คทาภัทรจ้องมองน้องสาวอย่างจับผิด แต่แพรดาวก็ฉีกยิ้มกว้างประจบเอาใจ “ไม่มีอะไรจริงๆค่ะพี่ภัทร น้องแพรอยู่ว่างๆ ไม่รู้จะทำอะไรก็เลยอยากไปเรียนทำขนมกับพี่ดิน” ตั้งแต่รับแพรดาวเป็นน้องสาว เธอก็ไม่ค่อยเอ่ยปากขออะไรจากเขา ที่เธอเป็นกังวลก็แค่เรื่องของศรีฟ้าหรือแม่จ๋าที่ยังพักรักษาตัวที่สถานพยาบาล ซึ่งแพรดาวก็แวะไปเยี่ยมเป็นระยะๆ แม้แม่กับพ่ออยากจะอยู่กับแพรดาวมากกว่านี้ แต่เพราะยังไม่สามารถเปิดเผยเรื่องแพรดาวได้ จึงไม่ได้พบกันบ่อยนัก “จะไปรบกวนคุณหัสดินเสียเปล่าๆ ถ้าอยากเรียนทำขนม พี่ว่าไปเรียนที่โรงเรียนสอนทำอาหารดีไหม พี่จ่ายค่าเรียนให้เอง” “คือแพรบอกพี่ดินไปแล้วนี่คะ” ชายหนุ่มถอนหายใจเบาๆ แล้วยื่นมือไปลูบผมน้องสาว ทำเช่นเดียวกับที่เคยทำสมัยยังเป็นเด็กเล็กๆ แต่ตอนนี้น้องสาวของเขาโตเป็นสาวแล้ว ช่วงเวลาที่หายไปคือความปวดใจที่เขาทนกล้ำกลืนมาหลายปี และยิ่งรู้ว่าที่ผ่านมาเธอใช้ชีวิตยากลำบาก อดมื้อกินมื้อและยังต้องคอยหลบซ่อนจากคนที่อยากเอาชีวิตเธออีก “ได้ ถ้าคุณหัสดินไม่ว่าอะไรก็ตามใจแล้วกัน” “พี่ภัทรใจด
แววตาที่เปลี่ยนไปจากอ่อนโยนกลายเป็นแข็งกร้าว ทำให้แพรดาวได้แต่กัดริมฝีปากไม่กล้าแม้แต่ครึ่งคำ “อุตส่าห์ว่าจะนอนแล้วเชียว ก็ดันถูกปลุกจนได้” เขาทำเสียงรำคาญในลำคอแล้วเลื่อนมือข้างหนึ่งมาแตะลำคอของหญิงสาว “คะ...คุณ...คุณเป็นใคร” “แล้วคิดว่าไงล่ะ” เขาถามย้ำอีกครั้ง “นี่ห้องพี่ดิน...” “แล้วไงต่อ...คิดหน่อยสิ ปกติเธอก็ไม่ใช่คนโง่นี่นะ” ทุกอย่างบนตัวมิสเตอร์ดาร์กเหมือนกับพี่ดิน ตอนที่เปิดประตูเธอก็คิดว่าเขาเป็นพี่ดิน แต่ตอนนี้ น้ำเสียงที่ใช้และวิธีการเรียก ‘เธอ’ ไม่ใช่ ‘น้องแพร’ ตอกย้ำว่าเขาคือมิสเตอร์ดาร์ก “แพร...แพรไม่รู้ค่ะ...ไม่รู้จริงๆ” “ก็เธออยากรู้ไม่ใช่เหรอ รู้ไหม คนที่ชอบสอดรู้สอดเห็นเรื่องคนอื่น มันไม่ค่อยได้ตายดีนักหรอกนะ” มือใหญ่เลื่อนมากำลำของหญิงสาว นิ้วกร้านสัมผัสผิวบอบบางปลายนิ้วกดที่ลำคอของเธอ เพราะแรงบีบจากฝ่ามือของอีกฝ่ายทำให้แพรดาวหน้าซีดลงไปทันที เธอยกมือขึ้นทุบแผ่นเปลือยเปล่า เขาใช้เพียงมือข้างเดียวก็บีบคอเธอได้แล้ว “อะ...อึก...พะ...พี่
