แชร์

บทที่ 223

ผู้เขียน: ปาเย่วเซิ่งเซี่ย
เรื่องนี้ทำโดยองค์หญิงใหญ่จริงๆ ในเมื่อไม่สามารถให้ฮ่องเต้ลงโทษซ่งซีซีด้วยข้อกล่าวหาว่าไม่เคารพราชวงศ์ได้ งั้นนางจึงควรสอนบทเรียนให้ซ่งซีซีในแบบของนางเอง

ชาวเมืองในเมืองหลวงต่างก็ชื่นชมว่า นางเป็นคนมีกตัญญูไม่ใช่เหรอ? งั้นก็มาดูกันว่าลูกสาวออกเรือนในช่วงเวลาที่ไว้ทุกข์ให้ท่านพ่อของนาง จะโดนประชาชนด่าหรือไม่

ป้าหลู่ ผู้ดูแลจวนองค์หญิงเดินเข้าไปอย่างมีความสุขและรายงานว่า "องค์หญิง ท่านหญิง ตอนนี้ข่าวแพร่สะพัดไปข้างนอกหมดแล้ว โรงน้ำชาและร้านอาหารต่างพูดคุยเรื่องนี้ และเกือบเป็นคำด่าทอล้วนๆ"

"เกือบเหรอ ไม่ใช่ทั้งหมดหรือ?" ท่านหญิงเจียอี้ขมวดคิ้ว "มีผู้คนออกหน้าช่วยพูดให้นางด้วยหรือ?"

ป้าหลู่พูดว่า "ท่านหญิง มีบางคนที่ไม่ได้เรื่องได้ช่วยพูดให้นาง โดยบอกว่าตอนที่นางออกเรือน เวลาผ่านไปยี่สิบสี่เดือนแล้วนับตั้งแต่ท่านพ่อของนางเสียชีวิต"

เมื่อบิดาเสียชีวิตหรือมารดาเสียชีวิต บุตรควรไว้ทุกข์เป็นเวลาสามปี ทว่าสามปีถือเป็นปีเท็จ แต่แท้จริงแล้วจะไว้ทุกข์ให้ยี่สิบสี่เดือนเต็มก็พอ

ท่านหญิงเจียอี้ตรัสว่า "สามัญชนผู้ใดบ้างที่จะจำวันออกเรือนของนางได้เล่า อาจเป็นคนจากจวนเสนาบดีกั๋วกงของนางเพื่อมาทำใ
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
บทที่ถูกล็อก
ความคิดเห็น (3)
goodnovel comment avatar
Tiwapon Prasertsarn
เริ่มจะหยิบยืมคนอื่น
goodnovel comment avatar
Tiwapon Prasertsarn
องค์หญิงใช้เงินสิ้นเปลือง
goodnovel comment avatar
kanizzar
อ่านดีๆก็มีโฆษณามาคั่น รำคาญมาก
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทล่าสุด

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1660

    เฉินเฉินกับหมั่นโถวพาพวกเขาออกไปได้แล้ว ก็กลับมาช่วยซ่งซีซีหลบหนียี่ฝางหามิได้อยากมีชีวิต อยู่ดีๆ ยังจะลอบกลับมา หากไม่เกรงว่านางจะทำให้ซ่งซีซีหลบหนีไม่สำเร็จ พวกเขาก็คงไม่ย้อนกลับมาจ้านเป่ยว่างแบกยี่ฝางไว้ พลางวิ่งสะเปะสะปะดั่งแมลงวันไร้หัว ไร้ซึ่งท่วงท่าในการต่อสู้ ยี่ฝางร่วงลงกับพื้น ยังไม่ทันตั้งหลักดี ดาบของทหารก็ฟันลงมาที่ขาของนางเสียงกรีดร้องโหยหวนสะท้านทั่วฟ้าเหนือคลังเสบียง จ้านเป่ยว่างที่รับมืออย่างยากลำบากหันกลับไปมอง เพียงแวบเดียวใบหน้าก็ซีดเผือด ยี่ฝางถูกฟันเข้าที่ขาซ้าย เลือดทะลักไม่หยุด“พี่จ้าน ช่วยข้าด้วย…” ยี่ฝางร้องเรียกเสียงแหลม หน้าซีดขาวจนไร้สีเลือด ไม่รู้ว่าเพราะเจ็บหรือเพราะกลัว ทั้งร่างสั่นระริกทหารเหล่านั้นดูท่าจะตั้งใจไว้ชีวิต จึงไม่ลงมือฆ่านางทันทีดาบเล่มหนึ่งจ่ออยู่ที่ลำคอของนาง มีคนลากนางลุกขึ้น ทหารที่โกรธเกรี้ยวพูดอะไรบางอย่างไม่ชัดถ้อย ก่อนจะมีคนถือเชือกเข้ามาจะมัดตัวนางในยามนั้นเอง พลทหารคนหนึ่งนำเหล่าทหารไม่กี่นายเดินตรงเข้ามา ใบหน้าของเขาเคร่งขรึม แม้จะดูอ่อนล้าเพราะเดินทางมาไกล แต่ก็ยังไม่อาจบดบังอากัปกิริยาอันสูงศักดิ์ ดูก็รู้ว่าไม่ใช่

