากมีคนฉลาดก็จะรู้เองว่าควรทำเช่นไร”ท้ายที่สุดแล้ว ฉีเฮ่าก็สิ้นชีพด้วยน้ำมือเฉินชี เหล่าแม่ทัพนายกองในค่ายทหารอวิ๋นโจวย่อมจ้องมองตำแหน่งแม่ทัพในเวลานี้ การเลือกข้างในยามนี้ย่อมส่งผลต่อชีวิตในภายหน้าของพวกเขาจูลั่วพลันเข้าใจ “ได้ ข้าจะไปบัดเดี๋ยวนี้”จากนั้นลั่วชิงยวนก็มองโฉวสือชี “เจ้าไปบุกเข้าตระกูลฉีกับข้า”“ให้สือโท่วคุมคนไปรอรับอยู่ด้านนอกตระกูลฉี”โฉวสือชีพยักหน้าจากนั้นลั่วชิงยวนก็มาถึงหน้าประตูใหญ่ของตระกูลฉีหน้าประตูใหญ่ที่ไร้ผู้คนกลับแฝงไว้ด้วยบรรยากาศที่เคร่งขรึมอย่างน่าประหลาดลั่วชิงยวนผลักประตูใหญ่เข้าไปทันทีในลานอันกว้างใหญ่มีโลงศพสองใบตั้งอยู่ บนโครงไม้มีสตรีผมเผ้ายุ่งเหยิงเปื้อนเลือดถูกมัดไว้ นางหมดสติไปแล้วบริเวณโดยรอบมีกองฟืนอยู่ทั่วทุกหนทุกแห่งทันทีที่ก้าวเข้าสู่ประตูใหญ่ ลมที่พัดเข้ามาก็แฝงไว้ด้วยกลิ่นอายโหดเหี้ยมทั้งสองเดินเข้าไปทางประตูใหญ่ ในพริบตาเดียวประตูก็ปิดลงองครักษ์นับสิบชีวิตปรากฏตัวขึ้นจากทุกสารทิศ ล้อมพวกเขาไว้ในทันทีเบื้องหน้ามีชายหญิงวัยกลางคนแต่งกายหรูหราเดินเข้ามา ทั้งสองคือบิดามารดาของฉีเฮ่าดวงตาของพวกเขาที่มองลั่วชิงยวนน

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1540

    “เจ้าอยู่ในตระกูลฉีนานเท่าใดแล้ว คุ้นเคยกับตำแหน่งที่ตั้งของตระกูลฉีหรือไม่?” ลั่วชิงยวนถามจูลั่วตอบว่า “คุ้นเคย”จากนั้นจูลั่วก็วาดแผนที่เมืองอวิ๋นโจวแบบง่าย ๆ และแผนที่ของจวนตระกูลฉีแบบละเอียด แล้วมอบให้ลั่วชิงยวนหลังจากลั่วชิงยวนจดจำแผนที่ได้แล้วก็มอบแผนที่ให้โฉวสือชี“วันพรุ่งเมื่อเข้าไปในเมืองอวิ๋นโจวแล้ว จงติดต่อคนของเราให้พร้อมก่อน สือโท่วเป็นคนในเมืองอวิ๋นโจว เขาย่อมคุ้นเคยกับที่นี่ ถึงเวลานั้นก็ให้เขาพลิกแพลงตามสถานการณ์”“ต้องช่วยฉีอวี้ออกมาให้ได้”โฉวสือชีพยักหน้าจากนั้นทั้งสามก็รอจนฟ้าสาง แล้วจึงตามขบวนคาราวานของเถ้าแก่จี้เข้าสู่เมืองอวิ๋นโจวคืนนั้นอวิ๋นเฟิงก็มิกลับมา การที่ฉีอวี้ถูกจับตัวไปย่อมเป็นฝีมือเขาแน่นอนคณะเดินทางเข้าสู่เมืองอวิ๋นโจวได้อย่างราบรื่นบนถนนคึกคักเป็นพิเศษ มีเสียงฆ้องกลองดังขึ้นและมีขบวนเจ้าสาวกำลังเดินสวนมาท่าทางโอ่อ่าสง่างาม ผู้คนตามท้องถนนต่างหลีกทางไปสองข้างกลีบดอกไม้ปลิวว่อนไปทั่วฟ้า ขบวนทั้งหมดมีคนนับร้อยเกี้ยวเจ้าสาวหรูหราอลังการ ผ้าคลุมหน้าประดับลูกปัดระยิบระยับแกว่งไกวส่งเสียงกังวานเพียงแต่มองเห็นเงาร่างในเกี้ยวได้มิชัดเ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status