“มีเรื่องแบบนั้นด้วยเหรอ” ชายหนุ่มเอนตัวไปด้านหน้ากอดพวงมาลัยรถหลวมๆ แล้วเปลี่ยนเรื่องพูด “พักที่นี่สินะ คอนโดหรูเชียว นี่ถ้าไม่รู้ว่าแบ็คของเธอเป็นใคร คงนึกว่ามีเสี่ยเลี้ยงแน่ๆ” “แบ็คคืออะไรคะ” เธอเอียงคอถามเขา “คนที่หนุนหลังเธอไง” เขายิ้มเจ้าเล่ห์ “คนที่จ่ายค่ารักษาพยาบาลให้แม่ของเธอ” “อ้อ...จะเรียกแบบนั้นก็ไม่ถูก...แต่...” เรื่องนี้ไม่อนุญาตให้พูดกับคนอื่น เธอก็เลยอ้ำอึ้งไม่รู้จะอธิบายยังไง “เข้าใจแล้ว ไม่ต้องพูดอะไรหรอก” เขาโบกมือไปมา “ไปนอนเถอะ” “ขอบคุณค่ะ” แพรดาวยกมือไหว้แล้วลงจากรถ ถ้าคืนนี้ไม่มีเขาช่วยต้องแย่แน่ๆ “นี่!” “คะ” หญิงสาวหันกลับมามอง สายลมยามค่ำคืนพัดผ่านทำให้ผมยาวปลิวไหวเล็กน้อยจนเธอต้องยกมือขึ้นจับปลายผม “เธอบอกว่ามีคนหน้าเหมือนผม” “อ้อ! ใช้ค่ะ” เธอพยักหน้ารับ “แต่นิสัยไม่เหมือนกันเลย” “งั้นที่เธอละเมอก็คือเรียกชื่อคนๆนั้นสินะ” เพราะอยู่ในแสงสลัวจึงไม่เห็นว่าตอนนี้ใบหน้
ราวกับความฝัน แพรดาวลืมตามองเห็นใบหน้าที่คุ้นเคย เธอนอนมองคนที่หลับตาพริ้มอยู่จนมั่นใจว่าไม่ได้ฝัน แต่เกิดลังเลว่าคนที่เธอมองเห็นตรงหน้านี้เป็นใคร ‘พี่ดิน’ หรือ ‘มิสเตอร์ดาร์ก’ ก่อนที่เธอจะทันตั้งตัว คนที่แกล้งหลับอยู่นานก็ทนไม่ไหว ยื่นหน้าไปประกบริมฝีปากฉกจูบอย่างรวดเร็ว เสียงร้องอุทานถูกดูดกลืนไปหมดสิ้น กลายเป็นเสียงอู้อี้ครางในลำคอ ดวงตาที่เมื่อครู่ยังปิดอยู่นั้นลืมตาจ้องมองขณะที่เรียวลิ้นร้อนแทรกในโพรงปากสาว ดวงตาร้อนแรงทำให้แพรดาวดันแผ่นอกเขาออก ทว่าอีกฝ่ายกลับโอบรัดร่างนุ่มนิ่มแน่นขึ้น ราวกับรู้ว่าหญิงสาวจูบไม่เป็นและไม่เคยถูกจูบมาก่อน เธอเหมือนจะเป็นลมเพราะหายใจไม่ออก เขาจึงยอมผละจากริมฝีปากหวาน “พี่...พี่ดิน” ชายหนุ่มชะงักไปทันที เขาพลิกตัวขึ้นคร่อมร่างหอมกรุ่นที่โอบกอดตลอดคืน “เมื่อกี้...เรียกว่าอะไรนะ” “เอ่อ...” แพรดาวทำตาปริบๆ เธอก็ไม่รู้ทำไมเมื่อครู่คิดว่าเขาคือ ‘พี่ดิน’ ทั้งที่ตอนนี้เธอนอนอยู่ในห้องทำงานมิสเตอร์ดาร์ก เพราะไม่ได้ยินคำตอบที่พอใจ เขาโน้มหน้าลงกดหน้