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1659

    ซ่งซีซีเห็นว่าทุกคนล้วนหลบหนีออกไปได้แล้ว จึงรอให้เพลิงลุกไหม้อีกครู่ ก่อนจะใช้วิชาตัวเบาบินไปยังคลังเสบียงแม้ว่าคนส่วนใหญ่จะไปร่วมดับไฟ แต่คลังเสบียงเป็นสิ่งสำคัญยิ่ง จึงยังมีทหารเฝ้าอยู่สิบกว่าคน พวกเขาเห็นซ่งซีซีในคราบชาวเขาก็จะเข้ามาตรวจสอบซ่งซีซีรีบยกถังน้ำมันขึ้น ร้องตะโกนเป็นภาษาซีจิงว่า “ดับไฟ ดับไฟ…”นางร้องตะโกนพลางวิ่งไปยังกองเพลิงด้านตะวันออก ทำทีว่ากำลังจะไปช่วยดับไฟขณะเดียวกัน ชาวบ้านละแวกใกล้เคียงต่างก็รีบมาช่วยดับไฟ ซ่งซีซีที่วิ่งนำหน้ากลุ่มจึงดูไม่ผิดสังเกตนักบริเวณเพลิงไหม้วุ่นวายไปหมด บ้างใช้ผ้าหนาโบกดับไฟ บ้างหิ้วถังตักน้ำ บ้างใช้พลั่วตักทราย เรียกว่าทุกวิถีทางถูกนำมาใช้แต่เมื่อไม้ติดไฟแล้ว เพลิงก็รุนแรงเกินไป หากจะสกัดไม่ให้ไฟลามไปยังคลังเสบียง คงไม่ใช่เรื่องง่ายนักซ่งซีซีถือถังน้ำมันวิ่งวนอยู่รอบหนึ่ง แล้วฉวยจังหวะหลบพวกทหาร แอบเข้าไปในคลังเสบียงข้าวสารถูกบรรจุใส่กระสอบป่านวางซ้อนกันจนเต็มเกือบล้นคลัง เห็นได้ชัดว่าซูลันซือตั้งใจจะบุกตีด่านเฉิงหลิงให้แตกซ่งซีซีสาดน้ำมันใส่ แล้วจุดไฟโยนไป ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงฝีเท้าดังขึ้นจากด้านหลัง มีคนตะโกนว่า “

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1658

    ยี่ฝางไม่กล้ารับคำของซ่งซีซี ได้แต่กลืนความไม่พอใจลงคอ แล้วหันไปพูดกับจ้านเป่ยว่างว่า “พี่จ้าน ข้าไปกับท่านก็แล้วกัน”จ้านเป่ยว่างเหลือบตามองซ่งซีซีแวบหนึ่ง สีหน้าเรียบเฉย แล้วกล่าวว่า “เราฟังคำสั่งก็พอ จะได้ผลงานหรือไม่ก็ไม่สำคัญ สำคัญคือต้องทำภารกิจให้สำเร็จ แล้วกลับไปให้รอด”เขาย่อมไม่เชื่อว่าซ่งซีซีจะเข้าไปในคลังเสบียงเพียงคนเดียว เพราะเมื่อไม้รอบคลังถูกจุดไฟเผา คลังเสบียงย่อมกลายเป็นสถานที่อันตรายที่สุด แล้วยังจะต้องจุดไฟข้างในอีก ท่ามกลางเปลวเพลิง นางจะหนีออกมาได้อย่างไร?ฉะนั้นเขาคาดว่า ขณะที่พวกเขากำลังจุดไฟอยู่ด้านนอก ก็ต้องมีคนที่แอบซ่อนตัวอยู่ในคลังเสบียงจุดไฟไว้แล้ว ซ่งซีซีเพียงแค่ทำทีเป็นคนลงมือเท่านั้นแรกเริ่ม จ้านเป่ยว่างรู้สึกไม่ยุติธรรมในใจนัก ยิ่งรู้สึกว่าระบบขุนนางเป็นสิ่งน่าเศร้า ตระกูลขุนนางใหญ่ผลัดกันส่งต่ออำนาจ รุ่นแล้วรุ่นเล่า ขอเพียงบรรพชนมีผลงาน ก็สามารถไต่เต้าขึ้นไปได้โดยง่าย หรือมีโอกาสสร้างชื่อเสียง สืบทอดเกียรติภูมิของตระกูลต่อไปแต่คิดอีกที บิดาของเขาเองก็ไม่มีความสามารถนัก หากไม่ใช่เพราะท่านปู่มีผลงานในสนามรบ บิดาก็คงไม่ได้เป็นขุนนางด้วยซ้ำ อย่าว่า

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1657

    เมื่อได้ยินคำพูดของเฉินเฉิน ยี่ฝางก็โมโหเป็นอย่างยิ่ง แต่เพราะนางรู้ดีว่าฝีมือของตนเทียบไม่ติดกับคนอื่น หากโต้แย้งไปก็มีแต่ขายหน้าตัวเอง ไหนๆ ก็ไม่ต้องยืนยามอยู่แล้ว จะทนโดนดูแคลนบ้างก็ช่างมันเถิดกุ้นเอ่อร์กับหมั่นโถวเดิมทีคิดว่าจะผลัดเวรกันเพียงสองคนก็พอแล้ว แต่ซ่งซีซีเห็นว่าทุกคนต่างเหนื่อยล้า จึงให้ผลัดกันยืนยามทั้งห้าคน จะได้พักผ่อนกันมากขึ้นหน่อยซ่งซีซีเป็นคนแรกที่รับหน้าที่เวรยาม นางถือแส้พิงประตูนั่งหันหลังพิงไว้ ประตูผุพังบานนั้นไม่อาจล็อกได้ จึงได้เพียงปิดพอเป็นพิธี ข้างนอกมืดมิดสนิท เงียบสงัดไร้เสียงรบกวนเรือนผุหลังนี้ไม่ได้มีคนอยู่มานานแล้ว ฝุ่นจับเต็มพื้น แต่ทุกคนล้วนเตรียมใจมาแล้วว่าจะต้องลำบาก ดังนั้นแม้แต่เสิ่นว่านจือก็ไม่ปริปากบ่น นอนลงบนพื้นดินทันทีแม้ซ่งซีซีจะเหนื่อย แต่หาได้ง่วงไม่ สมองแจ่มชัดเป็นพิเศษ ทั้งตัวยังอยู่ในสภาพตื่นตัวสูงสุดนางรู้ว่า องค์รัชทายาทแห่งซีจิงอยู่ในเมืองลู่เปินเอ่อร์ เพียงแต่ไม่รู้ว่าอยู่ตรงส่วนไหนของเมืองนางต้องหลีกเลี่ยงไม่ให้มีการเผชิญหน้ากับเขา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเป็นราวหรือไม่ก็ตาม เพราะความเป็นความตายของเขา ไม่ควรมีความเกี่ยวข้