แพรดาวขมวดคิ้ว มือเรียวกระชับสาบเสื้อจนมั่นใจแล้วค่อยๆ เดินออกมา เธอเพิ่งเห็นว่าโซฟาในห้องของเขาถูกปรับเป็นเตียงนอนได้ด้วย และมันก็มีหมอนวางอยู่ “เสื้อผ้าเปียกเอาใส่ถุงซักผ้าแล้วไปวางหน้าห้อง” เขาสั่งโดยไม่มอง แม้ปากบ่นว่าขนมไม่อร่อยแต่ก็กินจนแก้มตุ้ย “ค่ะ” แพรดาวเอาเสื้อผ้าเปียกของตัวเองใส่ถุงพลาสติกสำหรับรอซัก และมองหาเสื้อผ้าของเขา ชายหนุ่มเห็นเธอมองไปมองมาก็เอ่ยปากถาม “หาอะไร” “สะ..เสื้อ...เสื้อของมิสเตอร์ล่ะคะ” “ฉันไม่เคยซัก มีแต่ทิ้ง” เขาพูดแล้วปัดมือไปมา แล้วกวาดตามองหญิงสาว เพราะผมเธอเปียกแต่ก็ยังมองออกว่าเธอตัดผมสั้นกว่าเดิมไปเล็กน้อย แพรดาวเขินอายที่ถูกจ้องมองจึงก้าวเร็วๆ เอาถุงเสื้อไปวางที่หน้าประตูแล้วเดินกลับเข้ามา “ห้องนี้ไม่มีผ้าห่ม” เขาพูดห้วนๆ แล้วชี้ไปที่เตียง “ไปนอน” “คะ?” “จะกลับบ้านสภาพนี้เหรอ” แพรดาวส่ายหน้าไปมาแล้วไปนั่งบนเตียง เธอไม่รู้จะทำอะไรก็เอาหยิบหมอนมาวางบนตัก “ให้นอนไม่ใช่ให้นั่ง” โดนดุอีกครั้งทำเอาหญิงสาวสะด
เขาอยู่ในด้านมืดแต่ไม่ชอบเห็นผู้หญิงถูกรังแก โดยเฉพาะคนที่อ่อนแอกว่า เขาสั่งให้ลูกน้องจัดการคนนั้นแล้วหันมาสนใจหญิงสาวที่อยู่ในรถ "อวดเก่ง" แพรดาวได้ยินเสียงคุ้นเคยจึงปรือตาขึ้นมอง เธอครางเสียงแผ่วขอความช่วยเหลือ "ร้อน ทรมาน"มิสเตอร์เลิกคิ้วแล้วยื่นมือไปแตะเนื้อตัวผ่าวร้อนของเธอ "ไอ้ระยำ!" ไม่รู้ว่าเขาด่าใคร แต่เวลานี้ ร่างกายไร้เรี่ยวแรง และยังรู้สึกแปลกประหลาดไปหมด สัมผัสได้เพียงความแข็งแกร่งที่โอบอุ้มเธอ มือเรียวเล็กยื่นไปคล้องคอเขาไว้ แล้วขยับหน้าเข้าหาแผ่นอกกว้างหาความปลอดภัย "จัดการมัน""ครับเจ้านาย"ยุ่งกับใครไม่ยุ่ง ไปยุ่งกับผู้หญิงของมิสเตอร์ดาร์ก "อดทนหน่อย" น้ำเสียงแข็งกระด้างแต่แฝงความห่วงใยทำให้แพรดาวรู้สึกปลอดภัยในอ้อมแขนนี้มิสเตอร์ดาร์กอุ้มร่างอ่อนปวกเปียกมาทางส่วนตัวกลับมาที่ห้องทำงาน เขาวางเธอบนเก้าอี้แต่หญิงสาวยังไม่ยอมปล่อยมือที่คล้องคอเขาอยู่"รู้ตัวไหมว่าเธอโดนวางยา""ไม่..ไม่รู้ค่ะ""เหอะ! ทำงานร้านเหล้าแต่ไม่รู้จักระวังตัว" เขาบ่นแล้วแกะมือออก "ทรมานจัง" เสียงครางหวานปลุกเร้าชายหนุ่มให้แทบคลุ้มคลั่ง แต่เขาต้องกัดฟันข่มใจเดินไปหยิบน้ำเย็นมาให้เธอดื่ม