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1656

    เขาเดินอยู่ด้านหลังพร้อมกับยี่ฝาง แล้วกล่าวเสียงต่ำว่า “บางทีเจ้าว่าถูก แม่ทัพใหญ่เซียวอาจต้องการหนุนนางจริงๆ”“ว่าไงนะ?” ดวงตายี่ฝางพลันสว่างวาบ “เจ้าพบว่ามีคนคอยคุ้มกันลับๆ หรือ?”จ้านเป่ยว่างตอบเสียงเบา “คลังเสบียงตั้งอยู่ในเมืองลู่เปินเอ่อร์ ปกติเราควรพบหน่วยลาดตระเวนตามทางบ้าง แต่กลับไม่เจอเลยสักครั้ง และพวกเราก็เลือกเดินทางเลาะเขา ใช้เส้นทางเล็ก ผ่านหมู่บ้านหลายแห่ง พวกเขาจะรู้ทางได้อย่างไร? ข้าสังเกตอย่างละเอียด จึงพบว่ามีคนทิ้งสัญลักษณ์ไว้ แสดงว่ามีคนล่วงหน้าไปสำรวจเส้นทาง อาจตอนนี้พวกเขากำลังซ่อนตัวอยู่ใกล้คลังเสบียงแล้วก็ได้”เดิมทียี่ฝางก็คิดว่าแม่ทัพใหญ่เซียวไม่มีทางปล่อยให้หลานสาวเสี่ยงอันตรายตามลำพัง ต้องวางแผนไว้แน่นอน พอได้ยินจ้านเป่ยว่างพูดเช่นนี้ ก็ยิ่งยืนยันความคิดในใจ นางจึงอดไม่ได้ที่จะรู้สึกดูแคลนอยู่บ้าง แต่ขณะเดียวกันก็รู้สึกว่าโชคดีที่ตนตัดสินใจมาด้วย ไม่เช่นนั้นคงพลาดโอกาสสร้างผลงานโดยเปล่า“ยังดีที่เจ้าเฉลียวฉลาด ยืนกรานจะมาด้วย” ยี่ฝางเอ่ยชมด้วยความชื่นชมจ้านเป่ยว่างส่ายหน้าโดยไม่รู้ตัว อยากจะบอกว่าเขาเพิ่งมารู้ตอนนี้ แต่เมื่อเห็นแววตายี่ฝางที่เปี่ยมด้

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1655

    ท้ายที่สุด กุ้นเอ่อร์ซึ่งมีสมญาว่าหมั่นโถวก็พาจ้านเป่ยว่างเดินนำหน้า ขณะที่เฉินเฉินและเสิ่นว่านจือนำทางยี่ฝาง คนทั้งเจ็ดอาศัยยามราตรีเร่งเดินทางอย่างรวดเร็วครั้นพบกับดงหนามทึบที่ผ่านไปไม่ได้ อีกทั้งไม่อยากสิ้นเปลืองพลังภายใน จึงใช้เคียวเปิดทางแทนตลอดเส้นทางราวกับแยกไม่ออกว่าฟ้าสางหรือพลบค่ำ ยี่ฝางกับจ้านเป่ยว่างไม่หลงเหลือท่าทีหยิ่งยโสใดๆ อีก เพียงแต่ปรารถนาให้ตนมีปีกเสียบ้าง จะได้ไม่ต้องให้ผู้อื่นลากจูงไปตลอดทางศักดิ์ศรีและหน้าตาล้วนสูญสิ้นอย่างสิ้นเชิงยิ่งไปกว่านั้น สิ่งที่พวกเขาคิดว่าเป็นไปไม่ได้ กลับกลายเป็นว่าพอฟ้าสาง พวกเขาก็มาถึงเชิงเขานอกเมืองลู่เปินเอ่อร์แล้วแถมไม่ได้ลงมาจากภูเขาฮึงซานโดยตรง หากแต่มาจากภูเขาที่ใช้เลี้ยงยางสนของเมืองลู่เปินเอ่อร์ หมายความว่าพวกเขาเดินทางมากกว่าหนึ่งลูกเขาทว่าซ่งซีซีก็หาได้เย้ยหยันไม่ เมื่อลงเขาแล้ว ยังให้พวกเขานั่งกินเสบียงริมทางอย่างไม่เกรงกลัวสิ่งใดชุดที่สวมใส่ได้เปลี่ยนเป็นแบบชาวเขาในเมืองลู่เปินเอ่อร์แล้ว แม้จะเป็นเช่นนั้น ยี่ฝางก็ยังรู้สึกว่าเช่นนี้มันโอหังเกินไป ราวกับไม่เห็นความตายอยู่ในสายตาแต่เพราะนางเหน็ดเหนื่อยถึงขีดส

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status